ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตรทางวิทยุ11MAY *สมุนไพร(56), นาข้าว อินทรีย์เกาะขอบ

[kimzagass]

.
ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตรทางรายการวิทยุ 11 MAY

AM 594 เวลา 06.30-07.00 (ทุกวัน) และ 08.10-09.00 (จันทร์-ศุกร์)

********************************************************************

สวัสดีครับ ท่านผู้ฟังที่เคารพ
กองทัพบกเพื่อประชาชน เสนอรายการสีสันชีวิตไทย วิทยุเพื่อการเกษตร และอาชีพเสริม
ผลิตรายการโดยกองกิจการพลเรือน หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบก

@@ สนับสนุนรายการโดย ...

* บ.นิมุติ เอ็นจิเนียริ่ง เครื่องย่อยเศษพืช (02) 322-9175-6

http://kasate.site88.net/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=1
* ยิบซั่มธรรมชาติ เฟอร์มิกซ์, ธันเดอร์พลัส, ธาตุรอง/ธาตุเสริม มัลติแชมป์ (089) 144-1112

http://www.mysuccessagro.com
* บ.มายซัคเซส อะโกร---ปุ๋ยอินทรีย์ ตราคนกับควาย, กาวเหนียวดักแมลง มายฟิกส์, กลิ่นล่อแมลงวันทอง ฟลายแอต,
สารเสริมฤทธิ์สารสมุนไพร ไบโอเจ๊ต, ถังฉีดพ่นรุ่นใหม่ ใช้แบตเตอรี่ (081) 910-5034

กระผม พันโทวีระ ใจหนักแน่น (คิม ซา กัสส์) เป็นผู้ดำเนินรายการครับ
เช่นเคยครับ รายการเรา 1188 ฝากข้อความ-ฝากคำถาม ที่ (081) 913-4986

----------------------------------------------------------------------------------------------

ตัวแทนจำหน่าย ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง, ไบโออิ, ไทเป, ยูเรก้า. (อินทรีย์ – เคมี)

1) ชมรม (ใหญ่) สีสันชีวิตไทย (089) 814-3204 ใกล้ไฟแดง สี่แยกบางแพ ราชบุรี
2) “คุณชาตรี” (081) 841-9874 ทรัพย์ทวีการเกษตร ชัฎป่าหวาย สวนผึ้ง ราชบุรี (ส่งทาง ปณ.)

3) ร.ต.ต.นันท์สุรัตน์ (089) 821-8273 ต.จรเข้เผือก ด่านมะขามเตี้ย กาญจนบุรี (ส่งทาง ปณ.)
4) “คุณล่า” (081) 944-8494 ทุกวันจันทร์ ตลาดนัดวัดอมรญาติ ดำเนินสดวก ราชบุรี

5) “คุณประเสริฐ” (080) 110-4645 บ.เขาดิน หนองแขม เดิมบางนางบวช สุพรรณบุรี
6) “คุณพรพรรณ” (089) 814-7944 พลชัยเกษตรชีวภาพ ตลาดนัดธนบุรี ถ.เลียบคลองทวีวัฒนา
7) “คุณน้ำส้ม” (085) 055-7706 ชมรมฯ สาขาศาลายา หน้า ม.มหิดล พุทธมณฑลสาย 4 (ส่งทาง ปณ.)

----------------------------------------------------------------------------------------

@@ สารอาหาร (ปุ๋ย) เพื่อการสื่อสาร :

** ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง : ส่วนผสมหลัก .... อินทรีย์/เคมี (กุ้งหอยปูปลาทะเล, เลือด,
ไขกระดูก, นม, ขี้ค้างคาว, น้ำมะพร้าว, ธาตุหลักตามพืช, แม็กเนเซียม. สังกะสี. รอง/เสริม

