-
++kasetloongkim.com++
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ
MySite.com :: ดูกระทู้ - มะม่วงยอดเสีย
 คำถามถามบ่อยของกระดานข่าวคำถามถามบ่อยของกระดานข่าว   ค้นหาค้นหา   กลุ่มผู้ใช้งานกลุ่มผู้ใช้งาน   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว   เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณเข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ   เข้าระบบเข้าระบบ 

มะม่วงยอดเสีย

 
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
safe
หนาวดึ่ง
หนาวดึ่ง


เข้าร่วมเมื่อ: 28/07/2011
ตอบ: 15

ตอบตอบ: 25/06/2017 5:35 pm    ชื่อกระทู้: มะม่วงยอดเสีย ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

.
.
เรียนลุงคิม

มะม่วงน้ำดอกไม้ อายุต้น 5 ปี สูงประมาณ 5 เมตร ตัดให้เตี้ยเหลือ 3เมตร เมือเดือนที่แล้ว ยอดแตกใหม่เสียหมดเลยครับ

ไม่ทราบว่าเกิดจากอะไรครับ จะป้องกันแก้ไขได้อย่างไรครับ

บำรุงด้วย ไบโออิ+ไทเป+ยูเรก้า อาทิตย์ละครั้ง แคลเซียมโบรอน 2 อาทิตย์ครั้ง ปุ๋ยน้ำระเบิดเดือนละ 2 ครั้ง

ขอบคุณครับ










.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11553

ตอบตอบ: 26/06/2017 4:09 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

.
.

โรคใบไหม้
Seedling Blight

สาเหตุ :
เกิดจากเชื้อรา Curvularia eragostidis

ลักษณะอาการ :
พบอาการของโรคบนยอดที่ยังไม่คลี่หรือบนใบที่เริ่มคลี่ 2 ใบแรกในระยะแรกเกิดจุดเล็ก ๆ ลักษณะโปร่งใสกระจายอยู่ทั่วไปบนใบต่อมาแผลมีการพัฒนาเห็นชัดเจนขึ้นมื่อแผลเจริญ
เต็มที่มีรูปร่างกลมสีน้ำตาลดำบุ๋มตรงกลาง ขอบแผลนูนมีลักษณะเป็นมัน แผลมีวงสีเหลืองล้อมรอบ ต่อมาแผลขยายตัวใหญ่ขึ้นมีรูปร่างกลมรี ความยาวขาองแผลอาจถึง 7 - 8 มิลลิเมตร ถ้าหากโรคระบาดรุนแรงแผลจะรวมตัวกันทำให้ใบเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลมองดูคล้ายไฟไหม้ อาการใบแห้งจากโรคนี้จะเริ่มจากใบล่างขึ้นไปใบแห้ง ม้วนงอมีลักษณะกรอบ ต่อมาเกิดอาการ die back

การเจริญเติบโตของต้นกล้าชะงักและต้นกล้าสามารถฟื้นตัวขึ้นมาใหม่ได้ แต่ก็ไม่เหมาะในการนำไปปลูก เนื่องจากมีการเจริญเติบโตช้ากว่าต้นกล้าปกติ ในกรณีที่โรครุนแรงทำให้ต้นกล้าถึงตายได้

การแพร่ระบาด :
สปอร์ของเชื้อราปลิวไปกับลมในอากาศ น้ำฝน และในระหว่างการให้น้ำต้นกล้าปาล์มน้ำมัน

การป้องกันกำจัด :
• คอยสังเกตใบอ่อนของต้นกล้าซึ่งเป็นส่วนที่ง่ายต่อการเข้าทำลายของเชื้อรา เมื่อพบอาการของโรคบนใบควรตัดส่วนที่เป็นโรคออกทำลาย ถ้าเกิดอาการรุนแรงต้องนำต้นที่เป็นโรคออกจากแปลงเพื่อเป็นการกำจัดแหล่งของเชื้อสาเหตุในแปลงเพาะ

• บำรุงรักษาให้ปุ๋ยแก่ต้นกล้าให้ต้นกล้าแข็งแรง
ใช้สารเคมี เบโนมิล หรือแคปแทน โดยใช้สารเคมี 56 กรัมต่อน้ำ 12.5 ลิตร

http://www.doa.go.th/palm/linkTechnical/Seedling%20Blight.html
----------------------------------------------------------------------------

http://www.kasetloongkim.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=3879

http://www.kasetloongkim.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=5150


