-
++kasetloongkim.com++
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ
MySite.com :: ดูกระทู้ - ถาม-ตอบ ปัญหาทางวิทยุ 15 DEC *ดอกมะม่วง, นาข้าว, ผัก
 คำถามถามบ่อยของกระดานข่าวคำถามถามบ่อยของกระดานข่าว   ค้นหาค้นหา   กลุ่มผู้ใช้งานกลุ่มผู้ใช้งาน   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว   เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณเข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ   เข้าระบบเข้าระบบ 

ถาม-ตอบ ปัญหาทางวิทยุ 15 DEC *ดอกมะม่วง, นาข้าว, ผัก

 
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11558

ตอบตอบ: 17/12/2014 12:07 pm    ชื่อกระทู้: ถาม-ตอบ ปัญหาทางวิทยุ 15 DEC *ดอกมะม่วง, นาข้าว, ผัก ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร รายการวิทยุ 15 DEC

AM 594 เวลา 08.10-09.00 & 20.05-20.30 ทุกวัน และ FM 91.0 (07.00-08.00 / วันอาทิตย์)

********************************************************************

สวัสดีครับ ท่านผู้ฟังที่เคารพ
กองทัพบกเพื่อประชาชน เสนอรายการสีสันชีวิตไทย วิทยุเพื่อการเกษตร และอาชีพเสริม
ผลิตรายการโดยกองกิจการพลเรือน หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบก

@@ สนับสนุนรายการโดย ...
... บ.นิมุติ เอ็นจิเนียริ่ง เครื่องย่อยเศษพืช (02) 322-9175-6
... ยิบซั่มธรรมชาติ เฟอร์มิกซ์, ธันเดอร์พลัส, ธันเดอร์แคล, เอ็ม.แคล--- ธาตุรอง/ธาตุเสริม มัลติแชมป์ (089) 144-1112
... และ บ.มายซัคเซส อะโกร--- ปุ๋ยอินทรีย์ ตราคนกับควาย, กาวเหนียวดักแมลง มายฟิกส์, กลิ่นล่อแมลงวันทอง ฟลายแอต, สารเสริมฤทธิ์สารสมุนไพร ไบโอเจ๊ต, ถังฉีดพ่นรุ่นใหม่ ใช้แบตเตอรี่ (081) 910-5034

กระผม พันโทวีระ ใจหนักแน่น (คิม ซา กัสส์) เป็นผู้ดำเนินรายการครับ
เช่นเคยครับ รายการเรา 1188 ฝากข้อความ-ฝากคำถาม ที่ (081) 913-4986

----------------------------------------------------------------------------------------------

ตัวแทนจำหน่าย ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง, ไบโออิ, ไทเป, ยูเรก้า. (อินทรีย์ – เคมี)

1) ชมรม (ใหญ่) สีสันชีวิตไทย (089) 814-3204 ใกล้ไฟแดง สี่แยกบางแพ ราชบุรี
2) “คุณชาตรี” (081) 841-9874 ทรัพย์ทวีการเกษตร ชัฎป่าหวาย สวนผึ้ง ราชบุรี (ส่งทาง ปณ.)

3) ร.ต.ต.นันท์สุรัตน์ (089) 821-8273 ต.จรเข้เผือก ด่านมะขามเตี้ย กาญจนบุรี (ส่งทาง ปณ.)
4) “คุณล่า” (081) 944-8494 ทุกวันจันทร์ ตลาดนัดวัดอมรญาติ ดำเนินสดวก ราชบุรี

5) “คุณประเสริฐ” (080) 110-4645 บ.เขาดิน หนองแขม เดิมบางนางบวช สุพรรณบุรี
6) “คุณอรุณ” (085) 058-1737 ในร้านโครงการหลวง ตลาด อตก.

7) “คุณพรพรรณ” (089) 814-7944 พลชัยเกษตรชีวภาพ ตลาดนัดธนบุรี ถ.เลียบคลองทวีวัฒนา
8 ) “คุณน้ำส้ม” (085) 055-7706 ชมรมฯ สาขาศาลายา หน้า ม.มหิดล พุทธมณฑลสาย 4 (ส่งทาง ปณ.)

---------------------------------------------------------------------------------------------------------

@@ สารอาหาร (ปุ๋ย) เพื่อการสื่อสาร :

** ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง : ส่วนผสมหลัก .... อินทรีย์/เคมี (กุ้งหอยปูปลาทะเล, เลือด,
ไขกระดูก, นม, ขี้ค้างคาว, น้ำมะพร้าว, ธาตุหลักตามพืช, แม็กเนเซียม. สังกะสี. รอง/เสริม

** ไบโออิ : ส่วนผสมหลัก .... เคมี (แม็กเนเซียม. สังกะสี. รอง/เสริม)
** ยูเรก้า : ส่วนผสมหลัก .... เคมี (21-7-14, ไคโตซาน, อะมิโนโปรตีน)
** ไทเป : ส่วนผสมหลัก ..... อินทรีย์/เคมี (นม, ไข่, น้ำมะพร้าว, 13-0-46. 0-52-34)


มิได้มีเจตนาโฆษณาผลิตภัณฑ์ แต่ใช้ชื่อผลิตภัณฑ์เพื่อง่ายต่อการสื่อสารข้อมูล เท่านั้น
.... ต้นพืชไม่รู้จักยี่ห้อ ไม่รู้จักเจ้าของสูตร .....
.... ไม่รู้เจ้าของคนปลูก ไม่ฟังโฆษณา .........
.... ต้นพืชรู้จักแต่ส่วนผสมหรือเนื้อใน .........