** ไบโออิ : ส่วนผสมหลัก .... เคมี (แม็กเนเซียม. สังกะสี. รอง/เสริม)
** ยูเรก้า : ส่วนผสมหลัก .... เคมี (21-7-14, ไคโตซาน, อะมิโนโปรตีน)
** ไทเป : ส่วนผสมหลัก ..... อินทรีย์/เคมี (นม, ไข่, น้ำมะพร้าว, 13-0-46. 0-52-34)

มิได้มีเจตนาโฆษณาผลิตภัณฑ์ แต่ใช้ชื่อผลิตภัณฑ์เพื่อง่ายต่อการสื่อสารข้อมูล เท่านั้น
.... ต้นพืชไม่รู้จักยี่ห้อ ไม่รู้จักเจ้าของสูตร .....
...... ไม่รู้เจ้าของคนปลูก ไม่ฟังโฆษณา .......
...... ต้นพืชรู้จักแต่ส่วนผสมหรือเนื้อใน .......

------------------------------------------------------------------------


สารสมุนไพร (56)

การทำ .... สมุนไพรกำจัดแมลงศัตรูพืช ! !

การกำจัดกลิ่นเหม็นของคอกสัตว์ด้วยสารเร่ง พด.6 :
สารเร่ง พด.6 เป็นเชื้อจุลินทรีย์ที่มีคุณสมบัติในการเพิ่มประสิทธิภาพการหมักเศษอาหารในสภาพที่ไม่มีออกซิเจน เพื่อผลิตสารสำหรับทำความสะอาดคอกสัตว์ บำบัดน้ำเสีย และลดกลิ่นเหม็นตามท่อระบายน้ำ
วัสดุสำหรับทำสารบำบัดน้ำเสีย และขจัดกลิ่นเหม็น (จำนวน 50 ลิตร)
- เศษอาหารในครัวเรือน 40 กก.
- น้ำตาล หรือกากน้ำตาล 10 กก.
- น้ำ 10 ล.
- สารเร่ง พด.6 - 1 ซอง (25 กรัม)
วิธีทำ :
- นำเศษอาหาร และน้ำตาล ผสมลงในถังหมัก
- ละลายสารเร่ง พด.6 ในน้ำ 10 ล. แล้วเทลงในถังหมัก
- คลุกเคล้าหรือคนให้ส่วนผสมเข้ากัน
- ปิดฝาไม่ต้องสนิท ใช้เวลาหมัก 20 วัน
อัตราและวิธีการใช้ :
- การทำความสะอาดคอกสัตว์และบำบัดน้ำเสีย เจือจางสารบำบัด : น้ำ เท่ากับ 1:10 เทลงบริเวณที่บำบัดทุกวัน หรือทุกๆ 3 วัน
สูตร พด 2 :
สูตรนี้ได้จากพ่อสวาท พุทธธรรมา เกษตรกรบ้านห้วยซัน ต.ศิลา อ.เมืองขอนแก่น สามารถใช้น้ำหมัก EM รดทุก 3 วัน หรือ ทุกครั้งที่มีกลิ่นเหม็นจะช่วยได้ และขจัดปัญหาเรื่องแมลงวันที่มาพร้อมกลิ่นขี้หมู
วัสดุใช้ทำน้ำหมัก EM :
1. หอยเชอรี่ 30 กก.
2. กากน้ำตาล 10 กก.
3. น้ำเปล่า 20 ลิตร
4. สารเร่ง พ.ด.2 จำนวน 1 ซอง
5. ถังพลาสติกพร้อมฝา จำนวน 1 ถัง
วิธีการทำ :
นำเอาหอยเชอรี่ ที่ได้มาใส่กระสอบและทุบให้ละเอียด จากนั้นเทลงในถังหมัก เดิมกากน้ำตาลลงไป และนำเอาสารเร่งมาละลายน้ำเปล่าเทลงในถังหมัก กวนให้เข้ากัน เปิดคนทุก 7 วัน ถ้ามีกลิ่นเหม็นให้เพิ่มกากน้ำตาลอีก ทิ้งไว้ 30 วัน จะได้น้ำหมัก EM
วิธีการนำไปใช้ :
นำเอาน้ำหมักที่ได้ จำนวน 2 ช้อนโต๊ะ ผสมน้ำ 20 ล. ใส่บัวรดน้ำทดรดให้ทั่วทั้งคอก จะชั่วยลดกลิ่นเหม็นได้