@@ สปริงเกอร์ :
* สวนไม้ผลขนาด 50 ไร่ ขนาดต้นสูงน้องๆ เสาไฟฟ้า ฉีดพ่นทางใบด้วยเครื่องฉีดพ่นแรงสูง สูงมากๆ เพื่อให้ทั่วทรงพุ่ม ทำงานทีละต้น ๆๆ ใช้เวลาต้นละ 10-15 นาที พื้นที่ 50 ไร่ ทำงาน 8 โมงเช้า ถึงบ่าย 4 โมง ทุกวันใน 1 อาทิตย์ คนทำงานทุกวันแต่ต้นไม้ได้รับปุ๋ยเคมีวันเดียว ไม่คิดให้ทางรากที่ต้องเดินหว่านปุ๋ยทีละต้นๆ ให้น้ำอีกต่างหาก

สวนไม้ผลแบบนี้ หากต้องการบำรุงแบบเต็มที่ เพื่อให้ได้ผลเต็มที่ หรือเพื่อให้ต้นได้สะสมความสมบูรณ์เต็มที่ จะต้องทำงานทุกวัน ตลอดทั้งปี ไหวเหรอ

* สวนไม้ผลขนาด 50 ไร่สวนเดียวกัน ติดระบบสปริงเกอร์ ใช้เครื่องยนต์ 10 แรงม้า แบ่งเป็นโซนได้โซนละ 10 ไร่ ทำงานโซนละ 10 นาที ใช้เวลาเพียง 50 นาที ตัดเวลาคนเดือน 1 ชม. เท่ากับใช้เวลาเพียง 2 ชม.ต่อการทำงาน 1 ครั้งเท่านั้น

@@ ประสิทธิภาพประสิทธิผลเนื้องาน :
- ให้ทางใบ ฉีดพ่น “ปุ๋ย/ฮอร์โมน/ยาสมุนไพร/น้ำเปล่า” ได้ตามวัน เวลา และระยะเวลาที่ต้องการ การให้ปุ๋ยทางใบที่เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ต้องให้ตอนปากใบเปิด (10 โมงเช้า ถึงบ่าย) .... การฉีดพ่นสารสมุนไพร เช่น ฉีดพ่นตอนเช้ามืดก่อนสว่างเพื่อล้างน้ำค้าง, ฉีดพ่นตอนเที่ยงเพื่อกำจัดเพลี้ยไฟ ไรแดง, ฉีดพ่นตอนหลังค่ำเพื่อไล่แมลงแม่ผีเสื้อเข้ามาวางไข่ หรือป้องกันกำจัดแมลงปากกัดปากดูดที่มาตอนกลางคืน,

- ให้ทางราก “น้ำเปล่า/น้ำหมักชีวภาพ/ปุ๋ย” ตามวัน เวลา และระยะเวลาที่ต้องการ
- ติดตั้งระบบสปริงเกอร์ครั้งหนึ่ง อยู่นานใช้งานได้ 10-20-30 ปี
- การให้ปุ๋ยไปกับระบบสปริงเกอร์แบบนี้ อเมริกาทำมานานกว่า 50 ปีแล้ว เรียกว่า การให้ปุ๋ยทางท่อ หรือ การให้ปุ๋ยไปกับระบบน้ำ

@@ หม้อปุ๋ยหน้าโซน V.S. ถังปุ๋ยที่ปั๊ม :
- หม้อปุ๋ยหน้าโซน : ความจุเนื้อ ปุ๋ย/ฮอร์โมน/ยา สำหรับจำนวนต้นเฉพาะในโซน, สูตรเฉพาะไม้โซนนั้น, ไม่มีเนื้อปุ๋ยตกค้างในท่อ, ใช้แรงงานคนเดียว, ราคาแพง,

- ถังปุ๋ยที่ปั๊ม : ความจุเนื้อ ปุ๋ย/ฮอร์โมน/ยา สำหรับจำนวนต้นไม้ทั้งแปลงที่สปริงเกอร์ไปถึง, สูตรเดียวกันทั้งสวน, มีเนื้อปุ๋ยตกค้างในท่อ แปลงใหญ่มากตกค้างในท่อมาก, ใช้แรงงาน 2 คน, เนื้อปุ๋ยกัดลูกยางซีลปั๊ม, ราคาถูก,

---------------------------------------------------------------------



.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group
Forums ©