-
++kasetloongkim.com++
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ
MySite.com :: ดูกระทู้ - ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตรทางวิทยุ 28 MAR *สารสมุนไพร (35), อินทรีย์เกาะขอบ
 คำถามถามบ่อยของกระดานข่าวคำถามถามบ่อยของกระดานข่าว   ค้นหาค้นหา   กลุ่มผู้ใช้งานกลุ่มผู้ใช้งาน   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว   เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณเข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ   เข้าระบบเข้าระบบ 

ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตรทางวิทยุ 28 MAR *สารสมุนไพร (35), อินทรีย์เกาะขอบ

 
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11553

ตอบตอบ: 28/03/2016 4:24 pm    ชื่อกระทู้: ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตรทางวิทยุ 28 MAR *สารสมุนไพร (35), อินทรีย์ ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

.
.
ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตรทางรายการวิทยุ 28 MAR

AM 594 เวลา 06.30-07.00 (ทุกวัน) และ 08.10-09.00 (จันทร์-ศุกร์)

********************************************************************

สวัสดีครับ ท่านผู้ฟังที่เคารพ
กองทัพบกเพื่อประชาชน เสนอรายการสีสันชีวิตไทย วิทยุเพื่อการเกษตร และอาชีพเสริม
ผลิตรายการโดยกองกิจการพลเรือน หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบก

@@ สนับสนุนรายการโดย ...

* บ.นิมุติ เอ็นจิเนียริ่ง เครื่องย่อยเศษพืช (02) 322-9175-6

http://kasate.site88.net/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=1
* ยิบซั่มธรรมชาติ เฟอร์มิกซ์, ธันเดอร์พลัส, ธาตุรอง/ธาตุเสริม มัลติแชมป์ (089) 144-1112

http://www.mysuccessagro.com
* บ.มายซัคเซส อะโกร---ปุ๋ยอินทรีย์ ตราคนกับควาย, กาวเหนียวดักแมลง มายฟิกส์, กลิ่นล่อแมลงวันทอง ฟลายแอต,
สารเสริมฤทธิ์สารสมุนไพร ไบโอเจ๊ต, ถังฉีดพ่นรุ่นใหม่ ใช้แบตเตอรี่ (081) 910-5034

กระผม พันโทวีระ ใจหนักแน่น (คิม ซา กัสส์) เป็นผู้ดำเนินรายการครับ
เช่นเคยครับ รายการเรา 1188 ฝากข้อความ-ฝากคำถาม ที่ (081) 913-4986

----------------------------------------------------------------------------------------------

ตัวแทนจำหน่าย ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง, ไบโออิ, ไทเป, ยูเรก้า. (อินทรีย์ – เคมี)

1) ชมรม (ใหญ่) สีสันชีวิตไทย (089) 814-3204 ใกล้ไฟแดง สี่แยกบางแพ ราชบุรี
2) “คุณชาตรี” (081) 841-9874 ทรัพย์ทวีการเกษตร ชัฎป่าหวาย สวนผึ้ง ราชบุรี (ส่งทาง ปณ.)

3) ร.ต.ต.นันท์สุรัตน์ (089) 821-8273 ต.จรเข้เผือก ด่านมะขามเตี้ย กาญจนบุรี (ส่งทาง ปณ.)
4) “คุณล่า” (081) 944-8494 ทุกวันจันทร์ ตลาดนัดวัดอมรญาติ ดำเนินสดวก ราชบุรี

5) “คุณประเสริฐ” (080) 110-4645 บ.เขาดิน หนองแขม เดิมบางนางบวช สุพรรณบุรี
6) “คุณพรพรรณ” (089) 814-7944 พลชัยเกษตรชีวภาพ ตลาดนัดธนบุรี ถ.เลียบคลองทวีวัฒนา
7) “คุณน้ำส้ม” (085) 055-7706 ชมรมฯ สาขาศาลายา หน้า ม.มหิดล พุทธมณฑลสาย 4 (ส่งทาง ปณ.)

----------------------------------------------------------------------------------------

@@ สารอาหาร (ปุ๋ย) เพื่อการสื่อสาร :

** ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง : ส่วนผสมหลัก .... อินทรีย์/เคมี (กุ้งหอยปูปลาทะเล, เลือด,
ไขกระดูก, นม, ขี้ค้างคาว, น้ำมะพร้าว, ธาตุหลักตามพืช, แม็กเนเซียม. สังกะสี. รอง/เสริม

** ไบโออิ : ส่วนผสมหลัก .... เคมี (แม็กเนเซียม. สังกะสี. รอง/เสริม)
** ยูเรก้า : ส่วนผสมหลัก .... เคมี (21-7-14, ไคโตซาน, อะมิโนโปรตีน)
** ไทเป : ส่วนผสมหลัก ..... อินทรีย์/เคมี (นม, ไข่, น้ำมะพร้าว, 13-0-46. 0-52-34)

มิได้มีเจตนาโฆษณาผลิตภัณฑ์ แต่ใช้ชื่อผลิตภัณฑ์เพื่อง่ายต่อการสื่อสารข้อมูล เท่านั้น
.... ต้นพืชไม่รู้จักยี่ห้อ ไม่รู้จักเจ้าของสูตร .....
...... ไม่รู้เจ้าของคนปลูก ไม่ฟังโฆษณา .......
...... ต้นพืชรู้จักแต่ส่วนผสมหรือเนื้อใน .......

