ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตร วิทยุ 3 MAR *สมุนไพร15, นาข้าว คิดใหม่-ทำใหม่

kimzagass

.

ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตรทางรายการวิทยุ 3 MAR

AM 594 เวลา 06.30-07.00 (ทุกวัน) และ 08.10-09.00 (จันทร์-ศุกร์)

********************************************************************

สวัสดีครับ ท่านผู้ฟังที่เคารพ
กองทัพบกเพื่อประชาชน เสนอรายการสีสันชีวิตไทย วิทยุเพื่อการเกษตร และอาชีพเสริม
ผลิตรายการโดยกองกิจการพลเรือน หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบก

@@ สนับสนุนรายการโดย ...

* บ.นิมุติ เอ็นจิเนียริ่ง เครื่องย่อยเศษพืช (02) 322-9175-6

http://kasate.site88.net/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=1
* ยิบซั่มธรรมชาติ เฟอร์มิกซ์, ธันเดอร์พลัส, ธาตุรอง/ธาตุเสริม มัลติแชมป์ (089) 144-1112

http://www.mysuccessagro.com
* บ.มายซัคเซส อะโกร---ปุ๋ยอินทรีย์ ตราคนกับควาย, กาวเหนียวดักแมลง มายฟิกส์, กลิ่นล่อแมลงวันทอง ฟลายแอต,
สารเสริมฤทธิ์สารสมุนไพร ไบโอเจ๊ต, ถังฉีดพ่นรุ่นใหม่ ใช้แบตเตอรี่ (081) 910-5034

กระผม พันโทวีระ ใจหนักแน่น (คิม ซา กัสส์) เป็นผู้ดำเนินรายการครับ
เช่นเคยครับ รายการเรา 1188 ฝากข้อความ-ฝากคำถาม ที่ (081) 913-4986

----------------------------------------------------------------------------------------------

ตัวแทนจำหน่าย ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง, ไบโออิ, ไทเป, ยูเรก้า. (อินทรีย์ – เคมี)

1) ชมรม (ใหญ่) สีสันชีวิตไทย (089) 814-3204 ใกล้ไฟแดง สี่แยกบางแพ ราชบุรี
2) “คุณชาตรี” (081) 841-9874 ทรัพย์ทวีการเกษตร ชัฎป่าหวาย สวนผึ้ง ราชบุรี (ส่งทาง ปณ.)

3) ร.ต.ต.นันท์สุรัตน์ (089) 821-8273 ต.จรเข้เผือก ด่านมะขามเตี้ย กาญจนบุรี (ส่งทาง ปณ.)
4) “คุณล่า” (081) 944-8494 ทุกวันจันทร์ ตลาดนัดวัดอมรญาติ ดำเนินสดวก ราชบุรี

5) “คุณประเสริฐ” (080) 110-4645 บ.เขาดิน หนองแขม เดิมบางนางบวช สุพรรณบุรี
6) “คุณพรพรรณ” (089) 814-7944 พลชัยเกษตรชีวภาพ ตลาดนัดธนบุรี ถ.เลียบคลองทวีวัฒนา
7) “คุณน้ำส้ม” (085) 055-7706 ชมรมฯ สาขาศาลายา หน้า ม.มหิดล พุทธมณฑลสาย 4 (ส่งทาง ปณ.)

----------------------------------------------------------------------------------------

@@ สารอาหาร (ปุ๋ย) เพื่อการสื่อสาร :

** ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง : ส่วนผสมหลัก .... อินทรีย์/เคมี (กุ้งหอยปูปลาทะเล, เลือด,
ไขกระดูก, นม, ขี้ค้างคาว, น้ำมะพร้าว, ธาตุหลักตามพืช, แม็กเนเซียม. สังกะสี. รอง/เสริม

** ไบโออิ : ส่วนผสมหลัก .... เคมี (แม็กเนเซียม. สังกะสี. รอง/เสริม)
** ยูเรก้า : ส่วนผสมหลัก .... เคมี (21-7-14, ไคโตซาน, อะมิโนโปรตีน)
** ไทเป : ส่วนผสมหลัก ..... อินทรีย์/เคมี (นม, ไข่, น้ำมะพร้าว, 13-0-46. 0-52-34)

มิได้มีเจตนาโฆษณาผลิตภัณฑ์ แต่ใช้ชื่อผลิตภัณฑ์เพื่อง่ายต่อการสื่อสารข้อมูล เท่านั้น
.... ต้นพืชไม่รู้จักยี่ห้อ ไม่รู้จักเจ้าของสูตร .....
...... ไม่รู้เจ้าของคนปลูก ไม่ฟังโฆษณา .......
...... ต้นพืชรู้จักแต่ส่วนผสมหรือเนื้อใน .......