สูตรจุลินทรีย์รวม การลดกลิ่นเหม็นในเล้าหมู โดยให้เชื้อ EM :
วัสดุอุปกรณ์ :
- หัวเชื้อจุลินทรีย์ EM 1 ลิตร
- กากน้ำตาล 1 ล.
- น้ำสะอาด 18 ล.
- ถังขนาด 20 ล.
- พลาสติกสำหรับปิดปากถัง
วิธีการทำ :
ให้นำหัวเชื้อจุลินทรีย์ EM 1 ลิตร กากน้ำตาล 1 ลิตร น้ำสะอาด 18 ลิตร มาผสมให้เข้ากัน แล้วนำไปใส่ถังที่เตรียมไว้ จากนั้นปิดฝาให้แน่น แล้วนำไปเก็บในที่ร่ม ทิ้งไว้ 3- 4 วัน
วิธีการใช้ :
- นำไปสาดในเล้าหมูหลังจากที่ล้างเล้าหมูเสร็จ
- นำไปผสมในอาหารให้หมูกินก็ได้
สูตรเลี้ยงหมูหลุม :
ปัญหาเรื่องกลิ่นมูลหมูอย่างมากใช่ไหมคะ ได้พูดคุยกับเกษตรกรจังหวัดอุดรธานีแล้วเกษตรกรคนนี้ก็เลี้ยงหมูนะ แต่ว่าไม่มีกลิ่นแถมมูลหมูได้เงินมาเป็นรายได้เสริมอีกต่างหาก นั้นคือการเลี้ยงหมูหลุมค่ะ และเกษตรกรคนนี้คือ คุณพ่อสุวรรณ ศรีสุพัฒน์ เกษตรกรคนเก่ง

การเลี้ยงหมูชีวภาพ (หมูหลุม) พ่อสุวรรณบอกว่าที่หันมาเลี้ยงหมูหลุมเนี่ย เพราะว่าเคยมีปัญหาเกี่ยวกับการเลี้ยงหมูมาโดยตลอด ขาดทุน ราคาหมูตก กลิ่นเหม็น ถูกกลุ่มนายทุนกดเรื่องของยา อาหารหมูด้วย การเลี้ยงหมูธรรมชาติที่พ่อสุวรรณทำนี้ สามารถนำการผลิตทางการเกษตรหรือพืชผักที่เหลือๆ ที่มีอยู่เนี่ยมาหมักกากน้ำตาลให้หมูกินได้
วัสดุที่ใช้ :
ขี้วัว, ดิน(ที่ขุดจากหลุม), แกลบ, รำ, หัวเชื้อจุลินทรีย์หรือหัวเชื้อราขาว, อิฐบล็อค
ขั้นตอนในการเตรียมหลุม :
1. ขุดหลุมกว้างขนาด 2 เมตร ยาว 3 เมตร ลึก 1 เมตร สำหรับเลี้ยงหมู 5 ตัว
2. ก่ออิฐบล็อคด้านข้างทั้ง 4 ด้าน ในหลุมสูง 5 ก้อน
3. นำแกลบลงไปให้สูง 30 เซนติเมตร
4. นำมูลวัว กระบือ จำนวน 4 กระสอบใส่ลงไปในหลุม โดยไม่ต้องคำนึงถึงความหนา เกลี่ยให้เท่ากัน
5. หว่านรำลงไป 1 ปิ๊บ รดน้ำหมักที่เตรียมไว้ 6 บัว
6. แล้วนำแกลบลงไปในบ่ออีก 30 ซม.
7. นำมูลวัว กระบือ จำนวน 4 กระสอบเทลงในหลุมเป็นชั้นที่ 2 ตามด้วยรำ 1 ปิ๊บ รดน้ำหมัก 6 บัว ชั้นสุดท้ายลงแกลบ 30 ซม.
8. ซึ่งจะรวมกันได้ 90 ซม. เหลือไว้อีกประมาณ 10 ซม.เพื่อไม่ให้สารอาหารไหลออกจากหลุมแล้วทำการล้อมคอกหมูให้แข็งแรงตามความเหมาะสม
----------------------------------------------------------------------