-----------------------------------------------------------




น้ำหมักสมุนไพร 7 รส ป้องกัน/กำจัด แมลงศัตรูพืชผักได้ทุกชนิด
น้ำหมักสมุนไพร 7 รส เป็นสูตรที่ผสมขึ้นมาจากสมุนไพรที่มีรส จืด ขม ฝาด เบื่อเมา เปรี้ยว หอมระเหย และเผ็ดร้อน หรืออาจกล่าวได้ว่าเป็นสูตรที่รวมรสของสมุนไพรที่มีคุณสมบัติในการกำจัดแมลงศัตรูพืชเข้าไว้ในสูตรเดียวกัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันกำจัดแมลงศัตรูพืชผัก ซึ่งมีความหลากหลายและสามารถพัฒนาความต้านทานสารกำจัดแมลงได้ภายในเวลาไม่นาน ดังนั้นการรวมพิษของพืชที่มีผลต่อระบบการทำงานของแมลงศัตรูพืช เอาไว้ภายในสูตรเดียว จึงเป็นอีกหนึ่งวิธีที่จะลดปัญหาการดื้อยาของแมลงลงได้

โดยการทำน้ำหมักสมุนไพร 7 รส นั้นเป็นการเลือกเอาสมุนไพรรสต่างๆ มาทำน้ำหมักจุลินทรีย์ชีวภาพ เพื่อประโยชน์ทางการเกษตร ซึ่งสามารถใช้ได้กับนาข้าว และพืชผักทุกชนิด

น้ำหมักสมุนไพร 7 รส ประกอบด้วย
1. สมุนไพรรสจืด :
ได้แก่ ใบกล้วย ผักบุ้ง รางจืด และพืชสมุนไพรที่มีรสจืดทุกชนิด
สรรพคุณ : จะเป็นปุ๋ยบำรุงดิน ให้ดินมีความร่วนซุย โปร่ง และทำให้ดินไม่แข็ง และสามารถใช้บำบัดน้ำเสียได้ด้วย

2. น้ำหมักสมุนไพรรสขม
ได้แก่ ใบสะเดา บอระเพ็ด ใบขี้เหล็ก และพืชสมุนไพรที่มีรสขมทุกชนิด
สรรพคุณ : สามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรีย เพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้กับพืช

3. สมุนไพรรสฝาด :
ได้แก่ ปลีกล้วย เปลือกมังคุด เปลือกฝรั่ง มะยมหวาน และพืชสมุนไพรที่มีรสฝาดทุกชนิด
สรรพคุณ : ฆ่าเชื้อราในโรคพืชทุกชนิด

4. น้ำหมักสมุนไพรรสเบื่อเมา :
ได้แก่ หัวกลอย ใบเมล็ดสบู่ดำ ใบน้อยหน่า และพืชสมุนไพรที่มีรสเบื่อเมาทุกชนิด
สรรพคุณ : ฆ่าเพลี้ย หนอน และ แมลง ในพืชผักทุกชนิด

5. น้ำหมักสมุนไพรรสเปรี้ยว :
ได้แก่ มะกรูด มะนาว กระเจี๊ยบ และพืชสมุนไพรที่มีรสเปรี้ยวทุกชนิด
สรรพคุณ : ไล่แมลงโดยเฉพาะ

6.น้ำหมักสมุนไพรรสหอมระเหย :
ได้แก่ ตะไคร้หอม ใบกะเพรา ใบเตย และพืชสมุนไพรที่มีรสหอมระเหยทุกชนิด
สรรพคุณ : จะเป็นน้ำหมักที่เปลี่ยนกลิ่นของต้นพืช เพื่อป้องกันไม่ให้แมลงไปกัดกินทำลาย

7. น้ำหมักสมุนไพรรสเผ็ดร้อน :
ได้แก่ พริก ขิง ข่า และพืชสมุนไพรที่มีรสเผ็ดร้อนทุกชนิด
สรรพคุณ : ไล่แมลง และ ทำให้แมลงแสบร้อน

++วิธีการทำ :++
1. ใช้วัตถุดิบที่เป็นที่มาของแต่ละรส อย่างใดอย่างหนึ่งสับให้ละเอียด รวมแล้วให้ได้จำนวน 3 กิโลกรัม + กากน้ำตาล จำนวน 1 ลิตร + น้ำเปล่า จำนวน 10 ลิตร