-----------------------------------------------------------

** สารสมุนไพร สูตร เย้ยฟ้าท้าดิน :
สมุนไพร (15) :
หลักการและเหตุผล สารสมุนไพรต่อศัตรูพืช :
“กลิ่น” ในสารสมุนไพรไม่ใช่กลิ่นพืชเป้าหมาย (เหม็น/หอม) ที่แมลงจะเข้าหา จึงไม่เข้าหาแล้วไปหาพืชต้นอื่นแทน (ประสาทสัมผัสกลิ่นของแมลงสูงกว่าคน 200,000 เท่า/สารคดดิสคัพเวอรี่) ปริมาณกลิ่นเพียงเล็กน้อย แมลงก็รู้สึกแล้วจะไม่เข้าหา หรือหนีไปหาพืชต้นอื่น

“รส” [color=red] ในสารสมุนไพร (เผ็ด/ร้อน/ฝาด/ขม) ไม่ใช่รสของพืชเป้าหมายที่แมลงจะเข้าหาเพื่อกัดกิน หรือให้เป็นอาหารของหนอน (ทายาท) จึงไม่เข้าหาแล้วไปหาพืชต้นอื่นแทน ปริมาณรสเพียงเล็กน้อย แมลงก็รู้สึกแล้วไม่เข้าหา หรือหนีไปหาพืชต้นอื่น

“ฤทธิ์” [color=red] ในสารสมุนไพร (เบื่อ/เมา) บนพืชเป้าหมาย เมื่อ แมลง/หนอน กินเข้าไปทำให้ตาย หรือหนอนไม่กินอาหารต่อ หรือหนอนไม่เข้าดักแด้ แล้วตายไปเอง ความแรงของฤทธิ์เพียงเล็กน้อย แมลงก็ตายแล้ว ในสารออกฤทธิ์เบื่อเมายังมีกลิ่น เมื่อแมลงได้กลิ่นก็จะบินหนีไปไม่เข้าหาพืชนั้น

“เทคนิคการใช้” [color=red]
- ทำให้ได้สารออกฤทธิ์ หรือตัวยา แรงๆ
- ใช้ล่วงหน้า กันก่อนแก้
- ใช้สมุนไพรหลายอย่าง ดีกว่าน้อยอย่าง
- ใช้บ่อย วันละ 2 รอบ (เช้า/ค่ำ หรือวันละรอบ 2-3 วันติดต่อกัน)
- บำรุงต้นพืชให้สมบูรณ์แข็งแรง เพื่อเป็นภูมิต้านทาน (ปัจจัยพื้นฐานฯ + สมการ ปุ๋ย/ยา สมุนไพร + สมการอื่นๆ ที่จำเป็น)
- ใช้ระบบ ไอพีเอ็ม ร่วมด้วยเสมอ
-------------------------------------------------------------

"ยุทธศาสตร์ข้าว" ฉบับหอการค้า ยกระดับ "ชาวนาไทย" ขึ้นชั้นเกษตรยุคใหม่
จากข้อมูลของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พบว่า จำนวนเกษตรกรที่เพาะปลูกข้าวในประ เทศไทยปัจจุบันนี้มีมากถึง 37 ล้านครัวเรือน ขณะที่พืชเศรษฐกิจอื่นๆ มีอัตราการเพาะปลูกที่น้อยมาก อาทิ

