-
++kasetloongkim.com++
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ
MySite.com :: ดูกระทู้ - ผักชีฝรั่ง ตอนที่ 1-2-3 ...
 คำถามถามบ่อยของกระดานข่าวคำถามถามบ่อยของกระดานข่าว   ค้นหาค้นหา   กลุ่มผู้ใช้งานกลุ่มผู้ใช้งาน   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว   เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณเข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ   เข้าระบบเข้าระบบ 

ผักชีฝรั่ง ตอนที่ 1-2-3 ...

 
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11555

ตอบตอบ: 16/01/2012 5:46 am    ชื่อกระทู้: ผักชีฝรั่ง ตอนที่ 1-2-3 ... ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

จาก : DangSalaya
ถึง : kimzagass

ตอบ : 15/01/2012 9:57 pm
ชื่อกระทู้ : ว่าด้วยผักชีฝรั่ง ตอนที่ 1

-------------------------------------------------------------------------------------------------



15 มกราคม 2555
เรียน ลุงคิมที่นับถือ (จากแดง ศาลายา ครับ)
ปลูกผักชีฝรั่ง ตอนที่ 1

ผมฟังรายการลุงคิมเมื่อคืนวันที่ 14 มค.55 มีคนถามปัญหาเรื่องว่า ปลูกผักชีไทยอยู่แล้ว 5 ไร่ แต่มีที่เหลืออีกประมาณ 2 ไร่
อยากจะปลูกผักชีฝรั่ง....จึงขออนุญาตเล่าสู่กันฟังแบบชาวบ้าน ๆ โดยส่งรูปมาให้ลุงผ่านทางคุณน้ำส้ม ส่วนรายละเอียดจากรูปจะส่ง
มาภายหลัง

ขอบคุณครับ



.


แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย kimzagass เมื่อ 20/06/2013 8:43 pm, แก้ไขทั้งหมด 8 ครั้ง
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11555

ตอบตอบ: 17/01/2012 4:58 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

แปลงผักชีฝรั่ง


17 มกราคม 2555
เรียน ลุงคิมที่นับถือ (จากแดง ศาลายา ครับ)

ปลูกผักชีฝรั่ง ตอนที่ 1


ผมฟังรายการลุงคิมเมื่อคืนวันที่ 14 มค.55 มีสมาชิกถามปัญหาว่า ปลูกผักชีไทยอยู่แล้ว 5 ไร่ แต่มีที่เหลืออีก
ประมาณ 2 ไร่ อยากจะปลูกผักชีฝรั่ง....บังเอิญว่า ผมพอจะรู้อยู่บ้างเล็กน้อยแบบ งู ๆ ปลา ๆ จึงขออนุญาตเล่าให้ฟัง
แบบชาวบ้าน ๆ ซึ่งผมทำของผมเป็นการส่วนตัว ไม่เป็นทางการ ไม่เป็นวิชาการ สูตรใครก็สูตรใคร นำไปอ้างอิงไม่ได้ …

คำอธิบายการเตรียมการต่าง ๆ เกี่ยวกับการปลูกผักชีฝรั่ง ผมฟังจากที่ ลุงคิมได้บอกแนะนำไว้แม้ฟังดูจะสั้น แต่ละเอียด
ชัดเจน แจ่มแจ้งทุกถ้อยกระทงความแล้ว ผมจึงขอแนะนำด้วยการให้ดูจากรูปภาพก็แล้วกันนะครับ อาจมีเสริมเพิ่มเติมจาก
ประสบการณ์บ้าง .. .ความจริงคุณที่ปลูกผักชีไทย ผมก็ว่าดีอยู่แล้วละน๊า ผมยังคิดอยากจะปลูกมั่งเลย

ทีนี้ ถ้าฟังลุงพูดเฉย ๆ คนอื่นอาจจำได้ผมไม่รู้นะ แต่ผมไม่ได้เป็นพหูสูตอย่างพระอานนท์ จำไม่ได้หรอกครับ แล้วถ้าคิดจะจด
ก็จดไม่ทัน เพราะลุงพูดเร็วยังกะจรวด แล้วบางครั้งมีเสียง( ด่....) แซมออกมาด้วย ต้องหยุดหัวเราะ ก็จดไม่ทันแล้ว ผม
เลยต้องอัดเสียงเอาไว้แล้วมาแกะคำพูดออกมาเป็นตัวหนังสืออีกที หรือไม่ก็เปิดฟังซ้ำ ๆๆๆๆ หลายรอบในรายการที่ชอบ

ผมฟังรายการลุงมาน๊าน นาน แต่เพิ่งจะเริ่มอัดเสียงลุงเอาไว้เมื่อไม่นานนี้เอง(เรียกว่าเพิ่งจะทำเป็น)ตั้งแต่วันที่ 6 พค.54
ถึง 31 ธค.54 รวม 240 วัน ถ้าอัดวันละ 2 ครั้ง ก็น่าจะได้ถึง 480 ครั้ง แต่ผมอัดได้เพียง 245 ครั้ง ที่มีเว้นขาดหายไป
บ้างก็แยะหลายวันเหมือนกัน เพราะบางวันลุงคิมเบี้ยวอ้างว่า เน็ตเสีย บางวันลุงถูกแย่งรายการ บางวันผมไม่ว่าง บางวันผม
ไปอยู่หลังเขาหาวิทยุเปิดฟังไม่ได้ ยิ่งตอนติดน้ำท่วมไปไหนไม่ได้ เกือบสามเดือน เซ็งเป็ด ...ก็เปิดฟังบ้างไม่ฟังบ้าง เนื่อง
จากไม่มีอารมณ์จะฟัง น้ำท่วมถึงเอว ในสวนมิดหัว และบางวันมีคนโดนไฟฟ้าดูด ตา.. เค้าเลยดับไฟฟ้า ..... แล้วถ้าใคร
จะถามปัญหาลุงคิมละก็ ต้องถามแจงให้ละเอียด ถ้าคำถามไม่ละเอียด โดนอัดน่วมก็แล้วกัน บางครั้งผมกำลังนึกจะถาม พอดี
มีคนถามในเรื่องเดียวกับที่ผมจะถาม คนที่ถามโดนอัด ก็เท่ากับว่าผมโดนไปด้วย ฟังรายการลุงแล้ว รายการอื่น ๆ เลิกฟัง
เพราะรายการลุงมันสะใจได้อารมณ์ และได้ความจริงใจ ....ให้รู้อีกอย่าง ลุงคิมน่ะ ปากร้าย แต่ใจดีนะครับ –

ขอบอกซะให้กระจ่าง เรื่องของเรื่องคือผมอยากอัดเสียงลุงมานาน ก็เลยบอกลูกเค้าว่า ..ซื้อเครื่องอัดเสียงเล็ก ๆ ให้พ่อซัก
เครื่องนึง ลูกเค้าก็ว่า ซื้อทำไม มือถือของพ่อก็อัดเสียงได้ เอามาดูซิ ...เค้าดูแล้วก็บอกว่า นี่ไง ทำยังงี้ ...โอ๊ยตายเลยกู
เวรกรรม หน้าแหก แถมยังถ่ายรูปได้ซะอีกด้วย ใช้มือถือมานานปี ได้แต่รับเข้า โทรออก ส่งข้อความ เม็มเบอร์ ทำได้
แค่นี้ อย่างอื่นไม่รู้เรื่องเอาซะเลย เค้ายังบอกว่า Mem เครื่องของพ่อตั้ง 2 กิ๊ก อัดได้เป็นพัน ๆ เพลง – โฮเว๊ย แค่กิ๊กเดียว
แม่มึงก็จะเอากูตายแล้ว นี่ตั้ง 2 กิ๊ก กูจะเหลือมั๊ยเนี่ย - ตั้งแต่นั้นก็เลยได้อัดเสียงลุงคิม แล้วก็ถ่ายรูป ส่งรูป ทำอื่น ๆ อีก
หลายอย่าง ....

อันว่า ผักชีไทย, ผักชีฝรั่ง, ตั้งโอ๋หรือคึ่นไฉ่, บัวบก กรรมวิธีในการสร้างโรงเรือน ในการปลูกและดูแลบำรุงรักษาน่า
จะเหมือน ๆ หรือคล้าย ๆ กัน ที่ลุงบอกประจำคือคุณคิดจะปลูกอะไร ไอ้อะไรที่คุณคิดจะปลูกน่ะรักคุณมั๊ย แล้วเรื่องน้ำ
ก็ไอ้อะไรอีกนั่นแหละ มันชอบ ชื้น ชุ่ม โชก แฉะ แช่ แค่ไหน สภาพแวดล้อม ดิน น้ำ ลม ไฟ คืออุณหภูมิ ความชื้นใน
อากาศ มันเป็นยังไง แล้วคุณมี กึ๋น ที่จะถอดใจลงไปฉีดพ่นปุ๋ยและสมุนไพรทุก 3 วัน 5 วันมั๊ย ….

กรรมวิธีในการสร้างโรงเรือน แปลงปลูก การปลูกและดูแลบำรุงรักษา ผักชีฝรั่งของผม ทำง่าย ๆ ตามรูปที่เสนอมานี้ละครับ….

รายการนี้ ผมกลัวจังเลยว่า จะเป็นการเอามะพร้าวแห้งมาขายมะพร้าวห้าวหรือเปล่าครับ ...เพราะฟังจากรายการวิทยุ ลุงคิม
มักจะโดนลองของอยู่บ่อย ๆ ถามคุณมงคล หรือคุณชัชวาล ดูก็ได้ ....ดูรูปกันเลยนะครับ





1
ภาพ - 1 เตรียมแปลงปลูก ผมจ้างแบ๊คโฮ มาขุดยกร่องจากพื้นดินนา หลังแปลงแต่ละแปลงกว้าง 8.00 เมตร ยาว 150.00 เมตร
ร่องน้ำกว้าง 1.00 เมตร แล้วก็ให้รถขุดซุย(กระจาย)ดินบนหลังร่องตากแดดเอาไว้





2
ภาพ - 2 ตากดินเอาไว้ พอดินใกล้จะแห้ง ฝนตก เลยเป็นแบบนี้ พออีกไม่กี่วันหญ้าเริ่มขึ้น ปล่อยมัน เดี๋ยวใช้เครื่องตัดหญ้าตัดเอาได้
เศษหญ้าตัดแล้วโยนลงร่องน้ำ ปลานิลกินซะวันเดียวเกลี้ยง (เพราะหญ้าบางอย่าง เอาทำปุ๋ยพืชสดไม่ได้ มันจะงอกและขยายพันธุ์
ได้อย่างดีเยี่ยมจริง ๆ )





3
ภาพ - 3 จากภาพ -2 พอดินแห้ง ก็เอารถอีต๊อกมาตีตะกุยดินอีกครั้ง ให้เป็นก้อนโต ๆ ตากดินจนแห้ง พอตอนเที่ยง แดดเปรี้ยง ๆ
เอาเรือมาลากรดน้ำ ดินจะแตกย่อยเป็นก้อนเล็ก ๆ – กลิ่นดินที่มันแตก หอม โรแมนติก ดีครับ ปล่อยไว้ซัก 2 วัน พอดินแห้ง
หมาด ๆ ลุงคิมบอกให้เอา ยิบซั่ม หว่าน แล้วก็เอาอีต๊อกมาตีอีกรอบ ดินจะแตกละเอียดเป็นก้อนเล็ก ๆ

ทีนี้ถ้าจะปลูกผักชี จะเอาขี้อะไรมาหว่านใส่ก็ตามใจชอบ ยกเว้น ขี้ไก่ มันจะทำให้ออกดอกเร็ว (เอาไว้ใส่ตอนจะเก็บเมล็ดพันธุ์)
ขี้วัว หญ้าจะขึ้นงอกงามกว่าผักชี และขี้คน ...เจ๊กสวนผักตลิ่งชันชอบใช้ ควรใช้ขี้ที่เย็นคือ ขี้หมูที่ไม่ใส่โซดาไฟ และต้องเป็นขี้หมู
แท้ ๆ ที่ไม่ปนกับต้นกล้วยบด





4
ภาพ - 4 , -5 และ -6 ปกติเมล็ดพันธุ์แถบบ้านผม แรก ๆ เค้าใช้เมล็ดพันธุ์สั่งจากเชียงใหม่ ต่อมา ปลูกกันหลายรุ่น หลายท้องที่
เมล็ดพันธุ์ปนเปกันวุ่นไปหมด ต่างคนก็เก็บเมล็ดพันธุ์กันเอง การสั่งพันธุ์จาก เชียงใหม่ก็น้อยลงเพราะคนสั่งกันมาก ของมี
น้อย ราคาแพงขึ้น-ตามหลัก Demand Supply (แรก ๆ ใส่ขวดแม่โขงแบน ขวดละ 300 ต่อมาก็ขึ้นราคาเป็นขวดละ 500)
พันธุ์เชียงใหม่กลายเป็นพันธุ์ เชียงปฐม (เชียงใหม่ปลูกที่นครปฐม)แต่ก็ยังเรียกว่าพันธุ์เชียงใหม่อยู่เหมือนเดิม แต่ของผม
เป็นพันธุ์ส่งตรงจากเชียงราย ต้นใหญ่ (เกือบเท่าหัวแม่เท้..) ใบยาว รากใหญ่ยาว ชาวสวนชอบเพราะได้น้ำหนัก แต่พ่อค้าไม่
ชอบเพราะได้ต้นต่อกิโลน้อย แต่พ่อค้าจำใจต้องซื้อเพราะ ญี่ปุ่น ชอบต้นใหญ่ ๆ ในภาพนี้ น้องชายส่งต้นพันธุ์ ห่อกระดาษ นสพ.
แพ็คใส่กล่องเบียร์ 2 กล่องฝากรถทัวร์จากเชียงรายมาให้รวม 20 กก. เศษ ฝากส่งเย็น ตอนสายวันรุ่งขึ้นไปรับที่ บ.รถทัวร์ ...
น้องส่งมาเร็วไปหน่อย ผมเตรียมแปลงไม่ทันจะเสร็จดี เลยต้อง จิ้ม(แบบดำนา) เอาไว้ก่อน แล้วเอา ซาแรน คลุมเอาไว้ชั่วคราว
แบบนี้แหละ





5


6





7
ภาพ - 7 เตรียมการขึง ซาแรน ผมเบี้ยน้อยหอยนิด จึงต้องวางแผนและคำนวณทำแบบประหยัดสุด ๆ.. ถ้าคนมีกะตังค์ เค้าใช้เสาปูน
หน้า 3 x 3 x 2.50 ม ต้นนึงหลายตังค์ หนักก็หนัก ปักก็ยาก ถอนก็ยาก ของผมใช้เสาไม้รวก 6 ศอก-(3 เมตร) ปักก็ง่าย ถอนก็ง่าย
เพราะดินนิ่ม กดปื๊ดลงไป ให้ลึก 50 เซ็นต์ เหลือพ้นพื้นดิน 2.50 เมตร ราคาก็ไม่แพง อยู่ทนได้ 3 ปี การปักเสา ให้เสาห่างจากร่องน้ำ
ข้างละ 50 เซ็นต์ เอาไว้เป็นทางเดินริมร่อง แถวบ้านผมอีกนั่นแหละ เค้าใช้สายโทรศัพท์สีดำ ขึงเพื่อใช้ผูกซาแรน แต่ของผมใช้
เชือกไนล่อนชนิดเหนียวใช้กับเรือลากอวน เส้นโตขนาด 3 หุน หรือ 3/8 นิ้ว ราคาถูกกว่าใช้สายโทรศัพท์สีดำครึ่งต่อครึ่ง สายโทรศัพท์
เหนียวก็จริง แต่มันแข็ง ทำงานลำบาก ดึงไม่ค่อยจะตึง ต้องออกแรงมาก เจ็บมืออีกต่างหาก แล้วราคาก็ขึ้นทุกปี(เผลอ ๆ เป็นช่องทางให้
มิจฉาชีพ ตัดสายโทรศัพท์มาขาย และถ้าไม่เผลอ ก็เจ้าหน้าที่ขององค์การฯนั่นแหละ เอาสายโทรศัพท์ที่บอกว่า ตัดบัญชีแล้ว เอา
มาขายซะเอง) ผมใช้เชือกไนล่อนชนิดลากอวน ดึงได้ตึงกว่า ไม่เจ็บมือ ราคาไม่ค่อยเปลี่ยนแปลง ทนทานเหนียวมาก ๆ ….สำหรับ
การขุดร่องน้ำ ทำแปลง ปักเสา มุงซาแรน ของแต่ละคน แต่ละพื้นที่ กว้างยาวไม่เท่ากัน จะขุดแปลงตามลม ขวางลม ตามตะวัน ขวางตะวัน
ต้องคำนวณเอาเอง




8
ภาพ - 8, -9, -10 และ -11 การดึง ซาแรน จากม้วน และการขึงซาแรน ...ปกติซาแรนที่ขายกันจะมีขนาดกว้าง 1.50 และ
2.00 เมตร ยาว 100 หลา ก็ประมาณ 90.00 เมตร คุณภาพและราคา ก็แตกต่างกัน ถ้าใช้คุณภาพมาตรฐานที่ใช้กับสวน
กล้วยไม้ ราคาแพงกว่ากันอีกหน่อย แต่จะอยู่ได้เกินกว่า 10 ปี ขนาดจมดินยังไม่อยากจะขาด คุ้มเกินราคา ของผมคำนวณ
แล้ว ร่องหนึ่งกว้าง 8 เมตร ยาว 150 เมตร หรือ 1,200 ตร.ม. หรือ 300 ตร.วา ( ตร.ม. หรือ ตร.วา มีความหมายต่อการ
ใช้ปริมาณเมล็ดผักชีที่จะใช้หว่านครับ) ถ้าใช้ ซาแรนขนาดกว้าง 2.00 เมตร 1 ล็อกก็ใช้ประมาณ 20 ม้วน คำนวณแล้วมัน
ก็เหลือเศษ และเมื่อบวกราคาแล้วก็สูงเกินไป จะเปลืองเสาไม้รวกที่ต้องใช้เพิ่มขึ้นอีกด้วย ...ทำไงดีหว่า

ก็เลยเอาเบอร์โทรจากป้ายโรงงานผลิตที่เค้าติดไว้ที่ม้วนซาแรน ลองโทรถามกันเลยว่า สั่งทอได้หรือไม่ เค้าบอกได้ เลยถามว่า กี่
(เครื่องที่ใช้ทอ)ของคุณ ทอได้หน้ากว้างที่สุดเท่าไหร่ เค้าบอกว่า 2.25 เมตร แล้วยาวล่ะ เค้าว่า คุณจะเอายาวเท่าไหร่ ก็บอกว่า
ร่องยาว 150 เมตร เค้าบอกว่า ถ้าจะสั่งก็จะทอให้ยาว 160 เมตร เผื่อดึงหัวท้ายข้างละ 5 เมตรแต่จะทอให้เกินนิดหน่อยไม่มีขาด
จะใช้กี่ม้วน ก็บอกเลยว่า (ล๊อกละ 9 ม้วน 3 ล๊อก)ใช้ 27 ม้วน แล้วขนาด 2.00 เมตร( ล๊อกละ 5 ม้วน 3 ล๊อก)ใช้ 15 ม้วน
(ใช้คลุมบริเวณร่องน้ำ)ก็ทอให้ยาว 160 เมตรด้วย คำนวณราคาเบ็ดเสร็จ ถูกกว่าราคา 2.00 เมตร 60 ม้วน(3 ล๊อก)ตั้งแยะ
เพราะไม่ผ่านกำไรให้ร้านค้า ก็เลยบอกให้คิดบวกค่าส่งของไปด้วย เพราะ 42 ม้วน เต็มรถ 6 ล้อเล็กพอดี เราก็โอนเงินไปให้ ถึง
เวลาเขาเอาของมาส่ง เราก็ได้ของตามที่เราต้องการ



9



10



11



12
ภาพ - 12 ซาแรนสั่งทอ กว้าง 2.25 เมตร ยาว 160 เมตร ความทึบแสง 40 % (ถ้าสวนกล้วยไม้ต้องใช้ความทึบแสง 50–60%)
ขึงเสร็จแล้วจะสวยงาม พอดิบพอดี และประหยัดตามที่เราต้องการ ตามภาพนี้แหละครับ ส่วนตรงบริเวณที่เป็นร่องน้ำ ใช้ซาแรน
ขนาดกว้าง 2.00 เมตร ยาว 160 เมตรเหมือนกัน ยังไม่ได้ดึง จะดึงทีหลังครับ เหตุผลคือ ต้องใช้คน 4 หรือ 6 คน อยู่ร่อง
น้ำคนละฝั่ง ๆ ละ 2 หรือ 3 คน ดึงแล้วก็ผูกมัดกับซาแรนที่คลุมหลังแปลงทั้งสองฝั่ง ต้องดึงพร้อมกันนะครับ ดึงกันไป ดึงกันมา
มันก็จะตึงเป๊ะ ถ้าต่างคนต่างดึง มันจะเบี้ยว ถือว่าไม่มีฝีมือ อายชาวบ้านเค้า จะเห็นว่า ด้านข้างตามแนว ยาว จะเปิดโล่งให้ลมผ่าน ตามที่ลุงคิมบอกเด๊ะเลย





13
ภาพ - 13 ด้านหัวและท้ายข้างละ 5 เมตร ก็ดึงลงมาคลุมแบบนี้ครับ ทำไมต้องดึงหัวท้ายลงมาคลุมแบบนี้ ถ้าถามชาวสวน
เค้าบอกสั้น ๆ ว่า ช่วยให้ซาแรนมันให้ตัว ถ้าภาษาวิชาการทางด้านกลศาสตร์ เค้าว่า เพื่อให้เกิดการยืดหยุ่น ลดแรงต้าน แรงเค้น
แรงดึงและแรงดัน แรงปะทะจากลมแรง ๆ …ที่สำคัญ คุณภาพของผักชีฝรั่งคือใบยาวครับ และใบพืชต้องการแสง แสงอยู่ทาง
ไหน ใบจะเอนไปทางนั้น ถ้าเปิดโล่งให้แสงเข้าสี่ด้าน ใบจะบานออกแบบที่เรียกว่า แบะ แบกะดิน ถอนก็ยาก ทำก็ยาก มัดกำ
ก็ยาก ...เทคนิคที่จะทำให้ใบยาว นอกจากใช้ จิ๊บ... กับ อาคีมีดีส – ยูเรคา .และ ไคติน .. แล้ว ต้องเพิ่มแสงก่อนวันถอนด้วย
มันเป็น เทคนิค และ แทคติก คุยแล้วยาวครับ เอาเป็นว่า กว่าจะขึงเสร็จ ต้องแก้กระหาย หมดไปหลาย Drink ก็มันเหนื่อยน่ะครับ



14
ภาพ - 14, 15, 16, และ 17 วันธรรมดา ผมทำงานคนเดียว(นักเรียนกับมนุษย์เงินเดือนไปกันหมด) ขืนผมเดินเข็นเรือรดน้ำ
ตามรูป - 3 เดินไป เดินกลับ 5 เที่ยว ๆ ละ 150 เมตร ก็เท่ากับ 750 เมตร ผมปลูกผักชีอยู่ 3 ล๊อก ๆ ละ 3 แปลง ๆ ละ 150 เมตร
ล๊อกหนึ่ง ก็ 750 เมตร ก็เท่ากับ 750 x 3 เท่ากับ ต้องลากเรือรดน้ำ 2,250 เมตร ...2 กิโลเมตร กับอีก 250 เมตร ใช้เวลา
เกือบ ๆ หมดวันแล้ว ต้องทำทุก ๆ 5 วัน ขี้หักในแน่ ๆ แล้วยังค่าน้ำมันใส่เครื่องรดน้ำอีกครั้งละเท่าไหร่ ผมจึงจำเป็นต้องใช้เครื่องทุ่น
แรงแบบนี้แหละ ล๊อกหนึ่ง 150 เมตร แบ่งเป็น 2 โซน โซนหนึ่ง 75 เมตร ใช้เวลา 15 นาที 3 ล๊อก 6 โซน ใช้เวลาทั้งรดน้ำพร้อม
กับปุ๋ยและลากเครื่องไปสวมท่อส่งน้ำ เสียเวลากับหัวสปริงเกลอร์หลุดต้องเดินเข้าไปใส่บ้าง ประมาณไม่เกิน 200 นาทีหรือ 3 ชั่วโมง
เศษ ให้น้ำพอชุ่ม กับโชก ไม่ถึงแฉะกับแช่ ...ผมใช้หัวสปริงเกลอร์ หัวละ 3 บาท ไปซื้อถึงกำแพงแสน แต่ลุงคิมบอกว่า ของลุงใช้
หัวละ 2 บาท ซื้อที่ไหนไม่ยอมบอกแฮะ ไม่บอกไม่เป็นไร วันหน้าจะฝากลุงซื้อ….