2. เทน้ำเปล่าใส่ถังพลาสติกแล้วเทกากน้ำตาลลงไปคนเรื่อยๆจนกากน้ำตาลละลายเป็นเนื้อเดียว กันกับน้ำ จากนั้นจึงเทวัตถุดิบที่สับละเอียดแล้วตามลงไป คนให้เข้ากันอีกครั้ง ปิดฝาให้สนิทตั้งไว้ในที่ร่ม นานประมาณ 3 เดือน จึงสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้

++ การใช้ประโยชน์ ++

ใช้ในอัตราส่วนเดียวกันสำหรับพืชผัก นาข้าว และไม้ผลทุกชนิด คือ น้ำหมัก 1 ลิตร+น้ำ เปล่า 20 ลิตร ฉีดพ่นให้ทั่ว คือ ถ้าเป็นพืชผักทั่วไปฉีดพ่นทุก 3 วัน / ถ้าเป็นไม้ผลฉีดพ่นทุก 7 วัน

แหล่งอ้างอิง :
นางสาวจินตนา เจริญสุข ศูนย์กสิกรรมธรรมชาติฟ้าห่วน-คนลือ ตำบลไร่ขี อำเภอหัวตะพาน จังหวัดอำนาจเจริญ

http://www.rakbankerd.com/agriculture/page.php?id=7370&s=tblplant
-------------------------------------------------------


จาก : E-MAIL KIMZAGASS & HOTMAIL.COM
ข้อความ : ฟังลุงคิมพูดเรื่อง ฮอร์โมนธรรมชาติ นานแล้ว ตอนนี้ลุงคิมพูดเรื่อง เคมีชีวะ เคมีสังเคราะห์ แสดงว่าลุงคิมไม่หยุดค้นคว้าเลย ต้องขอบคุณลุงคิม ขอบคุณลุงชาตรี ขอบคุณแทนเกษตรกรด้วย ....

ฉันเป็นเกษตรกรปลูกผักส่งตลาดศรีเมือง ทำผักอินทรีย์เคมีผสมผสาน เป็นอินทรีย์เกาะขอบ ลดปุ๋ยเคมีจาก 1 กส.เหลือ 1 กก. ลดสารเคมีจาก 5-6 ครั้งเหลือ 1 ครั้ง ผักบางอย่างบางรุ่นไม่ใช้สารเคมีเลย เพราะสภาพอากาศช่วย ....

วันนี้ได้รับการติดต่อจากห้าง ให้ทำผักอินทรีย์ส่งห้างตามออร์เดอร์ ต้องการผักทุกประเภท ไม่ห้ามปุ๋ยเคมี แต่ให้ใช้น้อยที่สุดเท่าที่จะน้อยได้ ห้ามเด็ดขาดคือใช้สารเคมี แล้วให้ใช้สารสมุนไพรได้ ห้างบอกว่า แบบที่ฉันทำอยู่นี้ใช้ได้ ....

ฉันมีกลุ่มอยู่ 4 คน เนื้อที่ 50 ไร่ เราคุยกันว่า ทำผักอินทรีย์เกาะขอบตามแนวลุงคิมอยู่แล้ว รายได้ดี ถึงจะขายได้ตามราคาในตลาดแต่ก็กำไรดีเพราะต้นทุนต่ำ ....

วันนี้อยากได้ความรู้วิธีทำผักอินทรีย์ตามหลักวิชาการ จะได้อธิบายให้คนของห้าง กับสมาชิลูกกลุ่มได้รู้ด้วย จะตามอ่านในเน็ตนะคะ .... ขอบคุณค่ะ

ตอบ :

สังคมไทยวันนี้ไม่ใช่น้อยที่อยู่ในประเภท “ขอให้ได้พูดๆ ๆๆ” พูดออกมาแล้วถูกถามย้อนว่า “เพราะอะไร” กลับตอบตรงๆไม่ได้ หรือไม่ก็ตอบแบบ เลี่ยงไปเลี่ยงมา ตอบแบบเอาข้างเข้าถู

วิธีแก้คนประเภทพูดแบบนี้ คือ “พูดหลักวิชาการ” ให้เขาฟัง ให้เข้ารู้ถึงหลักวิชาการอย่างมีเหตุมีผล ว่าอะไรเป็นอะไร ? มีที่มาที่ไปอย่างไร ? ดีหรือไม่ดีอย่างไร ? เพราะอะไร ? แก้ไขได้ไหม ?

ถึงเวลาหรือยังที่แต่ละคนจะต้องพิจารณาตัวเองว่า ไอ้ที่ว่ารู้ๆ ๆๆ น่ะ รู้จริงหรือไม่ .... ไม่รู้แล้วยังไม่รับรู้อีก แบบนี้ชีวิตจะมีอะไร
-----------------------------------------------------

คำตอบตรงคำถาม - คำถามตรงคำตอบ :
“ผักอินทรีย์ส่งห้างตามออร์เดอร์”

