-
++kasetloongkim.com++
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ
MySite.com :: ดูกระทู้ - ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตร วิทยุ 21 MAR *สารสมุนไพร (30), โชกุนไร้เมล็ด
 คำถามถามบ่อยของกระดานข่าวคำถามถามบ่อยของกระดานข่าว   ค้นหาค้นหา   กลุ่มผู้ใช้งานกลุ่มผู้ใช้งาน   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว   เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณเข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ   เข้าระบบเข้าระบบ 

ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตร วิทยุ 21 MAR *สารสมุนไพร (30), โชกุนไร้เมล็ด

 
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11558

ตอบตอบ: 21/03/2016 10:37 am    ชื่อกระทู้: ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตร วิทยุ 21 MAR *สารสมุนไพร (30), โชกุนไร้เม ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

.
.
ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตรทางรายการวิทยุ 21 MAR

AM 594 เวลา 06.30-07.00 (ทุกวัน) และ 08.10-09.00 (จันทร์-ศุกร์)

********************************************************************

สวัสดีครับ ท่านผู้ฟังที่เคารพ
กองทัพบกเพื่อประชาชน เสนอรายการสีสันชีวิตไทย วิทยุเพื่อการเกษตร และอาชีพเสริม
ผลิตรายการโดยกองกิจการพลเรือน หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบก

@@ สนับสนุนรายการโดย ...

* บ.นิมุติ เอ็นจิเนียริ่ง เครื่องย่อยเศษพืช (02) 322-9175-6

http://kasate.site88.net/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=1
* ยิบซั่มธรรมชาติ เฟอร์มิกซ์, ธันเดอร์พลัส, ธาตุรอง/ธาตุเสริม มัลติแชมป์ (089) 144-1112

http://www.mysuccessagro.com
* บ.มายซัคเซส อะโกร---ปุ๋ยอินทรีย์ ตราคนกับควาย, กาวเหนียวดักแมลง มายฟิกส์, กลิ่นล่อแมลงวันทอง ฟลายแอต,
สารเสริมฤทธิ์สารสมุนไพร ไบโอเจ๊ต, ถังฉีดพ่นรุ่นใหม่ ใช้แบตเตอรี่ (081) 910-5034

กระผม พันโทวีระ ใจหนักแน่น (คิม ซา กัสส์) เป็นผู้ดำเนินรายการครับ
เช่นเคยครับ รายการเรา 1188 ฝากข้อความ-ฝากคำถาม ที่ (081) 913-4986

----------------------------------------------------------------------------------------------

ตัวแทนจำหน่าย ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง, ไบโออิ, ไทเป, ยูเรก้า. (อินทรีย์ – เคมี)

1) ชมรม (ใหญ่) สีสันชีวิตไทย (089) 814-3204 ใกล้ไฟแดง สี่แยกบางแพ ราชบุรี
2) “คุณชาตรี” (081) 841-9874 ทรัพย์ทวีการเกษตร ชัฎป่าหวาย สวนผึ้ง ราชบุรี (ส่งทาง ปณ.)

3) ร.ต.ต.นันท์สุรัตน์ (089) 821-8273 ต.จรเข้เผือก ด่านมะขามเตี้ย กาญจนบุรี (ส่งทาง ปณ.)
4) “คุณล่า” (081) 944-8494 ทุกวันจันทร์ ตลาดนัดวัดอมรญาติ ดำเนินสดวก ราชบุรี

5) “คุณประเสริฐ” (080) 110-4645 บ.เขาดิน หนองแขม เดิมบางนางบวช สุพรรณบุรี
6) “คุณพรพรรณ” (089) 814-7944 พลชัยเกษตรชีวภาพ ตลาดนัดธนบุรี ถ.เลียบคลองทวีวัฒนา
7) “คุณน้ำส้ม” (085) 055-7706 ชมรมฯ สาขาศาลายา หน้า ม.มหิดล พุทธมณฑลสาย 4 (ส่งทาง ปณ.)

----------------------------------------------------------------------------------------

@@ สารอาหาร (ปุ๋ย) เพื่อการสื่อสาร :

** ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง : ส่วนผสมหลัก .... อินทรีย์/เคมี (กุ้งหอยปูปลาทะเล, เลือด,
ไขกระดูก, นม, ขี้ค้างคาว, น้ำมะพร้าว, ธาตุหลักตามพืช, แม็กเนเซียม. สังกะสี. รอง/เสริม

** ไบโออิ : ส่วนผสมหลัก .... เคมี (แม็กเนเซียม. สังกะสี. รอง/เสริม)
** ยูเรก้า : ส่วนผสมหลัก .... เคมี (21-7-14, ไคโตซาน, อะมิโนโปรตีน)
** ไทเป : ส่วนผสมหลัก ..... อินทรีย์/เคมี (นม, ไข่, น้ำมะพร้าว, 13-0-46. 0-52-34)

มิได้มีเจตนาโฆษณาผลิตภัณฑ์ แต่ใช้ชื่อผลิตภัณฑ์เพื่อง่ายต่อการสื่อสารข้อมูล เท่านั้น
.... ต้นพืชไม่รู้จักยี่ห้อ ไม่รู้จักเจ้าของสูตร .....
...... ไม่รู้เจ้าของคนปลูก ไม่ฟังโฆษณา .......
...... ต้นพืชรู้จักแต่ส่วนผสมหรือเนื้อใน .......