แต่สวนผักชีใกล้ ๆ กัน เนื้อที่พอ ๆ กับของผม เค้าใช้เข็นเรือรดน้ำ กว่าจะรดหมดสวนแต่ละครั้งใช้เวลา 2 วัน ...ผมแนะนำให้เค้า
ทำอย่างผม เค้าบอกว่า ลงทุนสูง ข้าไม่รวยอย่างทิดนี่หว่า เอ๊า ว่าเข้าไปนั่น ..แต่ก็ไม่ ยักกะถามว่า ลงทุนทำอย่างผมมันซักแค่ไหน
แล้วค่าน้ำมันรดน้ำครั้งละ 2 วัน เครื่อง 5.5 แรง ใช้ไปเท่าไหร่ ลุงคิมก็พูดจนปากจะฉีกถึงใบหูว่า ลดต้นทุน ๆ ๆ ก็ต้องปล่อยให้ สัตว์
โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ครับ


15



16



17






18
ภาพ - 18 ด้านข้างคลุมเอียงลงมากว้างแค่ 2.00 เมตร ด้านล่างเปิดโล่ง ทั้งสองข้าง ให้ลมโกรก หลังจากคลุมซาแรน ติด
ระบบสปริงเกลอร์ เสร็จเรียบร้อย ก็เปิดน้ำรดดินให้ชุ่ม รุ่งขึ้นก็หว่านเมล็ดลงไป แล้วก็รอไปซักครึ่งเดือน มันก็จะงอกออกมาต้น
ยิบ ๆ เขียว ๆ พอไปอีกเกือบ ๆ เดือน ก็เป็นใบเบี้ย ....หลังจากหว่านเมล็ด ห้ามรดน้ำ เพราะเมล็ดที่ยังไม่งอกจะไหลไปตามน้ำ
และอาจไปรวมอยู่จุดใดจุดหนึ่ง เวลามันงอกก็จะแน่นเป็นกระจุกอยู่ตรงนั้น ..พอหว่านได้ซัก 7 วัน คนที่ใช้เรือรดน้ำ ก็สะพาย
ถังปุ๋ย สเปรย์น้ำ ของผมไม่ต้องแบกถังให้หนัก ใช้สปริงเกลอร์ ติดเครื่งยนต์เบาเครื่องไว้ก่อน พอน้ำออกหัวสปริงเกลอร์นิด ๆ
เร่งเครื่องยนต์ พรื่ด เดียว น้ำกระจายคลุมหมดทั้งโซน แล้วก็เบาดับเครื่อง





19
ภาพ - 19 หลังจากหว่านเมล็ดประมาณ เดือนครึ่ง เมล็ดขึ้นค่อนข้างหนา ผมคิดว่า หว่าน บาง ๆ แล้วนา ยังขึ้นมาหนาตึ๊ก จะสังเกตว่า
มีบางต้นใหญ่ บางต้นเล็ก บางต้นจิ๋ว ...เป็นสัจธรรมธรรมดาครับ เนื่องจากเมล็ดผักชีฝรั่ง เล็กจิ๋วมาก(เล็กกว่าขี้มอด)...เชื่อมั๊ยครับว่า
ถ้าจะขอเมล็ดพันธุ์ผักชีจากใครว่า ขอซักหน่อยนะ แล้วเอานิ้วโป้งกับนิ้วชี้หยิบขึ้นมาเรียกว่าหยิบมือเดียว เอาไปปลูกก็จะได้ต้นผักชี
ซัก ห้าหกสิบต้นเท่านั้นอย่างมากไม่เกินร้อย แต่ถ้าทำตามวิธีของ มะกะโท ในเรื่องพระร่วงนะ คือเอานิ้วกลาง(ยาวที่สุด) อมเข้าปาก
แล้วก็จุ้มลงในกองเมล็ดผักชี แล้วเอาเมล็ดที่ติดนิ้วขึ้นมาไปปลูก จะได้เกือบ ๆ 300 ต้นเผลอ ๆ จะถึง 400 ต้น ปลูกเก็บเมล็ด
ขยายพันธุ์ต่อ จะหว่านได้เป็นไร่

ตามที่ผมบอกไว้ข้างต้นว่า ตร.ม. หรือ ตร.วา มีความหมายต่อการใช้ปริมาณเมล็ดผักชีที่จะใช้หว่าน แต่ชาวสวนผักส่วนมากจะถนัด
แบบไทย ๆ มากว่า คือ ตร.วา อย่างของผมร่องละ 8 x 150 เมตร คือ 4 x 75 วา ก็เท่ากับ 300 ตร.วา ถ้าคนชอบให้ผักขึ้นหนา ก็
ใช้เมล็ดพันธุ์ 2 กก. ถ้าชอบกลาง ๆ ก็ใช้ 1.5 กก. ถ้ากำลังดีก็ใช้ 1 กก. ถ้าจะให้ขึ้นสวยละก็ใช้ 8 – 9 ขีดครับ นี่พูดถึงการหว่าน
ด้วยมือนะครับ....ผมกำลังคิดแบบบ้า ๆ อยู่ว่า จะทดลองใช้เครื่องพ่นยาชนิดที่ใช้หว่านข้าว หว่านปุ๋ย และพ่นน้ำได้ แล้วใช้เมล็ด
พันธุ์ซัก 5 ขีด ผสมน้ำ 20 ลิตร ผสมอินทรีย์นำเคมีเสริมลงไปด้วย ปรับท่อน้ำออกให้น้อยลงหน่อย แยกต่อท่อลมเล็ก ๆ เข้าถังอีก
ท่อหนึ่งลงไปเป่าน้ำในถังไม่ให้เมล็ดพันธุ์นอนก้น แล้วเดินจับเวลาพ่นในระยะ 150 เมตร ให้น้ำหมดถังพ่นพอดี ๆ ถ้าทำได้ เจ๋ง แจ่ม
แจ๋ว คือ จะประหยัดเมล็ดพันธุ์ลงได้แยะเลย เมล็ดจะขึ้นมา ซูเปอร์สวยด้วย คือไม่หนาไม่บาง

ทีนี้ ต้นจิ๋วคือ ต้นที่เกิดจากเมล็ดที่แข็งแรง(Good) ต้นเล็กคือต้นที่เกิดจากเมล็ดที่แข็งแรงกว่า(Better) และต้นใหญ่คือต้นที่เกิด
จากเมล็กที่แข็งแรงที่สุด(Best) ... แล้วไอ้ต้นที่เล็กกว่าต้นจิ๋วมีมั๊ย ..มีครับ จะเรียกว่าต้น จ๊อย ได้มั๊ยครับ ดูในรูป 19 ครับ
มีหลาย Size เลย ...ผักชีฝรั่งส่วนมากที่เห็นจะถอนได้ 3 ครั้ง แต่ถ้าดูแลดี ๆ บางสวนจะถอนได้ถึง 4-5 ครั้ง แต่ละครั้งชาวสวน
เรียกว่า ไฟล้ต์(Flight) คือ เที่ยวบิน ..ของเอ็งถอนกี่ ไฟล้ต์แล้ววะ ...ใช้ภาษาทันสมัยซะด้วย …ขอกระซิบ ถ้าใช้ปุ๋ยลุงคิมนะ อาจ
ได้ 6 – 7 Flight ซิบอกให่ (นอกจากไม่ได้ค่าโฆษณาแล้ว ยังเสียตังค์ซื้อปุ๋ยลุงอีกด้วย)


ผมต้องขออภัยที่คุยมาค่อนข้างยาว ก็เพื่อให้คนที่คิดอยากจะปลูกผักชีฝรั่งได้ทราบพอเป็นแนวทาง อย่าได้ถือเอาเป็นตำราว่า
แดง ศาลายา เค้าบอกมายังงี้ ไม่ใช่ครับ ผมกินอาหารรสเค็ม คุณกินรสหวาน อีกคนกินจืด อีกคนกินเผ็ด คนละเรื่องเดียวกันเลยครับ
ก็ขอจบรายงานการปลูกผักชีฝรั่ง ตอนที่ 1 ไว้แค่นี้ก่อน ยังมีต่อ ตอนที่ 2 นะครับ...จะมีใครเข้ามาอ่านมั๊ยครับเนี่ย ....ขอดู Rating
ก่อน ยังไง ๆ ก็อยากให้คุณที่ถามลุงคิมว่า อยากจะปลูกผักชีฝรั่ง น่ะ เอาเรื่องการปลูกผักชีไทยมาเล่าแจ้งแถลงไขบอกให้เพื่อน
สมาชิกฟังเป็นวิทยาทานบ้างซีครับ .ผิดถูกอย่างไร เดี๋ยวลุงคิม แก้ ให้เองแหละ ...ขอบคุณครับลุงคิม


ด้วยความนับถือ
แดง ศาลายา
(วัดมะเกลือ ถนนศาลายา – บางภาษี) นครปฐม




.

.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11555

ตอบตอบ: 19/01/2012 12:03 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ผักชีฝรั่ง - 2


19 มกราคม 2555
เรียน ลุงคิม ที่นับถือ


ในตอนที่ 1 ผมได้คุยเรื่องการปลูกผักชีฝรั่ง แบบชาวบ้าน ๆ ตั้งแต่เริ่มเตรียมแปลง จนถึงเมล็ดงอกขึ้นเป็นต้นไปแล้ว
คราวนี้ก็มาเล่าให้ฟังต่อ ขอให้ถือว่าเป็นการ คุย บอกเล่าสู่กันฟังแบบสบาย ๆ เท่าที่ผมพอจะรู้นะครับ ครูพักลักจำมา
จริง ๆ ต้องขออภัยต่อหลาย ๆ ท่านที่ชำนาญการและเก่งในเรื่องการปลูกผักชีฝรั่ง ที่เรียกว่า เซียนผักชี ไว้ ณ ที่นี้ด้วย ...
แต่ ไม่ว่าใครจะเก่งแค่ไหน ถ้า กก.ละ 80 ก็เสียงดังหน้าบาน ถ้า กก.ละ 60 ก็ยิ้มแป้น ถ้าลงมาถึง กก.ละ 50, 40 ก็
ยิ้มนิด ๆ ถ้า กก.ละ 30 ก็พอยิ้มได้ แต่ถ้าเหลือ กก.ละ 25 ก็ยิ้มไม่ออก แต่ถ้าใครเจอโรค ยอดบิด เข้าละก็ ต่อให้ บิดา
ของเซียน ก็หารอยยิ้มไม่เจอก็แล้วกัน

ความจริงนอกจากในรายการแล้ว ใน Web เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2555 ลุงคิมได้ตอบปัญหา อธิบายเรื่องการใช้ปุ๋ย พร้อม
กับบอกเรื่องการเกิดและการแก้ไข โรคและแมลงศัตรูผักชีฝรั่งไว้ชัดเจนแล้ว ผมก็คงต้องขอนำเอาคำแนะนำบางข้อที่ผม
ยังไม่เคยทำ นำเอาไปใช้ ก็ขอขอบคุณลุงคิมมา ณ ที่นี้ด้วย ...... มาดูจากรูปกันต่อเลยครับ





1
ภาพที่ - 1, และ ภาพที่ - 2 เป็นภาพเปรียบเทียบ กับ ภาพ -15 ในตอนที่ 1 หลังจากเวลาผ่านไปประมาณ 5 เดือน


2





3
ภาพที่ - 3, และภาพที่ - 4 เป็นภาพเปรียบเทียบ กับ ภาพ - 16 ในตอนที่ 1 หลังจากเวลาผ่านไปประมาณ 5 เดือน


4





5
ภาพที่ - 5, และภาพที่ - 6 เป็นภาพเปรียบเทียบ กับ ภาพ - 17 ในตอนที่ 1 หลังจากเวลาผ่านไป 5 เดือนเช่นกัน


6
จะสังเกตได้ว่า แปลงที่อยู่ตรงกลาง ซาแรนจะเปิดไปตามแนวยาว จะมีแสงแดดลอดส่องลงมา ครับ คือหลังจากฉีดพ่น
สารยืดให้ใบยาว และสารให้ต้นขยายขนาดแล้ว จำเป็นต้องเปิดเพื่อให้ผักร่องกลางได้รับแสง แสงจะกระจายไปถึงผัก
ร่องริมที่อยู่ ซ้าย และขวาด้านในด้วย เป็นวิธีการทำให้ใบผัก พุ่งเข้าหาแสง ใบจะตรง แข็ง(ไม่ใช่แข็งเป็กนะครับ เป็น
สรรพนามว่า ดูแล้วใบมันแข็ง) และเขียวเป็นมัน เก็บขาย พ่อค้าจะบอกว่า ผักของอีตาบ้านี่สวยจัง อันนี่เป็นเทคนิคที่ไม่
มีเซียนคนไหนใครเค้าบอกกันหรอกครับหรือเซียนอาจไม่รู้ก็ได้ เพราะเซียนสวนข้างเคียงยังบอกว่า ..เฮ้ย ไอ้ทิด ซาแรน
ของเอ็งเปิด แดดส่องเต็ม ๆ เลยว่ะ เดี๋ยวผักก็ใบไหม้หรอก ...ไม่เป็นไรน้า ให้มันอาบแดดมั่ง หารู้ไม่ว่า ข้าเปิดมันเอง
แหละ 555 (ฟังรายการลุงคิม มันได้ประโยชน์ ได้ความรู้ดียังงี้แหละ )





7
ภาพที่ - 7, และ - 8 เป็นภาพเปรียบเทียบ กับ ภาพ - 6 ในตอนที่ 1 หลังจากเวลาผ่านไปเกือบ 3 เดือน ผักจาก
เชียงรายเริ่มออกดอก ไม่ต้องสงสัยครับว่าทำไมออกดอกเร็ว เพราะว่า ผักจากเชียงราย ก่อนมาถึงผม มีอายุเกือบ
3 เดือน ต้นโตมาแล้ว ผมเอามา ดำ ปลูกเพื่อจะเก็บเมล็ดพันธุ์ พอบำรุงต้นให้ตั้งตัวได้เดือนเศษ ก็ใช้ปุ๋ยเร่งดอก ฉีดอัด
ลงไปเลย เมื่อช่อดอกออกมาแล้ว ต้นไหนช่อดี ยาว ดอกแยะสวยงามเข้าตากรรมการ ก็เก็บเอาไว้ ช่อไหนดูไม่ดี
ไม่เอาไหนก็เด็ดทิ้ง อัดปุ๋ยบำรุงต้นและปุ๋ยเร่งดอก พร้อมปุ๋ยทำให้ก้านดอกแข็งลงไป ฉีดพ่นเฉพาะจุด มันก็จะออกช่อ
ดอกมาใหม่ เอาจนได้ดีจนได้แหละ...ลุงคิมพูดเสมอว่าการเด็ดดอกไม่ดีทิ้ง เท่ากับการอั้นตาดอก พอออกมาใหม่ช่อมัน
จะใหญ่ ดอกแยะ ...ซึ่งป็นวิธีการคัดเมล็ดพันธุ์ให้ได้เมล็ดพันธุ์ที่ดีและแข็งแรงวิธีหนึ่ง ในหลาย ๆ วิธี ....คนอื่นทำอย่าง
ไรผมไม่ทราบ แต่ผมทำตามวิธีนี้ ....หรือใครจะใช้วิธีการซาดิสต์คือการทรมานต้นไม้ก็ได้ครับ


8





9
ภาพที่ - 9 ต้นนิดเดียว แต่ก้านดอกแข็ง และยาว ช่อดอกแตกแขนงแยะ เมล็ดก็จะ(น่าจะ)เยอะ ...ผักชีฝรั่ง กับผักชีไทย
ตั้งโอ๋ ปลูกด้วยกันก็ได้ครับ ไม่ต้องกลัวว่า รุ่นลูกออกมาจะเป็นผักชีหรือตั้งโอ๋ แปลกประหลาด ตามทฤษฎีของ เมนเดล คือ
เกสรดอกจะไม่ผสมพันธุ์กัน เพราะคนละ Species ไม่เหมือนคนไทยกับฝรั่งผสมกัน ออกมาเป็นลูกครึ่งผมแดง อันนี้ผม
ปลูกผักชีไทยแซมเอาไว้เพื่อใช้ใส่ต้มยำ ใส่ลาบ ใส่ยำ กับแกงจืด ...ถอนขายแม่ค้าลาบ พร้อมกับผักชีต้นเล็กก็มีบ้างละครับ





10
ภาพที่ - 10, - 11, และ - 12 เป็นการรดน้ำด้วย สปริงเกลอร์ เป็นผักในล๊อกที่ 1 โซน 1 กับโซน 2 เนื้อที่ประมาณ 2 ไร่
กว่า ใช้เวลารดน้ำ + ปุ๋ย ชุ่มโชก ทั้ง 2 โซนครั้งละ 30 นาที (โซนละ 15 นาที) ถ้าใช้ลากเรือรดน้ำ แค่ล๊อกเดียว 2 โซน
เดินไป เดินกลับ 5 เที่ยว ๆ ละ 150 เมตร รวม 750 เมตร ใช้เวลา น่าจะใช้เวลาเกินกว่า 2 ชั่วโมง นี่พูดถึงเดินลุยน้ำเข็นเรือ
รดน้ำท่อดูด 2 นิ้ว ท่อออก 2 นิ้วปลายท่อทำเป็นปากเป็ด ชนิดพ่นน้ำฝอย(สำหรับรดน้ำผัก)นะครับ ถ้าเดินลากสายยาง
แปลงละ 150 เมตร 3 แปลงละก็ เลิกกันเลย หมดแรงซะก่อน แล้วผักก็จะแบนราบเป็นหน้ากลอง

11

12





13
ภาพที่ - 13 พักเหนื่อย พักสายตากันนิดนึงครับ พอดี เจอภาพ เกิดปรากฎการณ์ รุ้งกินน้ำ เห็นว่าดูแล้วสบายตา สบายใจ
ก็เลยฝากมาให้ดูกันนะครับ จะเกี่ยวกับผักชีในแปลงหรือไม่ ถ้ามองผิวเผินอย่างชาวบ้าน ๆ ทั่วไป ก็ไม่เกี่ยว แต่มองตามที่
ฟังจากลุงคิม ผมว่า เกี่ยวครับ เกี่ยวแน่ ๆ การเกิดรุ้งกินน้ำ แสดงว่า วันนี้ความชื้นในอากาศสูง ไม่จำเป็นต้องรดน้ำ แต่ลุงคิม
บอกเสมอว่า ถ้าในอากาศมีความชื้นสูง ต้องใช้ โน่เอ๊ย โน่ร่า คือจะต้องพ่นยากันเชื้อรา กันเน่า แม่นบ่



14
ภาพที่ - 14, - 15, -และ – 16 ตอนเช้า ถอนผัก ระหว่างถอน เมื่อคนถอนมัดผักเป็นกำแล้วจะโยนโครมลงน้ำ และช่อดอก
ส่วนหนึ่ง คนถอนที่อยู่ริมร่องก็โยนลงน้ำทั้งสองข้าง คนอยู่หลังร่องก็ทิ้งไว้กลางร่อง ....หลังจากเก็บมัดผักขึ้นจากน้ำ ก็
จะเหลือช่อดอกที่เด็ดทิ้ง อยู่บนหลังร่องก็เยอะ อยู่ในน้ำก็แยะ ....ตกเย็น เจ้าของสวนตัวจริงกลับจากโรงเรียน ก็ต้องมา
ช่วยออกแรง เก็บช่อดอกทั้งบนหลังร่องและในน้ำออก เพราะหลังจากถอนผักวันนี้ ผักจะโดนเหยียบย่ำแบนแต๊ดแต๋ วันรุ่ง
ขึ้นต้องรดน้ำก็อย่าลืม + ปุ๋ยและยาสมุนไพรลงไปด้วย(พอได้น้ำ พร้อมปุ๋ยและยา ต้นจะตั้งขึ้นเอง) ถ้าทิ้งช่อดอกเอาไว้
ไม่เก็บออก พอได้น้ำมันก็จะเริ่มเน่า ช่อดอกยังอ่อน เน่าเร็วครับ ยิ่งถ้าได้น้ำ +ปุ๋ยชีวภาพด้วย ยิ่งเน่าเร็วเข้าไปใหญ่

เก็บออกหมดหรือไม่ ไม่หมดครับ จะมีหลงเหลืออยู่บ้าง พอตอนเช้ารดน้ำเสร็จ ตกบ่าย ถึงเย็นก็ต้อง ใช้สมุนไพรกันเชื้อ
ราใส่ เป้ ฉีดพ่น วันรุ่งขึ้นก็เดินดู พยายามเก็บช่อดอกที่เด็ดทิ้งออกให้มาก ที่สุด ก็เก็บโยนใส่เรือ ในภาพ -15 และ – 16
เอาไปทิ้งน่ะครับ หรือใครคิดจะเอาใส่เข่งแบก ก็ไม่ว่ากัน

ชาวสวนผักชีฝรั่งทั่วไป ...ในระหว่างการถอนผักแต่ละ Flight เค้าต้องเอาต้นใหญ่ ๆ ก่อน ส่วนดอกอ่อนจะเด็ดทิ้ง จนเหลือ
Flight สุดท้าย ต้นจะเล็ก ใบจะสั้น ขายไม่ได้แล้วนั่นแหละ ก็จะเอาไว้ดอกเพื่อเก็บเมล็ดพันธุ์ แล้วเมล็ดพันธุ์จากต้นในลักษณะ
นี้ จะให้ดีไปได้อย่างไรครับ เพราะต้นมันเหลือเดนแล้ว ต้นที่เกิดจากเมล็ดพันธุ์ในรุ่นต่อไป ต้นจะเล็กลง ใบจะสั้น และมันจะ
เกิดการกลายพันธุ์ คือมีการต่อยอด ขายไม่ได้ ต้องถอนทิ้ง บางสวนมีต่อยอดเป็นครึ่ง ๆ แปลง ....แต่เค้าจะอุบเงียบไม่
บอกใครหรอกครับ ขืนบอกมันเสียเชิงเซียนผัก ต้นใหญ่ ใบยาว ล่ะมีมั๊ย มีครับ 50/50 แต่ถ้าคัดเมล็ดพันธุ์ ก็จะได้
90/10 หรือ 80/20

การเก็บเมล็ดพันธุ์ของผม จะทำไม่เหมือนคนอื่น ๆ จะใช้วิธี คือ เมื่อถอน Flight ที่ 1 ที่ 2 หรือที่ 3 แล้ว ถ้าคิดว่าจะเอา
แปลงนี้เก็บเมล็ดทำพันธุ์ ก็พยายามจะไล่ถอนต้นเล็ก(ตกเกรด)ออก มัดกำส่งขายแม่ค้าขายยำ ขายลาบน้ำตก ราคาถูก
(กก.ละ 15-20 บาท) แม่ค้าลาบชอบ เจ้าละ 5 โล 10 โล ..ถอนเอง ทำเอง ไม่ต้องจ้าง จะเหลือแต่ต้นใหญ่ ๆ หลังแปลง
ก็จะโล่ง โปร่ง บางตา ดูในภาพที่ - 15 และ - 16 คือแปลงที่เห็นอยู่ด้านหลังสาวน้อย ที่เก็บเศษผักอยู่ในร่องน้ำครับ จะ
เห็นต้นเล็กเหลือน้อย มีแต่ต้นใหญ่ ๆ แปลงนี้ผมใช้เก็บเมล็ดพันธุ์ ซึ่งก็มีหลายวิธี คือ วิธีทรมานต้น, วิธีเด็ดช่อดอกสั้นทิ้ง,
วิธีตัดใบ, วิธีเดินตามตลาดสดต่างถิ่น มองหาผักต้นใหญ่ ๆ ซื้อเอามาดำปลูกแซม .. เมื่อออกดอก แมลง(ผึ้ง-มิ้ง)
จะช่วยผสมเกสร จากต้นนี้ไปต้นโน้น และ วิธีอื่น ๆ ... ฯลฯ แยะครับ....แล้วก็ น้ำผึ้งจากรังที่อยู่บริเวณต้นไม้รอบ ๆ แปลง
ผักชีฝรั่งนี่นะครับ กลิ่นมันแปลก บอกไม่ถูก

ผมแนะนำวิธีการเก็บเมล็ดพันธุ์แบบนี้ให้เพื่อนสนิทว่า ให้ทำตามแบบผมทำนี้ เค้าบอกว่า เสียดายต้นที่ยังใหญ่ยังถอนขาย
ได้หลายตังค์อยู่ แล้วก็ทำตามแบบเดิม ๆ ตามที่เค้าเคยทำ ...เรื่องทำนองนี้ สูตรใครก็สูตรใคร สอน บอกกันไม่มีใครเชื่อ .
แต่ละคนก็ว่ากูเก่ง ไว้เชิงกันทั้งนั้น ผมทำผักชีฝรั่งมาไม่นาน ชั่วโมงบินน้อย เพื่อนเค้าทำมาเป็นสิบปี แต่ก็ยังเห็นกู้ ธรณีกรรณ
แสง ทุกปี ..ขนาดว่าบางคน ซื้อยา ซื้อปุ๋ยมาใช้ ยังฉีกป้ายชื่อออก เปลี่ยนขวด ไม่ให้ใครรู้ เรื่องนี้ลุงเคยพูดออกอากาศมา
แล้ว มีจริง ๆ ครับ ผมเคยเห็นเค้าเอายาอะไรไม่รู้ (ความจริงรู้ครับ) ผสมเพื่อฉีดแมลงหวี่ขาว ขวดลิตรละ 1,200 ใส่ลงใน
น้ำ น้ำขาวยังกะน้ำนม ฉีดแล้วกลิ่นเหม็นตลบอบอวลไปทั่ว ...ตกดึก ได้ยินเสียง โอ๊ก ๆๆๆ ..ผมนึกว่าจะได้กินข้าวต้ม ตอน
พระสวดจบที่ 3 ซะแล้ว แต่ก็เห็นนอนซมไปหลายวัน


15

16



17
ภาพ – 17 แปลงนี้(ผมจำเป็นต้อง)ใช้เมล็ดพันธุ์เชียงใหม่ปลูกนครปฐม ครับ มันเป็นกฎที่ใครตั้งไว้ก็ไม่ทราบว่า ถ้าคุณ
จะปลูกไอ้นี่ ส่งพ่อค้าคนนี้ คุณต้องซื้อเมล็ดพันธุ์นั้น ๆ จากพ่อค้าคนนี้ก่อน ไม่อย่างนั้นเค้าจะไม่รับซื้อผักของคุณ นอกจาก
ว่า คุณจะมีรถวิ่งส่งผักเอง ..ตลาดนครปฐม, ตลาดสี่มุมเมือง, ปากคลองตลาด ...ปลูกผักชีฝรั่งต้องใช้เมล็ดไอ้จุ้น หรือไอ้เว้ง ,
ปลูกโอ๋ต้องใช้เมล็ดไอ้ตี๋เล็ก หรือไอ้เว้ง , ปลูกพุดซ้อนตัดกิ่ง ต้องใช้กิ่งพันธุ์ตาเปี๊ยก …หลังจากรุ่นต่อไปคุณมีเมล็ดพันธุ์
เองแล้วก็ไม่ต้อง ทีนี้ก็จะซื้อกันเองระหว่างคนปลูก ...ณ สามแยกปากหมา ศาลาตอแหล๋(ศาลาประชาคมหมู่บ้าน ที่ชุมนุมเจ้า
ยุทธจักร) เฮ้ย ผักยายแจ่มปากหมาต้นสวยว่ะ ..คนก็แห่ไปจองเมล็ดยายแจ่ม ..ผักใครดีคนก็แห่จองเมล็ดคนนั้น

เมล็ดผักของผมรุ่นแรก จึงใช้เมล็ดพันธุ์จากทั้ง ไอ้จุ่น ไอ้เว้ง และไอ้ตี๋ ...ถึงเวลาถอน ทั้งสามคนเบี้ยวผมไม่ได้ก็แล้วกัน ใคร
ซื้อจากคนเดียวก็โง่ พันธุ์ผักจากเชียงใหม่นครปฐม จะเห็นใบยาวก็จริง แต่ต้นมันจะเล็ก(เบากิโล)อันนี้เกิดจากการเก็บเมล็ดพันธุ์
ที่ผ่านการปลูกมาหลาย Generation ส่วนช่อดอกที่เด็ดกองอยู่ระเกะระกะ ทั่วไปหมด หลังจากการถอนผัก ต้องพยายามเก็บ
ออกทิ้งครับ ปล่อยเอาไว้เวลารดน้ำมันจะเริ่มเน่า