เพราะ .... ห้างรู้ว่า ตลาดหรือลูกค้า ต้องการผักแบบนี้
เพราะ .... ผักอินทรีย์ปลอดภัยด้วยประการทั้งปวง
เพราะ .... ผักอินทรีย์ รสชาติ คุณภาพ เหนือกว่าผักเคมี
เพราะ .... ผักอินทรีย์ ต้นทุนต่ำ ต่ำกว่าผักเคมี ช่วยให้ลูกค้า (ชาวสวน) มีรายได้ดี
เพราะ .... ฉีดยาสมุนไพร 100 ครั้ง ความสูญเสียน้อยกว่า ฉีดนยาเคมี 1 ครั้ง
เพราะ .... ห้างมีอาชีพ รับมาขายไป อยากให้ห้างมารับสินค้าจากเราประจำๆก็ต้องทำตามสัญญา
เพราะ .... เราไม่รักษาคุณภาพสินค้าตามข้อตกลง ห้างก็จะไปหาซื้อที่อื่น

“ไม่ห้ามปุ๋ยเคมี”

เพราะ .... รู้ว่า “ปุ๋ยเคมี” ไม่ใช่ “สารเคมี” ยาฆ่าแมลง
เพราะ ..... รู้ว่า ธรรมชาติผักสวนครัว พืชอายุสั้นฤดูกาลเดียว ไม่มีความจำเป็นหรือไม่ต้องการปุ๋ยมากเหมือนพืชยืนต้นอายุหลายๆสิบปี นั่นคือ ลำพังแค่ปุ๋ยหรือสารอาหารในอินทรีย์ก็เพียงพอแล้ว
เพราะ .... รู้จากลูกสวนคนอื่นๆว่า สารอาหารสำหรับพืชมิใช่มีแต่ปุ๋ยเคมีอย่างเดียวเท่านั้น ในปุ๋ยอินทรีย์ทั้งชนิดน้ำ ชนิดแห้ง ก็มีปุ๋ย

“แต่ให้ใช้น้อยที่สุดเท่าที่จะน้อยได้”

เพราะ .... รู้จากลูกสวนที่เคยไปเยี่ยมสวน กับรู้จากข้อมูลวิชาการผ่านสื่อต่างๆว่า ผักสวนครัวไม่ได้ต้องการกินปุ๋ยเคมีมากมายขนาดนั้น

(เกษตรกรใส่ปุ๋ย รองพื้น-แต่งหน้า-กระแทก-กระทุ้ง-กระตุ้น ต้นละช้อน กอละช้อน รวมแล้วไร่ละ 1 กส. /1 ครั้ง ทั้งๆที่ ในความเป็นจริงต้องการแค่ 1-2 กก./ไร่ /รุ่น เท่านั้น)

วิธีการ “ใช้ปุ๋ย/ให้ปุ๋ย” ที่ดีที่สุด คือ ให้ “ปุ๋ยอินทรีย์+จุลินทรีย์+ปุ๋ยเคมี” ชนิดแห้งและน้ำ ทั้งทางใบทางราก สม่ำเสมอ ตั้งแต่เตรียมดินเตรียมแปลงก่อนปลูก ถึงวันเก็บเกี่ยว

“ห้ามเด็ดขาดคือสารเคมี แล้วให้ใช้สารสมุนไพร”

เพราะ .... รู้ดีว่า สารเคมีคือสิ่งรังเกียจของลูกค้า
เพราะ .... รู้ดีว่า ยังมีวิธีการอื่นๆ ที่สามารถนำมาใช่แทนสารเคมียาฆ่าแมลงได้
เพราะ .... รู้ดีว่า ยาสมุนไพร ใช้แทนยาฆ่าแมลงได้
เพราะ .... รู้ดีว่า ชาวสวนสามารถทำยาสมุนไพรใช้เอง ช่วยให้ประหยัดต้นทุน
เพราะ .... รู้ดีว่า ใช้ยาสมุนไพร 100 ครั้ง คิดความสูญเสียน้อยกว่าใช้สารเคมี 1 ครั้ง

“กลุ่มเราคุยกัน”

เพราะ .... คนเดียวทำไม่ได้ ต้องรวมกันหลายๆคน
เพราะ .... ได้สินค้าตามที่ห้างต้องการ (ชนิด ปริมาณ คุณภาพ เกรด ฯลฯ)
เพราะ .... คิด/วิเคราะห์/เปรียบเทียบ ระหว่างความล้มเหลวกับความสำเร็จ ระหว่างขาดทุนกับกำไร ระหว่าง “รวย” กับ “หนี้” มีต้นสาเหตุมาจากอะไร ?
เพราะ .... ทำแบบเดิม ทำตามคนที่ล้มเหลว จะล้มเหลวยิ่งกว่า ทำตามคนที่สำเร็จ จะสำเร็จยิ่งกว่า เขาทำอย่างไร ?
เพราะ .... กะรวยคนเดียว กะรวยกว่าข้างบ้าน ผลคือ จนคนเดียว จนกว่าข้างบ้าน ลงท้ายจริงๆ คือ จนทั้งหมู่บ้าน จนทั้งประเทศ แพ้สิงค์โปร์ แพ้ไต้หวัน
เพราะ .... อะไรทำให้เรารวมกลุ่มไม่ได้ ในเมื่อที่ไหนๆหลายที่ทั่วประเทศเขารวมกลุ่มกันได้