-----------------------------------------------------------



งานวิจัย : สะดา ป้องกัน/กำจัด ศัตรูพืช :
ศ.ดร.ขวัญชัย สมบัติศิริ ภาควิชากีฏวิทยา คณะเกษตร ม.เกษตรศาสตร์

สะดา ป้องกัน/กำจัด ศัตรูพืช :

สะเดา เป็นพืชที่รู้จักกันดี ปัจจุบันยิ่งเป็นที่รู้จักกันมากยิ่งขึ้น เพราะสะเดามีคุณประโยชน์ทางด้านกำจัดแมลงศัตรูพืช ทดแทนการใช้สารเคมีที่เป็นอันตรายต่อผู้ใช้ ผู้บริโภค และสิ่งแวด ล้อม แต่สะเดาก็มีหลายพันธุ์ดังที่กรมส่งเสริมการเกษตรมีข้อมูลไว้ว่า สะเดา แบ่งออกเป็น 3 ชนิด คือ สะเดาอินเดีย สะเดาไทย สะเดาช้างหรือต้นเทียม (ไม้เทียม)

ประโยชน์สะเดา :

- เนื้อสะเดามีรสหวาน
- เป็นอาหารของนก
- เป็นยาฆ่าเชื้อโรค
- น้ำมันสะเดาที่สกัดได้จากเมล็ดใน นำไปใช้ในอุตสาหกรรมผลิตสบู่ ยาสีฟัน ยารักษาเส้นผม
- เป็นยาคุมกำเนิด (โดยการฉีดน้ำมันสะเดาเข้าไปในอวัยวะเพศหญิง ฆ่าเชื้ออสุจิ)
- เป็นยารักษาโรคผิวหนัง โรคเรื้อน โรคปวดตามข้อ แผลปวดตามข้อ แผลเป็นหนอง แก้พิษแมลงกัดต่อย
- เป็นสารฆ่าแมลงบางชนิด

ภายหลังจากการสกัดน้ำมันจากเมล็ดสะเดาแล้ว กากที่เหลือสามารถนำไปสกัดด้วยแอล กอ ฮอล์หรือน้ำ เพื่อเอาสกัดสารอะซาไดแรคติน (azadirachtin) ใช้ทำเป็นสารฆ่าแมลง กากที่เหลือจากการสกัดครั้งนี้ เรียกว่า นีมเค้ก (neem cake) ยังสามารถใช้เป็นประโยชน์อย่างอื่นได้ เช่น

- ผสมกับกากน้ำตาล ใช้เป็นอาหารสัตว์
- เป็นปุ๋ยหรือผสมกับปุ๋ยยูเรีย ทำให้เป็นปุ๋ยละลายช้า
- เป็นสารฆ่าแมลง สารฆ่าโรคพืช และไส้เดือนฝอยบางชนิด

ข้อมูลจากกรมส่งเสริมการเกษตร บอกว่า สารอินทรีย์ที่สกัดได้จากเมล็ดสะเดาที่สำคัญ คือสารอะซาไดแรคติน สามารถออกฤทธิ์ในการป้องกันกำจัดได้หลายรูปแบบ คือ

- เป็นสารฆ่าแมลง
- เป็นสารไล่แมลง
- ทำให้แมลงไม่ชอบกินอาหาร
- ยับยั้งการเจริญเติบโตของแมลง
- การเจริญเติบโตผิดปกติ
- ทำให้หนอนไม่ลอกคราบหนอนตายในระยะลอกคราบ
- สารออกฤทธิ์มีผลต่อการสร้างฮอร์โมน ทำให้แมลงมีการผลิตไข่ และการฟักไข่ลดน้อยลง

สารอะซาไดแรคตินจะมีอันตรายน้อยต่อมนุษย์และสัตว์ศัตรูธรรมชาติของแมลงศัตรูพืชและสภาพแวดล้อม จากการทดลองพบสารอะซาไดแรคติน มากที่สุดในเมล็ดสะเดา โดยเฉพาะสะเดาอินเดีย พบปริมาณสูงที่สุด คือ 7.6 มก./กรัม โดยเฉลี่ย สะเดาไทยพบ 6.7 มก./กรัม โดยเฉลี่ย และสะเดาช้าง (ต้นเทียม) พบ 4.0 มก./กรัม โดยเฉลี่ย