-----------------------------------------------------------



จาก : (098) 194-34 xx
ข้อความ : ผู้พันครับ มะม่วงออกช่อทั้งสวน มีแมลงมาเกาะที่ช่อดอก ใช่เพลี้ยจั๊กจั่นหรือไม่ ผู้พันบอกว่า ถ้าฉีดสารเคมีกำจัดเพลี้ยจั๊กจั่น จะทำให้ผึ้งไม่เข้าผสมเกสร เพลี้ยจักจั่นตายก็ไม่ได้อะไร เพราะดอกมะม่วงไม่ติดลูก แล้วผมจะทำอย่างไรดีครับ ....
ตอบ :
- ช่วงมะม่วงออกดอก ศัตรูพืชที่เป็นคู่กัดก็คือ เพลี้ยจั๊กจั่นมะม่วง หนอนเจาะยอด ราดำ ถ้ารักษาดอกไม่ได้ นั่นหมายความว่า รุ่นนั้นปีนั้น สูญ เสียไปแล้ว ทำงานมาทั้งปี ลงทุนไปไม่ใช่น้อย สุดท้ายมาแพ้ศัตรูพืช ....ไม่ใช่น้อยและบ่อยครั้งที่ ฟ้าลั่น เขียวเสวย น้ำดอกไม้ อกร่อง พิมเสน กับ อีกสาร พัดสายพันธุ์ กลายเป็นมะม่วง “ทองดำ” ดำจับทั้งต้น ดอกใบก้านดำปิ๊ดปี๋ ฉะนี้ ไม่เรียกว่าทองดำจะเรียกว่าอะไร .... นี่คือช่วงวิกฤต ดอกออกมาแล้วรักษาไม่ได้ เท่ากับไม่ออกดอก

- ใช้สมุนไพร หนอนตายหยาก. หางไหล. น้อยหน่า. ซาก. กลอย. สะเดา. ฟ้าทะลายโจร. บอระเพ็ด. สบู่ต้น. (กำจัดเพลี้ยจักจั่น-หนอนเจาะยอดโดยตรง) ร่วมกับ ยาฉุน. พริก. เปลือกมังคุด. (กำจัดเชื้อราที่เข้ามากินมูลหวานเพลี้ยจั๊กจั่น) ..... นอกจากสมุนไพรเดี่ยวๆ อาจจะพิจารณา +สารเคมี เข้าไปด้วยก็ได้ ปรับวิธีการใช้ ใช้สมุนไพรแท้ๆ 2 รอบ สลับด้วย สมุนไพร + สารเคมี 1 รอบ ห่างกันรอบละ 2-3 วัน ทำซ้ำแบบนี้ซัก 2-3 รอบ แล้วจะพบว่า ไม่ต้องสลับสารเคมีก็ได้

ในความเป็นจริงทางธรรมชาติ ตัวยา หรือสารออกฤทธิ์ หรือสารสำคัญในสมุนไพรก็ทำให้สิ่งมีชีวิตอย่างศัตรูพืชตายได้ เพียงแต่ไม่ได้ทำให้ตายปุบตายปับรวดเร็วเหมือนสารเคมี ศัตรูพืชที่ได้รับสารออกฤทธิ์จากสมุนไพรไปแล้วจะหยุดกินอาหาร ซึ่งก็คือทำลายพืชนั่นเอง เมื่อหยุดกินอาหาร ไม่เกิน 2-3 วันก็ตาย

สารออกฤทธิ์ในสมุนไพรไม่แรงเท่าสารเคมี วิธีแก้ก็คือ ฉีดพ่นบ่อยๆ ชนิดวันต่อวัน หรือวันเว้นวัน โดยเฉพาะช่วงวิกฤติต้องฉีดแบบกันก่อนแก้ จะฉีดพ่นบ่อยๆได้ก็ต้องมีเครื่องทุ่นแรง เท่าที่เห็น ณ วันนี้ก็ต้องสปริงเกอร์ หม้อปุ๋ย หน้าโซนนี่แหละ

- การฉีดพ่น ไม่ควรฉีดตอนที่ดอกต้องผสมเกสร (9 โมงเช้า ถึง เที่ยง) แต่ให้ฉีดพ่นตอนบ่ายแก่ๆ หรือตอนเย็นต่อค่ำ จะได้ผลดีที่สุด .... การใช้สารเคมีทำให้แมลงช่วยผสมเกสรไม่เข้ามา นั่นหมายความว่า กำจัดศัตรูพืชได้แต่ไม่มีแมลงมาช่วยผสมเกสร ก็เท่ากับไม่ได้อะไรเหมือนกัน เรียก ว่า “เผาบ้านฆ่าหนู” แต่สารสมุนไพรไม่เป็นปัญหากับแมลงช่วยผสมเกสร

- โบราณสอนไว้ว่ามะม่วงออกดอกแล้วมีฝนจะติดผลดก เป็น “ฝนชะช่อ” เหตุผลก็คือ น้ำฝนช่วยชะล้างทำความสะอาดช่อมะม่วง ล้างมูลหวานเพลี้ยจักจั่นจนไม่เหลือให้ราดำเข้ามาอาศัยกิน เมื่อเทวดาไม่ทำฝนตกให้ มนุษย์ก็น่าจะทำเอง ฉีดน้ำแทนน้ำฝนไง.... จากน้ำเปล่าๆ ได้แค่ล้างมูลหวาน แต่ ตัวเพลี้ยจักจั่น หนอนเจาะดอก ยังอยู่ ก็ให้ +สมุนไพร กำจัดเพลี้ยจั๊กจั่น กำจัดหนอน ไปพร้อมเลย เรียกว่า “ม้วนเดียวจบ”