แม้แต่เกาหลีไต้ ที่ผู้พันคิมเคยไปช่วยรบทำสงคราม เมื่อ 30 ปีที่แล้ว คิดดู บ้านเมืองมีสงครามๆ ๆๆ บ้านแตกสาแหรกขาด ประ ชาชนจะอยู่ยังไง จะกินอะไร วันนี้รองนายก สมคิดฯ ไปเยือนเกาหลี แล้วบอกจะเอาเกาหลีเป็นตัวอย่าง มาทำที่ภูเก็ต

ชาวนาเกาหลี 200 คนมาดูการทำนาของชาวนาไทย กระจายกันไปกินไปนอนกับชาวนาไทย อยู่ดูชาวนาไทยทำนาข้าวตั้ง แต่เริ่มต้นจนถึงเกี่ยว ถึงวันนี้ ชาวนาไทยไปดูงานที่เกาหลี ไปดูชาวนาเกาหลีเขาทำนา ดูแล้วเห็นแล้วกลับมาแล้วไม่มีอะไรเกิดขึ้น

แม้แต่ข่าวเทคโนโลยีการทำนาข้าวจากต่างประเทศทั่วโลก อเมริกา ยุโรป เอเชีย ทำแล้วได้ผล ชาวนาไทยไม่เอาซักอย่าง คนส่งเสริมก็ไม่เอามาส่งเสริม ฉะนี้แล้ว ชาวนาไทยจะไปทางไหน ประเทศชาติจะไปยังไง
-------------------------------------------

“อินทรีย์เกาะขอบ”
หลักการและเหตุ :

- มีเหตุมีผล มีหลักวิชาการ งานวิจัย จากนักวิชาการทั้งในประเทศและต่างประเทศรองรับยืนยัน
- มี ปุ๋ย/ฮอร์โมน/จุลินทรีย์/อื่นๆ ประเภทอินทรีย์ ในปุ๋ยอินทรีย์ทั้งชนิดน้ำ และชนิดแห้ง ได้จากวัสดุ และกรรมวิธีในการทำ
- มี สารอาหารประเภทเคมี ที่ได้จากการใส่เพิ่ม ด้วยสูตรและปริมาณที่เหมาะสมกับพืช
- ธรรมชาติของพืชอายุสั้นฤดูกาลเดียว (ผักสวนครัว) รับสารอาหารทางใบและทางรากได้เท่าๆกัน คือ 50-50 เทคนิคการให้ ปุ๋ย/ฮอร์โมน ประเภททางใบ ให้ทางใบแล้วตกลงพื้น ต้นพืชยังสามารถรับได้
-----------------------------------------------

ความรู้รอบตัว เรื่องสารอาหารพืช :

- คำว่า “ธาตุหรือปุ๋ย” คือ อาหารสำหรับพืช เพื่อใช้ในการพัฒนาตัวเอง เช่นเดียวกับอาหารคนหรือสัตว์
- ธาตุหรือปุ๋ย อาหารสำหรับพืชประกอบด้วย ....
* ธาตุหลัก (N P K) เปรียบอาหารคน คือ ข้าว
* ธาตุรอง (Ca Mg S) เปรียบอาหารคน คือ กับข้าว
* ธาตุเสริม (Fe Cu Zn Mn Mo B Si Na) เปรียบอาหารคน คือ ของหวาน
* ฮอร์โมน (จิ๊บเบอเรลลิน ไซโตไคนิน ฯลฯ) เปรียบอาหารคน คือ ของว่าง

- ธาตุอาหารเคมีสังเคราะห์ หรือปุ๋ยเคมีสังเคราะห์ หรือปุ๋ยวิทยาศาสตร์ ชื่อเป็นเคมีแต่เกิดจากฝีมือมนุษย์เป็นผู้สร้าง มีในกระสอบ ในถุง/ซอง/ขวด/กล่อง เช่น ปุ๋ยตราเรือใบ ปุ๋ยตราหัววัวคันไถ ธาตุรอง/ธาตุเสริมมัลติแชมป์

- ธาตุอาหารเคมีชีวะ เกิดเองตามธรรมชาติ ชื่อเป็นเคมีแต่เกิดจากธรรมชาติ เช่น น้ำมะพร้าวอ่อน (จิ๊บเบอเรลลิน), น้ำมะพร้าวแก่ (ไซโตไคนิน แคลเซียม แม็กเนเซียม เหล็ก สังกะสี กำมะถัน), หัวไชเท้า (ไซโตไคนิน), เมล็ดเริ่มงอก (จิ๊บเบอเรลลิน), น้ำผักใบ (GROWTH HOMONE), นม จืด/เปรี้ยว (แคลเซียม โซเดียม แมกนีเซียม ฟอสฟอรัส คลอไรด์ ซิเทรต เหล็ก ทองแดง และไอโอดีน), นมน้ำเหลืองแม่วัว (อมิโนโปรตีน), น้ำนึ่งปลาทะเล (ฟอสฟอรัส แมกนีเซียม เหล็ก ทองดง แมงกานิส สังกะสี โซเดียม....อมิโนโปรตีน ), น้ำก้นหม้อก๋วยเตี๋ยว (ไชเท้า กระดูก....อมิโนโปรตีน), ขี้เพี้ย (อะมิโนโปรตีน),
---------------------------------------------------------------