18
ภาพ – 18 แปลงนี้เป็นเมล็ดพันธุ์ที่ได้จากการเอาต้นจากเชียงรายมาปลูกที่นครปฐม 20 กก. เก็บเมล็ดรุ่นแรกได้
ก็เอาปลูกเพื่อเก็บเมล็ดพันธุ์ต่อ ใบกว้างและยาว ดูตั้งแข็ง เขียวเป็นมัน แต่ต้นไม่ใหญ่เท่าที่ควร หัวแม่มือขึ้น ไม่ถึงหัวแม่เท้..
เนื่องมาจาก น้ำ อากาศและดินครับ (ผมเคยไปหาน้องชายที่เชียงราย น้ำอาบแล้วจะออกลื่น ๆ เหมือนจะล้างสบู่ออกไม่หมด
แต่ผิวเนียนนุ่ม นักวิชาการบอกว่าเป็นน้ำแร่ ผ่านเครื่องกรองแล้วแทบไม่มีตะกอน แต่น้ำที่นครปฐม คงไม่ใช่น้ำแร่ เพราะ
อาบแล้ว คราบสบู่ออกขาวเลยครับ) ต้นในรูปยังไม่แก่เท่าที่ควร จึงพยายามอั้นตาดอกไว้ และคอยเด็ดช่อดอกทิ้ง ใบเขียว
เป็นมัน โรค แมลงไม่มีรบกวน



ทีนี้ก็มาถึงเรื่องของ โรค แมลง ศัตรูของผักชีฝรั่งมีมั๊ย มีแยะเลย

โรค คือ ไฟลามทุ่ง - คืออาการโคนเน่าเละ ลุกลามไปทั่วอย่างรวดเร็ว คืนเดียวกินวงกว้างเกือบเมตร น่าจะเกิดจากแบคทีเรีย
การแก้เบื้องต้น ชาวสวนทั่วไปใช้ ไวตาแว็กซ์ เป็นผง กระปุกละ 1,000 ของผมใช้เป็นการทำนอกกตำรา คือ ใส่ถุงมือยาง
กอบโกยออกใส่ถุงก๊อปแก็บ เอาไปเผาพร้อมถุงมือ ล้างมือบนพื้นแห้ง ล้างด้วยแอลกอฮอล์อีกครั้ง แล้ว เอาแป้งมองเล่ยะ
ผสมกับน้ำปูนแดง ฉีดพ่นบริเวณนั้น แล้วงดให้น้ำตรงจุดนั้นปล่อยให้แห้ง แล้วพ่นซ้ำ 2 – 3 ครั้ง แล้วก็ถอนต้นบริเวณรอบ ๆ ที่
เป็นออก อย่าเสียดาย จะกลายเป็นเสียน้อยเสียยาก ....แต่ในหมู่คน ย่อมมี ผู้ไม่ประสงค์ดี ของกูเสีย มึงต้องเสียด้วย คือ
เมื่อกอบเอาที่เน่าละออก ก็เอาทิ้งลงคลอง ครับ เชื้อมันก็แพร่กระจายไปตามสายชล ....สาธุ สัพเพสัตตา ...ปลูกมะม่วง
ย่อมได้กินมะม่วง จะได้กินลิ้นจี่หรือองุ่นหาได้ไม่ ฉันใด ก็ฉันนั้น กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นย่อมคืนสนองผู้กระทำ กรรม เวร
ย่อมระงับด้วยการทำเวร ถ้าไม่ทำเวรโดนครูตี

ต่อไปก็ โรคใบเน่าเป็นจุด แล้วจะเกิดเป็นราเม็ดผักกาดรอบจุดดำ มันจะลุกลามเร็วดีเหมือนกัน ต้องงดให้น้ำแล้วใช้วิธีตัดใบ
ใส่ถุงออกเผาทิ้ง หาสมุนไพรรสขม ๆ มาต้ม พอน้ำที่ต้มเย็น ก็เอาผสมกับน้ำสะอาด น้ำยาขม 80 ส่วน+ น้ำสะอาด 20 ส่วน
เอาฉีดพ่นบริเวณที่เป็น

ต่อไปก็ แมลงหวี่ขาว, เพลี้ยไฟ, ไรแดงหรือแมงมุมแดง ....ทำตามลุงคิมบอกคือ รดน้ำตอนเที่ยง แล้วก็ใช้เครื่องต้มยำ ..
พริก ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด ขมิ้นชัน ทุบ ตำ แล้ว ต้ม เอาน้ำที่ได้มาผสมน้ำปรับสภาพน้ำด้วยน้ำส้มสายชู เอาการบูร ผสมลง
ไปนิดหน่อยเพื่อเอากลิ่น ฉีดพ่นช่วยไล่แมลงไปด้วย

สำหรับแมลงหวี่ขาว เพลี้ยไฟ ไรแดงหรือแมงมุมแดง ถ้าลงมากหรือมีต้นที่เป็นมากยากจะแก้ ให้ถอนต้นทิ้ง เอาใส่ถุง เอา
แอลกอฮอล์ใส่ถุง เอาไปเผา พรึ่บ เรียบร้อย แต่มันก็มี ชีวภัณฑ์กำจัดศัตรูพืช ชื่อ บูเวริน ชื่อสามัญ บูเวเรีย บัสเซียน่า อันนี้
เค้าใช้ฉีดพ่นป้องกันแมลงหวี่ขาวในใบหม่อน ไปขอได้ที่เกษตรอำเภอฟรีครับ

ก็ยังมีโรคร้ายแรงอีกอย่างคือ โรคยอดบิด ลุกลามดีเหมือนกัน ผักจะขายไม่ได้เลย ยังหาสาเหตุไม่ได้ นักวิชาการบอกว่า เกิด
จากไวรัส ยังไม่มียาแก้ แล้วก็ยังไม่คิดจะหาวิธีแก้ ผมก็ต้องหาทางแก้เอาเอง เอาแอลกอฮอล์ล้างแผล ผสมน้ำยาบ้วนปาก
แล้วก็ ไฮโรเย่นเปอร์ออกไซด์ที่ล้างแผลแล้วเป็นฟองฟู่ ฉีดพ่นให้ต้นเหี่ยว แล้วถอนเอาไปเผาทิ้ง ใส่ถุงมือยางด้วยนะครับ แล้ว
ก็อย่าไปจับต้นที่ยอดไม่บิดเป็นอันขาด

ศัตรูอย่างอื่น ๆ อาจจะมีในท้องที่อื่น มีอะไรบ้าง ดูใน Web ที่ลุงคิมตอบเมื่อวันที่ 14 มกราคม 2555 นะครับ แต่เท่าที่ผม
เคยเจอมาแถวนครปฐมก็มีเท่าที่บอก ...ก็ขอจบการปลูกผักชีฝรั่ง ตอนที่ 2 ลงแค่นี้ ...ยังมีต่อตอนที่ 3 การเก็บเมล็ดพันธุ์ ...
ถ้าสนใจก็คอยติดตาม ขอบคุณครับ


ด้วยความนับถือ
แดง ศาลายา
(วัดมะเกลือ ถนนศาลายา – บางภาษี) นครปฐม






.[youtube][/youtube]
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11555

ตอบตอบ: 23/01/2012 8:36 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ผักชีฝรั่ง - 3


26 มกราคม 2555
เรียน ลุงคิม ที่นับถือ
ปลูกผักชีฝรั่ง ตอนที่ 3 ว่าด้วยการเก็บเมล็ดพันธุ์

ผมได้คุยเรื่องการปลูกผักชีฝรั่งมา 2 ตอน ตั้งแต่เริ่มเตรียมแปลงปลูกจนถึงวันเก็บ
ผลผลิต ตามด้วยโรคและแมลงศัตรูผักชีฝรั่ง พร้อมด้วยสิ่งละอันพันละน้อย ซึ่ง
บางอย่างไม่มีในตำรา เพราะ สภาพแวดล้อมของแต่ละพื้นที่แตกต่างกัน คราวนี้ก็จะ
ขอคุยต่อเป็นตอนที่ 3 ว่าด้วยการเก็บเมล็ดพันธุ์

เมล็ดของผักชีฝรั่งมีขนาดเล็กมาก เล็กจิ๊ดเดียว ขนาดประมาณ 1/2 มม. เห็นจะได้ เล็กกว่าขี้มอดซะอีก ไม่น่าจะงอกออกมาเป็น
ต้นใหญ่เบ้อเริ่มเทิ่มได้เลย แบบเดียวกับต้นโอ๊ค กับต้นสัก เมล็ดนี๊ดเดียวแต่งอกเป็นต้นแล้ว ใหญ่โตมโหฬาร

การเก็บเมล็ดพันธุ์ เริ่มด้วยการหักช่อดอก บางคนใช้มีดเล็ก ๆ ตัด ผมว่าช้าและเสียเวลา ไม่ทันใจวัยโจ๋อย่างผม ผมถนัดมือขวา
ก็จะใช้ เอานิ้วชี้ กับนิ้วกลางมือขวา หนีบไปที่ ค่อนลงมาทางโคนช่อดอก บิดมือ แล้วกระตุกเข้าหาตัว ปึ๊ด ช่อดอกก็จะขาดออก
จากต้น หนังจีนเรียกว่า แค่พลิกฝ่ามืออะไรทำนองนั้น แล้วก็บรรจุ(ยัด)ลงในกระสอบปุ๋ยที่ค่อนข้างสะอาดและแห้ง อธิบาย
ยาก ต้องลองทำดูเอง บางคนก็ใช้เล็บนิ้วหัวแม่มือ กับนิ้วชี้ กดไปที่ก้านดอกแล้วก็บิด แต่ทำไปนาน ๆ จะเจ็บหัวแม่มือ ก็แล้วแต่ใคร
ถนัดอย่างไร ก็ทำอย่างนั้นครับ เวลาจะเก็บเมล็ด คนอื่นผมไม่ทราบ แต่ก่อนเก็บเมล็ด ผมจะงด ไม่รดน้ำผัก 1 วัน พอ 8 โมงเช้า
ก็เริ่มลุย พอประมาณ 10 โมงกว่า ๆ ก็หยุด เวลาประมาณ 2 ชม. คนหนึ่งก็น่าจะได้ 5-6 กระสอบปุ๋ย

ตอนบ่าย ถ้าจะเก็บต้องใช้มีดตัด เพราะก้านมันจะเหนียว การใช้มีดตัด แต่ละคนก็มีเทค นิดในการใช้มีดไม่เหมือนกัน ใช้มีดบางขนาด
กลาง ๆ ที่ด้ามทำด้วยไม้ จะกำถนัดมือที่สุด บางคนถนัดคว่ำมีด บางคนถนัดหงายมีด ใช้นิ้ว กลาง นาง ก้อย กำด้ามมีด ให้คมมีดโผล่
ระหว่างนิ้วโป้งกับนิ้วชี้ เสียบไปที่ก้านแล้วก็บิดข้อมือ จะบิดเข้า หรือบิดออก ก็อยู่ที่การกำมีดว่าหงายหรือคว่ำ ต้องลองทำดูครับ อย่างไร
ก็ตาม มีดต้องคมกริบ

การเลือกช่อดอกที่จะเด็ด ...วิธีการของคนอื่น ผมไม่ทราบ แต่ที่ผมทำเป็นวิธีการของผมเอง ยึดถือเป็นตำราไม่ได้นะครับ อย่างไรก็ตาม
ลุงคิมพูดอยู่เสมอว่า การอธิบายเรื่องการเกษตร พูดสั้น ๆ จะไม่รู้เรื่อง ฉะนั้น ผมขอร่ายยาว ไม่ว่ากันนะครับ ดูจากรูปกันเลย





1
ภาพ – 1 ไม่มีคำอธิบาย น้องชายของผม มันปลูกข้าวหอมที่เชียงราย มันค้นเจอในเน็ตลุงคิม แล้วส่งมาให้ผมอีกที น้องมันบอกว่า ที่ปลูก
ข้าวครั้งแรกได้กินข้าว ก็เพราะ บอร์ดอันนี้แหละ ทั้งผมและน้องชาย ถือเป็นของสูงค่า เป็นคำสอน ถือเป็นครู ผมขอคารวะ ขอบูชา ด้วย
ความจริงใจครับ (ตอนนี้ไม่มีหญ้าแพรก แทรกดอกมะเขือ – หญ้าแพรกจมน้ำแต่ไม่ตาย น้ำลดคงจะงอกครับ แต่มะเขือ ตายหมดแล้ว )....




2
ภาพ - 2 ให้ดูว่า ช่อดอกที่ ดอกที่โคนก้าน ออกสีเหลืองกระดังงา ประมาณ 1 ใน 3 ของก้านช่อ ก็ถือว่าใช้ได้แล้ว อย่าปล่อยให้ดอกโดน
ก้านออกสีดำ เมล็ดจะแก่เกินแกง เมล็ดบริเวณโคนก้านจะร่วงหมด เหลือแต่ตรงกลางกับส่วนปลาย ..เคยได้ยินคำว่า เมล็ดจะไม่แรง มั๊ย
ครับ เมล็ดบริเวณโคนก้านคือเมล็ดที่มี % การงอกค่อนข้างดีที่สุด ชาวสวนเรียกว่า เมล็ดมันแรง

เนื่องจากเมล็ดผักชีจะแก่จากโคนก้านไปปลายก้าน การแก่ของเมล็ดจึงไม่เท่าเทียมกัน ผมจะแบ่งช่อดอกเป็น 3 ส่วน ส่วนโคน 1 ใน 3 ส่วน
กลาง 2 ใน 3 และที่เหลือคือ ส่วนปลาย ให้ย้อนไปดู ภาพ - 19 ในตอนที่ 1 จะเห็นที่ผมบอกว่า เมล็ดที่งอก มีทั้ง ต้นเล็ก ต้นกลาง ต้น
ใหญ่ (Good, Better, Best) ต้นใหญ่คือเมล็ดที่งอกจาก ส่วนโคนช่อดอก เมล็ดบริเวณนี้ถือว่า เมล็ดแรงที่สุด ต้นขนาดกลางคือเมล็ดที่
งอกจาก ส่วนกลางช่อดอก และต้นเล็กก็จะงอกจากเมล็ดที่อยู่ส่วนปลายช่อดอก แต่ก็ไม่แน่เสมอไป มันก็มีทางเป็นไปได้ว่า เมล็ดที่งอกจาก
ส่วนกลางและส่วนปลายช่อดอกอาจต้นใหญ่กว่าเมล็ดที่งอกจากส่วนโคน ขึ้นอยู่กับตัวที่ควบคุมการเจริญเติบโต ที่เรียกว่า ยีน น่ะครับ แต่จะ
เป็น ยีน ยี่ห้ออะไร ผมไม่ทราบครับ

เมื่อเด็ดก้านช่อดอกอัดใส่กระสอบมาแล้ว ชาวสวนส่วนมาก จะหาผ้าใบหรือผ้าพลาสติกหนา ๆ ปูกลางแดด เอาช่อดอกผักชี เทจากกระ
สอบออกตากแดดทันที แค่วันเดียวช่อดอกแห้ง 50 % ทำให้เมล็ดตรงส่วนกลางและส่วนปลายช่อดอกก็จะไม่แก่เต็มที่ จากประสบการณ์
ผมขอแนะนำว่า อย่าเพิ่งเอาออกตากแดด ให้เก็บเอาไว้ในกระสอบปุ๋ย บ่ม ไว้ซักคืนนึง ทั้งนี้ก็เพื่อที่ว่า ชั่วคืนเดียว เมล็ดที่อยู่ตรงกลางในส่วน
ที่ 2 มันจะแก่ ขึ้นอย่างน้อยก็ 80 %+ และเมล็ดที่อยู่ส่วนปลายช่อก็จะแก่ขึ้นประมาณ 65 – 75 % ซึ่งเป็นเรื่องแปลก ผมก็อธิบายไม่
ได้ว่าเพราะอะไร อาจเป็นเพราะสัญชาตญาณ ของพืชและสัตว์ในการขยายพันธุ์ มั๊ง

ถ้าเราปลูกในพื้นที่น้อย ๆ เมื่อเทช่อดอกออกจากกระสอบ เราก็จะเคาะ ๆ หรือบี้ เมล็ดบริเวณโคนก้านช่อดอกนี้เพื่อให้เมล็ดมันร่วงลงมา
(ในภาชนะที่รองรับ – กะละมัง ) เสียเวลาหน่อยแต่จะได้เมล็ดพันธุ์ที่ Best of the Best คือแข็งแรง และดีที่สุด และถ้าเราแยกเมล็ด
พันธุ์ส่วนนี้เก็บได้มากพอ เอาแบ่งขาย รับรองว่า ปีหน้า หมอไม่รับเย็บ เอ๊ยไม่ใช่ครับ ปีหน้าจะมีคนมาสั่งจองเมล็ดพันธุ์เพียบก็แล้วกัน
ราคา กก.ละจาก 3,500 อาจจะเป็น 4,500 – 5,000 หลังน้ำท่วมปีนี้ น่าจะถึง กก.ละ 6,000 (ปลูกผักชีไทยน่ะดีแล้ว)




3
ภาพที่ - 3 หาผ้ายางปูแล้วเอาเมล็ดพันธุ์ออกตากแดด ห้ามใช้แผ่นสังกะสี หรือแผ่นโลหะปูรองนะครับ มันร้อนเกินไป จะกลายเป็นการ
คั่วเมล็ด




4
ภาพที่ – 4 หลังจากที่ตากซัก 3 แดด ช่อดอกจากเขียว จะกลายเป็นสีดำแบบนี้แหละ ตกบ่ายแก่ ๆ ขณะที่ช่อดอกกำลัง กรอบ ก็ขึ้น
ย่ำ(นวด)ได้เลย แต่ถ้าคิดว่าจะเก็บค้างคืนเอาไว้นวดตอนเช้า ก้านมันจะนิ่ม นวดไม่ดีครับ เวลานวดก็ใช้ผ้ายางปูรอง แล้วก็สรวมรองเท้าบูท
ขึ้นย่ำได้เลย งานจิ๊บจ๊อย แค่นี้ เด็ก ๆ ก็ทำได้ เค้าเรียกว่าเป็นการนวดเมล็ดครับ ย่ำซะพักเดียว ก้านดอกก็จะแหลกแยกส่วนทั้งเมล็ดและ
ก้านปนกัน เมล็ดก็ร่วงออกมา แต่ผมเคยเห็นบางคน ใช้เท้าเปล่าขึ้นลุยเลย ปลายแหลมของดอกไม่ยักตำแฮะ หนังเท้าคงจะหนามาก




5
ภาพ - 5 ย่ำเสร็จ เราก็สง ๆ เขย่า ๆ แยกเอาก้านออกมา ใส่ กะละมังไว้ก่อน อย่าเพิ่งทิ้ง เมล็ดยังไม่หมดครับ




6
ภาพ - 6 ก็เอามุ้งเขียววางบนปากกะละมังอีกใบ เอาเมล็ดที่เราย่ำและสงเอาไว้มาร่อน เมล็ดก็จะร่วง ลงในกะละมัง ส่วนเป็นเศษผงและ
ช่อดอกจะอยู่บนมุ้งเขียว





7
ภาพ - 7 เอาเศษก้าน และเศษผง ตากแดดซะอีกวัน เพื่อให้มันแห้งอีกหน่อย แล้วก็มาย่ำ แล้วก็ร่อน ตามที่กล่าวข้างต้นอีกรอบ ก็จะเหลือ
ก้าน (กะละมังด้านใน) เศษก้านและฝุ่น (กะละมังใหญ่) และ เมล็ด(กะละมังเล็กสีไข่ไก่)

ส่วนก้านท่อนใหญ่ ๆ บางคนเค้าเอาเก็บใส่กระสอบไว้ เพื่อว่า ในการหว่านเมล็ดคราวหน้า ก็จะเอาเศษก้านนี้หว่านไปด้วย มันก็จะมีต้นงอกขึ้น
มาจากก้านส่วนนี้ไม่น้อยเหมือนกัน แล้วก้านจะไม่เน่าหรือ ไม่เน่าครับ เพราะจะใช้น้ำหมักชีวภาพ ผสมน้ำใส่ฝักบัวรด ไม่กี่ครั้งมันก็ย่อยสลาย
กลายเป็นปุ๋ยไปเอง




8
ภาพ – 8 หลังจากร่อนแล้วเราก็จะได้เมล็ด(ในกะละมังสีไข่ไก่) และฝุ่น (ในกะละมังใหญ่) ส่วนเศษก้านแยกออกไปแล้วครับ




9
ภาพ - 9 เอาพัดลมเปิดเบอร์เบาสุด ตั้งห่างพอประมาณ หันพัดลมมาทางกะละมัง กอบเมล็ดขึ้นโปรย ลมจะพัดเอาส่วนที่เป็นฝุ่นและละออง
ปลิวออกไป เหลือแต่เมล็ด ...จากก้านช่อ 3 กระสอบปุ๋ย ก็ได้เมล็ดขีดกว่า ๆ แค่นี้เอง...ถ้าจะให้ได้ถึง 10 ขีด หรือ 1 กก. คงต้องเก็บ
ก้านช่อดอกราว ๆ 30 – 40 อาจถึง 50 กระสอบปุ๋ย ….การแยกฝุ่นออกจากเมล็ดพันธุ์ บางคนใช้กระด้งฝัดข้าว ฝัดเอาฝุ่นและเศษผงออก
ใครถนัดอย่างไรใช้อย่างนั้น ไม่ว่ากันครับ

ทั้งหมดก็เป็นการเก็บเมล็ดพันธุ์โดยไม่แยก ดอกโคน ดอกกลาง และดอกปลาย ซึ่งก็มีเหตุผลละครับว่า เวลาปลูกก็ให้มันขึ้นปนกันทั้งเล็ก
กลาง ใหญ่ ถอนได้หลายรุ่น ...แม่ค้า สี่มุมเมืองชอบต้นใหญ่ ก็ถอนต้นใหญ่ แม่ค้า คอนถม ชอบกลาง ๆ ก็ถอนกลาง ๆ แอบแทรกและ
แซมต้นเล็กไปด้วยอันนี้ขึ้นอยู่กับฝีมือคนกำผัก บางคนกำผักได้สวยและเนียนมาก และแม่ค้าตลาดนัด แม่ค้าลาบ ส้มตำ ยำ ต้มแซ่บ ชอบ
เล็ก ก็ถอนเล็กให้ไม่ว่ากัน

ทีนี้ สำหรับต้นพันธุ์ ที่หักช่อดอกแล้ว ชาวสวนเซียนผักทั้งหลายก็จะปล่อยทิ้ง บ้างก็เอายาฆ่าหญ้าฉีดทิ้ง ให้มันตาย เพื่อเตรียมแปลงปลูก
รุ่นใหม่ แต่สำหรับผม บอกแล้วว่าต้องประหยัด และต้องให้ได้ผลคุ้มค่า แล้วอีกอย่างเมล็ดพันธุ์มันแพง ก็เลยคิดว่า มันน่าจะมีวิธีที่จะทำให้
ต้นที่เราเด็ดช่อดอกออกแล้ว มันออกดอกเป็นรอบที่ 2 ได้ ทำได้ครับทำได้ และอาจจะได้เมล็ดพันธุ์ที่ดีด้วย

หลังจากเราเด็ดช่อดอกออกแล้ว ต้นมันยังไม่ตาย ผักชีฝรั่งตายยากครับ ถ้าปล่อยไว้สักระยะ มันจะแตกยอดอ่อน แบบผักคาน้าที่เขาตัดต้น
ใหญ่ออกแล้ว มันจะออกเป็นต้นเล็ก ๆ เรียกว่า ยอดผัก ทำราดหน้ายอดผักนั่นและครับ และยอดผักคาน้ารุ่นนี้ นี่กินได้สนิทใจเพราะเค้า
ไม่ฉีดสารเคมี สำหรับผักชีฝรั่ง ที่เด็ดช่อดอกออกแล้ว เราก็เดิน(ความจริงนั่งยอง ๆ หาม้ารองก้นด้วยนะ ไม่งั้นกว่าจะสุดร่อง เมื่อยตายโหง)
ไล่ตัดต้นใหญ่ ๆ เอาใบออกเหลือแต่ตอ และเพื่อไม่ให้เสียเวลา ก็ถอนหญ้าทิ้งไปด้วย เสร็จแล้วยังไม่ต้องรดน้ำ ปล่อยทิ้งไว้ซัก ให้แผล
แห้งซัก 2 วันจึงรดน้ำพร้อมปุ๋ยเร่งต้นเร่งดอก แล้วก็ปล่อยทิ้ง อีก 5 วันทำใหม่ ทำ 3 ครั้ง มันจะเริ่ม ไม่แตกยอดก็ออกดอก ต้นไหนแตก
ยอด ตัดทิ้ง ต้นไหนแตกดอก เอาไว้ วิธีการก็ทำคล้าย ๆ กับทำข้าวตอซัง

ประมาณ 20 – 30 วัน ก็จะเห็นละว่า ต้นไหนช่อดอกใหญ่ ก็เก็บเป็นพันธุ์รุ่น 2 ได้อีกครั้ง ต้นไหนดูไม่เข้าตากรรมการ ถอนทิ้งไป ขณะ
เดียวกัน ถ้าจะหว่านผักรุ่นใหม่ก็ทำได้เลย โดยไม่ต้องตีดิน และตากดิน เพียงแต่เปิด ซาแรนออก ให้ดินได้รับแสงแดดบ้าง พร้อมกับ
ใช้ อินทรีย์นำเคมีเสริม + น้ำหมักสมุนไพร ใส่เป้ 20 ลิตร เดินพ่นลงดินตนเย็น ร่องยาว 150 เมตร 1 เป้ รุ่งขึ้นก็รดน้ำแว๊บเดียวพอดินเปียก
แล้วปล่อยไม่ต้องรดน้ำอีก หาวันเหมาะ ให้ดี ว่าจะหว่านวันไหน แล้วจะถอนผัก Flight แรกวันไหนถึงจะได้ราคาดี ก็หว่านไปเลย ก่อน
จะหว่านก็เดินปิด ซาแรนซะก่อน หว่านแล้วก็รดน้ำ พอดินเปียกชื้น อย่าให้ดินโชก ถ้ารดโชกเมล็ดจะไหลตามน้ำไปหมด ปล่อยให้ดินแห้ง
แตกระแหงตามรูป - 19 ในตอนที่ 1 ...เทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ แบบนี้ ไปถามชาวสวนหรือเจ้าของสวนผักชีให้ตายก็ไม่มีใครเค้าบอกกัน
หรอกครับ อยากได้วิชา ต้องใช้ หูผี จมูกมด ตาเหยี่ยว นิ้วก้อยนำตามด้วยปากน้ำเชื่อม แล้วก็สัมผัสที่หก บางครั้งอยากได้วิชาต้องยอม
เสียผี เอ๊ยไม่ใช่ ยอมเสีย ช้าง สิงห์ กระทิง อาจตามด้วยแร่ด(มะม่วง) ...ครับทุกอย่างเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ ครับ