@@ ประสบการณ์ตรง เพลี้ยจั๊กจั่นไร่กล้อมแกล้ม :
หลักการและเหตุผล :
- เพลี้ยจักจั่น แมลงปากกัดปากดูด ตามสมทบด้วยหนอนเจาะดอก เข้าทำลายโดยดูดกินน้ำเลี้ยงที่ก้านดอก ช่วงมะม่วงออกดอก ช่วงอื่นไม่ค่อยมี

– เพลี้ยจักจั่นถ่ายมูล เรียกว่า “มูลหวาน” ที่ทุกส่วนของพืช แล้วราดำซึ่งล่องลอยอยู่ในอากาศอยู่แล้วเข้ากินมูลหวาน ทำให้ใบสังเคราะห์อาหารไม่ได้

การปฏิบัติ :
- ก่อนออกดอก : ฉีดพ่นสมุนไพรสูตรกำจัดหนอนแมลงประเภทยาน็อคโดยเฉพาะ หนอนตายหยาก หางไหล กลอย น้อยหน่า สะเดา เช้าสายบ่ายค่ำ วันเว้นวัน

- ระหว่างออกดอก : สมุนไพรกำจัดหนอนแมลงตัวเดิม +สมุนไพรกำจัดรา เผ็ดจัด/ ร้อนจัด/ฝาดจัด ฉีดตอนค่ำ วันต่อวัน

ผลการปฏิบัติ :
- สารออกฤทธิ์ในสมุนไพรกำจัด หนอน เพลี้ยจักจั่น รา โดยตรง
– น้ำเปล่าชะล้างมูลหวาน (ฝนชะช่อ) ทำไม่มีอาหารสำหรับเชื้อรา

- เกมส์นี้ สปริงเกอร์/หม้อปุ๋ยหน้าโซน คือ ตัวช่วยที่ดีที่สุด สปริงเกอร์ก็คือเครื่องมือฉีดพ่นธรรมดาๆตัวหนึ่ง แต่ที่ไม่ธรรมดาก็เพราะสามารถทำงานได้ทุกเวลาที่ต้องการ เช่น

** เช้ามืด ............ ฉีดล้างน้ำค้างกำจัดราน้ำค้าง
** สาย ............... 10 โมงเช้า ให้ปุ๋ย/ฮอร์โมน +ยาสมุนไพร
** เที่ยง .............. กำจัดเพลี้ยไฟ ไรแดง
** บ่าย ............... วันฝนตกต่อแดด ให้ปุ๋ยกดใบอ่อนสู้ฝน
** ค่ำ ................ ล้างช่อกำจัดราดำ กำจัดเพลี้ยจั๊กจั่น
** มืด ................ กำจัดมีผีเสื้อเข้ามาวางไข่

**** กรณีสปริงเกอร์หม้อปุ๋ยหน้าโซน ฉีดพ่นบ่อยๆ ฉีดประจำๆ ลำพังศัตรูพืชตัวเล็กแค่ปลายไม้จิ้มฟัน จะมีภูมิต้านทานอะไรนักหนา โดนสารออกฤทธิ์ในสมุนไพรเข้าไป 2-3-4 ครั้ง ก็อยู่ไม่ได้แล้ว ปัญหาก็คือ ฉีดบ่อยๆ ฉีดประจำๆ ชนิดวันต่อวันหรือวันเว้นวัน ต้องใช้เครื่องมืออะไร แบบไหน ลองเปรียบเทียบระหว่าง เครื่องฉีดพ่นที่เป็นสปริงเกอร์ ฉีดพ่นครั้งละ 20-30-50 ต้น กับ เครื่องฉีดพ่นแบบลากสายยาง หรือแบบอื่นๆ ที่ฉีดพ่นทีละต้นๆ อย่างไหน ประหยัด (เวลา แรงงาน) ประสิทธิภาพประสิทธิผล มากกว่ากัน.... ก็มีนะที่บางคนบอกว่า สปริงเกอร์ฉีดพ่นได้ไม่ทั่วทรงพุ่ม อันนี้ก็อยากจะบอกว่า ไม่จริง ที่ฉีดพ่นได้ไม่ทั่วทรงพุ่มเพราะ ติดผิดแบบ ว่าตั้งแต่ รัศมีพ่นน้ำ ละอองน้ำที่พ่นออกมา สปริงเกอร์ที่ไร่กล้อมแกล้ม ไม้ผล 1 ต้น สปริงเกอร์ทางใบ 1 หัว ตอนลมปกติก็เปียกได้ทั่วทางพุ่ม ตอนมีลมพัดละอองน้ำจะปลิวซัดไปทั่วทั้งสวน .... แม้ว่าสปริงเกอร์จะทำงานได้ระดับนี้ก็ไม่ใช่ได้ผล 100% บางสถานการณ์โรคบางชนิด แมลงศัตรูพืชบางอย่าง อาจจะแทรกเข้ามาได้ เพราะฉะนั้นจึงควรใช้วิธี ไอพีเอ็ม. หรือการป้องกันกำจัดแบบผสม ผสาน คือ ใช้หลายอย่างร่วมกัน เช่น กับดักกาวเหนียว, แสงไฟล่อ, แสงไฟไล่, กลิ่นล่อ, กลิ่นไล่, รวมไปถึงแมลงธรรมชาติ เช่น มดแดงกำจัดหนอน แมลงตัวห้ำตัวเบียน และบำรุงพืชให้สมบูรณ์แข็งแรง เป็นภูมิต้านทานในตัวของต้นพืชเอง ****