พืชเศรษฐกิจ กับผลตอบแทนที่ได้รับ :
ยางพารามีเพียง 1.6 ล้านครัวเรือน ..... มีรายได้สุทธิ 5,128 บาท /ไร่/ปี
มันสำปะหลัง 5 แสนครัวเรือน .......... มีรายได้สุทธิ 1,045 บาท /ไร่/ปี
ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 4 แสนครัวเรือน ...... มีรายได้สุทธิ 1,961 บาท /ไร่/ปี
อ้อยโรงงาน 3 แสนครัวเรือน ............ มีรายได้สุทธิ 5,708 บาท /ไร่/ปี
ปาล์มน้ำมัน 1 แสนครัวเรือน ............ มีรายได้สุทธิ 5,768 บาท /ไร่/ปี
ปลูกข้าว 37 ล้านครัวเรือน ............. มีรายได้สุทธิ 271 บาท /ไร่/ปี

ชาวนาใน 56 จังหวัดที่ปลูกข้าว หรือ 75% ของพื้นที่ปลูกข้าว มีรายได้ต่อปีต่ำกว่าเส้นความยากจนของประเทศ คือ 29,064 บาท/ปี ..... ชาวนาใน 21 จังหวัด หรือประมาณ 25% ที่มีราย ได้ต่อปีมากกว่าเส้นความยากจน

"ชาวนาต้องช่วยเหลือตัวเองด้วย ไม่ใช่รอความช่วยเหลือจากรัฐบาลอย่างเดียว แต่ต้องปรับ เปลี่ยนตัวเองให้ดีขึ้น โดยเดินตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง"

http://www.thaichamber.org/scripts/detail.asp?nNEWSID=12216
---------------------------------------------------------------------

จาก KIMZAGASS @HOTMAIL.COM
ถึงคุณตาผู้พันที่เคารพ ก่อนอื่นขอแนะนำตัวเองและครอบครัว หลานชื่อออย อายุ 18 ปี เรียน ปวช.ปี 2 พี่ชายชื่อแมน อายุ 20 เรียน ปวส.ปี 1 พ่อชื่อวิฑูรย์ อายุ 68 แม่ชื่อวิไลพร อายุ 60 เป็นคนนครสวรรค์มาแต่กำเนิด อาชีพทำนาเช่า 100 ไร่ มีหนี้ ธ.ก.ส., หนี้สหกรณ์ 8 แสน อายุหนี้ 10 ปี จ่ายได้แต่ดอก หนี้เถ้าแก่เส็ง 1 แสน ต้องจ่าย ต้น+ดอก ปีต่อปี ทุกปี

นา 100 ไร่ นาปีได้ข้าว 90 เกวียน นาปรังได้ข้าว 80 เกวียน ขายได้เกวียนละ 8,000 แต่ลงทุนไร่ละ 7,000 ต้นทุนสูงเพราะ ค่าเช่า + ค่าซื้อทุกอย่าง + ค่าจ้างทุกอย่าง เนื่องจากพ่อกับแม่แก่แล้ว มีโรคประจำตัวด้วย คาดว่าเป็นโรคสะสมสารเคมีในร่างกายระยะเวลานานๆ ลูกสองคนก็ช่วยอะไรไม่ได้เพราะต้องไปโรงเรียน

นาที่บ้านออยเช่า อยู่ติดแม่น้ำเจ้าพระยา หน้าแล้งปีนี้ก็ยังพอมีน้ำที่ก้นแม่น้ำ เราจะใช้เครื่องสูบขึ้นมาใส่นาเพียงผิวดิน ให้ต้นข้าวแบบเปียกสลับแห้ง

ที่บ้านฟังรายการวิทยุคุณตาทุกวันมานานกว่า 10 ปีแล้ว วันนี้ตามไปดูในเว้บอีก แล้วปริ๊นท์เรื่องเกี่ยวกับนาข้าวมาใส่แฟ้มไว้ จากคำพูดของคุณตาผู้พันว่า คิด/วิเคราะห์/เปรียบเทียบ กับคำพูดของอาจารย์เศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยจุฬาลงกรณ์ ใน ทีวี. ว่า ทำนาข้าวได้กำไรสูงสุดเพราะต้น ทุนที่ต่ำสุด เมื่อเทียบกับอาชีพเกษตรอย่างอื่น