ผมลืมบอกไว้ในตอนที่ 2 เกี่ยวกับศัตรูผักชีฝรั่งอีกอย่าง คือ หญ้าในแปลงผัก ก็มีไม่น้อยนะครับ ผักแว่น ผักปอด บัวบก ผักบุ้งทั้งยอดแดง
และยอดขาว กกต้นเล็ก ๆ ฯลฯ มีสารพัดหญ้า ถ้าเจอผักเสี้ยนผีเข้าละก็ หนามตำปวดดีไม่หยอกเลยครับ และหญ้าที่ปราบยากอีกอย่างคือ
แห้วหมูครับ แม่ผมเคยบอกว่า แห้วหมู เอาหัวมาต้มถึง 7 ครั้ง เอาไปปลูกยังขึ้นเป็นต้นได้ ความจริงมันไม่ขึ้นหรอกครับ ท่านเปรียบให้ฟัง
ความจริงคือ รากแห้วหมูที่เราดึงออกไม่หมด ไม่ช้าไม่นาน มันจะงอกเป็นต้นเล็ก ๆ น่ารักน่าเอ็นดู มันจะงอกขึ้นมาเป็นกระจุก แล้วเมล็ด
จากดอกแห้วหมูที่ยังไม่แก่ ก็สามารถงอกได้ เหมือนข้าวดีดละครับ ขนาดว่าเมล็ดเป็นแค่น้ำนม ตัดหรือถอนเอาวางไว้บนคันนา ยังงอก
ได้เลย





10
ภาพ – 10 กกต้นเล็ก สูงประมาณศอกแขน ดูในรูปนี้ครับ ...ผมเคยถอนออกแล้วเอาใส่กระถางขนาด 12 นิ้ว เอาดินก้นร่องใส่ เอา
กกลงปลูก ตั้งไว้ดูเล่นบริเวณบ้าน ประมาณ 30 กว่ากระถางตั้งทิ้งไว้เป็นเดือนจนหน้าดินแห้ง ไม่เคยรดน้ำมันก็ไม่เหี่ยว มีคนกรุงเทพฯ
ขับรถปิ๊คอัพผ่านมาเที่ยว เกิดชอบใจจอดรถ ถามว่าต้นอะไร สวยดี ก็บอกว่า ต้นกก เค้าก็ถามว่า ขายไม๊ ต้นเท่าไหร่ ก็บอกว่าไม่ขายอยาก
ได้ให้ฟรี แต่ขอค่ากระถาง ใบละ 20 (กระถาง 12 นิ้ว ซื้อปลีก ใบละ20 ซื้อ 50 ใบ เหลือใบละ 18 ซื้อ 100 ใบเหลือใบละ 15) เค้า
จ่ายเงินแล้วขนขึ้นรถไปหมดเลย ป่านนี้คงไปขยายพันธุ์ รกเต็มบ้านแล้วมั๊ง ...จากสิ่งที่ไม่มีประโยชน์สำหรับเรา แต่ดันไปเข้าตาคนอื่น
เค้าชอบ ....สำหรับผักแว่น ถ้าเจอต้นเล็ก ๆ ต้องขุดออกเลย ถ้าปล่อยไว้ไม่เกิน 15 วัน จะแพร่เป็นกระจุกแล้วถอนยากนักหนา ถ้าดึง
รากขาด จาก 1 รากกลายเป็นสิบต้น ยิ่งถ้าเป็นฝักด้วยแล้ว สะกิดนิดเดียว ฝักแตกเป๊ะ เมล็ดกระจายรอบทิศ ยิ่งมันส์เข้าไปใหญ่ บัวบก
ก็เช่นกัน เวลาปลูกผักชี บัวบกที่ขึ้นแซมงามเป็นบ้า เลื้อยแพร่ดีไม่หยอก ถ้ามีดอกด้วยก็ไม่ต้องพูดกัน...แต่มันก็แปลกครับ เวลาปลูก
บัวบกเข้าจริง ๆ มันก็ไม่ค่อยอยากจะงาม

หญ้าริมร่องก็ไม่เบา หญ้าบางอย่าง และต้นกก จะขึ้นริมร่องน้ำ นั่งถอนสัก 10 เมตร ก็เริ่มปวดหลัง เพราะต้องก้ม ๆ เงย ๆ จะให้ดีต้องลุยลง
น้ำถอน มีดขอพกติดเอว มีดบาง ปลายแหลมโค้งลง กำไว้ในมือ เป็นมีดที่เหมาะมาก มือขวากดปื๊ด มือซ้ายดึงโยนใส่เรือ ทำทั้งสองฝั่ง
ร่องยาว 150 เมตรก็ใช้เวลาลุย ไม่เกิน 2 ชั่วโมงครึ่ง ก็เสร็จ ผักบุ้งแดง ก็ทำลายยาก ยิ่งตัดยิ่งแตก แม่ค้าส้มตำชอบครับ มัดกำขนาด
เอานิ้วหัวแม่มือกับนิ้วชี้สองข้างโค้งชนกัน ครับ กำประมาณนั้นเด็ดยอดยาวฟุตกว่า ๆ หรือ 1 ศอกแขนราคา 10 บาท 10 กำก็ 100 แล้ว
จะว่าไปแล้ว บัวบกก็ถอนขายได้นะครับใส่ถุงใสเจาะรู(ถุงใส่ผักชี)ถุงบรรจุ 5 กก. กก.ละ 10 บาท ถอนผักชีเสร็จ ถอนบัวบก ถอนผัก
บุ้ง ขาย ผลพลอยได้น่ะครับ ….หญ้า วัชพืช ที่กล่าวมานั้น บั่นทอนความเจริญเติบโตของผักชีฝรั่งทั้งสิ้น

ทีนี้ พูดถึงเครื่องมือทำสวนก็สำคัญไม่น้อย เครื่องมือหลัก ๆ เช่นมีด พร้า จอบ เสียม... ที่ไหน ๆ ก็คงจะเหมือน ๆ กัน หลายคนคง
เคยเห็น แต่ในการทำสวนผักชีฝรั่ง เครื่องมือปลีกย่อย ก็อาจพิเศษ พิสดารแตกต่างกันไปตามความเหมาะสม ประสบการณ์จะบอกเรา
เองว่า เครื่องมือที่ใช้ ควรเป็นอย่างไร ควรทำอย่างไร บางอย่างไม่มีขาย ก็ออกแบบเองแล้วไปจ้างโรงตีเหล็กให้เค้าทำให้ ....เหล็กแหนบ
เมืองไทย คุ่ย ๆ ไม่ได้เรื่อง อย่างมีด อรัญญา คมไม่นาน ต้องใช้เศษเหล็กจากเช็คโก หรือเหล็กจากบริษัท อินเดีย ดัม ดัม เอามาหลอม
แล้วตี หรือไม่ก็ทำจากผาลไถรถฟอร์ด ครับ โรงตีเหล็กจะสั่งนำเข้ามา สำหรับตีเหล็กชนิดพิเศษหรือสั่งทำ อย่างมีดตัดอ้อย ตีออกมา
เป็นมีดแล้ว ถึงจะบอกได้ว่า รับประกันความคม ....ผมจะให้โรงตีเหล็กที่กำแพงแสนเค้าทำให้

สุดท้ายที่สำคัญคือ คนถอนผักและคนทำผัก ต้องมีประจำ และนัดหมายวันถอนให้ดี แล้วก็ต้องระวัง คนถอนผักที่ชอบ สายซ้อน ครับ นัด
กับเราซะดิบดี วันรุ่งขึ้นไม่มาซะฉิบ Gone with the GIG แอบไปถอนให้เจ้าอื่นที่ตัดราคาค่าถอนเราไปซะแล้ว ขาดแรงคนถอนไป 1 คน
มีความหมายต่อการที่จะได้ผักไม่ครบจำนวนที่พ่อค้าสั่ง มันจะเสียกันเป็นทอด ๆ และถ้าพ่อค้าถามว่าทำไมได้ผักไม่ครบตามสั่ง ก็ต้อง
บอกว่า กูโดนสายซ้อนว่ะ และความมีน้ำใจของพ่อค้าคือ เค้าจะสืบถามจนรู้ว่า ใครถอนผักวันเดียวกับเราบ้าง แล้วคนที่นัดเราไปถอนผัก
ให้ใคร พ่อค้าก็จะดัดหลังด้วยการ สั่งคนนั้นงดถอนผัก 3 – 5 วัน ...ที่สำคัญอีกอย่าง ถ้าผักราคาดี กิโลละ 40 + ก็ โอเค ถ้าวันไหนราคา
ผักเหลือ กก.ละ 25 บาท ก็วัดครึ่ง กรรมการค่อน คือค่าถอนค่าทำก็จ่ายไปแล้ว กก.ละ 8-10 บาท จะเหลือเป็นของเราแค่ 17-15 บาท

ความจริงมันมีรายละเอียด วิธีการ และเทคนิคปลีกย่อยอีกเยอะแยะ คุยกันยาว หมดกลมเดียวก็ยังไม่จบ เรื่อง ทุกอาชีพมีทั้งศาสตร์และศิลป์
ที่ไม่มีในตำรา และไม่มีใครเขาบอกเทคนิควิธีการกันหรอกครับ ...แม้ลุงคิมจะพูดอยู่เสมอ ๆ ว่า จะให้รวม ร่วมกันทำ แต่มันเป็นเรื่องยาก
มาก ๆ ครับ เข้าทำนอง รวมกันตายหมู่ แยกกันอยู่ต่างคนต่างตาย และที่สำคัญที่สุด อย่าให้ใครมายืมสิทธิ์ไปยืมเงินกองทุนหมู่บ้านเชียว
นะครับ ผมโดนมาแล้ว ญาติกันแท้ ๆ ผมใช้หนี้เงินกองทุนหมดไปหลายปีแล้ว จนป่านนี้ยังไม่ได้เงินคืนจากญาติคนที่ขอสิทธิ์ให้เรายืมให้
เลย ทวงถามทีไร ก็โกรธซะอีกด้วย ผมก็คุยบอกเล่าแค่เนื้อ ๆ มีน้ำแทรกบ้างพอเป็นน้ำกระสายยา รู้ก็บอกได้เท่าที่รู้ เท่านั้นแหละครับ





11
ภาพ - 11 – 12 ก็ เป็นภาพน่ารัก ๆ นกปรอด มาทำรังอยู่บนต้นโป๊ยเซียนริมทางเดิน ข้างบ้าน เอามือไปแหย่ใกล้ ๆ มันก็ไม่หนี ...เมตตา
ธรรมค้ำจุนโลกครับ ต่างคนต่างอยู่ ถึงเวลาต่างคนก็ต่างไป แต่นกคู่นี้ ถึงเวลาจะมาทำรังบริเวณนี้ทุกปี


12
....อยากจะบอกว่า ภาพต่อ ๆ ไปนี้ เป็นภาพจากชีวิตจริง ของจริง ๆ และเพื่อจะบอกให้เป็นข้อคิดว่า ใครคิดจะปลูกผักชีฝรั่ง หรืออะไรก็
ตาม ปลูกในพื้นที่ไหน กรุณาดูทิศทางน้ำให้ดีนะครับว่า ปีหน้าฟ้าใหม่ ความจริงปีนี้แหละ เพราะจากวันนี้(26 มค.55)ไป อีก ประมาณ 9
เดือนเท่านั้น คือปลาย ๆ ตุลาคม 2555 น้องน้ำจะมาอีกแล้ว แต่จะมามากน้อยแค่ไหน มาจากทิศทางไหน จะปิดจะกั้นน้ำทางไหนไม่มี
ใครบอกได้ บอกตามตรงว่า ชาวสวนผักนครปฐมทุกคนหวาดผวา ไม่มีความเชื่อมั่น และไม่มีความมั่นใจในวิธีและกระบวนการแก้ไขปัญหา
น้ำท่วมของรัฐบาล

สวนผักของผมเริ่มถูกน้ำท่วม จนถึงท่วมสูงที่สุดประมาณ 2.50 เมตร มาตั้งแต่วันที่ 22 ตุลาคม 2554 จนถึงวันที่ 18 มกราคม 2555 หลัง
จากที่ระดับน้ำ ค่อย ๆ (ขอบอกว่า ค่อย ๆ ลดลงทีละนี๊ๆๆๆดนะครับ) พอลดลงต่ำกว่า คันล้อม ประมาณ 5-6 นิ้ว จำเป็นต้องสูบน้ำออกเอง
เทศบาลไม่มามองหรอกครับ จะมาอีกครั้งก็อีตอนหาเสียงนั่นแหละ ผมสูบตั้งแต่วันที่12 – 17 มค.55 วันละ 8 ชั่วโมงใช้ท่อ 8 นิ้ว และขณะ
ที่เขียนกระทู้อยู่นี้ ถนนทางที่จะเอารถขนของเข้า – ออก ไปที่สวน น้ำก็ยังท่วมขังอยู่ ไปดูได้เลย .. ผมต้องขออนุญาตบ้านฝั่งตรงข้าม ขอ
เดินผ่านที่ โดยทำสะพานข้ามคลอง ใช้เป็นทางเดินเข้าออกชั่วคราว ยกรถแมงกะไซด์ ใส่เรือ พายข้ามคลองมาจอดไว้ฝั่งตรงข้าม เพื่ออกถนน
เมนใหญ่ ส่วนรถใหญ่ จอดชมนอนชมดาวอยู่อย่างนั้นแหละ มาดูรูปกันเลยครั




13
ภาพ – 13, - 14, วันที่ 18 มค.55 ระดับน้ำในแปลงผักที่เคยงดงาม ก็มีสภาพเป็นแบบนี้ จุเห็นพุ่มสีน้ำตาลอยู่ตรงกลาง ไกล ๆ คือต้นมะม่วง
ที่จมน้ำตายครับ


14





15
ภาพ – 15 วันที่ 19 มค.55 หลังจากรื้อซาแรน และถอนเสา ออกแล้ว ต้นไม้ที่แห้งตายซ้ายและขวา สองข้าง คือต้นมะม่วง อายุ 25 ปี
เป็นร้อยต้นครับ




16
ภาพ – 16 กองซาแรน ที่รื้อออกมา ตากให้แห้ง เวลาจะใช้ เขย่า ๆ ลากขึ้นคลุม ฉีดน้ำล้างให้สะอาด ยังนำไปใช้ได้อีกนานครับ ใช้ของ
คุณภาพ จะคงทนใช้ได้นานคุ้มค่า




17
ภาพ - 17, -18, - 19 เป็นภาพมุมมองเดียวกัน ภาพ – 17 จากเริ่มแรกที่ทำแปลง และ ภาพ – 18 จากที่งอกงาม ในอดีต ส่วน
ภาพ – 19 คือปัจจุบันกาล วันที่ 19 มค.55 โทรมสุด ๆ ผักบุ้งแดง แหน และสาหาร่าย เต็มไปหมด


18


19






20
ภาพ – 20, - 21 สวนกล้วยไม้ ก่อนถูกน้ำท่วม


21





22
ภาพ – 22, - 23 19 มค.55 หลังถูกน้ำท่วมสูง 2.50 เมตร กลายเป็นกล้วยไม้พันธุ์ใหม่


23





24
ภาพ – 24, - 25 บริเวณที่น้ำท่วมน้อยที่สุดน้ำสูงประมาณ 1.50 เมตร เสียหายไม่มาก สูบน้ำออกแล้ว สู้ใหม่ครับ หลังจากเก็บสิ่งไม่พึง
ประสงค์ที่ลอยมากับน้ำแล้ว ควักขี้เลนขึ้นโปะข้างร่อง ตากดินให้แห้งแล้ว ตีดิน เพื่อจะปลูกใหม่


25





26
ภาพ – 26 สิ่งไม่พึงประสงค์ที่ลอยมากับน้ำ มีสารพัด ที่เห็นเป็นหัวเตียงทั้งอัน ไม้จริง ของยังดีอยู่ กำลังสอบถามหาเจ้าของ แล้วก็
มีถุงใส่จิปาถะ ถ้าหาเจ้าของไม่ได้ คงต้องเอาเรือมาใส่ลากเอาไปเผาละครับ ในคันร่องยังมีอีกแยะครับ เก็บยังไม่หมด




27
ภาพ – 27 เป็นซองสารกำจัดวัชพืชยอดนิยมลอยมาติดด้วย เจ้านี้เล่นของหนักเลยทุกอย่างที่ขวางหน้ารวมทั้งกุ้ง หอย ปลา ปู จะตายเรียบ
แล้วที่ปลูกใหม่ก็หงิกไปด้วย เคยมีปัญหาฟ้องร้องกันว่า แปลงหนึ่งฉีดยานี้ แล้วละอองไปโดนสวนองุ่นของแปลงข้างเคียงเสียหาย เจ้า
ของแปลงที่ฉีดต้องใช้ค่าเสียหายให้นะครับ ปกติที่เห็นใช้กัน จะมี พาราควอต กับ ไกรโฟเซ็ต แต่ก่อนซื้อต้องดูให้ดี มีของปลอมแยะครับ





28
ภาพ – 28, - 29 ถ้าไม่บอกคงไม่รู้ เป็นต้นยาชูกำลัง ขวัญใจคนทำงานกลางทุ่งกลางนา เค้าว่า เคี้ยวแล้วมันทนแดด คือ ต้นกระท่อม
ครับ มีบันไดไว้ให้ปีนเก็บด้วย …อยากถามลุงคิมว่า เอาใบมาทำสารสมุนไพรได้มั๊ยครับ


29





30
ภาพ – 30 อาหารยังชีพระหว่างน้ำท่วม 2 เดือนกว่า ปลานิลกับผักบุ้ง และสายบัว ตัวนี้ตัวโตกว่าฝ่ามือครับ สำหรับปลากระป๋องที่ปกติ
เราซื้อกินจะมีปลา 4 ตัว แต่ที่ทางการมาแจกตอนน้ำท่วม เปิดกระป๋องเทใส่ถ้วย ต๊กกะใจ เฮ้ย อะไรว๊า มีปลาเหลือแค่กระป๋องละ 2 ตัวเอง
ว่ะ ...ผมคงจะเบื่อปลาไปอีกนานจนกว่าจะถึงฤดูน้ำหลากอีกครั้ง



....ครับ เรื่องการปลูกผักชีฝรั่งก็คงจบเพียงแค่นี้ ผักชีฝรั่งของผม 4 ไร่ พริกขี้หนูสวน 2 ไร่ ชะอม 1 ไร่ บ่อปลา 2 ไร่ รอบคันล้อมมี
มะม่วง 200 กว่าต้น มี ตะไคร้ เป็นพันกอละมั๊ง กล้วยน้ำว้า ไม่เคยนับ จมน้ำตายหมด เหลือที่รอดตาย เขียวเสวย 2 ต้น มะม่วงกะล่อน
1 ต้น ชมพู่ม่าเหมี่ยว 1 ต้น ชมพู่ทับทิมจันทร์ 2 ต้น มะพร้าว 100 กว่าต้น แล้วก็มีมะม่วง มหาชนกงอกจากเมล็ด สูงประมาณ เมตรกว่า ๆ
จมน้ำมิดยอด ไม่ตายครับ มะม่วงที่ตาย มีคนมาขอซื้อไปทำฟืน ต้นเล็กต้นใหญ่ คละกันไป ต้นละ 20 บาท ...ไม้มะม่วง ถ้าเผาถ่าน
จะดีมั๊ยครับลุง

อีกไม่กี่เดือนประมาณ 9 เดือนก็ถึงฤดูน้ำหลากอีกแล้ว ถ้ารัฐบาลบริหารจัดการไม่เป็นรูปธรรมแบบนี้ ชาวสวนทุกคนกลัวครับ กลัวน้ำจริง ๆ .....
หลังน้ำลด สวนที่อยู่ดอนหน่อย ชาวสวนหลายคนเริ่มปลูกกันแล้ว โหระพา กระเพรา แมงลัก ปลูกกันมาก ถึงเวลาตัดขาย จะเหลือ กก.ละ ไม่
กี่บาท ในสวนผมยังเป็นที่ลุ่ม น้ำยังขัง ปลูกอื่น ๆ คงไม่ได้ ต้องสูบน้ำให้แห้งกว่านี้อีกหน่อย กำลังคิดว่า ปลูกต้นเตยหอมที่ใช้มัดกำดอกกล้วย
ไม้ แล้วปลูกตำลึงบนคันล้อม ปักเสาไม้รวกในร่อง แล้วโยงสายเชือกจากคันล้อมให้มันเลื้อยไปที่เสาในร่อง ลุงเคยบอกว่า ใหญ่ขนาดจัมโบ้
เป็นต่อ ปลูกตำลึงแล้วเอา 30-10-10, แคล-โบ, ไบโออิ, ยูเรก้า ฉีดพ่นทุก 15 วัน ถ้าต้นมันโตเท่าดินสอดำ ใบมันใหญ่เท่าฝ่ามือกาง
ใครจะกล้าซื้อตำลึงจัมโบ้กินครับลุง 555

ขอบคุณ สวัสดีครับ
ด้วยความนับถือ
แดง ศาลายา
(วัดมะเกลือ ถนนศาลายา – บางภาษี) นครปฐม


หมายเหตุ.- ระบบสปริงเกลอร์ ของลุงคิม เป็นระบบ กะเหรี่ยง ถ้าผมจะคุยต่อเรื่อง ระบบสปริงเกลอร์ แบบกระยาจก จะดีมั๊ยครับ คนที่อยากติด
สปริงเกลอร์จะได้รู้ซะทีว่า รู้ยังงี้ ทำตั้งนานแล้ว จากนั้นก็ตามด้วย เครื่องมือทำสวนแบบแปลก ๆ



.
.


แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย kimzagass เมื่อ 26/01/2012 10:57 pm, แก้ไขทั้งหมด 6 ครั้ง
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
DangSalaya
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 23/06/2011
ตอบ: 1874

ตอบตอบ: 05/06/2013 10:53 pm    ชื่อกระทู้: ผักชีฝรั่ง ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

สวัสดีครับลุงคิม

เรื่องนี้เป็นกระทู้แรก ที่ผมนำเสนอในเว็ปลุงคิม

ทำอะไรไม่เป็นซักอย่าง จะลงเรื่องก็ผ่านลุงคิม จะลงรูปก็ผ่านตุณน้ำส้ม
........
เสียดายที่รูปเก่า ๆ ที่ถ่ายเก็บเอาไว้ มันหายไปพร้อมกับ ไวรัส ที่เข้าเครื่องคอม
จึงไม่สามารถนำมาแทนรูปที่ขาดหายไปได้

อาบูอือย่า....ขอบคุณครับลุง


โชคดีที่รูปเก่าบังเอิญเก็บไว้ใน แฟลชไดรฟ์ ได้แก้ไขรูปที่ขาดหาบไปได้แล้วครับ

.


แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย DangSalaya เมื่อ 06/06/2013 10:09 pm, แก้ไขทั้งหมด 1 ครั้ง
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
DangSalaya
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 23/06/2011
ตอบ: 1874

ตอบตอบ: 06/06/2013 10:05 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

kimzagass บันทึก:
แปลงผักชีฝรั่ง


17 มกราคม 2555
เรียน ลุงคิมที่นับถือ (จากแดง ศาลายา ครับ)

ปลูกผักชีฝรั่ง ตอนที่ 1


ผมฟังรายการลุงคิมเมื่อคืนวันที่ 14 มค.55 มีสมาชิกถามปัญหาว่า ปลูกผักชีไทยอยู่แล้ว 5 ไร่ แต่มีที่เหลืออีก
ประมาณ 2 ไร่ อยากจะปลูกผักชีฝรั่ง....บังเอิญว่า ผมพอจะรู้อยู่บ้างเล็กน้อยแบบ งู ๆ ปลา ๆ จึงขออนุญาตเล่าให้ฟัง
แบบชาวบ้าน ๆ ซึ่งผมทำของผมเป็นการส่วนตัว ไม่เป็นทางการ ไม่เป็นวิชาการ สูตรใครก็สูตรใคร นำไปอ้างอิงไม่ได้ …

คำอธิบายการเตรียมการต่าง ๆ เกี่ยวกับการปลูกผักชีฝรั่ง ผมฟังจากที่ ลุงคิมได้บอกแนะนำไว้แม้ฟังดูจะสั้น แต่ละเอียด
ชัดเจน แจ่มแจ้งทุกถ้อยกระทงความแล้ว ผมจึงขอแนะนำด้วยการให้ดูจากรูปภาพก็แล้วกันนะครับ อาจมีเสริมเพิ่มเติมจาก
ประสบการณ์บ้าง .. .ความจริงคุณที่ปลูกผักชีไทย ผมก็ว่าดีอยู่แล้วละน๊า ผมยังคิดอยากจะปลูกมั่งเลย

ทีนี้ ถ้าฟังลุงพูดเฉย ๆ คนอื่นอาจจำได้ผมไม่รู้นะ แต่ผมไม่ได้เป็นพหูสูตอย่างพระอานนท์ จำไม่ได้หรอกครับ แล้วถ้าคิดจะจด
ก็จดไม่ทัน เพราะลุงพูดเร็วยังกะจรวด แล้วบางครั้งมีเสียง( ด่....) แซมออกมาด้วย ต้องหยุดหัวเราะ ก็จดไม่ทันแล้ว ผม
เลยต้องอัดเสียงเอาไว้แล้วมาแกะคำพูดออกมาเป็นตัวหนังสืออีกที หรือไม่ก็เปิดฟังซ้ำ ๆๆๆๆ หลายรอบในรายการที่ชอบ

ผมฟังรายการลุงมาน๊าน นาน แต่เพิ่งจะเริ่มอัดเสียงลุงเอาไว้เมื่อไม่นานนี้เอง(เรียกว่าเพิ่งจะทำเป็น)ตั้งแต่วันที่ 6 พค.54
ถึง 31 ธค.54 รวม 240 วัน ถ้าอัดวันละ 2 ครั้ง ก็น่าจะได้ถึง 480 ครั้ง แต่ผมอัดได้เพียง 245 ครั้ง ที่มีเว้นขาดหายไป
บ้างก็แยะหลายวันเหมือนกัน เพราะบางวันลุงคิมเบี้ยวอ้างว่า เน็ตเสีย บางวันลุงถูกแย่งรายการ บางวันผมไม่ว่าง บางวันผม
ไปอยู่หลังเขาหาวิทยุเปิดฟังไม่ได้ ยิ่งตอนติดน้ำท่วมไปไหนไม่ได้ เกือบสามเดือน เซ็งเป็ด ...ก็เปิดฟังบ้างไม่ฟังบ้าง เนื่อง
จากไม่มีอารมณ์จะฟัง น้ำท่วมถึงเอว ในสวนมิดหัว และบางวันมีคนโดนไฟฟ้าดูด ตา.. เค้าเลยดับไฟฟ้า ..... แล้วถ้าใคร
จะถามปัญหาลุงคิมละก็ ต้องถามแจงให้ละเอียด ถ้าคำถามไม่ละเอียด โดนอัดน่วมก็แล้วกัน บางครั้งผมกำลังนึกจะถาม พอดี
มีคนถามในเรื่องเดียวกับที่ผมจะถาม คนที่ถามโดนอัด ก็เท่ากับว่าผมโดนไปด้วย ฟังรายการลุงแล้ว รายการอื่น ๆ เลิกฟัง
เพราะรายการลุงมันสะใจได้อารมณ์ และได้ความจริงใจ ....ให้รู้อีกอย่าง ลุงคิมน่ะ ปากร้าย แต่ใจดีนะครับ –

ขอบอกซะให้กระจ่าง เรื่องของเรื่องคือผมอยากอัดเสียงลุงมานาน ก็เลยบอกลูกเค้าว่า ..ซื้อเครื่องอัดเสียงเล็ก ๆ ให้พ่อซัก
เครื่องนึง ลูกเค้าก็ว่า ซื้อทำไม มือถือของพ่อก็อัดเสียงได้ เอามาดูซิ ...เค้าดูแล้วก็บอกว่า นี่ไง ทำยังงี้ ...โอ๊ยตายเลยกู
เวรกรรม หน้าแหก แถมยังถ่ายรูปได้ซะอีกด้วย ใช้มือถือมานานปี ได้แต่รับเข้า โทรออก ส่งข้อความ เม็มเบอร์ ทำได้
แค่นี้ อย่างอื่นไม่รู้เรื่องเอาซะเลย เค้ายังบอกว่า Mem เครื่องของพ่อตั้ง 2 กิ๊ก อัดได้เป็นพัน ๆ เพลง – โฮเว๊ย แค่กิ๊กเดียว
แม่มึงก็จะเอากูตายแล้ว นี่ตั้ง 2 กิ๊ก กูจะเหลือมั๊ยเนี่ย - ตั้งแต่นั้นก็เลยได้อัดเสียงลุงคิม แล้วก็ถ่ายรูป ส่งรูป ทำอื่น ๆ อีก
หลายอย่าง ....