คำถามใหม่ คนตอบเก่า....พิจารณานำใช้อย่างอัทธยาศัย :

ฮอร์โมนจิ๊บเบอร์เรลลิน (ขยายขนาดทางยาว) : เมล็ดเริ่มงอก น้ำมะพร้าวอ่อน ผลอ่อนขบเผาะ
ฮอร์โมนไซโตไคนิน (ขยายขนาดทางข้าง) : หน่อไม้สด หน่อไม้ฝรั่ง ไชเท้า น้ำมะพร้าวแก่ ลิ้นทะเล
ฮอร์โมนพาโคลบิวทาโซล (ยับยั้งการเจริญเติบโต) : หัวแก่เนื้อเป็นเสี้ยน
ฮอร์โมน เอ็นเอเอ. (บำรุงเกสร) : กาวเครือขาว

ฮอร์โมนก้นครัว (ขยายทุกขนาด) : น้ำหอยเผา น้ำล้างเขียงปลา นมน้ำเหลือง ขี้เพี้ย ขี้เด็กทารกอายุไม่เกิน 3 เดือน นมสด นมเปรี้ยว น้ำซาวข้าวเปรี้ยว ข้าวน้ำนม น้ำคั้นผักสดใหม่

น้ำตาลทางด่วน : น้ำมะพร้าว น้ำตาลงวงตาล น้ำตาลงวงมะพร้าว น้ำอ้อยสด ผลไม้สุกหวาน สาโท กลูโคส

หมายเหตุ :

ทุกตัวใช้แล้ว เนื้อฟ่าม ไม่แน่น แก้ไขด้วยการ +ธาตุรอง/ธาตุเสริม เคมี (มัลติแชมป์ .... กรณีไม่ปฏิเสธปุ๋ยเคมี)
-------------------------------------------

ธาตุอาหาร เคมีชีวะ ในน้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง :
* ธาตุหลัก/รอง/เสริม ได้จาก กุ้งหอยปูปลาทะเล เลือด ไขกระดูก นม น้ำมะพร้าว ขี้ค้างคาว กากน้ำตาล
* ฮอร์โมน ฟลาโวนอยด์ โพลิตินอล ควินนอยด์ ไซโตไคนิน
* จุลินทรีย์ กลุ่มต้องการอากาศ กลุ่มไม่ต้องการอากาศ

ธาตุอาหารเคมีสังเคราะห์ ในน้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง :
* แม็กเนเซียม ซัลเฟต, สังกะสี ซัลเฟต, ธาตุรอง/ธาตุเสริม, ฮิวมิกแอซิด
* ธาตุหลักตามพืชที่จะให้

- พืชกินผล อายุสั้นฤดูกาลเดียว เช่น มะเขือ พริก มีความจำเป็นและต้องการธาตุอาหารไม่มากนัก จึงใช้วิธี “อินทรีย์นำ เคมีเสริม” ได้

- พืชกินผล อายุยืน เช่น ลำไย มะม่วง มีความจำเป็นและต้องการธาตุอาหารมากกว่า จึงใช้วิธี “เคมีนำ อินทรีย์เสริม” ได้
---------------------------------------------------

ความรู้รอบตัว เรื่องการป้องกันกำจัดศัตรูพืช :
** งานวิจัยระดับโลก :

Grainge and Ahmed (1988) : ในโลกมีพืชมากกว่า 2,400 ชนิด ที่มีพิษต่อแมลง

** ประสบการณ์ตรง (บัญญิติ 10 ประการ) :

1. ตัวยา ป้องกัน/กำจัด ศัตรูพืชที่แท้จริง คือ กลิ่น รส ฤทธิ์
2. วิธีเลือกสมุนไพรที่ดีที่สุด คือ ใช้มากๆ ๆๆ อย่าง ดีกว่าน้อยอย่าง
3. วิธีทำที่ดีที่สุด คือ แช่ในน้ำร้อน
4. สารเร่งให้ตัวยาออกมาเร็ว คือ แอลกอฮอร์ และน้ำส้มสายชู
5. วิธีใช้ที่ดีที่สุด คือ กันก่อนแก้ และฉีดพ่นบ่อยๆ
6. สู้กับศัตรูพืชโดย บำรุงต้นให้สมบูรณ์เป็นภูมิต้านทาน และใช้การป้องกันแบบผสมผสาน
7. ใช้กับดัก กาวเหนียว/แสงไฟ/กลิ่นล่อ ช่วยกำจัด และช่วยให้รู้ล่วงหน้า
8. ไม่มีพืชใดในโลกนี้ ไม่มีศัตรูพืชประจำตระกูล หรือเผ่าพันธุ์
9. ไม่มี ยาสมุนไพร และยาเคมีใดในโลกนี้ ช่วยให้พืชที่ถูกทำลายไปแล้ว ฟื้นคืนดีอย่างเดิมได้
10. สมการยาสมุนไพร ยาถูก+ใช้ผิด=ไม่ได้ผล, ยาผิด+ใช้ถูก=ไม่ได้ผล, ยาถูก+ใช้ถูก=ได้ผล
-----------------------------------------------------------------------