คุณตาผู้พันจ๋า (เรียกตาเลียนแบบน้ำเพชร) ออยปรึกษากับพี่บอยเกี่ยวกับปัญหาอาชีพทำนาของที่บ้านที่พ่อกับแม่ทำ ทุกเรื่อง ทุกปัญหา

ต้นทุนซื้อทุกอย่าง ค่าข้าวปลูก ค่าปุ๋ย ค่ายาฆ่าแมลงกำจัดศัตรูพืช ค่ายาฆ่าหญ้า
ต้นทุนจ้างทุกอย่าง ค่าไถ ค่าทำเทือก ค่าหว่านข้าว ค่าหว่านปุ๋ย ค่าฉีดสารเคมี ค่าสูบน้ำ ค่าเกี่ยว

นา 100 ไร่ ได้ข้าว 80 เกวียน ข้าวราคาดีขายได้เกวียนละ 8,000 บาท แต่ลงทุนไร่ละ 7,000 บาท เท่ากับได้กำไรไร่ละ 1,000 บาท

ข้าว 80 เกวียน ข้าวราคาดี ได้ 80,000
ข้าวราคาไม่ดี ได้ไม่ถึง 80,000 หรือขาดทุน

วิธีแก้ปัญหา
ลดพื้นที่ 100 ไร่ ลงเหลือ 10 ไร่ ....
เลิกจ้างแรงงาน แต่ทำเอง 2 คน ....
เลิกปลูกข้าวพันธุ์โรงสี แล้วปลูกข้าวหอมมะลิ ขอพันธุ์จากคุณตา ....
เลิกใช้ปุ๋ยจากร้าน แต่ใช้ปุ๋ยคุณตา ....
เลิกใช้สารเคมี แต่ใช้สารสมุนไพร ทำเองทุกสูตร ....

ออยกับพี่บอย ปรึกษากันแล้วเขียนรายละเอียด บัญชีงาน การปฏิบัติ สิ่งที่ได้ สำหรับนา 10 ไร่ ดังนี้ค่ะ ....

ทำเทือกแบบประณีต (การปฏิบัติ ผลที่ได้) :
- ย่ำ 4 รอบ ใน 1 เดือน ตามสูตรคุณตา
- ใส่น้ำหมักระเบิดเถิดเทิง 30-10-10 (2 ล.) + 16-8-8 (10 กก.)

- สิ่งที่ได้ ประหยัดค่าปุ๋ย ได้ปุ๋ยครบ 14 ตัว ได้จุลินทรีย์ ประหยัดค่าไถ ค่ากำจัดวัชพืช ขี้เทือกดี เนื้อปุ๋ยกระจายทั่วแปลงทุกตารางนิ้ว แรงงานทำเอง 2 คน ทำงานเสาร์/อาทิตย์ คนละ 2 ไร่ครึ่งต่อวัน

ทำนาแบบ กล้าต้นเดียว (การปฏิบัติ ผลที่ได้) :
- ประหยัดเมล็ดพันธุ์ ต้นข้าวขึ้นห่างแตกกอดี ข้าวแตกกอลำใหญ่ ต้นข้าวลำใหญ่รวงดี
- ต้นข้าวขึ้นห่างโรคแมลงน้อย ให้ปุ๋ยทางใบทั่วถึงดี
- ดำกล้าห่าง 50 x 50 ซม. ทำงานเสาร์/อาทิตย์ 2 วัน แรงงาน 4 คน พ่อแม่ช่วยด้วย

การบำรุงตามระยะต้นข้าว :
ระยะกล้า : ---
ระยะตั้งท้อง : ---
ระยะออกรวง : ---
ระยะน้ำนม : ---
ระยะพลับพลึง : ---
----------------------------------------------------

** เปรียบเทียบ ต้นทุนกับผลตอบแทน ที่ทำ และวิธีแก้ไข :
รวมรายการค่าใช้จ่ายที่ เคยทำในอดีต กำลังทำในปัจจุบัน และจะทำในอนาคต ได้แก่ : ค่าไถ, ค่าทำเทือก, ค่าพันธ์ข้าวปลูก, ค่ายาฆ่าหญ้า, ค่าหว่านปุ๋ย, ค่าหว่านข้าว, ค่าฉีดพ่นยาฆ่าแมลง, ค่าปุ๋ยเคมี, ค่าน้ำมันทุกรายการ, ค่ารถเกี่ยว, ค่าเช่าที่นา,