สำหรับวิธีนำสะเดามาทำเป็นสารสำหรับกำจัดแมลงกรมส่งเสริมการเกษตรแนะไว้ดังนี้
ให้เอาเมล็ดสะเดาแห้งที่ประกอบด้วยเปลือกหุ้มเมล็ดและเนื้อเมล็ด มาบดให้ละเอียดแล้วนำผงเมล็ดสะเดามาหมักกับน้ำในอัตรา 1 กิโลกรัม/น้ำ 20 ลิตร โดยใช้ผงสะเดาใส่ไว้ในถุงผ้าขาวบางแล้วนำไปแช่ในน้ำนาน 24 ชั่วโมง ใช้มือบีบถุงตรงส่วนของผงสะเดา เพื่อสารอะซาไดแรคตินที่อยู่ในผงสะเดาสลายตัวออกมาให้มากที่สุด เมื่อจะใช้ก็ยกถุงผ้าออก พยายามบีบถุงให้น้ำในผงสะเดาออกให้หมดแล้ว นำไปฉีดป้องกันกำจัดแมลง ก่อนนำไปฉีดแมลงควรผสมสารจับใบเพื่อให้สารจับกับใบพืชได้ดีขึ้น

ควรใช้สารสกัดนี้ ฉีดพ่นในเวลาเย็นจะมีผลในการฆ่าแมลงได้ดี ใช้ฉีดพ่น 5-7 วันต่อครั้ง และควรใช้สลับกับสารฆ่าแมลงเป็นครั้งคราว แต่ถ้าเป็นช่วงที่แมลงระบาดอย่างรุนแรง ต้องใช้สารฆ่าแมลงฉีดพ่น ซึ่งจะลดความเสียหายได้รวดเร็ว

ศ.ดร.ขวัญชัย บอกไว้ว่า การเก็บและรักษาผลหรือเมล็ดสะเดาที่ถูกต้อง จะช่วยให้สารออกฤทธิ์ในสะเดามีปริมาณสูง มีผลให้สารสกัดสะเดาที่สามารถใช้ป้องกันและกำจัดแมลงศัตรูพืชได้ ผลดี การเก็บและรักษาผลหรือเมล็ดสะเดาที่ไม่ดีจะเกิดเชื้อราเข้าทำลายสารออกฤทธิ์ โดย เฉพาะสารอะซาไดแรคติน

วิธีการที่ถูกต้องเริ่มตั้งแต่การเก็บ ควรเก็บผลสะเดาที่ร่วงหล่นอยู่ใต้ต้น หรือ เก็บผลสุกสีเหลืองจากกิ่งก็ได้ อย่าปล่อยทิ้งผลสะเดาที่ร่วงบนดินนานเกินไป จากนั้นนำมาผึ่งแดดประมาณ 2-3 สัปดาห์จนเปลือกสะเดาแห้งเป็นสีนำตาลจึงนำมาผึ่งในร่มประมาณ 2-4 สัปดาห์ เพื่อให้เมล็ดในแห้งสนิท ขั้นตอนต่อไปคือเก็บบรรจุในถุงตาข่ายพลาสติกหรือกระสอบป่าน (ยกเว้น กระสอบปุ๋ย) ซึ่งสามารถวางซ้อนกันได้ โดยมีแผ่นไม้วางข้างล่างเพื่อป้องกันความชื้นจากดิน การเก็บรักษาในลักษณะเป็นผลแห้งนี้จะนำไปใช้ได้เฉพาะการผลิตใช้เอง ไม่เหมาะที่จะนำไปผลิตเป็นอุตสาหกรรม

เครดิต : http://www.phtnet.org/news52/view-news.asp?nID=229
--------------------------------------------

สารสกัดสมุนไพรสูตรเย้ยฟ้าท้าดิน
1. สะเดา :

เมล็ดในของ สะเดาไทย/สะเดาอินเดีย/สะเดาช้าง/เลี่ยน/ควินิน แก่จัด ตากแห้งหรือสด บด 1 กก. แช่น้ำ 20 ล. นาน 12-24 ชม. ได้ “หัวเชื้อเข้มข้น” พร้อมใช้งาน.....ใช้ “หัวเชื้อ 20 ซีซี./น้ำ 20 ล.” ฉีดพ่นตอนเย็น ทุก 5-7 วัน

ศัตรูพืชเป้าหมาย :