จาก : (093) 287-59xx
ข้อความ : ลุงคิมครับ ที่นา 120 ไร่ ปี 58 แล้งอนุบาล ทำนารอบแรกขาดทุน ลุงคิมบอกว่าน้ำเหนือเขื่อนเหลือน้อย นารอบสองปี 58 เจอแล้งแล้วขาดทุนอีก ปี 58 แล้งประถม ปี 59 แล้งมัธยม ปีต่อๆไปแล้งปริญญา แค่ปีนี้กับปีหน้าถ้าขาดทุนอีกจะกินอะไร นอกจากไม่มีกินแล้วยังต้องเป็นหนี้อีกด้วย ลุงคิมบอกว่า เกษตรกรลงทุนอะไรลงทุนได้ ทำไมไม่ลงทุนน้ำ .... (ต่อ)

(ต่อ) .... ผมตัดสินใจเจาะบาดาล ลึกแค่ 14 ม. ค่าเจาะ 12,000 แล้วสูบน้ำขึ้นมาใส่นา 10 ไร่ ปลายปี 58 ผลปลูกถั่วเขียว ถึงปลายมีนาเก็บขายได้กำไร 3 หมื่นกว่า เก็บถั่วแล้วไถกลบต้นถั่ว เดือนเมษาต่อพฤษภาจะทำนาเปียกสลับแห้ง แบบอินทรีย์เกาะขอบ ผมรู้แล้วว่าต้องทำอย่าง ไร แต่อยากให้ลุงคิมตอบ เพื่อให้ชาวนาได้รู้ และคิดใหม่ทำใหม่ กับอาชีพของตัวเอง....ขอบคุณครับ จาก ชาวนาตาคลี
ตอบ :
KEYWORD จากคำถามนี้....
“ลงทุนอะไรลงทุนได้ ทำไมไม่ลงทุนน้ำ”
- เจาะบาดาล ในแปลง ปลูกพืชแปลงใหญ่
- ตั้งแทงค์ ในเขตบ้าน ปลูกพืชแปลงเล็ก
- ปีแล้ง ใช้น้ำบาดาล หรือน้ำในแทงค์
- ปีไม่แล้ง ใช้น้ำฝน

- นาข้าว ต้นทุนที่สูญเปล่า เช่น
** ต้นข้าวต้องการปุ๋ย 10 กก./รุ่น ชาวนาใส่ 100 กก.
** ต้นข้าวต้องการปุ๋ย 14 ตัว ชาวนาให้แค่ 2 ตัว
** ใส่ปุ๋ย ทุกตัว/ทุกชนิด ละลายน้ำ สาดทั่วแปลงแล้วย่ำด้วยอีขลุบ เนื้อปุ๋ยจะกระจายบนพื้นทั่วทุกตารางนิ้ว ต้นข้าวได้ทุกกอ .... ใส่ปุ๋ยโดยการเดินหว่าน เนื้อปุ๋ยไปถึงต้นข้าวบางกอ กอที่ได้เขียว กอที่ไม่ได้ไม่เขียว อ้างว่าปุ๋ยน้อย ต้องหว่านเพิ่มหว่านซ้ำ