“ค่าปุ๋ย,” .... เนื้อที่ 1 ไร่ ใช้ “น้ำ + ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง 2 ล. + 16-8-8 (10 กก.)” ละลายให้เข้ากิน เดินสาดทั่วแปลง แล้วลงมือย่ำเทือกประณีต ลูกทุบหรืออีขลุบจะกวาดน้ำละลายปุ๋ยให้กระจายทั่วแปลงทุกตารางนิ้ว แล้วรอต้นข้าวอยู่ในดินนั้น เมื่อต้นข้าวเกิดแล้วก็จะได้รับปุ๋ยเท่ากันทุกต้น

ความจริงที่ชาวนาไม่ยอมรับ :
1. ชาวนาวันนี้ ใส่ปุ๋ย 46-0-0 (1 กส.) + 16-20-0 (1 กส.) รวม 2 กส. หรือ 100 กก. /ไร่ /รุ่น แต่มีธาตุอาหารเพียง 2 ตัว N. กับ P. เท่านั้น ในขณะที่ต้นข้าวต้องการปุ๋ยทั้ง 14 ตัว เหมือนพืชทั่วๆไป
คิด/วิเคราะห์/เปรียบเทียบ : ข้าวต้องการ N-P-K เพียง 10 กก./ไร่/รุ่น (ข้อมูล : IRRI), Mg ช่วยให้ต้นข้าวใบเขียวจนถึงวันเกี่ยว, Zn ช่วยสร้างแป้ง ทำให้ข้าวไม่เป็นข้าวลีบ ข้าวไม่ท้องไข่ ข้าวไม่มีน้ำหนัก เมล็ดไม่แกร่งใส

2. การหว่านปุ๋ยด้วยมือ ไม่สามารถทำให้เม็ดปุ๋ยลงไปที่โคนกอต้นข้าว กอละ 1-2-3 เม็ด เท่ากันทุกกอได้ นั่นคือ กอไหนได้รับปุ๋ย = เขียว, กอไหนไม่ได้รับปุ๋ย = ไม่เขียว ชาวนาคิดว่า ปุ๋ยน้อย ว่าแล้วหว่านปุ๋ย 46-0-0 ซ้ำครั้งที่ 2 นั่นคือ ข้าวไร่นั้นได้ปุ๋ย 3 กส. หรือ 150 กก.
คิด/วิเคราะห์/เปรียบเทียบ : สิ้นเปลืองปุ๋ยโดยไม่จำเป็น, ประสิทธิภาพของปุ๋ยไม่ตรงกับต้นข้าว, ปุ๋ยเคมีที่เหลือตกค้างส่งผลเสียต่อโครงสร้างดิน และจุลินทรีย์

3. 46-0-0 ทำให้ต้นข้าวเขียวอวบ เขียวตองอ่อน นอกจากโรคแมลงชอบแล้ว ยังทำให้ต้นสูง ต้นล้มอีกต่างหาก
คิด/วิเคราะห์/เปรียบเทียบ : Mg ทำให้ต้นเขียวเข้ม แกร่งแข็ง โรคแมลงไม่ชอบ ต้นไม่สูงไม่ล้ม

2. “ค่าไถ, ค่าทำเทือก, ค่ายาคุมยาฆ่าหญ้า” .... ไม่ต้องไถแต่ใช้วิธีย่ำเทือกประณีต ใช้ลูกทุบหรืออีขลุบใบเหล็ก ย่ำ 4 รอบต่อกระทง ห่างกันรอบละ 7-10 วัน .... ย่ำเทือกประณีต 4 รอบ รุ่นแรกออกจะหนักหน่อย แต่รุ่นต่อๆ ไปจะเบาลง อาจจะย่ำแค่ 2 รอบก็ได้ แต่ที่แน่ๆ ไม่ต้องไถ นี่ก็เท่ากับประหยัดต้นทุนได้ส่วนหนึ่งแล้ว ไม่ใช่ประหยัดแต่ต้นทุนอย่างเดียว คุณภาพของเนื้อดิน ของจุลินทรีย์ ก็จะดีขึ้น ดีขึ้นๆ เรื่อยๆ อีกด้วย....
คิด/วิเคราะห์/เปรียบเทียบ : แยกต้นทุนแต่ละรายการ, รวบยอด 3 รายการเหลือทำเทือกประณีตรายการเดียว, ยากรุ่นแรกเพราะต้องย่ำ 4 รอบ แต่จะง่ายรุ่น 2-3-4 เพราะย่ำแค่ 2 รอบ