เพลี้ยอ่อนทั่วไป. เพลี้ยอ่อนฝ้าย. เพลี้ยจักจั่นสีเขียว. เพลี้ยจักจั่นสีน้ำตาล. เพลี้ยกระโดดหลังขาว. ผีเสื้อมวนหวาน. หนอนกอสีครีม. หนอนเจาะบัว. หนอนม้วนใบข้าว. หนอนชอนใบส้ม. หนอนกระทู้กัดต้น. หนอนกระทู้ควายพระอินทร์. หนอนกระทู้ดำ. หนอนกะหล่ำใหญ่. หนอนชอนใบทั่วไป. หนอนใยผัก. หนอนกอข้าว. หนอนกอลายจุด. หนอนแก้ว. ด้วงเต่าฟักทอง. ด้วงเต่าโคโลราโด. ด้วงหมัดผัก. ตั๊กแตน. เต่ามะเขือ. ไส้เดือนฝอย (รากปม). แมลงหวี่ขาว. แมลงในโรงเก็บ. ไร.

http://www.kasetloongkim.com/modules.php?name=Content&pa=showpage&pid=2444
---------------------------------------------------------


จาก : (083)290-35xx
ข้อความ : ผู้พันเคยได้ยินเรื่องส้มโชกุนไร้เมล็ดไหมครับ เอามาเล่าให้ฟังหน่อยนะครับ ผมซื้อที่สวนส้มเขียวหวานเก่า อยู่วิหารแดง 40 ไร่ เป็นสวนยกร่องน้ำหล่อ วันนี้แล้งมากไม่มีน้ำเลย คาดว่าปีหน้าคงมีน้ำ อยากปลูกส้มเขียวหวาน ส้มโชกุน ตามแนวของผู้พัน .... ขอบ คุณครับ
ตอบ :
- ส้มโอพันธุ์ขาวใหญ่ ราว 100-150 ต้น แทรกทองดี 1 ต้น ขาวน้ำผึ้ง 1 ต้น ไม่รู้ว่ามาจากไหน มาได้ไง ปลูกแล้วปลูกเลย ใช้เป็นพันธุ์เปรียบเทียบ.... ขาวใหญ่ ตัวกุ้งสีขาว ใหญ่ แห้ง .... ทองดี ตัวกุ้งสีแดง เล็ก ฉ่ำน้ำ .... ขาวน้ำผึ้ง ตัวกุ้งสีขาวใสกว่าขาวใหญ่ เล็ก ฉ่ำน้ำ .... หลายคนได้ลิ้มรสแล้วยอกรับว่า ขาวใหญ่ เหนือกว่าทองดีขาวน้ำผึ้ง

- งานส้มโอแม่กลอง หน้าศาลากลาง จ.สมุทรสงคราม ไฮซ้อจาก กทม. บอกคนขายเอาสั้มโอขาวน้ำผึ้ง บังเอิญร้านนั้นไม่มีขาวน้ำผึ้งจึงหยิบขาวใหญ่ใหญ่ แต่ไม่ได้บอกว่าเป็นขาวใหญ่ .... ไฮซ้อกลับ กทม.แล้ว วันรุ่งขึ้นไปในงานใหม่ ไปที่ร้านเดิม แล้วบอกว่าขอซื้อส้มโอขาวน้ำผึ้งอีก คราวนี้ร้านนั้นมีขาวน้ำผึ้งจริง จึงหยิขาวน้ำผึ้งส่งให้ .... ไฮซ้อกลับไป ไปแล้วคงกินส้มโอเลยแหละนะ วันรุ่งขึ้นไปที่งานอีก ไปที่ร้านเดิมอีก

ไฮซ้อต่อว่าคนขาย “ส้มโอขาวน้ำผึ้งที่ซื้อไปวันก่อน นั่นของแท้ แต่ที่ซื้อไปเมื่อวานนี้ของปลอม...”

คนขายจำหน้าไฮซ้อได้ จึงบอกความจริง “วันแรกที่เจ๊มาซื้อ ขาวน้ำผึ้งยังไม่มี เลยเอาขาวใหญ่ให้แทน ที่ให้ไปนั้นเป็นส้มโอขาวใหญ่ แต่พออีกวัน ขาวน้ำผึ้งมี เจ๊สั่งขาวน้ำผึ้ง เลยหยิบขาวน้ำผึ้งจริงให้ .... วันแรกที่ซื้อไปเป็นขาวใหญ่ วันที่สองซิ้อไปเป็นขาวน้ำผึ้ง เป็นพันธุ์แท้ทั้งคู่...”

ไฮซ้อตีหน้าปูเลี่ยนปูเลี่ยน ทำเสียงอ่อยๆ “แล้วมันต่างกันยังไงล่ะ...”

คนขายทำใจเย็น เพราะถือหลัก ลูกค้าคือพระเจ้า แล้วบอก “ขาวใหญ่ ตัวกุ้งใหญ่ ไม่ฉ่ำน้ำ ขาวน้ำผึ้งตัวกุ้งเล็กกว่า ฉ่ำน้ำกว่า ....ขาวใหญ่กินอร่อยกว่าขาวน้ำผึ้ง...”