– หลักการนี้ ไม่ใช่ได้ผลเฉพาะมะม่วงเท่านั้น ไม้ผลอื่นๆ ทั้งไม้ผลยืนต้นอายุนับร้อยปี ไม้ผลอายุสั้นฤดูกาลเดียว พืชที่มีศัตรูพืชทุกชนิด กรอบในการคิด คือ เอาศัตรูพืชเป็นเป้าหมาย ศัตรูพืช คือ ศัตรูพืช ไม่ว่าจะเป็นศัตรูพืชของพืชอะไรก็ตาม ใช้หลักการเดียว กันนี้นี่แหละ

- ขอให้เกษตรกรทบทวนตัวเองใหม่ว่า ในอดีตที่ผ่านมา รุ่นแล้วรุ่นเล่า ครั้งแล้วครั้งเล่า ของเขาของเรา ความสูญเสียที่เกิดจากศัตรูพืชรวมแล้วเป็นเท่าไหร่ อนาคตข้างหน้าจะต้องสูงสูญเสียอีกเท่าไหร่ กับการที่คิดว่า สปริงเกอร์แพงสปริงเกอร์แพง สิ้นเปลืองโดยใช่เหตุ

- ไร่กล้อมแกล้ม มะม่วง 10 โซน ๆละ 50 ต้น รวม 500 ต้น วันนี้ขึ้นปีที่ 6 ไม่เคยใช้สารเคมีใดๆ แก่ศัตรูพืชใดๆ ทั้งสิ้น ใช้แต่สมุนไพร สมุนไพรก็ไม่ได้ใช้บ่อยๆแบบวันต่อวัน วันเว้นวัน ตลอดทั้งปี ใช้จริงๆก็เฉพาะช่วงวิกฤต เช่น ช่วงใบอ่อน ช่วงออกดอก ช่วงผลเล็ก เท่านั้น ทั้งหมดทั้งสิ้นนี้มิใช่มะม่วงอย่างเดียว ไม้ผลอื่นๆก็อีหร็อบเดียวกัน

--------------------------------------------------------------


จาก : (092) 870-18xx
ข้อความ : ลุงคิมครับ ที่นา 80 ไร่ อยู่ปทุมธานี น้ำดีตลอดปี ทำนาไถกลบฟางมาแล้ว 2 รุ่น ปลูกข้าวปทุม ซีโอ. แบบเคมีเต็มร้อย ยูเรีย + 16-20-0 ไร่ละ 2 สอบ ยาฆ่าหญ้า สารเคมีฆ่าแมลงครบ สูตรชาวนา ได้ผลผลิต 105 ถัง แล้วถูกตัดราคา ข้าวปน ข้าวลีบ ข้าวไม่แกร่ง ความชื้น ครบสูตรโรงสี รับเงินเหลือกำไรน้อย แทบไม่คุ้มทุนเลย อยากเปลี่ยนมาปลูกข้าวไรซ์เบอร์รี่ ปลอดปุ๋ยเคมี สารเคมี ตามแนวของคุณสมศักดิ์ นครนายก ลุงคิมแนะนำวิธีทำด้วยครับ....ขอบคุณครับ
ตอบ :
@@ TITLE :
- ปัญหามีให้แก้ ไม่ใช่มีให้กลุ้ม .... แก้ปัญหาไม่ได้หรือไม่สำเร็จ เพราะไม่ได้แก้ ใช่หรือไม่ ทุกปัญหา (เน้นย้ำ....ทุกปัญหา) เคยเกิดมานานแล้ว นับแสนนับล้านปี เกิดกับตัวเอง เกิดกับคนอื่น .... ที่ว่า :

- แก้ปัญหาที่ปลายเหตุ ไม่ป้องกัน ไม่แก้ที่ต้นเหตุ
- รอปัญหาเข้ามาหา ไม่เข้าปัญหาก่อน
- สู้กับปัญหาแบบเชิงรับ มากกว่าเชิงรุก

– ปัญหา .... ไม่รู้วิธีแก้ ไม่รู้วิธีป้องกัน คือ ไม่รู้จริงๆ หรือไม่ทำอะไรเลย กันแน่ .... หลายคนอ้างว่า ยุ่งยาก เสียเวลา ไม่มีเวลาไปทำอย่างอื่น แถวนี้ไม่มีใครทำ พ่อแม่ไม่เคยนำทำ


@@ QUESTION & ANSWER :
Q. : “ถูกตัดราคา ข้าวปน ข้าวลีบ เข้าไม่แกร่ง ความชื้น ครบสูตรโรงสี” .... อย่าไปกล่าวโทษโรงสีเลย เขาซื้อตามคุณภาพของสินค้า ของไม่ดีคุณภาพต่ำจะเอาราคาแพงๆ คงไม่ได้ เคยเห็นไหม ชาวนาบางคนเอาข้าวเปลือกไปขายให้ที่โรงสี แล้วโรงสีให้ราคาสูงกว่าของเรา เพาะคุณภาพของข้าวนั่นเอง ฉะนี้แล้ว ป่วยการที่เราจะมาร้องแรกแหกกะเชอให้อายเขาเปล่าๆ
A. :
- ทางราก : เลิกเลิกเลิกและเลิก 46-0-0 เลิก 16-20-0 เปลี่ยนมาใช้ 16-8-8 หรือ 25-7-7 หรือ 30-10-10 หรือ 46-0-0 + 16-16-16 (1:1) สูตรใดสูตรหนึ่ง 10 กก. /ไร่ /รุ่น เสริมด้วย ไถกลบฟาง ปุ๋ยอินทรีย์ ตราคนกับควาย, กระดูกป่น, ใช้น้ำหมักชีวภาพที่มีสารอาหารอินทรีย์/เคมี นาข้าวรุ่นนี้ดีแล้ว รุ่นหน้า รุ่นต่อๆไปดีด้วย เพราะ “ดินดี” เป็นต้นทุน
- ทางใบ : ให้ปุ๋ยทางใบ ที่มีส่วนผสม Mg Zn TE