3. “ค่าพันธ์ข้าวปลูก” .... นาดำด้วยเครื่องใช้เมล็ดพันธุ์ 7 กก./ไร่, นาหยอด ใช้เมล็ดพันธุ์ 3.5 กก./ไร่, นาหว่าน (มือ/เครื่องพ่น) ใช้เม็ดพันธุ์ 20 กก./ไร่
คิด/วิเคราะห์/เปรียบเทียบ : พันธุ์ข้าวที่ราคาต่างกัน, ต้นทุนค่าเม็ดพันธุ์, คุณภาพที่เกิดจากต้นข้าวนาดำกับนาหว่าน

4. “ค่าหว่านข้าว” .... ทำนาดำด้วยเครื่อง หรือทำนาหยอด ทำเองหรือจ้าง ประสิทธิภาพเหนือกว่านาหว่าน (มือ/เครื่องพ่น)
คิด/วิเคราะห์/เปรียบเทียบ : นาดำกล้าต้นเดียว 1ไร่ 3ไร่ แรงงานแค่คนเดียวทำเสร็จได้ในวันเดียว, 5ไร่ 10ไร่ แรงงานแค่ 2 คนทำเสร็จได้ในวันเดียว หรือ 10 ไร่ แรงงานแค่คนเดียวทำเสร็จได้ใน 1-2 วัน

5. “ค่าน้ำมันสูบน้ำ" ...นาเปียกสลับแห้ง ใช้น้ำ 1.800 ล./ไร่ ต้นข้าวแตกกอดี ต้นเตี้ยไม่ล้ม ต้นสมบูรณ์ โรคแมลงน้อย สิ้นเปลืองน้ำมันน้อย, นาน้ำขังแช่ ใช้น้ำ 3,500 ล./ไร่ ต้นข้าวแตกกอน้อย ต้นสูงแล้วล้ม ต้นไม่สมบูรณ์ โรคแมลงมาก สิ้นเปลืองน้ำมันมาก
คิด/วิเคราะห์/เปรียบเทียบ : นาเปียกสลับแห้ง สูบน้ำเข้าแปลงแค่ 2 ครั้ง ครั้งละไม่มากเท่ากับนาข้าวน้ำแช่ท่วมขัง ทำให้ประหยัดกว่าอย่างเห็นได้ชัด

6. “ค่ารถเกี่ยว,” .... ข้าวต้นเตี้ย ราคาค่าเกี่ยวถูกกว่าข้าวต้นสูง (คนขับรถเกี่ยว)

7. “ค่าเช่าที่นา” ....ไม่มีสิทธิต่อรอง ต้องสร้างมูลค่าเพิ่มในข้าว เช่น ขายข้าวปลูก ขายข้าวกล้อง
คิด/วิเคราะห์/เปรียบเทียบ : เช่าที่มาตั้งแต่เกิด เช่าที่ตัวเอง มันเกิดขึ้นได้อย่างไร .... บางคนเช่าที่ทำ 2-3 ปี ปลูกแล้วขายได้เงินมาซื้อที่แปลงนั้นเป็นของตัวเองได้ .... มันเกิดขึ้นได้อย่างไร ?

สรุป :
- ความสำเร็จ-ความล้มเหลว ทั้งปวงทั้งสิ้นเกิดขึ้นเพราะ ตัวเอง หรือ ผู้ใด เป็นคนกระทำ
- ไม่มี “ความรู้” เพราะไม่ได้เรียนมา แต่ “รู้” เพราะ คิด/วิเคราะห์/เปรียบ เป็น ใช่หรือไม่ ?

------------------------------------------------------------------------

.