** สมการปุ๋ย : ปุ๋ยถูก + ใช้ผิด, ปุ๋ยผิด + ใช้ถูก = ไม่ได้ผล เหมือนยาคน ยาถูก แต่กินผิด ยาผิด ถึงจะกินถูก ไม่ได้ผลทั้งนั้น .... ถามหน่อย ใช้ปุ๋ยเคมีมาตั้งแต่ก่อนเกิด วันนี้รู้จักปุ๋ยกี่สูตร รู้จักปุ๋ยกี่ตัว

** สมการยาสมุนไพร : ตัวสมุนไพรถูก วิธีทำถูก วิธีใช้ถูก ใช้ได้ผล แต่ถ้า ตัวสมุน ไพรถูก วิธีทำถูก แต่วิธีใช้ผิด ก็ใช้ไม่ได้ผล เป็นธรรมดา

** ฉีดสมุนไพร 10 ครั้ง ต้นทุน “ทุกอย่าง” น้อยกว่าฉีดสารเคมี 1 ครั้ง
** สารเคมี ตัวเองรังเกียจ คนซื้อคนกินรังเกียจ ทั่วโลกรังเกียจ แล้วทำไมยังใช้อยู่

** ใช้เทคโลโลยีหรือวิธีการสมัยใหม่ ดีกว่าเทคโนโลยีหรือวิธีการเดิมๆ (ต้นทุน เวลา แรงงาน), ประสิทธิภาพ
ประสิทธิผลเนื้องาน, ผลผลิต (ปริมาณ คุณภาพ),

“นาเปียกสลับแห้ง”
- ใช้น้ำน้อยกว่านาปกติ 10 เท่าที่ธรรมชาติของต้นข้าวต้องการใช้จริง
- ให้น้ำแค่เจ๊าะแจ๊ะหน้าดิน ข้าวแตกกอดี

“อินทรีย์เกาะขอบ”
- หลักการและเหตุผล :
* คำว่า อินทรีย์เกาะขอบ ตรงกันข้ามกับ อินทรีย์ตกขอบ (อินทรีย์มั่วซั่ว)
* เมื่อปฏิเสธธาตุอาหารเคมี ต้องให้ธาตุอาหารอินทรีย์แทน

* ธาตุอาหาร "เคมีชีวะ" คือธาตุอาหารที่เกิดเองในธรรมชาติ เช่น แม็กเนเซียม.แคลเซียม ในน้ำมะพร้าว
* ธาตุอาหาร "เคมีสังเคราะห์" คือธาตุอาหารที่มนุษย์สร้างขึ้น เช่น แม็กเนเซียม. แคลเซียม ในกระสอบ

* ต้นข้าวเป็นพืชอายุสั้น ฤดูกาลเดียว มีความต้องการธาตุอาหารน้อยกว่าพืชอายุสั้นข้ามปี (พริก มะเขือ) และไม้ผลยืนต้นอายุหลายสิบปี (มะม่วง ลำไย)

* พืชอายุสั้นฤดูกาลเดียวและข้ามปี รับธาตุอาหารทางใบทางรากได้ 50:50 นั่นคือ ให้ทางใบราดลงดินได้

* ไม้ผลยืนต้นอายุหลายสิบปี รับธาตุอาหารทางใบ 3-4 ส่วนใน 10 ส่วน รับธาตุอาหารทางราก 6-7 ส่วนใน 10 ส่วน นั่นคือ ต้องแยกให้ระหว่างทางใบกับทางราก

- เกษตรอินทรีย์เกาะขอบ หมายถึง การเลือกสันธาตุอาหารที่ให้แก่พืชในรูปแบบของ “เคมีชีวะ” ซึ่งเป็นอินทรีย์ล้วนๆ ผ่านกระบวนการปรับโครงสร้างทางโมเลกุล ให้เป็นโมเลกุลขนาดเล็ก จนสามารถ ผ่านปากใบ ปลายราก เข้าสู่ต้นได้ กับทั้งชนิดและปริมาณสารอาหารครบถ้วน เพียงพอต่อความต้องการของพืชที่จะใช้พัฒนาเจริญเติบโตได้