อันว่า ผักชีไทย, ผักชีฝรั่ง, ตั้งโอ๋หรือคึ่นไฉ่, บัวบก กรรมวิธีในการสร้างโรงเรือน ในการปลูกและดูแลบำรุงรักษาน่า
จะเหมือน ๆ หรือคล้าย ๆ กัน ที่ลุงบอกประจำคือคุณคิดจะปลูกอะไร ไอ้อะไรที่คุณคิดจะปลูกน่ะรักคุณมั๊ย แล้วเรื่องน้ำ
ก็ไอ้อะไรอีกนั่นแหละ มันชอบ ชื้น ชุ่ม โชก แฉะ แช่ แค่ไหน สภาพแวดล้อม ดิน น้ำ ลม ไฟ คืออุณหภูมิ ความชื้นใน
อากาศ มันเป็นยังไง แล้วคุณมี กึ๋น ที่จะถอดใจลงไปฉีดพ่นปุ๋ยและสมุนไพรทุก 3 วัน 5 วันมั๊ย ….

กรรมวิธีในการสร้างโรงเรือน แปลงปลูก การปลูกและดูแลบำรุงรักษา ผักชีฝรั่งของผม ทำง่าย ๆ ตามรูปที่เสนอมานี้ละครับ….

รายการนี้ ผมกลัวจังเลยว่า จะเป็นการเอามะพร้าวแห้งมาขายมะพร้าวห้าวหรือเปล่าครับ ...เพราะฟังจากรายการวิทยุ ลุงคิม
มักจะโดนลองของอยู่บ่อย ๆ ถามคุณมงคล หรือคุณชัชวาล ดูก็ได้ ....ดูรูปกันเลยนะครับ




ภาพ - 1 เตรียมแปลงปลูก ผมจ้างแบ๊คโฮ มาขุดยกร่องจากพื้นดินนา หลังแปลงแต่ละแปลงกว้าง 8.00 เมตร ยาว 150.00 เมตร
ร่องน้ำกว้าง 1.00 เมตร แล้วก็ให้รถขุดซุย(กระจาย)ดินบนหลังร่องตากแดดเอาไว้





2
ภาพ - 2 ตากดินเอาไว้ พอดินใกล้จะแห้ง ฝนตก เลยเป็นแบบนี้ พออีกไม่กี่วันหญ้าเริ่มขึ้น ปล่อยมัน เดี๋ยวใช้เครื่องตัดหญ้าตัดเอาได้
เศษหญ้าตัดแล้วโยนลงร่องน้ำ ปลานิลกินซะวันเดียวเกลี้ยง (เพราะหญ้าบางอย่าง เอาทำปุ๋ยพืชสดไม่ได้ มันจะงอกและขยายพันธุ์
ได้อย่างดีเยี่ยมจริง ๆ )






ภาพ - 3 จากภาพ -2 พอดินแห้ง ก็เอารถอีต๊อกมาตีตะกุยดินอีกครั้ง ให้เป็นก้อนโต ๆ ตากดินจนแห้ง พอตอนเที่ยง แดดเปรี้ยง ๆ
เอาเรือมาลากรดน้ำ ดินจะแตกย่อยเป็นก้อนเล็ก ๆ – กลิ่นดินที่มันแตก หอม โรแมนติก ดีครับ ปล่อยไว้ซัก 2 วัน พอดินแห้ง
หมาด ๆ ลุงคิมบอกให้เอา ยิบซั่ม หว่าน แล้วก็เอาอีต๊อกมาตีอีกรอบ ดินจะแตกละเอียดเป็นก้อนเล็ก ๆ

ทีนี้ถ้าจะปลูกผักชี จะเอาขี้อะไรมาหว่านใส่ก็ตามใจชอบ ยกเว้น ขี้ไก่ มันจะทำให้ออกดอกเร็ว (เอาไว้ใส่ตอนจะเก็บเมล็ดพันธุ์)
ขี้วัว หญ้าจะขึ้นงอกงามกว่าผักชี และขี้คน ...เจ๊กสวนผักตลิ่งชันชอบใช้ ควรใช้ขี้ที่เย็นคือ ขี้หมูที่ไม่ใส่โซดาไฟ และต้องเป็นขี้หมู
แท้ ๆ ที่ไม่ปนกับต้นกล้วยบด






ภาพ - 4 , -5 และ -6 ปกติเมล็ดพันธุ์แถบบ้านผม แรก ๆ เค้าใช้เมล็ดพันธุ์สั่งจากเชียงใหม่ ต่อมา ปลูกกันหลายรุ่น หลายท้องที่
เมล็ดพันธุ์ปนเปกันวุ่นไปหมด ต่างคนก็เก็บเมล็ดพันธุ์กันเอง การสั่งพันธุ์จาก เชียงใหม่ก็น้อยลงเพราะคนสั่งกันมาก ของมี
น้อย ราคาแพงขึ้น-ตามหลัก Demand Supply (แรก ๆ ใส่ขวดแม่โขงแบน ขวดละ 300 ต่อมาก็ขึ้นราคาเป็นขวดละ 500)
พันธุ์เชียงใหม่กลายเป็นพันธุ์ เชียงปฐม (เชียงใหม่ปลูกที่นครปฐม)แต่ก็ยังเรียกว่าพันธุ์เชียงใหม่อยู่เหมือนเดิม แต่ของผม
เป็นพันธุ์ส่งตรงจากเชียงราย ต้นใหญ่ (เกือบเท่าหัวแม่เท้..) ใบยาว รากใหญ่ยาว ชาวสวนชอบเพราะได้น้ำหนัก แต่พ่อค้าไม่
ชอบเพราะได้ต้นต่อกิโลน้อย แต่พ่อค้าจำใจต้องซื้อเพราะ ญี่ปุ่น ชอบต้นใหญ่ ๆ ในภาพนี้ น้องชายส่งต้นพันธุ์ ห่อกระดาษ นสพ.
แพ็คใส่กล่องเบียร์ 2 กล่องฝากรถทัวร์จากเชียงรายมาให้รวม 20 กก. เศษ ฝากส่งเย็น ตอนสายวันรุ่งขึ้นไปรับที่ บ.รถทัวร์ ...
น้องส่งมาเร็วไปหน่อย ผมเตรียมแปลงไม่ทันจะเสร็จดี เลยต้อง จิ้ม(แบบดำนา) เอาไว้ก่อน แล้วเอา ซาแรน คลุมเอาไว้ชั่วคราว
แบบนี้แหละ





5


6





7
ภาพ - 7 เตรียมการขึง ซาแรน ผมเบี้ยน้อยหอยนิด จึงต้องวางแผนและคำนวณทำแบบประหยัดสุด ๆ.. ถ้าคนมีกะตังค์ เค้าใช้เสาปูน
หน้า 3 x 3 x 2.50 ม ต้นนึงหลายตังค์ หนักก็หนัก ปักก็ยาก ถอนก็ยาก ของผมใช้เสาไม้รวก 6 ศอก-(3 เมตร) ปักก็ง่าย ถอนก็ง่าย
เพราะดินนิ่ม กดปื๊ดลงไป ให้ลึก 50 เซ็นต์ เหลือพ้นพื้นดิน 2.50 เมตร ราคาก็ไม่แพง อยู่ทนได้ 3 ปี การปักเสา ให้เสาห่างจากร่องน้ำ
ข้างละ 50 เซ็นต์ เอาไว้เป็นทางเดินริมร่อง แถวบ้านผมอีกนั่นแหละ เค้าใช้สายโทรศัพท์สีดำ ขึงเพื่อใช้ผูกซาแรน แต่ของผมใช้
เชือกไนล่อนชนิดเหนียวใช้กับเรือลากอวน เส้นโตขนาด 3 หุน หรือ 3/8 นิ้ว ราคาถูกกว่าใช้สายโทรศัพท์สีดำครึ่งต่อครึ่ง สายโทรศัพท์
เหนียวก็จริง แต่มันแข็ง ทำงานลำบาก ดึงไม่ค่อยจะตึง ต้องออกแรงมาก เจ็บมืออีกต่างหาก แล้วราคาก็ขึ้นทุกปี(เผลอ ๆ เป็นช่องทางให้
มิจฉาชีพ ตัดสายโทรศัพท์มาขาย และถ้าไม่เผลอ ก็เจ้าหน้าที่ขององค์การฯนั่นแหละ เอาสายโทรศัพท์ที่บอกว่า ตัดบัญชีแล้ว เอา
มาขายซะเอง) ผมใช้เชือกไนล่อนชนิดลากอวน ดึงได้ตึงกว่า ไม่เจ็บมือ ราคาไม่ค่อยเปลี่ยนแปลง ทนทานเหนียวมาก ๆ ….สำหรับ
การขุดร่องน้ำ ทำแปลง ปักเสา มุงซาแรน ของแต่ละคน แต่ละพื้นที่ กว้างยาวไม่เท่ากัน จะขุดแปลงตามลม ขวางลม ตามตะวัน ขวางตะวัน
ต้องคำนวณเอาเอง






ภาพ - 8, -9, -10 และ -11 การดึง ซาแรน จากม้วน และการขึงซาแรน ...ปกติซาแรนที่ขายกันจะมีขนาดกว้าง 1.50 และ
2.00 เมตร ยาว 100 หลา ก็ประมาณ 90.00 เมตร คุณภาพและราคา ก็แตกต่างกัน ถ้าใช้คุณภาพมาตรฐานที่ใช้กับสวน
กล้วยไม้ ราคาแพงกว่ากันอีกหน่อย แต่จะอยู่ได้เกินกว่า 10 ปี ขนาดจมดินยังไม่อยากจะขาด คุ้มเกินราคา ของผมคำนวณ
แล้ว ร่องหนึ่งกว้าง 8 เมตร ยาว 150 เมตร หรือ 1,200 ตร.ม. หรือ 300 ตร.วา ( ตร.ม. หรือ ตร.วา มีความหมายต่อการ
ใช้ปริมาณเมล็ดผักชีที่จะใช้หว่านครับ) ถ้าใช้ ซาแรนขนาดกว้าง 2.00 เมตร 1 ล็อกก็ใช้ประมาณ 20 ม้วน คำนวณแล้วมัน
ก็เหลือเศษ และเมื่อบวกราคาแล้วก็สูงเกินไป จะเปลืองเสาไม้รวกที่ต้องใช้เพิ่มขึ้นอีกด้วย ...ทำไงดีหว่า

ก็เลยเอาเบอร์โทรจากป้ายโรงงานผลิตที่เค้าติดไว้ที่ม้วนซาแรน ลองโทรถามกันเลยว่า สั่งทอได้หรือไม่ เค้าบอกได้ เลยถามว่า กี่
(เครื่องที่ใช้ทอ)ของคุณ ทอได้หน้ากว้างที่สุดเท่าไหร่ เค้าบอกว่า 2.25 เมตร แล้วยาวล่ะ เค้าว่า คุณจะเอายาวเท่าไหร่ ก็บอกว่า
ร่องยาว 150 เมตร เค้าบอกว่า ถ้าจะสั่งก็จะทอให้ยาว 160 เมตร เผื่อดึงหัวท้ายข้างละ 5 เมตรแต่จะทอให้เกินนิดหน่อยไม่มีขาด
จะใช้กี่ม้วน ก็บอกเลยว่า (ล๊อกละ 9 ม้วน 3 ล๊อก)ใช้ 27 ม้วน แล้วขนาด 2.00 เมตร( ล๊อกละ 5 ม้วน 3 ล๊อก)ใช้ 15 ม้วน
(ใช้คลุมบริเวณร่องน้ำ)ก็ทอให้ยาว 160 เมตรด้วย คำนวณราคาเบ็ดเสร็จ ถูกกว่าราคา 2.00 เมตร 60 ม้วน(3 ล๊อก)ตั้งแยะ
เพราะไม่ผ่านกำไรให้ร้านค้า ก็เลยบอกให้คิดบวกค่าส่งของไปด้วย เพราะ 42 ม้วน เต็มรถ 6 ล้อเล็กพอดี เราก็โอนเงินไปให้ ถึง
เวลาเขาเอาของมาส่ง เราก็ได้ของตามที่เราต้องการ



9



10



11



12
ภาพ - 12 ซาแรนสั่งทอ กว้าง 2.25 เมตร ยาว 160 เมตร ความทึบแสง 40 % (ถ้าสวนกล้วยไม้ต้องใช้ความทึบแสง 50–60%)
ขึงเสร็จแล้วจะสวยงาม พอดิบพอดี และประหยัดตามที่เราต้องการ ตามภาพนี้แหละครับ ส่วนตรงบริเวณที่เป็นร่องน้ำ ใช้ซาแรน
ขนาดกว้าง 2.00 เมตร ยาว 160 เมตรเหมือนกัน ยังไม่ได้ดึง จะดึงทีหลังครับ เหตุผลคือ ต้องใช้คน 4 หรือ 6 คน อยู่ร่อง
น้ำคนละฝั่ง ๆ ละ 2 หรือ 3 คน ดึงแล้วก็ผูกมัดกับซาแรนที่คลุมหลังแปลงทั้งสองฝั่ง ต้องดึงพร้อมกันนะครับ ดึงกันไป ดึงกันมา
มันก็จะตึงเป๊ะ ถ้าต่างคนต่างดึง มันจะเบี้ยว ถือว่าไม่มีฝีมือ อายชาวบ้านเค้า จะเห็นว่า ด้านข้างตามแนว ยาว จะเปิดโล่งให้ลมผ่าน ตามที่ลุงคิมบอกเด๊ะเลย





13
ภาพ - 13 ด้านหัวและท้ายข้างละ 5 เมตร ก็ดึงลงมาคลุมแบบนี้ครับ ทำไมต้องดึงหัวท้ายลงมาคลุมแบบนี้ ถ้าถามชาวสวน
เค้าบอกสั้น ๆ ว่า ช่วยให้ซาแรนมันให้ตัว ถ้าภาษาวิชาการทางด้านกลศาสตร์ เค้าว่า เพื่อให้เกิดการยืดหยุ่น ลดแรงต้าน แรงเค้น
แรงดึงและแรงดัน แรงปะทะจากลมแรง ๆ …ที่สำคัญ คุณภาพของผักชีฝรั่งคือใบยาวครับ และใบพืชต้องการแสง แสงอยู่ทาง
ไหน ใบจะเอนไปทางนั้น ถ้าเปิดโล่งให้แสงเข้าสี่ด้าน ใบจะบานออกแบบที่เรียกว่า แบะ แบกะดิน ถอนก็ยาก ทำก็ยาก มัดกำ
ก็ยาก ...เทคนิคที่จะทำให้ใบยาว นอกจากใช้ จิ๊บ... กับ อาคีมีดีส – ยูเรคา .และ ไคติน .. แล้ว ต้องเพิ่มแสงก่อนวันถอนด้วย
มันเป็น เทคนิค และ แทคติก คุยแล้วยาวครับ เอาเป็นว่า กว่าจะขึงเสร็จ ต้องแก้กระหาย หมดไปหลาย Drink ก็มันเหนื่อยน่ะครับ



14
ภาพ - 14, 15, 16, และ 17 วันธรรมดา ผมทำงานคนเดียว(นักเรียนกับมนุษย์เงินเดือนไปกันหมด) ขืนผมเดินเข็นเรือรดน้ำ
ตามรูป - 3 เดินไป เดินกลับ 5 เที่ยว ๆ ละ 150 เมตร ก็เท่ากับ 750 เมตร ผมปลูกผักชีอยู่ 3 ล๊อก ๆ ละ 3 แปลง ๆ ละ 150 เมตร
ล๊อกหนึ่ง ก็ 750 เมตร ก็เท่ากับ 750 x 3 เท่ากับ ต้องลากเรือรดน้ำ 2,250 เมตร ...2 กิโลเมตร กับอีก 250 เมตร ใช้เวลา
เกือบ ๆ หมดวันแล้ว ต้องทำทุก ๆ 5 วัน ขี้หักในแน่ ๆ แล้วยังค่าน้ำมันใส่เครื่องรดน้ำอีกครั้งละเท่าไหร่ ผมจึงจำเป็นต้องใช้เครื่องทุ่น
แรงแบบนี้แหละ ล๊อกหนึ่ง 150 เมตร แบ่งเป็น 2 โซน โซนหนึ่ง 75 เมตร ใช้เวลา 15 นาที 3 ล๊อก 6 โซน ใช้เวลาทั้งรดน้ำพร้อม
กับปุ๋ยและลากเครื่องไปสวมท่อส่งน้ำ เสียเวลากับหัวสปริงเกลอร์หลุดต้องเดินเข้าไปใส่บ้าง ประมาณไม่เกิน 200 นาทีหรือ 3 ชั่วโมง
เศษ ให้น้ำพอชุ่ม กับโชก ไม่ถึงแฉะกับแช่ ...ผมใช้หัวสปริงเกลอร์ หัวละ 3 บาท ไปซื้อถึงกำแพงแสน แต่ลุงคิมบอกว่า ของลุงใช้
หัวละ 2 บาท ซื้อที่ไหนไม่ยอมบอกแฮะ ไม่บอกไม่เป็นไร วันหน้าจะฝากลุงซื้อ….

แต่สวนผักชีใกล้ ๆ กัน เนื้อที่พอ ๆ กับของผม เค้าใช้เข็นเรือรดน้ำ กว่าจะรดหมดสวนแต่ละครั้งใช้เวลา 2 วัน ...ผมแนะนำให้เค้า
ทำอย่างผม เค้าบอกว่า ลงทุนสูง ข้าไม่รวยอย่างทิดนี่หว่า เอ๊า ว่าเข้าไปนั่น ..แต่ก็ไม่ ยักกะถามว่า ลงทุนทำอย่างผมมันซักแค่ไหน
แล้วค่าน้ำมันรดน้ำครั้งละ 2 วัน เครื่อง 5.5 แรง ใช้ไปเท่าไหร่ ลุงคิมก็พูดจนปากจะฉีกถึงใบหูว่า ลดต้นทุน ๆ ๆ ก็ต้องปล่อยให้ สัตว์
โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ครับ


15



16



17






18
ภาพ - 18 ด้านข้างคลุมเอียงลงมากว้างแค่ 2.00 เมตร ด้านล่างเปิดโล่ง ทั้งสองข้าง ให้ลมโกรก หลังจากคลุมซาแรน ติด
ระบบสปริงเกลอร์ เสร็จเรียบร้อย ก็เปิดน้ำรดดินให้ชุ่ม รุ่งขึ้นก็หว่านเมล็ดลงไป แล้วก็รอไปซักครึ่งเดือน มันก็จะงอกออกมาต้น
ยิบ ๆ เขียว ๆ พอไปอีกเกือบ ๆ เดือน ก็เป็นใบเบี้ย ....หลังจากหว่านเมล็ด ห้ามรดน้ำ เพราะเมล็ดที่ยังไม่งอกจะไหลไปตามน้ำ
และอาจไปรวมอยู่จุดใดจุดหนึ่ง เวลามันงอกก็จะแน่นเป็นกระจุกอยู่ตรงนั้น ..พอหว่านได้ซัก 7 วัน คนที่ใช้เรือรดน้ำ ก็สะพาย
ถังปุ๋ย สเปรย์น้ำ ของผมไม่ต้องแบกถังให้หนัก ใช้สปริงเกลอร์ ติดเครื่งยนต์เบาเครื่องไว้ก่อน พอน้ำออกหัวสปริงเกลอร์นิด ๆ
เร่งเครื่องยนต์ พรื่ด เดียว น้ำกระจายคลุมหมดทั้งโซน แล้วก็เบาดับเครื่อง





19
ภาพ - 19 หลังจากหว่านเมล็ดประมาณ เดือนครึ่ง เมล็ดขึ้นค่อนข้างหนา ผมคิดว่า หว่าน บาง ๆ แล้วนา ยังขึ้นมาหนาตึ๊ก จะสังเกตว่า
มีบางต้นใหญ่ บางต้นเล็ก บางต้นจิ๋ว ...เป็นสัจธรรมธรรมดาครับ เนื่องจากเมล็ดผักชีฝรั่ง เล็กจิ๋วมาก(เล็กกว่าขี้มอด)...เชื่อมั๊ยครับว่า
ถ้าจะขอเมล็ดพันธุ์ผักชีจากใครว่า ขอซักหน่อยนะ แล้วเอานิ้วโป้งกับนิ้วชี้หยิบขึ้นมาเรียกว่าหยิบมือเดียว เอาไปปลูกก็จะได้ต้นผักชี
ซัก ห้าหกสิบต้นเท่านั้นอย่างมากไม่เกินร้อย แต่ถ้าทำตามวิธีของ มะกะโท ในเรื่องพระร่วงนะ คือเอานิ้วกลาง(ยาวที่สุด) อมเข้าปาก
แล้วก็จุ้มลงในกองเมล็ดผักชี แล้วเอาเมล็ดที่ติดนิ้วขึ้นมาไปปลูก จะได้เกือบ ๆ 300 ต้นเผลอ ๆ จะถึง 400 ต้น ปลูกเก็บเมล็ด
ขยายพันธุ์ต่อ จะหว่านได้เป็นไร่

ตามที่ผมบอกไว้ข้างต้นว่า ตร.ม. หรือ ตร.วา มีความหมายต่อการใช้ปริมาณเมล็ดผักชีที่จะใช้หว่าน แต่ชาวสวนผักส่วนมากจะถนัด
แบบไทย ๆ มากว่า คือ ตร.วา อย่างของผมร่องละ 8 x 150 เมตร คือ 4 x 75 วา ก็เท่ากับ 300 ตร.วา ถ้าคนชอบให้ผักขึ้นหนา ก็
ใช้เมล็ดพันธุ์ 2 กก. ถ้าชอบกลาง ๆ ก็ใช้ 1.5 กก. ถ้ากำลังดีก็ใช้ 1 กก. ถ้าจะให้ขึ้นสวยละก็ใช้ 8 – 9 ขีดครับ นี่พูดถึงการหว่าน
ด้วยมือนะครับ....ผมกำลังคิดแบบบ้า ๆ อยู่ว่า จะทดลองใช้เครื่องพ่นยาชนิดที่ใช้หว่านข้าว หว่านปุ๋ย และพ่นน้ำได้ แล้วใช้เมล็ด
พันธุ์ซัก 5 ขีด ผสมน้ำ 20 ลิตร ผสมอินทรีย์นำเคมีเสริมลงไปด้วย ปรับท่อน้ำออกให้น้อยลงหน่อย แยกต่อท่อลมเล็ก ๆ เข้าถังอีก
ท่อหนึ่งลงไปเป่าน้ำในถังไม่ให้เมล็ดพันธุ์นอนก้น แล้วเดินจับเวลาพ่นในระยะ 150 เมตร ให้น้ำหมดถังพ่นพอดี ๆ ถ้าทำได้ เจ๋ง แจ่ม
แจ๋ว คือ จะประหยัดเมล็ดพันธุ์ลงได้แยะเลย เมล็ดจะขึ้นมา ซูเปอร์สวยด้วย คือไม่หนาไม่บาง

ทีนี้ ต้นจิ๋วคือ ต้นที่เกิดจากเมล็ดที่แข็งแรง(Good) ต้นเล็กคือต้นที่เกิดจากเมล็ดที่แข็งแรงกว่า(Better) และต้นใหญ่คือต้นที่เกิด
จากเมล็กที่แข็งแรงที่สุด(Best) ... แล้วไอ้ต้นที่เล็กกว่าต้นจิ๋วมีมั๊ย ..มีครับ จะเรียกว่าต้น จ๊อย ได้มั๊ยครับ ดูในรูป 19 ครับ
มีหลาย Size เลย ...ผักชีฝรั่งส่วนมากที่เห็นจะถอนได้ 3 ครั้ง แต่ถ้าดูแลดี ๆ บางสวนจะถอนได้ถึง 4-5 ครั้ง แต่ละครั้งชาวสวน
เรียกว่า ไฟล้ต์(Flight) คือ เที่ยวบิน ..ของเอ็งถอนกี่ ไฟล้ต์แล้ววะ ...ใช้ภาษาทันสมัยซะด้วย …ขอกระซิบ ถ้าใช้ปุ๋ยลุงคิมนะ อาจ
ได้ 6 – 7 Flight ซิบอกให่ (นอกจากไม่ได้ค่าโฆษณาแล้ว ยังเสียตังค์ซื้อปุ๋ยลุงอีกด้วย)


ผมต้องขออภัยที่คุยมาค่อนข้างยาว ก็เพื่อให้คนที่คิดอยากจะปลูกผักชีฝรั่งได้ทราบพอเป็นแนวทาง อย่าได้ถือเอาเป็นตำราว่า
แดง ศาลายา เค้าบอกมายังงี้ ไม่ใช่ครับ ผมกินอาหารรสเค็ม คุณกินรสหวาน อีกคนกินจืด อีกคนกินเผ็ด คนละเรื่องเดียวกันเลยครับ
ก็ขอจบรายงานการปลูกผักชีฝรั่ง ตอนที่ 1 ไว้แค่นี้ก่อน ยังมีต่อ ตอนที่ 2 นะครับ...จะมีใครเข้ามาอ่านมั๊ยครับเนี่ย ....ขอดู Rating
ก่อน ยังไง ๆ ก็อยากให้คุณที่ถามลุงคิมว่า อยากจะปลูกผักชีฝรั่ง น่ะ เอาเรื่องการปลูกผักชีไทยมาเล่าแจ้งแถลงไขบอกให้เพื่อน
สมาชิกฟังเป็นวิทยาทานบ้างซีครับ .ผิดถูกอย่างไร เดี๋ยวลุงคิม แก้ ให้เองแหละ ...ขอบคุณครับลุงคิม


ด้วยความนับถือ
แดง ศาลายา
(วัดมะเกลือ ถนนศาลายา – บางภาษี) นครปฐม



.