ไฮซ้อทำท่ายอมรับผิด ยิ้มแล้วบอก “ถ้างั้นวันนี้เอาขาวใหญ่แท้ๆ 10 ลูก...”
คนขายยิ้มตอบ “ได้จ้ะ ซื้อไปหลายๆลูกไม่ผิดหวัง ส้มโอลืมต้นอยู่ได้เป็นเดือน ยิ่งลืมต้นนาน ยิ่งอร่อย....”

สรุป :

- ส้มโอขาวน้ำผึ้ง ทองดี ชื่อเพราะ ชื่อเป็นมงคล ไม่ต้องโฆษณาเพราะคนล่ำลือกันเอง .... ส้มโอขาวใหญ่ ชื่อไม่เพราะ อ่อน ปชส. คนเลยไม่รู้จัก .... อยากจะบอกว่า ส้มโอสายพันธุ์ตัวกุ้งแห้ง มีพันธุ์เดียว คือ “ขาวใหญ่” เท่านั้น

- ส้มโอขาวใหญ่ ขาวน้ำผึ้ง ทองดี เช้ง ที่ RKK รสจัดจ้าน เพราะ สวนยกร่องแห้ง ถึงธาตุรอง/ธาตุเสริม โดยเฉพาะ แม็กเนเซียม. สังกะสี. แคลเซียม โบรอน. น้ำตาลทางด่วน

ส้มเขียวหวาน ส้มโชกุน RKK :

- แปลงเดิมลง น้อยหน่าเพชรปากช่อง ทับทิมแดงมารวย ส่วนของผลดีลูกใหญ่ แต่ต้นโทรมลงๆ ๆๆ ลักษณะของผลดีเป็นเพราะปุ๋ยทางใบ แต่ต้นไม่ดี ใบเล็กลงๆ ๆๆ กระทั่งยืนต้นตาย เพราะระบบรากกับดิน เนื่องจากไม้ผลสองอย่างนี้ชอบดินลูกรัง ร่วน แต่ที่ RKK เป็นดินเหนียว เหนียวจัด จึงอยู่ไม่ได้ ที่สำคัญ “คนกิน” น้อยหน่าไซส์ 1 กก. คนกินซื้อ 1-2 กก. แต่ทับทิมลูกใหญ่ไซส์ 1 กก.เหมือนกัน คนซื้อแค่ลูกเดียว หรือ 2 ลูก เอาไปทำเครื่องไหว้

- ต้นทับทิมยังไม่ตายแต่โค่นทิ้ง เพราะความนิยมของคน แล้วลงส้มเขียวหวานแทน ปรากฏว่า ส้มเขียวหวานกว่า 50% O.K. อยู่กับดินปราบเซียนได้ แค่ 6 เดือนต้นสูงกว่าหัวเข่าออกดอกติดลูก เอาลูกไว้ บำรุงด้วยสูตรเดียวกับส้มโอ จนได้กินลูก หลายคนชิมแล้วยอม รับว่ารส “จัดจ้าน” ใช้ได้

- ตัดสินใจล้มหน้อยหน่า แล้วลงส้มเขียวหวานแทน ตอนนี้ได้ 1-2 เดือน เริ่มเห็นแวว O.K. สิ้นปีนี้ ต่อปีหน้า คงชัดเจนกว่านี้

- จากทับทิม น้อยหน่า ไปที่แก้วมังกร นี่ก็อีหร็อบเดียวกัน ทำงานทั้งปีได้ขายรอบเดียว แถมธรรมชาติไม่ถูกกับดินเหนียวซะอีก หลายต้นเริ่มยืนตาย ตรวจวิเคราะห์แล้วพบว่า รากเน่า สู้กับดินไม่ไหว ก็ต้องรื้อทิ้งแล้วลง “ส้มโชกุน” แทน ตอนนี้ได้ 1-2 เดือน แวว
O.K. ยังไม่ชัดเจน สิ้นปีนี้ ต่อปีหน้า คงชัดเจนกว่านี้

บำรุงส้มเขียวหวาน ส้มโชกุน :
ทางใบ :

- ให้ ไบโออิ + ฮิวมิก แอซิด ทุก 7 วัน
- ให้แคลเซียม โบรอน ทางด่วน เดือนละครั้ง
- ให้สมุนไพรบ่อยๆ
ทางราก :
- ยิบซั่ม+ตราคนกับควาย+กระดูกป่น+ขี้วัวขี้ไก่ เดินหว่าน
- ให้ระเบิดเถิดเทิง 30-10-10 +เพิ่มฮิวมิก แอซิด เดือนละครั้ง
- ให้น้ำมากหน่อย วันเว้นวัน-
------------------------------------------------

ความรู้รอบตัวเนื่องส้มโชกุน :

ประวัติส้มโชกุน :