Q. : “รับเงินเหลือกำไรน้อย แทบไม่คุ้มทุนเลย” .... แบบนี้เขาเรียกว่า “ขาดทุนกำไร” ไม่ใช่เรื่องใหม่ ไม่ใช่เรื่องแปลก ไม่ใช่เรื่องมหัศจรรย์ แต่เป็นเรื่องเก่า เกิดมานานแล้ว เกิดมาทั่วประ เทศ เกิดกับทั้งตัวเองและคนอื่น จนบางครั้งก็อยากถามด้วย ความรัก ความห่วงหา ความอาธร และความผูกพัน ว่า เจ็บแล้วไม่จำ จะลงมือทำใหม่แต่ละครั้ง ทำไมไม่คิด ตัวเองไม่คิดแล้วลูกหลานจะทำยังไง
A. :
1. บันทึกรายการต้นทุนที่ต้องจ่ายเป็นเงินให้ครบทุกรายการ (บัญชีข้างฝา ข้าง ทีวี.) ให้ทุกคนในบ้านเห็นแล้วช่วยกันพิจารณา ตัด/ลด/เพิ่ม บางรายการ ให้เหมาะสมหรือตรงกับความต้องการที่แท้จริงของพืชตระกูลข้าว .... จำได้ไหมที่ลูกบอก “พ่อ แม่ นาข้าวเรา ต้นทุนท่วมราคาขายแล้วนะ...” ถามว่า ได้ฟังแล้วคิดยังไง

2. หาข้อมูลราคาข้าวถึงสาเหตุที่แตกต่างกัน เช่น พันธุ์ คุณภาพ ตลาด แล้วทำให้ได้ตาม นั้นอย่างเคร่งครัด
3. ใช้ปุ๋ยไม่ถูกต้องตามธรรมชาติของต้นข้าว แก้ไขโดยใช้ปุ๋ยตามหลักสมการปุ๋ย

4. ต้นทุนค่าสารเคมียาฆ่าแมลง แก้ไขโดยใช้สารสมุนไพร ให้พร้อมกับปุ๋ยทางใบ นอกจากประหยัดเวลา เครื่องมือ และแรงงานแล้ว ยังมีประโยชน์โดยตรงต่อต้นข้าวที่ช่วยบำรุงและป้อง กันกำจัดศัตรูข้าวได้อีกด้วย

5. คุณภาพข้าวทุกรายการที่ผู้รับซื้อกล่าวอ้าง ต้นสาเหตุและวิธีแก้ไข ดังแจ้งไว้แล้วในสม การปุ๋ย ปุ๋ยถูก (ถูกสูตร ถูกอัตรา ถูกประเภท) + ใช้ถูก (ถูกระยะพืช ถูกระยะเวลา ถูกวิธี ถูกปัจจัยพื้นฐาน) = ได้ผล ยกกำลังสอง

6. ข้าวแต่ละสายพันธุ์ นอกจากต่างกันที่คุณภาพแล้ว ราคายังต่างกันอีกด้วย ทั้งนี้สายพันธุ์ที่คุณภาพเหนือกว่าย่อมได้ราคาสูงกว่าเป็นธรรมดา .... แก้ไขโดยเลือกพันธุ์ข้าวตามที่ผู้ซื้อ (โรงสี) ต้องการอย่างแท้จริง

7. ถ้ามั่นใจว่าโรงสีเอาเปรียบ .... แก้ไขโดยเปลี่ยนจากขายให้โรงสี เป็นขายข้าวปลูกให้ร้านจำหน่ายข้าวปลูก หรือแปลงข้างบ้าน

8. เปลี่ยนตลาดจากขายข้าวเปลือก เป็นสีเป็นข้าวพร้อมหุง ขาย ส่ง/ปลีก
9. ขายตรงผู้รับซื้อ แบบพันธะสัญญา



Q. : “อยากเปลี่ยนมาปลูกข้าวไรซ์เบอร์รี่” .... แค่คิดอยากเปลี่ยนก็เท่ากับสำเร็จแล้วครึ่งหนึ่ง เมื่อก้าวออกมาจากปลักปัญหาเดิมๆ ยุคนี้สมัยนี้ไม่ใช่แต่ไรซ์เบอร์นี่เท่านั้น ยังมี สินเหล็ก มะลิแดง สังข์หยด ลืมผัว หอมมะลิ กับอีกหลายสายพันธุ์ข้าว เพื่อสร้างทางเลือกให้กับผู้บริโภค แม้แต่การนำข้าวหลายๆ สายพันธุ์มารวมกันเป็น “ข้าวเบญจรงค์” ก็เป็นที่นิยม .... ข้าวที่ทำออกมาแล้ว ขายเป็นข้าวเปลือก หรือสีเป็นข้าวกล้องพร้อมหุง หรือเป็นข้าวกล้องงอกพร้อม หุง ราคาสูงขึ้นไปอีก .... ที่วางขายกันทุกวันนี้ กก.ละ 50 บาท = เกวียนละ 50,000 .... กก.ละ 100 บาท = เกวียนละ 100,000 .... กก.ละ 120 บาท = เกวียนละ 120,000 .... จะเอาไหม ?
A. :
1. ถามใจตัวเอง จะเอาไหม ?
2. หาความรู้ (อ่านเอกสาร) หาประสบการณ์ตรง (ไปดูของจริง) ให้ครบทุกมิติ
3. สร้างมูลค่าเพิ่ม
4. วางแผนการตลาด