จาก ทฤษฎี .... สู่ การปฏิบัติ ....
**เตรียมดิน เตรียมแปลง :

- ทำสันแปลงสูงๆ มีช่องทางระบายน้ำจากสันแปลงลงตีนแปลงดีๆ ใส่ยิบซั่ม เฟอร์มิกซ์, ปุ๋ยอินทรีย์ ตราคนกับควาย, กระดูกป่น, ขี้วัวขี้ไก่แกลบดิบ ทำให้ดินโปร่งให้ได้ บ่มดินทิ้งไว้ 20-30 วัน (ตระหนักเสมอว่า ขั้นตอน “บ่มดิน” สำคัญที่สุด) เพื่อให้เวลาจุลินทรีย์ปรับสภาพดิน เตรียมสารอาหารพร้อมแล้วจึงค่อยปลูก ใช้ฟางแห้งคลุมหน้าแปลงหนาๆ, ให้น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง สูตรปรับโมเลกุล 1-2 ล. /ไร่ /เดือน, ให้น้ำสม่ำเสมอ พอหน้าดินชื้น, อย่าให้น้ำขังค้างเด็ดขาด

** เตรียมเมล็ดพันธุ์ :

- แช่เมล็ดพันธุ์ใน “น้ำอุ่น + ไบโออิ (สังกะสี) + ยูเรก้า (ไคโตซาน) + แคลเซียม โบรอน (โบ รอน) นาน 6 ชม. นำขึ้นหุ่มชื้น 24 ชม. เริ่มมีตุ่มรากโผล่ขึ้นมานำไปเพาะ

** เตรียมกล้า :

- เพาะกล้าในกระบะเพาะ หยอดเมล็ดช่องละ 1 เมล็ด
- บำรุงจนกล้าโตได้ 2-3 ใบจึงย้ายลงปลูกในแปลงจริง .... ให้แคลเซียม โบรอน ก่อนย้ายกล้า 3-5 วัน จะช่วยให้ต้นกล้าแข็งแรงดี

** บำรุงระยะกล้า :

- ให้ไบโออิ ทุก 5-7 วัน
- ฉีดพ่นสารสมุนไพรบ่อยๆ
----------------------------------------------------

** บำรุงผักตามชนิด :
ผักกินใบ :
ทางใบ :

- ไบโออิ + ยูเรก้า + นมสด + ยาสมุนไพร 2 รอบ สลับด้วยแคลเซียม โบรอน 1 รอบ ห่างกันรอบละ 5-7 วัน
- ฉีดพ่นยาสมุนไพรบ่อยๆ วันละ 2 เวลาเช้าค่ำ วันละเวลาวันเว้นวัน วันละเวลาวันเว้นสองวัน
ทางราก :
- ระเบิดเถิดเทิง สูตรปรับโมเลกุล 30-10-10 ทุก 15 วัน
------------------------------------

ผักกินผล ผักกินดอก :
ทางใบ :

- ไบโออิ + ไทเป + ยูเรก้า + ยาสมุนไพร 2 รอบ สลับด้วยแคลเซียม โบรอน 1 รอบ ห่างกันรอบละ 7 วัน
- พ่นยาสมุนไพรบ่อยๆ
ทางราก :
- ระเบิดเถิดเทิง สูตรปรับโมเลกุล 8-24-24 ทุก 15 วัน
-----------------------------------------

ผักกินยอด :
ทางใบ :

-ไบโออิ + จิ๊บเบอเรลลิน + เหล็กคีเลต 2 รอบ สลับด้วย สลับด้วยแคลเซียม โบรอน 1 รอบ ห่างกันรอบละ 7 วัน
- ฉีดพ่นยาสมุนไพรบ่อยๆ
ทางราก :
- ระเบิดเถิดเทิง สูตรปรับโมเลกุล 30-10-10 ทุก 15 วัน
--------------------------------------------------------------

ผักกินหัว :
ทางใบ :

-ไบโออิ 5-10-40 (2 รอบ) สลับด้วยแคลเซียม โบรอน 1 รอบ ห่างกันรอบละ 7 วัน
- ฉีดพ่นยาสมุนไพรบ่อยๆ
ทางราก :
- ระเบิดเถิดเทิง สูตรปรับโมเลกุล 5-10-40 ทุก 15 วัน

หมายเหตุ :

- แยกให้ออกระหว่าง “อินทรีย์ กับ เคมี” ว่า อย่างไหนมีความจำเป็นหรือไม่จำเป็นอย่างไรต่อพืช เพราะต่างก็เป็นสารอาหาร (ปุ๋ย) สำหรับพืชเหมือนๆกัน
- แยกให้ออกระหว่าง “สารเคมี กับ ปุ๋ยเคมี” เพราะมีคำว่า “เคมี” เหมือนกัน ว่า ต่างกันอย่างไร ?