คุณสมชาย รุจิระไพบูลย์ เจ้าของสวนส้มโชกุนจังหวัดยะลา เดิมเคยปลูกส้มเขียว หวานพันธุ์บางมด ต่อมามีเพื่อนมาจากประเทศจีนมาเยี่ยมชมสวน และได้นำส้มจากประเทศจีนมาฝาก เมื่อรับประทานแล้วรู้สึกว่ามีรสชาติอร่อย หอมหวาน จึงได้เพาะเมล็ดเอาไว้ ต่อมามีการผสมพันธุ์โดยธรรมชาติเป็นส้มพันธุ์ใหม่ ซึ่งมีคุณลักษณะที่ดี รสชาติอร่อย หอมหวาน จึงได้ขยายใหม่ ซึ่งมีคุณลักษณะที่ดี รสชาติอร่อย หอมหวาน จึงได้ขยายพันธุ์นำไปปลูกอย่างแพร่หลาย

ลักษณะประจำพันธุ์
ส้มโชกุนเป็นพืชที่มีลักษณะเหมือนกับส้มเขียวหวาน การเจริญเติบโตดี พอๆ กับส้มเขียวหวาน ลักษณะรูปร่างทรงต้นขนาดต้นก็เหมือนกับส้มเขียวหวาน ส่วนลักษณะที่แตกต่างไปจากส้มเขียวหวานมีดังนี้

ทรงต้น มีทรงพุ่มแน่นกว่าส้มเขียวหวาน
[color=red]
ส้มโชกุน
ลักษณะทางธรรมชาติ [color=red]
* กำเนิดที่ จ.ยะลา กลายพันธุ์มาจากส้มจีนเพาะเมล็ด ปลูกได้ทุกพื้นที่และทุกภูมิภาค
ของประเทศ ชอบดินดำร่วนมีอินทรีย์วัตถุมากๆ ระบายน้ำดี ไม่ทนต่อสภาพน้ำท่วมขังค้าง
นาน

* จากแหล่งกำเนิดให้ชื่อว่า โชกุน ต่อมาแพร่หลายไปต่างพื้นที่ บางสวนตั้งชื่อใหม่
ตามความพอใจเพื่อผลประโยชน์ทางการค้า

* มีระบบรากค่อนข้างอ่อนแอกว่าส้มสายพันธุ์อื่น จึงต้องพยายามรักษาระดับน้ำใต้ดิน
โคนต้นให้พอดีอยู่เสมอ โดยเฉพาะช่วงออกดอกถ้านำอินทรียวัตถุคลุมโคนต้นออกก่อนเพื่อเปิดหน้าดินให้แสงแดดช่วยให้ในดินระเหยออกไปบ้างก็จะช่วยให้ดอกสมบูรณ์ติดเป็นผลมากขึ้นได้

* ปลูกในเขตฝน (ภาคใต้) ช่วงผลแก่ใกล้เก็บเกี่ยวสีเปลือกยังคงเป็นสีเขียว ส่วนที่ปลูกในเขตหนาว (ภาคเหนือ) ช่วงผลแก่ใกล้เก็บเกี่ยวสีเปลือกจะเปลี่ยนจากเขียวเป็นเหลืองทอง แต่คุณภาพของเนื้อในไม่ต่างกันหรือขึ้นอยู่กับการบำรุงเป็นหลัก

* เริ่มให้ผลผลิตเมื่ออายุ 2-2 ปีครึ่งหลังปลูก ขึ้นอยู่กับการปฏิบัติบำรุง
* ต้นโตเป็นสาวเต็มที่ 5 ปีขึ้นไป การออกดอกแต่ละรุ่นที่เป็นส้มปีจะทยอยออกหลาย
ชุด ทำให้ได้ผลแก่เก็บเกี่ยวได้ปีละ 3 เดือน ตั้งแต่ ธ.ค.- ก.พ.

* ต้นที่ได้รับการบำรุงแบบให้มีสารอาหารกินตลอด 24 ชม.ต่อเนื่องหลายๆปี โชกุนจะออกดอกติดผลตลอดปี หรือทุกครั้งที่แตกใบอ่อนออกมา

* ระยะดอกบานให้จิ๊บเบอเรลลิน. 1-2 รอบ จะช่วยให้ติดผลดกขึ้น เนื่องจากดอกมี
ความสมบูรณ์พัฒนาเป็นผลได้มากขึ้นนั่นเอง

* ระยะผลเล็กเท่าขนาดมะนาวให้ เอ็นเอเอ. หรือ จิ๊เบอเรลลิน. อย่างใดอย่างหนึ่งหรือ
ทั้งสองอย่างเพียง 1 ครั้งจะช่วยลดอาการผลแตกผลร่วงเมื่อผลโตขึ้นได้ดี

* ให้ฮอร์โมนน้ำดำ (ไบโออิ + ฮิวมิก แอซิด)) กับ แคลเซียม โบรอน 2 เดือน/ครั้ง จะช่วยให้ต้นสมบูรณ์ ติดผลดกและคุณภาพดี