Q. : “ปลอดปุ๋ยเคมี สารเคมี ตามแนวของคุณสมศักดิ์” .... นอกจากตามแนวของคุณสมศักดิ์ฯ แล้ว เป็นแนวของตัวเองบ้างได้ไหม คุณสมศักดิ์เก่งกว่าคุณตรงไหน แล้วคุณด้อยกว่าคุณสมศักดิ์ตรงไหน อยากบอกว่า เรื่องแบบนี้อยู่ที่ “ใจ” .... ใจเอา = ได้, ใจไม่เอา = ไม่ได้ .... ประเภท เปิดมุ้งออกมา ทำไม่ได้ ทำไม่เป็น แบบนี้วงศ์ตระกูลคุณนอกจากไม่รวยแล้วก็จะยังคงเป็นหนี้เขาอยู่อย่างนั้นแหละ
A. :
ทำนาแบบของคุณสมศักดิ์ฯ ครูมณฑลฯ 7วัน ทำงาน 1ครั้ง ฉีดพ่น “ปุ๋ย+ยาสมุนไพร” ทางใบ .... ประสบการณ์ตรง : นาข้าว 20 ไร่ เด็กหนุ่ม เดินฉีดพ่นคนเดียว ตั้งแต่ 9 โมงเช้า ถึงบ่าย 2 โมงเสร็จเรียบร้อย .... กรณี 2 คนผัวเมีย นา 20 ไร่ ทำคนละ 10 ไร่ /วัน หรือ 5 ไร่ /วัน แบบนี้แค่ เสาร์-อาทิตย์ หรืออาทิตย์ละครั้ง ก็ทำได้



@@ นาข้าว อินทรีย์นำ เคมีเสริม :
ทำเทือก : .... ยิบซั่ม เฟอร์มิกซ์, ปุ๋ยอินทรีย์ ตราคนกับควาย/ไม่ปุ๋ยเคมี, กระดูกป่น, น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง 30-10-10 (2 ล.) +25-7-7 (10 กก.)

ระยะกล้า : .... ไบโออิ + 18-38-12 (3 ครั้ง....ครั้งที่ 1 อายุ 20 วัน, ครั้งที่ 2 อายุ 30 วัน, ครั้งที่ 3 อายุ 40 วัน) + สารสมุนไพรทุกครั้ง

ระยะต้นกลม : .... น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง 30-10-10 (2 ล.) +25-7-7 (10 กก.)
ระยะออกรวง : .... ไทเป 2 ครั้ง ห่างกันครั้งละ 7 วัน
ระยะน้ำนม : ...... ไบโออิ + ยูเรก้า 3 รอบ ห่างกันรอบละ 7 วัน +สารสมุนไพรทุกครั้ง
ระยะก่อนก่อนเกี่ยว : ก่อนเกี่ยว 7 วัน ให้นมสด 1 ครั้ง


@@ นาข้าว อินทรีย์เกาะขอบ :
- ทำเทือก : .... ยิบซั่ม ธันเดอร์แคล, ปุ๋ยอินทรีย์ ตราคนกับควาย, กระดูกป่น, น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิงอินทรีย์ ปรับโมเลกุล 2 ล. (ลงดิน)

- ระยะกล้า : .... น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิงอินทรีย์ สูตรปรับโมเลกุล/ไม่ปุ๋ยเคมี (3 ครั้ง .... ครั้งที่ 1 อายุ 20 วัน, ครั้งที่ 2 อายุ 30 วัน, ครั้งที่ 3 อายุ 40 วัน) + สารสมุนไพรทุกครั้ง

- ระยะต้นกลม : .... น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง สูตรปรับโมเลกุล/ไม่ปุ๋ยเคมี 2 ล (ผ่านต้นลงดิน)
- ระยะออกรวง : .... ไทเป สูตรปรับโมเลกุล/ไม่ปุ๋ยเคมี 2 ครั้ง ห่างกันครั้งละ 7 วัน
- ระยะน้ำนม : ...... น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิงอินทรีย์ สูตรปรับโมเลกุล/ไม่ปุ๋ยเคมี 3 ครั้ง ห่างกันครั้งละ 7 วัน + สารสมุนไพรทุกครั้ง
- ระยะก่อนก่อนเกี่ยว : ก่อนเกี่ยว 7 วัน ให้นมสด 1 ครั้ง

--------------------------------------------------------------


จาก : (086) 420-91xx
ข้อความ : คุณลุงคะ หน้าหนาวผักโตเร็ว คนปลูกมาก สินค้าล้นตลาด ราคาถูก หนูปลูกคะน้า กวางตุ้ง บุ้งจีน อย่างละ 2 ไร่ สวนยกร่องแห้ง ติดสปริงเกอร์ริมร่อง ยังไม่มีหม้อปุ๋ย อยากทำแบบไร่กล้อมแกล้ม คุณลุงสงวนลิขสิทธิ์ไหมคะ .... รักคุณลุงอย่างพ่อค่ะ สาวสวนแตง
ตอบ :
- สินค้าล้นตลาด เป็นเรื่องของ DEMAND SUPPLY หรือ อุปสงค์ อุปทาน คือ ปริมาณสินค้ากับคนซื้อ มันต่างกันที่ สินค้ามีจำนวนมากขึ้นกว่าปกติ แต่คนซื้อมีจำนวนเท่าเดิม

– เมื่อสินค้ามีมากกว่าคนซื้อ จึงเป็นโอกาสของคนซื้อในการเลือกซื้อ แต่คนขายไม่มีโอกาสเพราะต้องแย่งคนซื้อ หรือลูกค้า หรือตลาดกันเอง