– แยกให้ออกระหว่าง “อินทรีย์ตกขอบ กับ เคมีบ้าเลือด” ว่า เหมือนกันหรือต่างกันอย่างไร ? .... ทำปุ๋ยอินทรีย์ ทำแล้วมีปุ๋ยหรือไม่ มีปุ๋ยอะไร ปุ๋ยตัวไหน มีเท่าไหร่ ไม่รู้ แล้วทำไปทำไม

- สปริงเกอร์ หม้อปุ๋ยหน้าโซน/ถังปุ๋ยที่ปั๊ม ช่วยงานฉีดพ่น ปุ๋ย/ยาสมุนไพร ได้ดีที่สุดเนื้อที่ 1 ไร่ ใช้เวลา 3 นาที แรงงานคนเดียว

ป้องกันศัตรูพืช :
ศัตรูพืชในดิน :

- ปรับปรุงบำรุงดิน
- สับเปลี่ยนแปลงปลูก เพื่อไม่ปลูกซ้ำที่ ทำให้สะสมโรค

ศัตรูพืชเหนือดิน :

- ฉีดพ่นยาสมุนไพรบ่อยๆ บ่อยที่สุดเท่าที่จะบ่อยได้
- ใช้สมุนไพรที่ตัวยาตรงกับศัตรูพืช
-------------------------------------------------------------------

คำถามใหม่ คำตอบเก่า ...
เปรียบเทียบ "ข้อดี/ข้อด้อย" ของปุ๋ยเคมีและปุ๋ยอินทรีย์ :
ข้อดีของปุ๋ยอินทรีย์ :

1. ช่วยปรับปรุงโครงสร้างของดินให้ดีขึ้น ทำให้ดินมีคุณสมบัติทางฟิสิกส์ดี เช่น มี
ความโปร่งร่วนซุย มีความสามารถในการอุ้มน้ำและธาตุอาหารพืชได้ดี
2. สามารถอยู่ในดินได้นาน และค่อยๆ ปลดปล่อยธาตุอาหารอย่างช้าๆ
3. ส่งเสริมให้จุลินทรีย์ที่เป็นประโยชน์ต่อการบำรุงดิน สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
4. เมื่อใช้ร่วมกับปุ๋ยเคมี จะส่งเสริมให้ปุ๋ยเคมีเป็นประโยชน์แก่พืชมากขึ้น

ข้อด้อยของปุ๋ยอินทรีย์ :

1. มีปริมาณธาตุอาหารพืชต่อน้ำหนักปุ๋ยต่ำ ต้องใช้ปริมาณมาก
2. ใช้เวลานานในการปลดปล่อยธาตุอาหารที่เป็นประโยชน์ให้แก่พืช
3. ราคาต่อน้ำหนักของธาตุอาหารพืชมีราคาสูง
4. มีจำนวนจำกัด ไม่สามารถหาซื้อในปริมาณมากๆ ได้

ข้อดีของปุ๋ยเคมี :

1. มีปริมาณธาตุอาหารพืชต่อน้ำหนักปุ๋ยสูง ใช้ปริมาณเล็กน้อยก็เพียงพอ
2. ปลดปล่อยธาตุอาหารให้แก่พืชได้เร็ว
3. ราคาต่อน้ำหนักของธาตุอาหารพืชมีราคาต่ำ สะดวกต่อการขนส่งและเก็บรักษา
4. หาซื้อง่าย เพราะเป็นผลิตผลที่ผลิตได้จากโรงงาน สามารถผลิตได้จำนวน

ข้อด้อยของปุ๋ยเคมี :

1. ไม่มีคุณสมบัติในการปรับปรุงคุณสมบัติทางฟิสิกส์ของดิน คือ ไม่ช่วยทำให้ดินโปร่ง
2. ปุ๋ยเคมีบางชนิด เช่น ปุ๋ยแอมโมเนีย ถ้าใช้ในปริมาณมากและติดต่อกันเป็นเวลานานจะทำให้ดินเป็นกรดมากขึ้น ต้องแก้โดยการใส่ปูนขาว
3. การใช้ปุ๋ยเคมีต้องระมัดระวัง เพราะปุ๋ยเคมีทุกชนิดมีความเค็ม ถ้าใส่มากหรือใส่ติดโคนต้นพืชจะเป็นอันตรายต่อต้นพืชและการงอกของเมล็ด
4. ผู้ใช้ปุ๋ยเคมีจะต้องมีความรู้ความเข้าใจเรื่องปุ๋ยพอสมควร จึงจะใช้อย่างได้ผลตอบ แทนคุ้มค่า

----------------------------------------------------------



.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group
Forums ©