* ให้ธาตุรอง/ธาตุเสริม สม่ำเสมอหรือเดือนละ 21 ครั้ง จะช่วยบำรุงให้คุณภาพดี เปลือกบาง รกน้อย กากน้อย

* อายุต้น 2-5 ปีแรกที่เริ่มให้ผลผลิตอาจจะไม่ดีนัก แต่เมื่อต้นอายุมากขึ้น จะให้ผลผลิตดี
* ลำต้นเปล้าเดี่ยวๆหรือกิ่งง่ามแรกสูงจากพื้น 50-80 ซม.จะให้ผลผลิตดีกว่าต้นที่ลำเปล้าสั้นหรือกิ่งง่ามแรกอยู่ต่ำ แนะนำให้ตัดแต่งกิ่งจัดรูปทรงพุ่มให้มีลำเปล้าสูงๆ ตั้งแต่ต้นเริ่มให้ผลผลิตปีแรกๆ รูปทรงต้นก็อยู่อย่างนั้นตลอดไป

* ขนาดผลใหญ่ ตัวกุ้งใหญ่ใหญ่ เนื้อชุ่มน้ำและกลิ่นหอมกว่าเขียวหวาน
* ติดผลดกน้อยกว่าเขียวหวาน
* การเก็บเกี่ยวต้องใช้กรรไกคมๆตัดขั้วให้ติดใบ 1-2 ใบร่วมมาด้วย
--------------------------------------------
[color=red]
ส้มโชกุน ส้มสายน้ำผึ้ง ส้มไร้เมล็ด สายพันธุ์ A4V3-22-2[color=red]
กรมวิชาการเกษตร ปรับปรุงพันธุ์ส้มไร้เมล็ด ส้มโชกุนหรือส้มสายน้ำผึ้งไร้เมล็ด สายพันธุ์ใหม่ที่ไม่มีเมล็ด หรือมีเมล็ดน้อย ถือเป็นข่าวที่น่ายินดี ที่ได้ทราบว่า กรมวิชาการเกษตรใช้เวลาทุ่มเทกว่า 15 ปี เพื่อปรับปรุงพันธุ์ "โชกุน หรือ ส้มสายน้ำผึ้ง" ให้เป็น "ส้มไร้เมล็ด" โดยใช้เทคโนโลยีด้านการชักนำให้เกิดการกลายพันธุ์ (Mutation) ด้วยการฉายรังสีแกมมา โดยให้ชื่อสายพันธุ์เป็นโค้ดว่า A4V3-22-2 ติดตามอ่านข้อมูลด้านล่างได้เลย

[color=red]
ทำมาหากิน : ส้มโชกุนพันธุ์ใหม่ 'ไร้เมล็ด' ผลไม้เศรษฐกิจแห่งอนาคต : [color=red]
โดย...โต๊ะข่าวเกษตร

กรมวิชาการเกษตรปรับปรุงพันธุ์ส้มโชกุน "ไร้เมล็ด" พันธุ์ใหม่สำเร็จ โชว์คุณ ภาพโดนใจผู้บริโภค ช่วยเพิ่มมูลค่าสินค้า เตรียมยื่นขอคุ้มครองพันธุ์ เร่งสร้างแปลงแม่พันธุ์รองรับความต้องการเกษตรกร

นายทรงพล สมศรี ผู้เชี่ยวชาญด้านพืชสวน สำนักผู้เชี่ยวชาญ กรมวิชาการเกษตร กล่าวว่า เป็นเวลากว่า 15 ปี ที่กรมได้ปรับปรุงพันธุ์ส้มโชกุนหรือส้มสายน้ำผึ้ง เพื่อให้ได้พันธุ์ใหม่ที่ไม่มีเมล็ด หรือมีเมล็ดน้อย โดยใช้เทคโนโลยีด้านการชักนำให้เกิดการกลายพันธุ์ด้วยการฉายรังสีแกมมา ซึ่งขณะนี้ประสบความสำเร็จในการปรับปรุงพันธุ์ไร้เมล็ดแล้ว 1 พันธุ์ คือ สายพันธุ์ A4V3-22-2 อยู่ระหว่างเตรียมยื่นเสนอให้คณะกรรมการวิจัยปรับปรุงพันธุ์พืช พิจารณาประกาศเป็นพันธุ์พืชแนะนำของกรมวิชาการเกษตร พร้อมยื่นจดทะเบียนคุ้มครองพันธุ์พืชใหม่ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองพันธุ์พืชด้วย ซึ่งถือเป็นส้มไร้เมล็ดพันธุ์ใหม่ที่มีคุณภาพและมีลักษณะเด่นตรงตามความต้องการของตลาด โดยเฉพาะโมเดิร์นเทรด (Modern Trade) คาดว่าจะเป็นพันธุ์มีศักยภาพในเชิงการค้าในอนาคต