- เรื่องทำนองนี้เป็นเรื่อง “การตลาด” บอกแล้วว่า เทคโนโลยีที่ยากที่สุด คือ เทคโนโลยีการตลาด เพราะฉะนั้น เกษตรกรหรือผู้ผลิตเพื่อขาย จะต้องปรับแผนการผลิต การขายให้สอด คล้องกับสภาวะตลาดอย่างแท้จริงให้ได้ .... คิดเป็น ทำเป็น ขายเป็น หรือ คิดใหม่ ทำใหม่ ขายใหม่ .... นั่นคือ :


@@ ต่อผักที่ปลูกแล้ว :
- ลดต้นทุน ค่าปุ๋ย (30%) : ... ทางใบ : ใช้น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง สูตรปรับโมเลกุล/ไม่ปุ๋ยเคมี + นมสด .... ทางดิน : ใส่ยิบซั่ม ธันเดอร์แคล, ปุ๋ยอินทรีย์ ตราคนกับควาย, กระดูกป่น, ขี้วัวขี้ไก่แกลบดิบ, น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง สูตรปรับโมเลกุล/ไม่ปุ๋ยเคมี

- ลดต้นทุน ค่าสารเคมี (30%) : ใช้สารสมุนไพร ไอพีเอ็ม.
- ลดต้นทุน ค่าแรงงาน (20%) : ใช้สปริงเกอร์ หม้อปุ๋ยหน้าโซน
- เพิ่มคุณภาพ : .... บำรุงแบบเสริมฮอร์โมนธรรมชาติ เช่น น้ำมะพร้าว น้ำเต้าหู้ นมสด
- ลดราคา : ......... ขายเท่าร้านข้างเคียง หรือแพงกว่าเล็กน้อย
- สร้างเครดิต : ...... ผักอินทรีย์ 100% ไม่ปุ๋ยเคมี ไม่สารเคมียาฆ่าแมลง


@@ ต่อผักที่จะปลูกรุ่นหน้า :
- เพิ่มความเข้มข้นในการบริหารจัดการ “ต้นทุน, เพิ่มคุณภาพ, ลดราคา, สร้างเครดิต” ให้ดีขึ้นกว่าเดิม
- ทำผักแจ๊คพ็อต
- สร้างผลิตภัณฑ์อย่างใหม่ ตามยุคสมัย
- รวมกลุ่ม
- ทำเกษตรพันธะสัญญา


@@ ถามา ตอบไป :
- “สวนยกร่องแห้ง” .... สวนแบบนี้ เนื้อที่ 1 ไร่ ใช้พื้นที่ปลูกผักได้เต็ม 1 ไร่ ผิดกับสวนยกร่องน้ำหล่อ เนื้อที่ 1 ไร่ ใช้พื้นที่ปลูกผักได้แค่ครึ่งเดียว เพราะที่เหลือเป็นน้ำ แต่หากทำกิจกรรมเกษตรในน้ำ เช่น เลี้ยงปลา เลี้ยงกบ ปลูกผักผิวน้ำ ปลูกผักขึ้นค้างหรือน้ำ ปลูกเผือกริมน้ำ ก็ว่ากันไป

- “ติดสปริงเกอร์ริมร่อง” .... เครื่องทุ่นแรงตัวนี้ช่วย ประหยัดเวลา ประหยัดแรงงาน ประ หยัดพลังงาน เพิ่มประสิทธิภาพประสิทธิผลเนื้องาน .... มีทั้งแบบถอดประกอบได้ และแบบติด ตั้งตลอดไป ....

- “ยังไม่มีหม้อปุ๋ย” .... ไม่มีก็ทำ ทำเองเพราะไม่มีขาย .... หม้อปุ๋ยตีตรา เมด อิน ยูเอสเอ. อันละ 30,000 ทำงานทีต้องลดแรงวาวล์ จนน้ำพ่นออกที่หัวสปริงเกอร์ลดลง เหลือรัศมีพ่นน้ำได้ไม่ถึงครึ่ง ของไร่กล้อมแกล้ม อันละ 300 ทำงานโดยไม่ต้องลดแรงวาวล์ น้ำที่พ่นออกมาที่หัวสปริงเกอร์เท่าเดิม

– “อยากทำแบบไร่กล้อมแกล้ม” .... C0PY ไม่ได้แต่ APPLY ได้ เรื่องแบบนี้ต้องมาคุยกัน เพราะรูปแปลงไม่เหมือนกัน จะได้ช่วยออกแบบให้ ประมาณนี้ กับอีกหลากหลายเรื่องเกี่ยวกับระบบสปริงเกอร์ เช่น ยาวตัด-สั้นต่อ-ไม่พอซื้อ-ไม่ดีรื้อทำใหม่ ต่อผิดไม่มีการทิ้งแต่เอามา REUSE ใช้ใหม่ได้, วางท่องแบบให้ล้างตัวเองได้ ไม่ต้องพึ่งพากรองใดๆทั้งสิ้น, วางระบบท่อให้มีทั้งแรงดินแรงอัด น้ำไปได้ไกล พ่นน้ำแรง

- “คุณลุงสงวนลิขสิทธิ์” .... ไม่สงวน อยากจดไปจดได้เลย เพราะไม่ได้ COPY ใครมา เคยมีคนถามลุงคิมว่า ก่อนมาทำระบบสปริงเกอร์ไร่กล้อมแกล้ม เคยไปดูงานที่ไหนมาก่อนไหม คำตอบจากลุงคิมก็คือ มีสวนไหนให้ดูบ้าง สวนไม้ผลสวนไหนส่งหัวสปริงเกอร์ขึ้นไปพ่นอยู่บนยอดไม้ สวนไหนๆเห็นมีแต่หัวสปริงเกอร์อยู่ที่โคนต้น สำหรับให้น้ำทางรากทางดินอย่างเดียวเท่านั้น แต่พอจะให้ทางใบก็ต้องสะพายเป้ ลากสายยาง แล่นเรือปากเป็ด รถแอร์บลาสส์ เรือแอร์บลาสส์ ฉีดพ่นทีละต้นๆ