แก้ไขรูปที่ขาดหายไปแล้วครับ

.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
DangSalaya
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 23/06/2011
ตอบ: 1874

ตอบตอบ: 06/06/2013 10:18 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

kimzagass บันทึก:
ผักชีฝรั่ง - 2


19 มกราคม 2555
เรียน ลุงคิม ที่นับถือ

ตอนที่ 2

ในตอนที่ 1 ผมได้คุยเรื่องการปลูกผักชีฝรั่ง แบบชาวบ้าน ๆ ตั้งแต่เริ่มเตรียมแปลง จนถึงเมล็ดงอกขึ้นเป็นต้นไปแล้ว
คราวนี้ก็มาเล่าให้ฟังต่อ ขอให้ถือว่าเป็นการ คุย บอกเล่าสู่กันฟังแบบสบาย ๆ เท่าที่ผมพอจะรู้นะครับ ครูพักลักจำมา
จริง ๆ ต้องขออภัยต่อหลาย ๆ ท่านที่ชำนาญการและเก่งในเรื่องการปลูกผักชีฝรั่ง ที่เรียกว่า เซียนผักชี ไว้ ณ ที่นี้ด้วย ...
แต่ ไม่ว่าใครจะเก่งแค่ไหน ถ้า กก.ละ 80 ก็เสียงดังหน้าบาน ถ้า กก.ละ 60 ก็ยิ้มแป้น ถ้าลงมาถึง กก.ละ 50, 40 ก็
ยิ้มนิด ๆ ถ้า กก.ละ 30 ก็พอยิ้มได้ แต่ถ้าเหลือ กก.ละ 25 ก็ยิ้มไม่ออก แต่ถ้าใครเจอโรค ยอดบิด เข้าละก็ ต่อให้ บิดา
ของเซียน ก็หารอยยิ้มไม่เจอก็แล้วกัน

ความจริงนอกจากในรายการแล้ว ใน Web เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2555 ลุงคิมได้ตอบปัญหา อธิบายเรื่องการใช้ปุ๋ย พร้อม
กับบอกเรื่องการเกิดและการแก้ไข โรคและแมลงศัตรูผักชีฝรั่งไว้ชัดเจนแล้ว ผมก็คงต้องขอนำเอาคำแนะนำบางข้อที่ผม
ยังไม่เคยทำ นำเอาไปใช้ ก็ขอขอบคุณลุงคิมมา ณ ที่นี้ด้วย ...... มาดูจากรูปกันต่อเลยครับ





1
ภาพที่ - 1, และ ภาพที่ - 2 เป็นภาพเปรียบเทียบ กับ ภาพ -15 ในตอนที่ 1 หลังจากเวลาผ่านไปประมาณ 5 เดือน


2





3
ภาพที่ - 3, และภาพที่ - 4 เป็นภาพเปรียบเทียบ กับ ภาพ - 16 ในตอนที่ 1 หลังจากเวลาผ่านไปประมาณ 5 เดือน



4





5
ภาพที่ - 5, และภาพที่ - 6 เป็นภาพเปรียบเทียบ กับ ภาพ - 17 ในตอนที่ 1 หลังจากเวลาผ่านไป 5 เดือนเช่นกัน


6
จะสังเกตได้ว่า แปลงที่อยู่ตรงกลาง ซาแรนจะเปิดไปตามแนวยาว จะมีแสงแดดลอดส่องลงมา ครับ คือหลังจากฉีดพ่น
สารยืดให้ใบยาว และสารให้ต้นขยายขนาดแล้ว จำเป็นต้องเปิดเพื่อให้ผักร่องกลางได้รับแสง แสงจะกระจายไปถึงผัก
ร่องริมที่อยู่ ซ้าย และขวาด้านในด้วย เป็นวิธีการทำให้ใบผัก พุ่งเข้าหาแสง ใบจะตรง แข็ง(ไม่ใช่แข็งเป็กนะครับ เป็น
สรรพนามว่า ดูแล้วใบมันแข็ง) และเขียวเป็นมัน เก็บขาย พ่อค้าจะบอกว่า ผักของอีตาบ้านี่สวยจัง อันนี่เป็นเทคนิคที่ไม่
มีเซียนคนไหนใครเค้าบอกกันหรอกครับหรือเซียนอาจไม่รู้ก็ได้ เพราะเซียนสวนข้างเคียงยังบอกว่า ..เฮ้ย ไอ้ทิด ซาแรน
ของเอ็งเปิด แดดส่องเต็ม ๆ เลยว่ะ เดี๋ยวผักก็ใบไหม้หรอก ...ไม่เป็นไรน้า ให้มันอาบแดดมั่ง หารู้ไม่ว่า ข้าเปิดมันเอง
แหละ 555 (ฟังรายการลุงคิม มันได้ประโยชน์ ได้ความรู้ดียังงี้แหละ )





7
ภาพที่ - 7, และ - 8 เป็นภาพเปรียบเทียบ กับ ภาพ - 6 ในตอนที่ 1 หลังจากเวลาผ่านไปเกือบ 3 เดือน ผักจาก
เชียงรายเริ่มออกดอก ไม่ต้องสงสัยครับว่าทำไมออกดอกเร็ว เพราะว่า ผักจากเชียงราย ก่อนมาถึงผม มีอายุเกือบ
3 เดือน ต้นโตมาแล้ว ผมเอามา ดำ ปลูกเพื่อจะเก็บเมล็ดพันธุ์ พอบำรุงต้นให้ตั้งตัวได้เดือนเศษ ก็ใช้ปุ๋ยเร่งดอก ฉีดอัด
ลงไปเลย เมื่อช่อดอกออกมาแล้ว ต้นไหนช่อดี ยาว ดอกแยะสวยงามเข้าตากรรมการ ก็เก็บเอาไว้ ช่อไหนดูไม่ดี
ไม่เอาไหนก็เด็ดทิ้ง อัดปุ๋ยบำรุงต้นและปุ๋ยเร่งดอก พร้อมปุ๋ยทำให้ก้านดอกแข็งลงไป ฉีดพ่นเฉพาะจุด มันก็จะออกช่อ
ดอกมาใหม่ เอาจนได้ดีจนได้แหละ...ลุงคิมพูดเสมอว่าการเด็ดดอกไม่ดีทิ้ง เท่ากับการอั้นตาดอก พอออกมาใหม่ช่อมัน
จะใหญ่ ดอกแยะ ...ซึ่งป็นวิธีการคัดเมล็ดพันธุ์ให้ได้เมล็ดพันธุ์ที่ดีและแข็งแรงวิธีหนึ่ง ในหลาย ๆ วิธี ....คนอื่นทำอย่าง
ไรผมไม่ทราบ แต่ผมทำตามวิธีนี้ ....หรือใครจะใช้วิธีการซาดิสต์คือการทรมานต้นไม้ก็ได้ครับ


8





9
ภาพที่ - 9 ต้นนิดเดียว แต่ก้านดอกแข็ง และยาว ช่อดอกแตกแขนงแยะ เมล็ดก็จะ(น่าจะ)เยอะ ...ผักชีฝรั่ง กับผักชีไทย
ตั้งโอ๋ ปลูกด้วยกันก็ได้ครับ ไม่ต้องกลัวว่า รุ่นลูกออกมาจะเป็นผักชีหรือตั้งโอ๋ แปลกประหลาด ตามทฤษฎีของ เมนเดล คือ
เกสรดอกจะไม่ผสมพันธุ์กัน เพราะคนละ Species ไม่เหมือนคนไทยกับฝรั่งผสมกัน ออกมาเป็นลูกครึ่งผมแดง อันนี้ผม
ปลูกผักชีไทยแซมเอาไว้เพื่อใช้ใส่ต้มยำ ใส่ลาบ ใส่ยำ กับแกงจืด ...ถอนขายแม่ค้าลาบ พร้อมกับผักชีต้นเล็กก็มีบ้างละครับ





10
ภาพที่ - 10, - 11, และ - 12 เป็นการรดน้ำด้วย สปริงเกลอร์ เป็นผักในล๊อกที่ 1 โซน 1 กับโซน 2 เนื้อที่ประมาณ 2 ไร่
กว่า ใช้เวลารดน้ำ + ปุ๋ย ชุ่มโชก ทั้ง 2 โซนครั้งละ 30 นาที (โซนละ 15 นาที) ถ้าใช้ลากเรือรดน้ำ แค่ล๊อกเดียว 2 โซน
เดินไป เดินกลับ 5 เที่ยว ๆ ละ 150 เมตร รวม 750 เมตร ใช้เวลา น่าจะใช้เวลาเกินกว่า 2 ชั่วโมง นี่พูดถึงเดินลุยน้ำเข็นเรือ
รดน้ำท่อดูด 2 นิ้ว ท่อออก 2 นิ้วปลายท่อทำเป็นปากเป็ด ชนิดพ่นน้ำฝอย(สำหรับรดน้ำผัก)นะครับ ถ้าเดินลากสายยาง
แปลงละ 150 เมตร 3 แปลงละก็ เลิกกันเลย หมดแรงซะก่อน แล้วผักก็จะแบนราบเป็นหน้ากลอง

11

12




13
ภาพที่ - 13 พักเหนื่อย พักสายตากันนิดนึงครับ พอดี เจอภาพ เกิดปรากฎการณ์ รุ้งกินน้ำ เห็นว่าดูแล้วสบายตา สบายใจ
ก็เลยฝากมาให้ดูกันนะครับ จะเกี่ยวกับผักชีในแปลงหรือไม่ ถ้ามองผิวเผินอย่างชาวบ้าน ๆ ทั่วไป ก็ไม่เกี่ยว แต่มองตามที่
ฟังจากลุงคิม ผมว่า เกี่ยวครับ เกี่ยวแน่ ๆ การเกิดรุ้งกินน้ำ แสดงว่า วันนี้ความชื้นในอากาศสูง ไม่จำเป็นต้องรดน้ำ แต่ลุงคิม
บอกเสมอว่า ถ้าในอากาศมีความชื้นสูง ต้องใช้ โน่เอ๊ย โน่ร่า คือจะต้องพ่นยากันเชื้อรา กันเน่า แม่นบ่



14
ภาพที่ - 14, - 15, -และ – 16 ตอนเช้า ถอนผัก ระหว่างถอน เมื่อคนถอนมัดผักเป็นกำแล้วจะโยนโครมลงน้ำ และช่อดอก
ส่วนหนึ่ง คนถอนที่อยู่ริมร่องก็โยนลงน้ำทั้งสองข้าง คนอยู่หลังร่องก็ทิ้งไว้กลางร่อง ....หลังจากเก็บมัดผักขึ้นจากน้ำ ก็
จะเหลือช่อดอกที่เด็ดทิ้ง อยู่บนหลังร่องก็เยอะ อยู่ในน้ำก็แยะ ....ตกเย็น เจ้าของสวนตัวจริงกลับจากโรงเรียน ก็ต้องมา
ช่วยออกแรง เก็บช่อดอกทั้งบนหลังร่องและในน้ำออก เพราะหลังจากถอนผักวันนี้ ผักจะโดนเหยียบย่ำแบนแต๊ดแต๋ วันรุ่ง
ขึ้นต้องรดน้ำก็อย่าลืม + ปุ๋ยและยาสมุนไพรลงไปด้วย(พอได้น้ำ พร้อมปุ๋ยและยา ต้นจะตั้งขึ้นเอง) ถ้าทิ้งช่อดอกเอาไว้
ไม่เก็บออก พอได้น้ำมันก็จะเริ่มเน่า ช่อดอกยังอ่อน เน่าเร็วครับ ยิ่งถ้าได้น้ำ +ปุ๋ยชีวภาพด้วย ยิ่งเน่าเร็วเข้าไปใหญ่

เก็บออกหมดหรือไม่ ไม่หมดครับ จะมีหลงเหลืออยู่บ้าง พอตอนเช้ารดน้ำเสร็จ ตกบ่าย ถึงเย็นก็ต้อง ใช้สมุนไพรกันเชื้อ
ราใส่ เป้ ฉีดพ่น วันรุ่งขึ้นก็เดินดู พยายามเก็บช่อดอกที่เด็ดทิ้งออกให้มาก ที่สุด ก็เก็บโยนใส่เรือ ในภาพ -15 และ – 16
เอาไปทิ้งน่ะครับ หรือใครคิดจะเอาใส่เข่งแบก ก็ไม่ว่ากัน

ชาวสวนผักชีฝรั่งทั่วไป ...ในระหว่างการถอนผักแต่ละ Flight เค้าต้องเอาต้นใหญ่ ๆ ก่อน ส่วนดอกอ่อนจะเด็ดทิ้ง จนเหลือ
Flight สุดท้าย ต้นจะเล็ก ใบจะสั้น ขายไม่ได้แล้วนั่นแหละ ก็จะเอาไว้ดอกเพื่อเก็บเมล็ดพันธุ์ แล้วเมล็ดพันธุ์จากต้นในลักษณะ
นี้ จะให้ดีไปได้อย่างไรครับ เพราะต้นมันเหลือเดนแล้ว ต้นที่เกิดจากเมล็ดพันธุ์ในรุ่นต่อไป ต้นจะเล็กลง ใบจะสั้น และมันจะ
เกิดการกลายพันธุ์ คือมีการต่อยอด ขายไม่ได้ ต้องถอนทิ้ง บางสวนมีต่อยอดเป็นครึ่ง ๆ แปลง ....แต่เค้าจะอุบเงียบไม่
บอกใครหรอกครับ ขืนบอกมันเสียเชิงเซียนผัก ต้นใหญ่ ใบยาว ล่ะมีมั๊ย มีครับ 50/50 แต่ถ้าคัดเมล็ดพันธุ์ ก็จะได้
90/10 หรือ 80/20

การเก็บเมล็ดพันธุ์ของผม จะทำไม่เหมือนคนอื่น ๆ จะใช้วิธี คือ เมื่อถอน Flight ที่ 1 ที่ 2 หรือที่ 3 แล้ว ถ้าคิดว่าจะเอา
แปลงนี้เก็บเมล็ดทำพันธุ์ ก็พยายามจะไล่ถอนต้นเล็ก(ตกเกรด)ออก มัดกำส่งขายแม่ค้าขายยำ ขายลาบน้ำตก ราคาถูก
(กก.ละ 15-20 บาท) แม่ค้าลาบชอบ เจ้าละ 5 โล 10 โล ..ถอนเอง ทำเอง ไม่ต้องจ้าง จะเหลือแต่ต้นใหญ่ ๆ หลังแปลง
ก็จะโล่ง โปร่ง บางตา ดูในภาพที่ - 15 และ - 16 คือแปลงที่เห็นอยู่ด้านหลังสาวน้อย ที่เก็บเศษผักอยู่ในร่องน้ำครับ จะ
เห็นต้นเล็กเหลือน้อย มีแต่ต้นใหญ่ ๆ แปลงนี้ผมใช้เก็บเมล็ดพันธุ์ ซึ่งก็มีหลายวิธี คือ วิธีทรมานต้น, วิธีเด็ดช่อดอกสั้นทิ้ง,
วิธีตัดใบ, วิธีเดินตามตลาดสดต่างถิ่น มองหาผักต้นใหญ่ ๆ ซื้อเอามาดำปลูกแซม .. เมื่อออกดอก แมลง(ผึ้ง-มิ้ง)
จะช่วยผสมเกสร จากต้นนี้ไปต้นโน้น และ วิธีอื่น ๆ ... ฯลฯ แยะครับ....แล้วก็ น้ำผึ้งจากรังที่อยู่บริเวณต้นไม้รอบ ๆ แปลง
ผักชีฝรั่งนี่นะครับ กลิ่นมันแปลก บอกไม่ถูก

ผมแนะนำวิธีการเก็บเมล็ดพันธุ์แบบนี้ให้เพื่อนสนิทว่า ให้ทำตามแบบผมทำนี้ เค้าบอกว่า เสียดายต้นที่ยังใหญ่ยังถอนขาย
ได้หลายตังค์อยู่ แล้วก็ทำตามแบบเดิม ๆ ตามที่เค้าเคยทำ ...เรื่องทำนองนี้ สูตรใครก็สูตรใคร สอน บอกกันไม่มีใครเชื่อ .
แต่ละคนก็ว่ากูเก่ง ไว้เชิงกันทั้งนั้น ผมทำผักชีฝรั่งมาไม่นาน ชั่วโมงบินน้อย เพื่อนเค้าทำมาเป็นสิบปี แต่ก็ยังเห็นกู้ ธรณีกรรณ
แสง ทุกปี ..ขนาดว่าบางคน ซื้อยา ซื้อปุ๋ยมาใช้ ยังฉีกป้ายชื่อออก เปลี่ยนขวด ไม่ให้ใครรู้ เรื่องนี้ลุงเคยพูดออกอากาศมา
แล้ว มีจริง ๆ ครับ ผมเคยเห็นเค้าเอายาอะไรไม่รู้ (ความจริงรู้ครับ) ผสมเพื่อฉีดแมลงหวี่ขาว ขวดลิตรละ 1,200 ใส่ลงใน
น้ำ น้ำขาวยังกะน้ำนม ฉีดแล้วกลิ่นเหม็นตลบอบอวลไปทั่ว ...ตกดึก ได้ยินเสียง โอ๊ก ๆๆๆ ..ผมนึกว่าจะได้กินข้าวต้ม ตอน
พระสวดจบที่ 3 ซะแล้ว แต่ก็เห็นนอนซมไปหลายวัน


15

16



17
ภาพ – 17 แปลงนี้(ผมจำเป็นต้อง)ใช้เมล็ดพันธุ์เชียงใหม่ปลูกนครปฐม ครับ มันเป็นกฎที่ใครตั้งไว้ก็ไม่ทราบว่า ถ้าคุณ
จะปลูกไอ้นี่ ส่งพ่อค้าคนนี้ คุณต้องซื้อเมล็ดพันธุ์นั้น ๆ จากพ่อค้าคนนี้ก่อน ไม่อย่างนั้นเค้าจะไม่รับซื้อผักของคุณ นอกจาก
ว่า คุณจะมีรถวิ่งส่งผักเอง ..ตลาดนครปฐม, ตลาดสี่มุมเมือง, ปากคลองตลาด ...ปลูกผักชีฝรั่งต้องใช้เมล็ดไอ้จุ้น หรือไอ้เว้ง ,
ปลูกโอ๋ต้องใช้เมล็ดไอ้ตี๋เล็ก หรือไอ้เว้ง , ปลูกพุดซ้อนตัดกิ่ง ต้องใช้กิ่งพันธุ์ตาเปี๊ยก …หลังจากรุ่นต่อไปคุณมีเมล็ดพันธุ์
เองแล้วก็ไม่ต้อง ทีนี้ก็จะซื้อกันเองระหว่างคนปลูก ...ณ สามแยกปากหมา ศาลาตอแหล๋(ศาลาประชาคมหมู่บ้าน ที่ชุมนุมเจ้า
ยุทธจักร) เฮ้ย ผักยายแจ่มปากหมาต้นสวยว่ะ ..คนก็แห่ไปจองเมล็ดยายแจ่ม ..ผักใครดีคนก็แห่จองเมล็ดคนนั้น

เมล็ดผักของผมรุ่นแรก จึงใช้เมล็ดพันธุ์จากทั้ง ไอ้จุ่น ไอ้เว้ง และไอ้ตี๋ ...ถึงเวลาถอน ทั้งสามคนเบี้ยวผมไม่ได้ก็แล้วกัน ใคร
ซื้อจากคนเดียวก็โง่ พันธุ์ผักจากเชียงใหม่นครปฐม จะเห็นใบยาวก็จริง แต่ต้นมันจะเล็ก(เบากิโล)อันนี้เกิดจากการเก็บเมล็ดพันธุ์
ที่ผ่านการปลูกมาหลาย Generation ส่วนช่อดอกที่เด็ดกองอยู่ระเกะระกะ ทั่วไปหมด หลังจากการถอนผัก ต้องพยายามเก็บ
ออกทิ้งครับ ปล่อยเอาไว้เวลารดน้ำมันจะเริ่มเน่า




18
ภาพ – 18 แปลงนี้เป็นเมล็ดพันธุ์ที่ได้จากการเอาต้นจากเชียงรายมาปลูกที่นครปฐม 20 กก. เก็บเมล็ดรุ่นแรกได้
ก็เอาปลูกเพื่อเก็บเมล็ดพันธุ์ต่อ ใบกว้างและยาว ดูตั้งแข็ง เขียวเป็นมัน แต่ต้นไม่ใหญ่เท่าที่ควร หัวแม่มือขึ้น ไม่ถึงหัวแม่เท้..
เนื่องมาจาก น้ำ อากาศและดินครับ (ผมเคยไปหาน้องชายที่เชียงราย น้ำอาบแล้วจะออกลื่น ๆ เหมือนจะล้างสบู่ออกไม่หมด
แต่ผิวเนียนนุ่ม นักวิชาการบอกว่าเป็นน้ำแร่ ผ่านเครื่องกรองแล้วแทบไม่มีตะกอน แต่น้ำที่นครปฐม คงไม่ใช่น้ำแร่ เพราะ
อาบแล้ว คราบสบู่ออกขาวเลยครับ) ต้นในรูปยังไม่แก่เท่าที่ควร จึงพยายามอั้นตาดอกไว้ และคอยเด็ดช่อดอกทิ้ง ใบเขียว
เป็นมัน โรค แมลงไม่มีรบกวน



ทีนี้ก็มาถึงเรื่องของ โรค แมลง ศัตรูของผักชีฝรั่งมีมั๊ย มีแยะเลย

โรค คือ ไฟลามทุ่ง - คืออาการโคนเน่าเละ ลุกลามไปทั่วอย่างรวดเร็ว คืนเดียวกินวงกว้างเกือบเมตร น่าจะเกิดจากแบคทีเรีย
การแก้เบื้องต้น ชาวสวนทั่วไปใช้ ไวตาแว็กซ์ เป็นผง กระปุกละ 1,000 ของผมใช้เป็นการทำนอกกตำรา คือ ใส่ถุงมือยาง
กอบโกยออกใส่ถุงก๊อปแก็บ เอาไปเผาพร้อมถุงมือ ล้างมือบนพื้นแห้ง ล้างด้วยแอลกอฮอล์อีกครั้ง แล้ว เอาแป้งมองเล่ยะ
ผสมกับน้ำปูนแดง ฉีดพ่นบริเวณนั้น แล้วงดให้น้ำตรงจุดนั้นปล่อยให้แห้ง แล้วพ่นซ้ำ 2 – 3 ครั้ง แล้วก็ถอนต้นบริเวณรอบ ๆ ที่
เป็นออก อย่าเสียดาย จะกลายเป็นเสียน้อยเสียยาก ....แต่ในหมู่คน ย่อมมี ผู้ไม่ประสงค์ดี ของกูเสีย มึงต้องเสียด้วย คือ
เมื่อกอบเอาที่เน่าละออก ก็เอาทิ้งลงคลอง ครับ เชื้อมันก็แพร่กระจายไปตามสายชล ....สาธุ สัพเพสัตตา ...ปลูกมะม่วง
ย่อมได้กินมะม่วง จะได้กินลิ้นจี่หรือองุ่นหาได้ไม่ ฉันใด ก็ฉันนั้น กรรมใดใครก่อ กรรมนั้นย่อมคืนสนองผู้กระทำ กรรม เวร
ย่อมระงับด้วยการทำเวร ถ้าไม่ทำเวรโดนครูตี

ต่อไปก็ โรคใบเน่าเป็นจุด แล้วจะเกิดเป็นราเม็ดผักกาดรอบจุดดำ มันจะลุกลามเร็วดีเหมือนกัน ต้องงดให้น้ำแล้วใช้วิธีตัดใบ
ใส่ถุงออกเผาทิ้ง หาสมุนไพรรสขม ๆ มาต้ม พอน้ำที่ต้มเย็น ก็เอาผสมกับน้ำสะอาด น้ำยาขม 80 ส่วน+ น้ำสะอาด 20 ส่วน
เอาฉีดพ่นบริเวณที่เป็น

ต่อไปก็ แมลงหวี่ขาว, เพลี้ยไฟ, ไรแดงหรือแมงมุมแดง ....ทำตามลุงคิมบอกคือ รดน้ำตอนเที่ยง แล้วก็ใช้เครื่องต้มยำ ..
พริก ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด ขมิ้นชัน ทุบ ตำ แล้ว ต้ม เอาน้ำที่ได้มาผสมน้ำปรับสภาพน้ำด้วยน้ำส้มสายชู เอาการบูร ผสมลง
ไปนิดหน่อยเพื่อเอากลิ่น ฉีดพ่นช่วยไล่แมลงไปด้วย

สำหรับแมลงหวี่ขาว เพลี้ยไฟ ไรแดงหรือแมงมุมแดง ถ้าลงมากหรือมีต้นที่เป็นมากยากจะแก้ ให้ถอนต้นทิ้ง เอาใส่ถุง เอา
แอลกอฮอล์ใส่ถุง เอาไปเผา พรึ่บ เรียบร้อย แต่มันก็มี ชีวภัณฑ์กำจัดศัตรูพืช ชื่อ บูเวริน ชื่อสามัญ บูเวเรีย บัสเซียน่า อันนี้
เค้าใช้ฉีดพ่นป้องกันแมลงหวี่ขาวในใบหม่อน ไปขอได้ที่เกษตรอำเภอฟรีครับ