ส้มโชกุนไร้เมล็ด หรือ ส้มสายน้ำผึ้งไร้เมล็ด สายพันธุ์ A4V3-22-2 เกิดจากการนำกิ่งพันธุ์ส้มโชกุนจากศูนย์วิจัยและพัฒนาเกษตรแพร่ มาฉายรังสีแบบเฉียบพลัน ด้วยปริมาณรังสีแกมมา 4 กิโลแล็ด หรือประมาณ 40 เกรย์ จากนั้นนำไปติดตากับต้นตอส้มตั้งแต่ปี 2543 และปลูกลงแปลงทดลองที่ศูนย์วิจัยพัฒนาการเกษตรเชียงใหม่ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ แล้วใช้วิธีการตัดกิ่งแบบ Cutting back จากรุ่น M1V0 โดยตัดกิ่งตาและปล่อยให้แตกตาใหม่เป็นรุ่น M1V1 แล้วตัดแต่งกิ่งจนถึงรุ่น M1V4 เมื่อเริ่มให้ผลผลิตก็ตรวจสอบคุณภาพผลและคัดเลือกต้นที่ไม่มีเมล็ดหรือมีเมล็ดน้อย และมีการปลูกเปรียบเทียบกับพันธุ์การค้าในปี 2553-2558

"ส้มโชกุน หรือ ส้มสายน้ำผึ้ง สายพันธุ์การค้าทั่วไป ปัจจุบันส่วนใหญ่มีเมล็ดถึง 25 เมล็ดต่อผล ส่วนพันธุ์ใหม่นี้มีลักษณะเด่น คือ มี 1-2 เมล็ดต่อผล หรือบางผลไม่มีเมล็ดเลย ส่วนคุณภาพผลส้มยังดีเช่นเดียวกับส้มโชกุนที่ไม่ได้รับการฉายรังสี ทั้งยังให้ผลดก มีขนาดผลตั้งแต่ 70-130 กรัมต่อผล รสชาติหวานอมเปรี้ยว โดยมีความหวานอยู่ 11-14 องศาบริกซ์ ซึ่งคาดว่าจะถูกใจผู้บริโภคทั้งในและต่างประเทศ อนาคตน่าจะมีการผลิตส้มไร้เมล็ดป้อนตลาดเพิ่มขึ้น” นายทรงพลกล่าว

ผู้เชี่ยวชาญด้านพืชสวนกล่าวอีกว่า ปัจจุบันกรมวิชาการเกษตรมีต้นแม่พันธุ์ส้มโชกุนไร้เมล็ดจำนวน 12 ต้น เบื้องต้นสามารถขยายการผลิตตาส้มไร้เมล็ดได้กว่า 1,200 ตา ขณะเดียวกันยังมีต้นกล้าส้มพันธุ์นี้อีกกว่า 200 ต้นในโรงเรือนเพาะชำ สำหรับสร้างเป็นแปลงแม่พันธุ์ส้มไร้เมล็ด พื้นที่ ประมาณ 0.5-1 ไร่ เพื่อขยายพันธุ์เพิ่มปริมาณกิ่งตาส้มไร้เมล็ดมากขึ้น เตรียมพร้อมรองรับความต้องการของเกษตรกรผู้ปลูกส้มที่จะใช้พันธุ์ไปปลูกเพื่อผลิตส้มไร้เมล็ดป้อนตลาด คาดว่าจะเป็นพันธุ์พืชหนึ่งที่ได้รับความนิยมจากเกษตรกร ทั้งยังคาดว่าตลาดและผู้บริโภคจะให้การตอบรับดีด้วย

“ส้มโชกุนไร้เมล็ด A4V3-22-2 สามารถปลูกได้ในพื้นที่ภาคเหนือตอนบนของไทย ได้แก่ เชียงใหม่ แพร่ และจังหวัดอื่นๆ ที่มีสภาพภูมิอากาศใกล้เคียง โดยเฉพาะพื้นที่ที่น้ำไม่ท่วมขัง หรือควรยกร่องแปลงปลูกส้มเพื่อป้องกันการเกิดโรคทางดิน อีกทั้งควรระวังโรคฮวงลองบิง หรือโรคกรีนนิ่ง และ โรครากเน่าโคนเน่า ด้วย” ผู้เชี่ยวชาญกล่าว

หากเกษตรกรสนใจ...ถามข้อมูลเพิ่มเติมที่
ศูนย์วิจัยและพัฒนาการเกษตรเชียงใหม่ โทร. 0-5345-1441-2...เวลาราชการ!!

ที่มา : คมชัดลึก
http://www.dokmy.com/2015/05/new-orange-fruit-a4v3-22-2.html

------------------------------------------------------------------------



.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group
Forums ©