สปริงเกอร์ไร่กล้อมแกล้ม มีหัวสปริงเกอร์สำหรับฉีดพ่นบนยอดเหนือทรงพุ่ม หรือในทรงพุ่ม สำหรับฉีดพ่นทางใบ แยกกับหัวสปริงเกอร์ให้โคนต้น .... ต้องการฉีดพ่นทางใบ เปิดวาวล์ทางใบปิดวาวล์ทางราก ต้องการให้ทางรากเปิดวาวล์ทางรากปิดวาวล์ทางใบ มีวาวล์แยกโดย เฉพาะ หรือจะให้ทั้งทางใบทางรากพร้อมกันเลย ก็เปิดวาวล์ทั้งสองทาง

ไม้ผล 1โซน 50ต้น .... ให้ “ปุ๋ย/ฮอร์โมน/ยา/น้ำเปล่า” ทางใบ อย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างตามต้องการได้ด้วย แรงงานคนเดียว เวลา 5-10 นาที .... ให้ “ปุ๋ยเคมี/ปุ๋ยน้ำหมัก/น้ำเปล่า” อย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างตามต้องการได้ด้วย แรงงานคนเดียว เวลา 10 นาที


@@ สัจจะธรรมสปริงเกอร์ :
* สวนไม้ผลขนาด 50 ไร่ ขนาดต้นสูงน้องๆ เสาไฟฟ้า ฉีดพ่นทางใบด้วยเครื่องฉีดพ่นแรงสูง สูงมากๆ เพื่อให้ทั่วทรงพุ่ม ทำงานทีละต้น ๆๆ ใช้เวลาต้นละ 10-15 นาที พื้นที่ 50 ไร่ ทำงาน 8 โมงเช้า ถึงบ่าย 4 โมง ทุกวันใน 1 อาทิตย์ คนทำงานทุกวันแต่ต้นไม้ได้รับปุ๋ยเคมีวันเดียว ไม่คิดให้ทางรากที่ต้องเดินหว่านปุ๋ยทีละต้นๆ ให้น้ำอีกต่างหาก

สวนไม้ผลแบบนี้ หากต้องการบำรุงแบบเต็มที่ เพื่อให้ได้ผลเต็มที่ หรือเพื่อให้ต้นได้สะสมความสมบูรณ์เต็มที่ จะต้องทำงานทุกวัน ตลอดทั้งปี ไหวเหรอ

* สวนไม้ผลขนาด 50 ไร่สวนเดียวกัน ติดระบบสปริงเกอร์ ใช้เครื่องยนต์ 10 แรงม้า แบ่ง เป็นโซนได้โซนละ 10 ไร่ ทำงานโซนละ 10 นาที ใช้เวลาเพียง 50 นาที ตัดเวลาคนเดือน 1 ชม. เท่ากับใช้เวลาเพียง 2 ชม.ต่อการทำงาน 1 ครั้งเท่านั้น

@@ ประสิทธิภาพประสิทธิผลเนื้องาน :
- ให้ทางใบ ฉีดพ่น “ปุ๋ย/ฮอร์โมน/ยาสมุนไพร/น้ำเปล่า” ได้ตามวัน เวลา และระยะเวลาที่ต้องการ การให้ปุ๋ยทางใบที่เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ต้องให้ตอนปากใบเปิด (10 โมงเช้า ถึงบ่าย) .... การฉีดพ่นสารสมุนไพร เช่น ฉีดพ่นตอนเช้ามืดก่อนสว่างเพื่อล้างน้ำค้าง, ฉีดพ่นตอนเที่ยงเพื่อกำจัดเพลี้ยไฟ ไรแดง, ฉีดพ่นตอนหลังค่ำเพื่อไล่แมลงแม่ผีเสื้อเข้ามาวางไข่ หรือป้องกันกำจัดแมลงปากกัดปากดูดที่มาตอนกลางคืน,

- ให้ทางราก “น้ำเปล่า/น้ำหมักชีวภาพ/ปุ๋ย” ตามวัน เวลา และระยะเวลาที่ต้องการ

- ติดตั้งระบบสปริงเกอร์ครั้งหนึ่ง อยู่นานใช้งานได้ 10-20-30 ปี - การให้ปุ๋ยไปกับระบบสปริงเกอร์แบบนี้ อเมริกาทำมานานกว่า 50 ปีแล้ว เรียกว่า การให้ปุ๋ยทางท่อ หรือ การให้ปุ๋ยไปกับระบบน้ำ


@@ หม้อปุ๋ยหน้าโซน V.S. ถังปุ๋ยที่ปั๊ม :
- หม้อปุ๋ยหน้าโซน : ความจุเนื้อ ปุ๋ย/ฮอร์โมน/ยา สำหรับจำนวนต้นเฉพาะในโซน, สูตรเฉพาะไม้โซนนั้น, ไม่มีเนื้อปุ๋ยตกค้างในท่อ, ใช้แรงงานคนเดียว, ราคาแพง,

- ถังปุ๋ยที่ปั๊ม : ความจุเนื้อ ปุ๋ย/ฮอร์โมน/ยา สำหรับจำนวนต้นไม้ทั้งแปลงที่สปริงเกอร์ไปถึง, สูตรเดียวกันทั้งสวน, มีเนื้อปุ๋ยตกค้างในท่อ แปลงใหญ่มากตกค้างในท่อมาก, ใช้แรงงาน 2 คน, เนื้อปุ๋ยกัดลูกยางซีลปั๊ม, ราคาถูก,

---------------------------------------------------------------------



.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group
Forums ©