ก็ยังมีโรคร้ายแรงอีกอย่างคือ โรคยอดบิด ลุกลามดีเหมือนกัน ผักจะขายไม่ได้เลย ยังหาสาเหตุไม่ได้ นักวิชาการบอกว่า เกิด
จากไวรัส ยังไม่มียาแก้ แล้วก็ยังไม่คิดจะหาวิธีแก้ ผมก็ต้องหาทางแก้เอาเอง เอาแอลกอฮอล์ล้างแผล ผสมน้ำยาบ้วนปาก
แล้วก็ ไฮโรเย่นเปอร์ออกไซด์ที่ล้างแผลแล้วเป็นฟองฟู่ ฉีดพ่นให้ต้นเหี่ยว แล้วถอนเอาไปเผาทิ้ง ใส่ถุงมือยางด้วยนะครับ แล้ว
ก็อย่าไปจับต้นที่ยอดไม่บิดเป็นอันขาด

ศัตรูอย่างอื่น ๆ อาจจะมีในท้องที่อื่น มีอะไรบ้าง ดูใน Web ที่ลุงคิมตอบเมื่อวันที่ 14 มกราคม 2555 นะครับ แต่เท่าที่ผม
เคยเจอมาแถวนครปฐมก็มีเท่าที่บอก ...ก็ขอจบการปลูกผักชีฝรั่ง ตอนที่ 2 ลงแค่นี้ ...ยังมีต่อตอนที่ 3 การเก็บเมล็ดพันธุ์ ...
ถ้าสนใจก็คอยติดตาม ขอบคุณครับ


ด้วยความนับถือ
แดง ศาลายา
(วัดมะเกลือ ถนนศาลายา – บางภาษี) นครปฐม






.[youtube][/youtube]
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
DangSalaya
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 23/06/2011
ตอบ: 1874

ตอบตอบ: 06/06/2013 10:34 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

kimzagass บันทึก:
ผักชีฝรั่ง - 3


26 มกราคม 2555
เรียน ลุงคิม ที่นับถือ
ปลูกผักชีฝรั่ง ตอนที่ 3 ว่าด้วยการเก็บเมล็ดพันธุ์

ผมได้คุยเรื่องการปลูกผักชีฝรั่งมา 2 ตอน ตั้งแต่เริ่มเตรียมแปลงปลูกจนถึงวันเก็บผลผลิต ตามด้วยโรคและแมลงศัตรูผักชีฝรั่ง พร้อมด้วยสิ่งละอันพันละน้อย ซึ่งบางอย่างไม่มีในตำรา เพราะ สภาพแวดล้อมของแต่ละพื้นที่แตกต่างกัน คราวนี้ก็จะขอคุยต่อเป็นตอนที่ 3 ว่าด้วยการเก็บเมล็ดพันธุ์

เมล็ดของผักชีฝรั่งมีขนาดเล็กมาก เล็กจิ๊ดเดียว ขนาดประมาณ 1/2 มม. เห็นจะได้เล็กกว่าขี้มอดซะอีก ไม่น่าจะงอกออกมาเป็นต้นใหญ่เบ้อเริ่มเทิ่มได้เลย แบบเดียวกับต้นโอ๊ค กับต้นสัก เมล็ดนี๊ดเดียวแต่งอกเป็นต้นแล้ว ใหญ่โตมโหฬาร

การเก็บเมล็ดพันธุ์ เริ่มด้วยการหักช่อดอก บางคนใช้มีดเล็ก ๆ ตัด ผมว่าช้าและเสียเวลา ไม่ทันใจวัยโจ๋อย่างผม ผมถนัดมือขวา ก็จะใช้ เอานิ้วชี้ กับนิ้วกลางมือขวา หนีบไปที่ ค่อนลงมาทางโคนช่อดอก บิดมือ แล้วกระตุกเข้าหาตัว ปึ๊ด ช่อดอกก็จะขาดออก
จากต้น หนังจีนเรียกว่า แค่พลิกฝ่ามืออะไรทำนองนั้น แล้วก็บรรจุ(ยัด)ลงในกระสอบปุ๋ยที่ค่อนข้างสะอาดและแห้ง อธิบายยาก ต้องลองทำดูเอง บางคนก็ใช้เล็บนิ้วหัวแม่มือ กับนิ้วชี้ กดไปที่ก้านดอกแล้วก็บิด แต่ทำไปนาน ๆ จะเจ็บหัวแม่มือ ก็แล้วแต่ใคร
ถนัดอย่างไร ก็ทำอย่างนั้นครับ เวลาจะเก็บเมล็ด คนอื่นผมไม่ทราบ แต่ก่อนเก็บเมล็ด ผมจะงด ไม่รดน้ำผัก 1 วัน พอ 8 โมงเช้าก็เริ่มลุย พอประมาณ 10 โมงกว่า ๆ ก็หยุด เวลาประมาณ 2 ชม. คนหนึ่งก็น่าจะได้ 5-6 กระสอบปุ๋ย

ตอนบ่าย ถ้าจะเก็บต้องใช้มีดตัด เพราะก้านมันจะเหนียว การใช้มีดตัด แต่ละคนก็มีเทค นิดในการใช้มีดไม่เหมือนกัน ใช้มีดบางขนาดกลาง ๆ ที่ด้ามทำด้วยไม้ จะกำถนัดมือที่สุด บางคนถนัดคว่ำมีด บางคนถนัดหงายมีด ใช้นิ้ว กลาง นาง ก้อย กำด้ามมีด ให้คมมีดโผล่ระหว่างนิ้วโป้งกับนิ้วชี้ เสียบไปที่ก้านแล้วก็บิดข้อมือ จะบิดเข้า หรือบิดออก ก็อยู่ที่การกำมีดว่าหงายหรือคว่ำ ต้องลองทำดูครับ อย่างไรก็ตาม มีดต้องคมกริบ

การเลือกช่อดอกที่จะเด็ด ...วิธีการของคนอื่น ผมไม่ทราบ แต่ที่ผมทำเป็นวิธีการของผมเอง ยึดถือเป็นตำราไม่ได้นะครับ อย่างไรก็ตาม ลุงคิมพูดอยู่เสมอว่า การอธิบายเรื่องการเกษตร พูดสั้น ๆ จะไม่รู้เรื่อง ฉะนั้น ผมขอร่ายยาว ไม่ว่ากันนะครับ ดูจากรูปกันเลย






1
ภาพ – 1 ไม่มีคำอธิบาย น้องชายของผม มันปลูกข้าวหอมที่เชียงราย มันค้นเจอในเน็ตลุงคิม แล้วส่งมาให้ผมอีกที น้องมันบอกว่า ที่ปลูกข้าวครั้งแรกได้กินข้าว ก็เพราะ บอร์ดอันนี้แหละ ทั้งผมและน้องชาย ถือเป็นของสูงค่า เป็นคำสอน ถือเป็นครู ผมขอคารวะ ขอบูชา ด้วยความจริงใจครับ (ตอนนี้ไม่มีหญ้าแพรก แทรกดอกมะเขือ – หญ้าแพรกจมน้ำแต่ไม่ตาย น้ำลดคงจะงอกครับ แต่มะเขือ ตายหมดแล้ว )....




2
ภาพ - 2 ให้ดูว่า ช่อดอกที่ ดอกที่โคนก้าน ออกสีเหลืองกระดังงา ประมาณ 1 ใน 3 ของก้านช่อ ก็ถือว่าใช้ได้แล้ว อย่าปล่อยให้ดอกโดนก้านออกสีดำ เมล็ดจะแก่เกินแกง เมล็ดบริเวณโคนก้านจะร่วงหมด เหลือแต่ตรงกลางกับส่วนปลาย ..เคยได้ยินคำว่า เมล็ดจะไม่แรง มั๊ยครับ เมล็ดบริเวณโคนก้านคือเมล็ดที่มี % การงอกค่อนข้างดีที่สุด ชาวสวนเรียกว่า เมล็ดมันแรง

เนื่องจากเมล็ดผักชีจะแก่จากโคนก้านไปปลายก้าน การแก่ของเมล็ดจึงไม่เท่าเทียมกัน ผมจะแบ่งช่อดอกเป็น 3 ส่วน ส่วนโคน 1 ใน 3 ส่วนกลาง 2 ใน 3 และที่เหลือคือ ส่วนปลาย ให้ย้อนไปดู ภาพ - 19 ในตอนที่ 1 จะเห็นที่ผมบอกว่า เมล็ดที่งอก มีทั้ง ต้นเล็ก ต้นกลาง ต้นใหญ่ (Good, Better, Best) ต้นใหญ่คือเมล็ดที่งอกจาก ส่วนโคนช่อดอก เมล็ดบริเวณนี้ถือว่า เมล็ดแรงที่สุด ต้นขนาดกลางคือเมล็ดที่งอกจาก ส่วนกลางช่อดอก และต้นเล็กก็จะงอกจากเมล็ดที่อยู่ส่วนปลายช่อดอก แต่ก็ไม่แน่เสมอไป มันก็มีทางเป็นไปได้ว่า เมล็ดที่งอกจากส่วนกลางและส่วนปลายช่อดอกอาจต้นใหญ่กว่าเมล็ดที่งอกจากส่วนโคน ขึ้นอยู่กับตัวที่ควบคุมการเจริญเติบโต ที่เรียกว่า ยีน น่ะครับ แต่จะเป็น ยีน ยี่ห้ออะไร ผมไม่ทราบครับ

เมื่อเด็ดก้านช่อดอกอัดใส่กระสอบมาแล้ว ชาวสวนส่วนมาก จะหาผ้าใบหรือผ้าพลาสติกหนา ๆ ปูกลางแดด เอาช่อดอกผักชี เทจากกระสอบออกตากแดดทันที แค่วันเดียวช่อดอกแห้ง 50 % ทำให้เมล็ดตรงส่วนกลางและส่วนปลายช่อดอกก็จะไม่แก่เต็มที่ จากประสบการณ์ ผมขอแนะนำว่า อย่าเพิ่งเอาออกตากแดด ให้เก็บเอาไว้ในกระสอบปุ๋ย บ่ม ไว้ซักคืนนึง ทั้งนี้ก็เพื่อที่ว่า ชั่วคืนเดียว เมล็ดที่อยู่ตรงกลางในส่วนที่ 2 มันจะแก่ ขึ้นอย่างน้อยก็ 80 %+ และเมล็ดที่อยู่ส่วนปลายช่อก็จะแก่ขึ้นประมาณ 65 – 75 % ซึ่งเป็นเรื่องแปลก ผมก็อธิบายไม่ได้ว่าเพราะอะไร อาจเป็นเพราะสัญชาตญาณ ของพืชและสัตว์ในการขยายพันธุ์ มั๊ง

ถ้าเราปลูกในพื้นที่น้อย ๆ เมื่อเทช่อดอกออกจากกระสอบ เราก็จะเคาะ ๆ หรือบี้ เมล็ดบริเวณโคนก้านช่อดอกนี้เพื่อให้เมล็ดมันร่วงลงมา (ในภาชนะที่รองรับ – กะละมัง ) เสียเวลาหน่อยแต่จะได้เมล็ดพันธุ์ที่ Best of the Best คือแข็งแรง และดีที่สุด และถ้าเราแยกเมล็ดพันธุ์ส่วนนี้เก็บได้มากพอ เอาแบ่งขาย รับรองว่า ปีหน้า หมอไม่รับเย็บ เอ๊ยไม่ใช่ครับ ปีหน้าจะมีคนมาสั่งจองเมล็ดพันธุ์เพียบก็แล้วกัน ราคา กก.ละจาก 3,500 อาจจะเป็น 4,500 – 5,000 หลังน้ำท่วมปีนี้ น่าจะถึง กก.ละ 6,000 (ปลูกผักชีไทยน่ะดีแล้ว)




3
ภาพที่ - 3 หาผ้ายางปูแล้วเอาเมล็ดพันธุ์ออกตากแดด ห้ามใช้แผ่นสังกะสี หรือแผ่นโลหะปูรองนะครับ มันร้อนเกินไป จะกลายเป็นการคั่วเมล็ด




4
ภาพที่ – 4 หลังจากที่ตากซัก 3 แดด ช่อดอกจากเขียว จะกลายเป็นสีดำแบบนี้แหละ ตกบ่ายแก่ ๆ ขณะที่ช่อดอกกำลัง กรอบ ก็ขึ้นย่ำ(นวด)ได้เลย แต่ถ้าคิดว่าจะเก็บค้างคืนเอาไว้นวดตอนเช้า ก้านมันจะนิ่ม นวดไม่ดีครับ เวลานวดก็ใช้ผ้ายางปูรอง แล้วก็สรวมรองเท้าบูทขึ้นย่ำได้เลย งานจิ๊บจ๊อย แค่นี้ เด็ก ๆ ก็ทำได้ เค้าเรียกว่าเป็นการนวดเมล็ดครับ ย่ำซะพักเดียว ก้านดอกก็จะแหลกแยกส่วนทั้งเมล็ดและก้านปนกัน เมล็ดก็ร่วงออกมา แต่ผมเคยเห็นบางคน ใช้เท้าเปล่าขึ้นลุยเลย ปลายแหลมของดอกไม่ยักตำแฮะ หนังเท้าคงจะหนามาก





5
ภาพ - 5 ย่ำเสร็จ เราก็สง ๆ เขย่า ๆ แยกเอาก้านออกมา ใส่ กะละมังไว้ก่อน อย่าเพิ่งทิ้ง เมล็ดยังไม่หมดครับ




6
ภาพ - 6 ก็เอามุ้งเขียววางบนปากกะละมังอีกใบ เอาเมล็ดที่เราย่ำและสงเอาไว้มาร่อน เมล็ดก็จะร่วง ลงในกะละมัง ส่วนเป็นเศษผงและช่อดอกจะอยู่บนมุ้งเขียว





7
ภาพ - 7 เอาเศษก้าน และเศษผง ตากแดดซะอีกวัน เพื่อให้มันแห้งอีกหน่อย แล้วก็มาย่ำ แล้วก็ร่อน ตามที่กล่าวข้างต้นอีกรอบ ก็จะเหลือ ก้าน (กะละมังด้านใน) เศษก้านและฝุ่น (กะละมังใหญ่) และ เมล็ด(กะละมังเล็กสีไข่ไก่)

ส่วนก้านท่อนใหญ่ ๆ บางคนเค้าเอาเก็บใส่กระสอบไว้ เพื่อว่า ในการหว่านเมล็ดคราวหน้า ก็จะเอาเศษก้านนี้หว่านไปด้วย มันก็จะมีต้นงอกขึ้นมาจากก้านส่วนนี้ไม่น้อยเหมือนกัน แล้วก้านจะไม่เน่าหรือ ไม่เน่าครับ เพราะจะใช้น้ำหมักชีวภาพ ผสมน้ำใส่ฝักบัวรด ไม่กี่ครั้งมันก็ย่อยสลายกลายเป็นปุ๋ยไปเอง




8
ภาพ – 8 หลังจากร่อนแล้วเราก็จะได้เมล็ด(ในกะละมังสีไข่ไก่) และฝุ่น (ในกะละมังใหญ่) ส่วนเศษก้านแยกออกไปแล้วครับ




9
ภาพ - 9 เอาพัดลมเปิดเบอร์เบาสุด ตั้งห่างพอประมาณ หันพัดลมมาทางกะละมัง กอบเมล็ดขึ้นโปรย ลมจะพัดเอาส่วนที่เป็นฝุ่นและละออง ปลิวออกไป เหลือแต่เมล็ด ...จากก้านช่อ 3 กระสอบปุ๋ย ก็ได้เมล็ดขีดกว่า ๆ แค่นี้เอง...ถ้าจะให้ได้ถึง 10 ขีด หรือ 1 กก. คงต้องเก็บก้านช่อดอกราว ๆ 30 – 40 อาจถึง 50 กระสอบปุ๋ย ….การแยกฝุ่นออกจากเมล็ดพันธุ์ บางคนใช้กระด้งฝัดข้าว ฝัดเอาฝุ่นและเศษผงออก ใครถนัดอย่างไรใช้อย่างนั้น ไม่ว่ากันครับ

ทั้งหมดก็เป็นการเก็บเมล็ดพันธุ์โดยไม่แยก ดอกโคน ดอกกลาง และดอกปลาย ซึ่งก็มีเหตุผลละครับว่า เวลาปลูกก็ให้มันขึ้นปนกันทั้งเล็ก กลาง ใหญ่ ถอนได้หลายรุ่น ...แม่ค้า สี่มุมเมืองชอบต้นใหญ่ ก็ถอนต้นใหญ่ แม่ค้า คอนถม ชอบกลาง ๆ ก็ถอนกลาง ๆ แอบแทรกและแซมต้นเล็กไปด้วยอันนี้ขึ้นอยู่กับฝีมือคนกำผัก บางคนกำผักได้สวยและเนียนมาก และแม่ค้าตลาดนัด แม่ค้าลาบ ส้มตำ ยำ ต้มแซ่บ ชอบเล็ก ก็ถอนเล็กให้ไม่ว่ากัน

ทีนี้ สำหรับต้นพันธุ์ ที่หักช่อดอกแล้ว ชาวสวนเซียนผักทั้งหลายก็จะปล่อยทิ้ง บ้างก็เอายาฆ่าหญ้าฉีดทิ้ง ให้มันตาย เพื่อเตรียมแปลงปลูกรุ่นใหม่ แต่สำหรับผม บอกแล้วว่าต้องประหยัด และต้องให้ได้ผลคุ้มค่า แล้วอีกอย่างเมล็ดพันธุ์มันแพง ก็เลยคิดว่า มันน่าจะมีวิธีที่จะทำให้ต้นที่เราเด็ดช่อดอกออกแล้ว มันออกดอกเป็นรอบที่ 2 ได้ ทำได้ครับทำได้ และอาจจะได้เมล็ดพันธุ์ที่ดีด้วย

หลังจากเราเด็ดช่อดอกออกแล้ว ต้นมันยังไม่ตาย ผักชีฝรั่งตายยากครับ ถ้าปล่อยไว้สักระยะ มันจะแตกยอดอ่อน แบบผักคาน้าที่เขาตัดต้นใหญ่ออกแล้ว มันจะออกเป็นต้นเล็ก ๆ เรียกว่า ยอดผัก ทำราดหน้ายอดผักนั่นแลครับ และยอดผักคาน้ารุ่นนี้ นี่กินได้สนิทใจเพราะเค้าไม่ฉีดสารเคมี สำหรับผักชีฝรั่ง ที่เด็ดช่อดอกออกแล้ว เราก็เดิน(ความจริงนั่งยอง ๆ หาม้ารองก้นด้วยนะ ไม่งั้นกว่าจะสุดร่อง เมื่อยตายโหง) ไล่ตัดต้นใหญ่ ๆ เอาใบออกเหลือแต่ตอ และเพื่อไม่ให้เสียเวลา ก็ถอนหญ้าทิ้งไปด้วย เสร็จแล้วยังไม่ต้องรดน้ำ ปล่อยทิ้งไว้ซัก ให้แผลแห้งซัก 2 วันจึงรดน้ำพร้อมปุ๋ยเร่งต้นเร่งดอก แล้วก็ปล่อยทิ้ง อีก 5 วันทำใหม่ ทำ 3 ครั้ง มันจะเริ่ม ไม่แตกยอดก็ออกดอก ต้นไหนแตกยอด ตัดทิ้ง ต้นไหนแตกดอก เอาไว้ วิธีการก็ทำคล้าย ๆ กับทำข้าวตอซัง

ประมาณ 20 – 30 วัน ก็จะเห็นละว่า ต้นไหนช่อดอกใหญ่ ก็เก็บเป็นพันธุ์รุ่น 2 ได้อีกครั้ง ต้นไหนดูไม่เข้าตากรรมการ ถอนทิ้งไป ขณะเดียวกัน ถ้าจะหว่านผักรุ่นใหม่ก็ทำได้เลย โดยไม่ต้องตีดิน และตากดิน เพียงแต่เปิด ซาแรนออก ให้ดินได้รับแสงแดดบ้าง พร้อมกับใช้ อินทรีย์นำเคมีเสริม + น้ำหมักสมุนไพร ใส่เป้ 20 ลิตร เดินพ่นลงดินตนเย็น ร่องยาว 150 เมตร 1 เป้ รุ่งขึ้นก็รดน้ำแว๊บเดียวพอดินเปียกแล้วปล่อยไม่ต้องรดน้ำอีก หาวันเหมาะ ให้ดี ว่าจะหว่านวันไหน แล้วจะถอนผัก Flight แรกวันไหนถึงจะได้ราคาดี ก็หว่านไปเลย ก่อนจะหว่านก็เดินปิด ซาแรนซะก่อน หว่านแล้วก็รดน้ำ พอดินเปียกชื้น อย่าให้ดินโชก ถ้ารดโชกเมล็ดจะไหลตามน้ำไปหมด ปล่อยให้ดินแห้งแตกระแหงตามรูป - 19 ในตอนที่ 1 ...เทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ แบบนี้ ไปถามชาวสวนหรือเจ้าของสวนผักชีให้ตายก็ไม่มีใครเค้าบอกกันหรอกครับ อยากได้วิชา ต้องใช้ หูผี จมูกมด ตาเหยี่ยว นิ้วก้อยนำตามด้วยปากน้ำเชื่อม แล้วก็สัมผัสที่หก บางครั้งอยากได้วิชาต้องยอมเสียผี เอ๊ยไม่ใช่ ยอมเสีย ช้าง สิงห์ กระทิง อาจตามด้วยแร่ด(มะม่วง) ...ครับทุกอย่างเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์ ครับ

ผมลืมบอกไว้ในตอนที่ 2 เกี่ยวกับศัตรูผักชีฝรั่งอีกอย่าง คือ หญ้าในแปลงผัก ก็มีไม่น้อยนะครับ ผักแว่น ผักปอด บัวบก ผักบุ้งทั้งยอดแดงและยอดขาว กกต้นเล็ก ๆ ฯลฯ มีสารพัดหญ้า ถ้าเจอผักเสี้ยนผีเข้าละก็ หนามตำปวดดีไม่หยอกเลยครับ และหญ้าที่ปราบยากอีกอย่างคือ แห้วหมูครับ แม่ผมเคยบอกว่า แห้วหมู เอาหัวมาต้มถึง 7 ครั้ง เอาไปปลูกยังขึ้นเป็นต้นได้ ความจริงมันไม่ขึ้นหรอกครับ ท่านเปรียบให้ฟัง ความจริงคือ รากแห้วหมูที่เราดึงออกไม่หมด ไม่ช้าไม่นาน มันจะงอกเป็นต้นเล็ก ๆ น่ารักน่าเอ็นดู มันจะงอกขึ้นมาเป็นกระจุก แล้วเมล็ดจากดอกแห้วหมูที่ยังไม่แก่ ก็สามารถงอกได้ เหมือนข้าวดีดละครับ ขนาดว่าเมล็ดเป็นแค่น้ำนม ตัดหรือถอนเอาวางไว้บนคันนา ยังงอกได้เลย





10
ภาพ – 10 กกต้นเล็ก สูงประมาณศอกแขน ดูในรูปนี้ครับ ...ผมเคยถอนออกแล้วเอาใส่กระถางขนาด 12 นิ้ว เอาดินก้นร่องใส่ เอากกลงปลูก ตั้งไว้ดูเล่นบริเวณบ้านประมาณ 30 กว่ากระถางตั้งทิ้งไว้เป็นเดือนจนหน้าดินแห้ง ไม่เคยรดน้ำมันก็ไม่เหี่ยว มีคนกรุงเทพฯ ขับรถปิ๊คอัพผ่านมาเที่ยว เกิดชอบใจจอดรถ ถามว่าต้นอะไร สวยดี ก็บอกว่า ต้นกก เค้าก็ถามว่า ขายไม๊ ต้นเท่าไหร่ ก็บอกว่าไม่ขายอยากได้ให้ฟรี แต่ขอค่ากระถาง ใบละ 20 (กระถาง 12 นิ้ว ซื้อปลีก ใบละ20 ซื้อ 50 ใบ เหลือใบละ 18 ซื้อ 100 ใบเหลือใบละ 15) เค้าจ่ายเงินแล้วขนขึ้นรถไปหมดเลย ป่านนี้คงไปขยายพันธุ์ รกเต็มบ้านแล้วมั๊ง ...จากสิ่งที่ไม่มีประโยชน์สำหรับเรา แต่ดันไปเข้าตาคนอื่นเค้าชอบ ....สำหรับผักแว่น ถ้าเจอต้นเล็ก ๆ ต้องขุดออกเลย ถ้าปล่อยไว้ไม่เกิน 15 วัน จะแพร่เป็นกระจุกแล้วถอนยากนักหนา ถ้าดึงรากขาด จาก 1 รากกลายเป็นสิบต้น ยิ่งถ้าเป็นฝักด้วยแล้ว สะกิดนิดเดียว ฝักแตกเป๊ะ เมล็ดกระจายรอบทิศ ยิ่งมันส์เข้าไปใหญ่ บัวบกก็เช่นกัน เวลาปลูกผักชี บัวบกที่ขึ้นแซมงามเป็นบ้า เลื้อยแพร่ดีไม่หยอก ถ้ามีดอกด้วยก็ไม่ต้องพูดกัน...แต่มันก็แปลกครับ เวลาปลูกบัวบกเข้าจริง ๆ มันก็ไม่ค่อยอยากจะงาม

หญ้าริมร่องก็ไม่เบา หญ้าบางอย่าง และต้นกก จะขึ้นริมร่องน้ำ นั่งถอนสัก 10 เมตร ก็เริ่มปวดหลัง เพราะต้องก้ม ๆ เงย ๆ จะให้ดีต้องลุยลงน้ำถอน มีดขอพกติดเอว มีดบาง ปลายแหลมโค้งลง กำไว้ในมือ เป็นมีดที่เหมาะมาก มือขวากดปื๊ด มือซ้ายดึงโยนใส่เรือ ทำทั้งสองฝั่ง ร่องยาว 150 เมตรก็ใช้เวลาลุย ไม่เกิน 2 ชั่วโมงครึ่ง ก็เสร็จ ผักบุ้งแดง ก็ทำลายยาก ยิ่งตัดยิ่งแตก แม่ค้าส้มตำชอบครับ มัดกำขนาด เอานิ้วหัวแม่มือกับนิ้วชี้สองข้างโค้งชนกัน ครับ กำประมาณนั้นเด็ดยอดยาวฟุตกว่า ๆ หรือ 1 ศอกแขนราคา 10 บาท 10 กำก็ 100 แล้ว จะว่าไปแล้ว บัวบกก็ถอนขายได้นะครับใส่ถุงใสเจาะรู(ถุงใส่ผักชี)ถุงบรรจุ 5 กก. กก.ละ 10 บาท ถอนผักชีเสร็จ ถอนบัวบก ถอนผักบุ้ง ขาย ผลพลอยได้น่ะครับ ….หญ้า วัชพืช ที่กล่าวมานั้น บั่นทอนความเจริญเติบโตของผักชีฝรั่งทั้งสิ้น