- กรณีนาข้าว ใช้สูตรเดียวตั้งแต่เริ่มต้น (ทำเทือก) ถึงเกี่ยว ทั้งทางใบและทางราก
- ใช้ร่วมกับสารสมุนไพรได้ทุกชนิด
- พร้อมที่จะ ปรับ/เปลี่ยน ตัวเองจากแบบ อินทรีย์เกาะขอบ เป็น อินทรีย์เคมี ได้ทันที
- ไม่ยุ่งยากต่อการใช้ ไม่มีสารพิษใดๆ ตกค้างหรือปนเปื้อน

“ผมรู้แล้วว่าต้องทำอย่างไร แต่อยากให้ลุงคิมตอบ เพื่อให้ชาวนาได้รู้”
- เกษตรกรทุกสาขา ที่ทำตามแนวสีสันชีวิตไทย 99 ใน 100 คน ยินดีถ่ายทอดความรู้ประสบการณ์ แต่ผู้รับการถ่ายทอด 1 ใน 100 คน ที่ยอมรับ ที่เหลือบอกว่า บ้าตามตาคิม ปล่อยตาคิมบ้าไปคนเดียว

“คิดใหม่ทำใหม่ กับอาชีพของตัวเอง”
- นายก พล.อ.ประยุทธ บอก “ทำแล้วขาย ขายแล้วขาดทุน รุ่นแล้วรุ่นเล่า ไม่ปรับปรุง ไม่รู้จักโตซะที”

- ที่นี่ พ.ท.คิม ซา กัสส์ บอก “ทำอย่างเดิม แย่กว่าเดิม เพราะทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไปหมดแล้ว .... ทำตามคนที่ล้มเหลว จะล้มเหลวยิ่งกว่า เขาใส่ปุ๋ย 1 สอบ เราต้องใส่ 2 สอบ เพราะเรารวยกว่า เก่งกว่า .... ทำตามคนที่สำเร็จ จะสำเร็จยิ่งกว่า เพราะรู้ว่าเขาทำอย่างไร ว่าแล้วก็เอาวิธีของเขามาต่อยอด”

- ก่อนก้าวแรกลงนา คิด/คำนวณ ก่อนว่า ต้องลงทุนด้วย เงิน/แรงงาน/เวลา เท่าไหร่ ขายแล้วจะได้เท่าไหร่ กำไรหรือขาดทุน .... ต้นทุนท่วมราคาขาย คือ อะไร ?

- หลักการทำนา พื้นที่น้อยได้มาก-พื้นที่มากได้น้อย ได้ไหม ? เพราะอะไร ? ทำอย่างไร ?
- ทำนาขายข้าวปลูก ............... ทำนากล้าต้นเดียว ได้ 80-100 ถัง/ไร่
- ทำนาขายข้าวพร้อมหุง ........... ข้าวกล้อง ข้าวฮาง ขายปลีกขายส่ง
- แปรรูปสร้างมูลค่าเพิ่ม ทำน้ำมันรำ จมูกข้าวบรรจุแค็ปซูล
- ทำนาแบบประณีต ................ จ้างแรงงานตั้งแต่เริ่มต้นถึงจบ ขายแล้วยังได้กำไร
- ปรับพื้นที่ให้มีคันนาอันเดียวรอบที่ เพื่อให้ได้พื้นที่ปลูกข้าวมากขึ้น
- ปรับคันนาให้กว้างขึ้น แล้วปลูกผักบนคันนาสร้างรายได้เพิ่ม
- ใน 1 ปี ปลูกข้าว 2 รุ่น ปลูกถั่วไร่ 1 รุ่น ขายถั่วแล้วไถกลบ ได้ถั่วได้ดิน
- ทำนาข้าวแบบ “อินทรีย์เกาะขอบ” ปลอดปุ๋ยเคมี ปลอดสารเคมียาฆ่าแมลง เพื่อลดต้นทุน และเพื่อสร้างเครดิต

- มองแปลงเกษตรของตัวเอง แล้วตั้งคำถามว่า ของเขากับของเรา ต่างกันอย่างไร ? เพราะอะไร ? แก้ไขได้ไหม ?
- มองแปลงเกษตร (เพาะปลูก) ของตัวเองที่กำลังทำอยู่ ณ วันนี้ว่า เมื่อถึงวันขายจะ ขายได้ไหม ? ขายได้เท่าไหร่ ? จะได้กำหรือขาดทุน ?

- ยุติสร้างหนี้ทุกชนิด โดยเลิกซื้อทุกอย่างแล้วทำเกษตร (เพาะปลูก) แบบธรรมชาติแท้ๆ ตั้งเป้า ได้แต่ไหนเอาแค่นั้น

“ทั้งหมดทั้งสิ้นนี้ ยากหรือง่าย อยู่ที่ ใจ เท่านั้น”
- ใจไม่เอา ไม่เคยทำ พ่อแม่ไม่เคยนำทำ แถวนี้ไม่มีใครทำ ฉะนี้แล้ว ก็จงเป็น “หนี้” ต่อไป
- ถามหน่อย ตายปุบตายปับ เหลือกระดาษ 1 แผ่นให้ลูก ถามว่า กระดาษแผ่นนั้น โฉนดที่ดิน หรือสัญญาเงินกู้ .... หนี้นี้ท่านได้แต่ไรมา ใครเป็นคนสร้าง สร้างเองหรือเปล่า
----------------------------------------------------------------------


คำถามใหม่ คนถามใหม่ คำตอบเก่า....
แปลงความคิด เป็นการปฏบัติ :
ทำเทือก :
- ไถกลบฟาง ไม่ยาฆ่าหญ้า ไม่ยาฆ่าหอยเชอรี่
- ใส่ยิบซั่ม ธันเดอร์แคล (ไม่มี แม็กเนเซียม/สังกะสี เคมี), ปุ๋ยอินทรีย์ ตราคนกับควาย, กระดูกป่น,
- ใส่ “น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง สูตรปรับโมเลกุล (ไม่ปุ๋ยเคมี) 2 ล. + นมสด หรือน้ำต้มก้นหม้อก๋วยเตี๋ยว อย่างใดอย่างหนึ่ง หรือหลายอย่างรวมกัน 3-5 ล.” สาดทั่วแปลง แล้วย่ำเทือกตามปกติ บรรจงลากลูกทุบหรืออีขลุบให้กวาด “น้ำปุ๋ย” ไปให้ทั่วแปลงทุกตารางนิ้ว

เตรียมเมล็ดพันธุ์ :
- แช่เมล็ดพันธุ์ใน “น้ำ 100 ล. + น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง สูตรปรับโมเลกุล (ไม่ปุ๋ยเคมี) นาน 24 ชม. นำขึ้นห่มชื้นต่อ 24-48 ชม. เมื่อเมล็ดเริ่มมีคตุ่มรากก็นำไปหว่านได้

บำรุง :
ระยะกล้า-ระยะออกรวง-ระยะน้ำนม ....
- ให้ “น้ำ + น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง สูตรปรับโมเลกุล (ไม่ปุ๋ยเคมี) +สารสมุนไพร” ฉีดพ่นให้เปียกทั่วใบ ทุก 7 วัน (วันเสาร์ หรืออาทิตย์)
- ฉีดพ่นสารสมุนไพรเดี่ยวๆ ทุกวันพุธหรือพฤหัส เสริมเพื่อป้องกัน
- ฉีดพ่นสารสมุนไพรวันเว้นวัน หรือวันต่อวัน 3 รอบ ช่วงที่แปลงข้างๆเริ่มเกิดการระบาด

-----------------------------------------------------------------------




.