ทีนี้ พูดถึงเครื่องมือทำสวนก็สำคัญไม่น้อย เครื่องมือหลัก ๆ เช่นมีด พร้า จอบ เสียม... ที่ไหน ๆ ก็คงจะเหมือน ๆ กัน หลายคนคงเคยเห็น แต่ในการทำสวนผักชีฝรั่ง เครื่องมือปลีกย่อย ก็อาจพิเศษ พิสดารแตกต่างกันไปตามความเหมาะสมประสบการณ์จะบอกเราเองว่า เครื่องมือที่ใช้ ควรเป็นอย่างไร ควรทำอย่างไร บางอย่างไม่มีขาย ก็ออกแบบเองแล้วไปจ้างโรงตีเหล็กให้เค้าทำให้ ....เหล็กแหนบเมืองไทย คุ่ย ๆ ไม่ได้เรื่อง อย่างมีด อรัญญา คมไม่นาน ต้องใช้เศษเหล็กจากเช็คโก หรือเหล็กจากบริษัท อินเดีย ดัม ดัม เอามาหลอมแล้วตี หรือไม่ก็ทำจากผาลไถรถฟอร์ด ครับ โรงตีเหล็กจะสั่งนำเข้ามา สำหรับตีเหล็กชนิดพิเศษหรือสั่งทำ อย่างมีดตัดอ้อย ตีออกมาเป็นมีดแล้ว ถึงจะบอกได้ว่า รับประกันความคม ....ผมจะให้โรงตีเหล็กที่กำแพงแสนเค้าทำให้

สุดท้ายที่สำคัญคือ คนถอนผักและคนทำผัก ต้องมีประจำ และนัดหมายวันถอนให้ดี แล้วก็ต้องระวัง คนถอนผักที่ชอบ สายซ้อน ครับ นัดกับเราซะดิบดี วันรุ่งขึ้นไม่มาซะฉิบ Gone with the GIG แอบไปถอนให้เจ้าอื่นที่ตัดราคาค่าถอนเราไปซะแล้ว ขาดแรงคนถอนไป 1 คนมีความหมายต่อการที่จะได้ผักไม่ครบจำนวนที่พ่อค้าสั่ง มันจะเสียกันเป็นทอด ๆ และถ้าพ่อค้าถามว่าทำไมได้ผักไม่ครบตามสั่ง ก็ต้องบอกว่า กูโดนสายซ้อนว่ะ และความมีน้ำใจของพ่อค้าคือ เค้าจะสืบถามจนรู้ว่า ใครถอนผักวันเดียวกับเราบ้าง แล้วคนที่นัดเราไปถอนผักให้ใคร พ่อค้าก็จะดัดหลังด้วยการ สั่งคนนั้นงดถอนผัก 3 – 5 วัน ...ที่สำคัญอีกอย่าง ถ้าผักราคาดี กิโลละ 40 + ก็ โอเค ถ้าวันไหนราคาผักเหลือ กก.ละ 25 บาท ก็วัดครึ่ง กรรมการค่อน คือค่าถอนค่าทำก็จ่ายไปแล้ว กก.ละ 8-10 บาท จะเหลือเป็นของเราแค่ 17-15 บาท

ความจริงมันมีรายละเอียด วิธีการ และเทคนิคปลีกย่อยอีกเยอะแยะ คุยกันยาว หมดกลมเดียวก็ยังไม่จบ เรื่อง ทุกอาชีพมีทั้งศาสตร์และศิลป์ที่ไม่มีในตำรา และไม่มีใครเขาบอกเทคนิควิธีการกันหรอกครับ ...แม้ลุงคิมจะพูดอยู่เสมอ ๆ ว่า จะให้รวม ร่วมกันทำ แต่มันเป็นเรื่องยากมาก ๆ ครับ เข้าทำนอง รวมกันตายหมู่ แยกกันอยู่ต่างคนต่างตาย และที่สำคัญที่สุด อย่าให้ใครมายืมสิทธิ์ไปยืมเงินกองทุนหมู่บ้านเชียวนะครับ ผมโดนมาแล้ว ญาติกันแท้ ๆ ผมใช้หนี้เงินกองทุนหมดไปหลายปีแล้ว จนป่านนี้ยังไม่ได้เงินคืนจากญาติคนที่ขอสิทธิ์ให้เรายืมให้เลย ทวงถามทีไร ก็โกรธซะอีกด้วย ผมก็คุยบอกเล่าแค่เนื้อ ๆ มีน้ำแทรกบ้างพอเป็นน้ำกระสายยา รู้ก็บอกได้เท่าที่รู้ เท่านั้นแหละครับ






11
ภาพ - 11 – 12 ก็ เป็นภาพน่ารัก ๆ นกปรอด มาทำรังอยู่บนต้นโป๊ยเซียนริมทางเดิน ข้างบ้าน เอามือไปแหย่ใกล้ ๆ มันก็ไม่หนี ...เมตตาธรรมค้ำจุนโลกครับ ต่างคนต่างอยู่ ถึงเวลาต่างคนก็ต่างไป แต่นกคู่นี้ ถึงเวลาจะมาทำรังบริเวณนี้ทุกปี


12
....อยากจะบอกว่า ภาพต่อ ๆ ไปนี้ เป็นภาพจากชีวิตจริง ของจริง ๆ และเพื่อจะบอกให้เป็นข้อคิดว่า ใครคิดจะปลูกผักชีฝรั่ง หรืออะไรก็ตาม ปลูกในพื้นที่ไหน กรุณาดูทิศทางน้ำให้ดีนะครับว่า ปีหน้าฟ้าใหม่ ความจริงปีนี้แหละ เพราะจากวันนี้(26 มค.55)ไป อีก ประมาณ 9 เดือนเท่านั้น คือปลาย ๆ ตุลาคม 2555 น้องน้ำจะมาอีกแล้ว แต่จะมามากน้อยแค่ไหน มาจากทิศทางไหน จะปิดจะกั้นน้ำทางไหนไม่มีใครบอกได้ บอกตามตรงว่า ชาวสวนผักนครปฐมทุกคนหวาดผวา ไม่มีความเชื่อมั่น และไม่มีความมั่นใจในวิธีและกระบวนการแก้ไขปัญหาน้ำท่วมของรัฐบาล

สวนผักของผมเริ่มถูกน้ำท่วม จนถึงท่วมสูงที่สุดประมาณ 2.50 เมตร มาตั้งแต่วันที่ 22 ตุลาคม 2554 จนถึงวันที่ 18 มกราคม 2555 หลังจากที่ระดับน้ำ ค่อย ๆ(ขอบอกว่า ค่อย ๆ ลดลงทีละนี๊ๆๆๆดนะครับ) พอลดลงต่ำกว่า คันล้อม ประมาณ 5-6 นิ้ว จำเป็นต้องสูบน้ำออกเอง เทศบาลไม่มามองหรอกครับ จะมาอีกครั้งก็อีตอนหาเสียงนั่นแหละ ผมสูบตั้งแต่วันที่12 – 17 มค.55 วันละ 8 ชั่วโมงใช้ท่อ 8 นิ้ว และขณะที่เขียนกระทู้อยู่นี้ ถนนทางที่จะเอารถขนของเข้า – ออก ไปที่สวน น้ำก็ยังท่วมขังอยู่ ไปดูได้เลย .. ผมต้องขออนุญาตบ้านฝั่งตรงข้าม ขอเดินผ่านที่ โดยทำสะพานข้ามคลอง ใช้เป็นทางเดินเข้าออกชั่วคราว ยกรถแมงกะไซด์ ใส่เรือ พายข้ามคลองมาจอดไว้ฝั่งตรงข้าม เพื่ออกถนนเมนใหญ่ ส่วนรถใหญ่ จอดชมนอนชมดาวอยู่อย่างนั้นแหละ มาดูรูปกันเลยครั




13
ภาพ – 13, - 14, วันที่ 18 มค.55 ระดับน้ำในแปลงผักที่เคยงดงาม ก็มีสภาพเป็นแบบนี้ จุเห็นพุ่มสีน้ำตาลอยู่ตรงกลาง ไกล ๆ คือต้นมะม่วงที่จมน้ำตายครับ


14





15
ภาพ – 15 วันที่ 19 มค.55 หลังจากรื้อซาแรน และถอนเสา ออกแล้ว ต้นไม้ที่แห้งตายซ้ายและขวา สองข้าง คือต้นมะม่วง อายุ 25 ปีเป็นร้อยต้นครับ





16
ภาพ – 16 กองซาแรน ที่รื้อออกมา ตากให้แห้ง เวลาจะใช้ เขย่า ๆ ลากขึ้นคลุม ฉีดน้ำล้างให้สะอาด ยังนำไปใช้ได้อีกนานครับ ใช้ของคุณภาพ จะคงทนใช้ได้นานคุ้มค่า



17
ภาพ - 17, -18, - 19 เป็นภาพมุมมองเดียวกัน ภาพ – 17 จากเริ่มแรกที่ทำแปลง และ ภาพ – 18 จากที่งอกงาม ในอดีต ส่วนภาพ – 19 คือปัจจุบันกาล วันที่ 19 มค.55 โทรมสุด ๆ ผักบุ้งแดง แหน และสาหาร่าย เต็มไปหมด


18


19






20
ภาพ – 20, - 21 สวนกล้วยไม้ ก่อนถูกน้ำท่วม


21





22
ภาพ – 22, - 23 19 มค.55 หลังถูกน้ำท่วมสูง 2.50 เมตร กลายเป็นกล้วยไม้พันธุ์ใหม่


23





24
ภาพ – 24, - 25 บริเวณที่น้ำท่วมน้อยที่สุดน้ำสูงประมาณ 1.50 เมตร เสียหายไม่มาก สูบน้ำออกแล้ว สู้ใหม่ครับ หลังจากเก็บสิ่งไม่พึงประสงค์ที่ลอยมากับน้ำแล้ว ควักขี้เลนขึ้นโปะข้างร่อง ตากดินให้แห้งแล้ว ตีดิน เพื่อจะปลูกใหม่


25





26
ภาพ – 26 สิ่งไม่พึงประสงค์ที่ลอยมากับน้ำ มีสารพัด ที่เห็นเป็นหัวเตียงทั้งอัน ไม้จริง ของยังดีอยู่ กำลังสอบถามหาเจ้าของ แล้วก็มีถุงใส่จิปาถะ ถ้าหาเจ้าของไม่ได้ คงต้องเอาเรือมาใส่ลากเอาไปเผาละครับ ในคันร่องยังมีอีกแยะครับ เก็บยังไม่หมด




27
ภาพ – 27 เป็นซองสารกำจัดวัชพืชยอดนิยมลอยมาติดด้วย เจ้านี้เล่นของหนักเลยทุกอย่างที่ขวางหน้ารวมทั้งกุ้ง หอย ปลา ปู จะตายเรียบ แล้วที่ปลูกใหม่ก็หงิกไปด้วย เคยมีปัญหาฟ้องร้องกันว่า แปลงหนึ่งฉีดยานี้ แล้วละอองไปโดนสวนองุ่นของแปลงข้างเคียงเสียหาย เจ้าของแปลงที่ฉีดต้องใช้ค่าเสียหายให้นะครับ ปกติที่เห็นใช้กัน จะมี พาราควอต กับ ไกรโฟเซ็ต แต่ก่อนซื้อต้องดูให้ดี มีของปลอมแยะครับ





28
ภาพ – 28, - 29 ถ้าไม่บอกคงไม่รู้ เป็นต้นยาชูกำลัง ขวัญใจคนทำงานกลางทุ่งกลางนา เค้าว่า เคี้ยวแล้วมันทนแดด คือ ต้นกระท่อมครับ มีบันไดไว้ให้ปีนเก็บด้วย …อยากถามลุงคิมว่า เอาใบมาทำสารสมุนไพรได้มั๊ยครับ


29





ภาพ – 30 อาหารยังชีพระหว่างน้ำท่วม 2 เดือนกว่า ปลานิลกับผักบุ้ง และสายบัว ตัวนี้ตัวโตกว่าฝ่ามือครับ สำหรับปลากระป๋องที่ปกติเราซื้อกินจะมีปลา 4 ตัว แต่ที่ทางการมาแจกตอนน้ำท่วม เปิดกระป๋องเทใส่ถ้วย ต๊กกะใจ เฮ้ย อะไรว๊า มีปลาเหลือแค่กระป๋องละ 2 ตัวเองว่ะ ...ผมคงจะเบื่อปลาไปอีกนานจนกว่าจะถึงฤดูน้ำหลากอีกครั้ง



....ครับ เรื่องการปลูกผักชีฝรั่งก็คงจบเพียงแค่นี้ ผักชีฝรั่งของผม 4 ไร่ พริกขี้หนูสวน 2 ไร่ ชะอม 1 ไร่ บ่อปลา 2 ไร่ รอบคันล้อมมีมะม่วง 200 กว่าต้น มี ตะไคร้ เป็นพันกอละมั๊ง กล้วยน้ำว้า ไม่เคยนับ จมน้ำตายหมด เหลือที่รอดตาย เขียวเสวย 2 ต้น มะม่วงกะล่อน 1 ต้น ชมพู่ม่าเหมี่ยว 1 ต้น ชมพู่ทับทิมจันทร์ 2 ต้น มะพร้าว 100 กว่าต้น แล้วก็มีมะม่วง มหาชนกงอกจากเมล็ด สูงประมาณ เมตรกว่า ๆ จมน้ำมิดยอด ไม่ตายครับ มะม่วงที่ตาย มีคนมาขอซื้อไปทำฟืน ต้นเล็กต้นใหญ่ คละกันไป ต้นละ 20 บาท ...ไม้มะม่วง ถ้าเผาถ่าน จะดีมั๊ยครับลุง

อีกไม่กี่เดือนประมาณ 9 เดือนก็ถึงฤดูน้ำหลากอีกแล้ว ถ้ารัฐบาลบริหารจัดการไม่เป็นรูปธรรมแบบนี้ ชาวสวนทุกคนกลัวครับ กลัวน้ำจริง ๆ ..... หลังน้ำลด สวนที่อยู่ดอนหน่อย ชาวสวนหลายคนเริ่มปลูกกันแล้ว โหระพา กระเพรา แมงลัก ปลูกกันมาก ถึงเวลาตัดขาย จะเหลือ กก.ละ ไม่กี่บาท ในสวนผมยังเป็นที่ลุ่ม น้ำยังขัง ปลูกอื่น ๆ คงไม่ได้ ต้องสูบน้ำให้แห้งกว่านี้อีกหน่อย กำลังคิดว่า ปลูกต้นเตยหอมที่ใช้มัดกำดอกกล้วยไม้ แล้วปลูกตำลึงบนคันล้อม ปักเสาไม้รวกในร่อง แล้วโยงสายเชือกจากคันล้อมให้มันเลื้อยไปที่เสาในร่อง ลุงเคยบอกว่า ใหญ่ขนาดจัมโบ้เป็นต่อ ปลูกตำลึงแล้วเอา 30-10-10, แคล-โบ, ไบโออิ, ยูเรก้า ฉีดพ่นทุก 15 วัน ถ้าต้นมันโตเท่าดินสอดำ ใบมันใหญ่เท่าฝ่ามือกาง ใครจะกล้าซื้อตำลึงจัมโบ้กินครับลุง 555


ขอบคุณ สวัสดีครับ
ด้วยความนับถือ
แดง ศาลายา
(วัดมะเกลือ ถนนศาลายา – บางภาษี) นครปฐม


หมายเหตุ. - ระบบสปริงเกลอร์ของลุงคิม เป็นระบบกะเหรี่ยง ถ้าผมจะคุยต่อเรื่อง ระบบสปริงเกลอร์ แบบกระยาจก จะดีมั๊ยครับ คนที่อยากติด สปริงเกลอร์จะได้รู้ซะทีว่า รู้ยังงี้ ทำตั้งนานแล้ว จากนั้นก็ตามด้วย เครื่องมือทำสวนแบบแปลก ๆ





.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
DangSalaya
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 23/06/2011
ตอบ: 1874

ตอบตอบ: 06/06/2013 11:03 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

สวัสดีครับลุงคิม และเพื่อนสมาชิกทุกท่าน

ผมได้แก้ไขรูปที่ดูไม่ได้ตั้งแต่ ตอนที่ 1 - 3 เรียบร้อยแล้วครับ

กระทู้นี้ หายไปนาน

ตอนนี้ก็เป็นเรื่องผักชีฝรั่ง ตอนที่ 4

ปัญหาโรค คือ ราเมล็ดผักกาด เน่าคอดิน ....
ส่วนแมลงนั้น เพลี้ยไฟ ไรแดง แมลงหวี่ขาว แล้วก็อาการของยอดบิด




รูปที่ 1





รูปที่ 2






รูปที่ 3






รูปที่ 4





รูปที่ 5




.


แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย DangSalaya เมื่อ 20/06/2013 9:07 am, แก้ไขทั้งหมด 1 ครั้ง
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11555

ตอบตอบ: 07/06/2013 2:03 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

DangSalaya บันทึก:


ปัญหาโรค คือ ราเมล็ดผักกาด เน่าคอดิน ....
ส่วนแมลงนั้น เพลี้ยไฟ ไรแดง แมลงหวี่ขาว แล้วก็อาการของยอดบิด



รูปที่ 1
- "ราเมล็ดผักกาด" คือ "สเคลอโรเทียม รอฟซิไอ" ... เชื้อนี่เกิดเองเมื่อดินเป็น "กรดจัด" ถ้าดินไม่เป็นกรดจะไม่เกิด เพราะสภาพแวดล้อมไม่เหมาะสมนั่นเอง

- เมื่อดินเป็นกรดจัดจะมีโรคอื่นๆเกิดตามทันที ได้แก่ ไฟธอเทอร่า, พิเทียม, สเคลอโรเทียม, ฟูซาเลียม. ไรซ็อคโทเนีย. ไส้เดือนฝอยราก กับอีก 7-8-9 โรค ไม่ได้ท่องมา แต่ทุกเชื้อโรคเกิดเองเมื่อดินเป็นกรด ถ้าดินไม่เป็นกรดจะไม่เกิด เพราะสภาพแวดล้อมไม่เหมาะสมนั่นเอง

- การใช้สารเคมีราดรดลงไปบนดินเพื่อกำจัดโรคตัวนี้ สามารถทำได้และเชื้อตายจริงๆ แต่อย่าลืมว่า สารเคมีที่ราดรดลงไปนั้นตัวมันเองเป็นกรดจัด .... กำจัดเชื้อโรคตายไปแล้ว อีก 1-2-3 เดือนเชื้อรุ่นใหม่จะเกิดใหม่ เพราะดินยังเป็นกรดจัดอยู่ หรืออาจจะกรดจัดยิ่งวกว่าเดิม เพราะคนเติมกรด )(สารเคมี) ลงไปนั่นเอง

- การใช้ยาเชื้อ "ไตรโคเดอร์ม่า" แม้เชื้อตัวนี้สามารถกำจัดเชื้อโรคในดินได้ทุกตัว แต่ไตรโคเดอร์ม่าอยู่ในสภาพกรดจัดไม่ได้ (ดร.จีรเดช แจ่มสว่าง/เจ้าของลิขสิทธิ์) ทันทีที่ไตรโคเดอร์ม่าเจอสภาพกรดจัดก็ตายซะแล้ว ทั้งๆที่ยังไม่ได้ปะมือกับเชื้อโรค .... เจ้าของลิขขสิทธิ์บอกควมจริง แต่บริษัทที่ซื้อลิขสิทธิ์ไปไม่บอก เพราะจอขายของ ถ้าไม่เชื่อไปดูทุเรียนที่เป็นไฟธอปเทอร์ร่า ยืนต้นตายบนไตรโคเดอร์ม่านั่นแหละ

- การสู้กับเชื้อโรคในดิน (ทุกตัว) ต้องใช้ ธรรมชาติสู้กับธรรมชาติ" เท่านั้น โดย... 1) อย่าให้ดินเป็นกรดจัด ป้องกันทุกสาเหตุ
2) ใส่อินทรีย์วัตถุ และสารปรับปรุงบำรุงดิน
3) ใส่จุลินทรีย์ และให้สารอาหารแก่จุลินทรีย์ประจำถิ่น
4) ไม่ปลูกซ้ำที่เพื่อป้องกันการสะสมของเชื้อโรค
5) บริหารจัดการ "6 ปัจจัยพื้นฐานเพื่อการเพาะปลูก" ให้เหมาะสมอย่างแท้จริง
6) ลด/ละ/เลิก ปุ๋ยทางดิน แล้ว เสริม/เติม/เพิ่ม/บวก ปุ๋ยทางใบ
7) ฯลฯ

ประสบการณ์ตรง :
แปลงปลูกหลังคาซาแลนไม่พอ ผนังด้านข้างทั้ง 4 ด้าน ยังล้อมซาแลนด้วย ช่วงฝนตกอาจจะปิดซาแลนด้านข้างได้ แต่พอฝนหยุดแล้วควรเปิดซาแลนด้านข้างออก ให้ลมโกรก เหลือแต่ซาแลนบนหลังคาอย่างเดียว เพราะถ้าไม่เปิดซาแลนด้านข้าง ทำให้ไม่สามารถระบายความชื้นออกจากแปลงได้ ไม่ช้าไม่นานก็จะเกิดโรค ทั้งไต้ดินบนดิน

ปัญหาใหญ่ของผักชี (ผักชีใบใหญ่ ผักชีใบฝอย) ต้องการดินที่มีความชื้นสูง แต่ไม่ชอบดินอุ้มน้ำ เพราะฉนั้นต้องทำแปลงสูงๆ ดินโปร่ง ระบายน้ำดี และอากาศผ่านสะดวก






รูปที่ 5
COMMENT :
ผักชี :
- อยากให้ใบ ใหญ่-ยาว-หนา ให้ ยูเรก้า + นมสด
- อยากให้ราก ใหญ่-ยาว ให้ 10-60-0 (ถามว่า ใครกิน เพราะไม่ใช่รากผักชีใบฝอย)
- อยากให้ผักชีฝากแผงได้นาน ... ทางดินใส่ยิบซั่ม ... ทางใบเน้นแคลเซียม โบรอน
- อยากให้ผักชีออกดอกดี ... ทางดินให้กระดูกป่น ขี้ไก่ ... ทางใบให้ไทเป

แตงกวา :
- อยากให้ผลแตงกวา "ขาว" ให้น้ำ 20 ล. + พาราเซ็ทตามอล 2-4 เมล็ด เอาแค่ขาวพอดีๆ พอดีแล้วหยุดให้ ถ้าไม่หยุุดลูกจะขาวตลอดลูก กลายเป็นแตงกวาเผือก คนไม่กิน
- อยากให้แตงกวาเนื้อหนา กรอบทั้งลูก ให้ แคลเซียม โบรอน.





.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
DangSalaya
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 23/06/2011
ตอบ: 1874

ตอบตอบ: 07/06/2013 11:24 pm    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

[quote="kimzagass"]
DangSalaya บันทึก:



................

- อยากให้ราก ใหญ่-ยาว ให้ 10-60-0 (ถามว่า ใครกิน เพราะไม่ใช่รากผักชีใบฝอย)

คนปลูกชอบ เพราะจะได้น้ำหนัก....ญี่ปุ่นชอบ เพราะนัยว่าเอาไปสกัดทำอะไรไม่ทราบครับ ...


แตงกวา :
- อยากให้ผลแตงกวา "ขาว" ให้น้ำ 20 ล. + พาราเซ็ทตามอล 2-4 เมล็ด เอาแค่ขาวพอดีๆ พอดีแล้วหยุดให้ ถ้าไม่หยุุดลูกจะขาวตลอดลูก กลายเป็นแตงกวาเผือก คนไม่กิน

- อยากให้แตงกวาเนื้อหนา กรอบทั้งลูก ให้ แคลเซียม โบรอน.
[/color]






แตงกวาขาวยังไม่แปลกนะลุง ปล่อยให้ลูกโต ปอกเปลือก คว้านไส้เอาเมล็ดออก เอาหมูสับยัดใส้ ต้มแกงจืด อร่อยครับ แต่ มะระขาวนี่ซิของแปลก

.



ขอบคุณครับลุง คราวนี้ เจ๊ใหญ่คงชอบใจ ต้องลองทำให้แกเห็น ผลประการใดจะรายงานให้ทราบ ครับ


.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
DangSalaya
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 23/06/2011
ตอบ: 1874

ตอบตอบ: 20/06/2013 9:36 am    ชื่อกระทู้: ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

kimzagass บันทึก:
แปลงผักชีฝรั่ง


....ไม่มีอะไรครับ จะลงรูปการใช้รถพรวนดิน เพื่อปลูกผักชี รุ่นใหม่ของเจ๊ใหญ่ ....เกิดขัดข้อง ผิดพลาดทางเทคนิค ....(Load รูปจากกล้องไม่ได้ ต้องเบรคไว้ก่อน)

ขออภัย ครับ


.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
Wildcat
หนาวดึ่ง
หนาวดึ่ง


เข้าร่วมเมื่อ: 17/09/2014
ตอบ: 19

ตอบตอบ: 31/10/2014 8:33 am    ชื่อกระทู้: ผักชีฝรั่งใบสั้น มีแต่ดอก ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

สวัสดีครับลุง น้าทิดแดง

ผมเปิดมาเจอกระทู้นี้ ว่าด้วยเรื่องผักชีฝรั่ง....อ่านแล้วได้ความรู้ดีจังเลยครับ แต่คงไม่ได้ปลูกเป็นไร่ ๆ อย่างของน้าทิด แค่ปลูกไว้ใส่แกง ใส่ยำเท่านั้น....








มีข้อสงสัยครับ ที่ผมปลูกเอาไว้ มันก็งามดี แต่ใบสั้นจู๋ แบนติดดิน ที่สำคัญ มันออกดอกเต็มไปหมด
ผมดูจากในรูปของที่น้าทิดปลูก ใบมันยาว ดอกไม่ค่อยจะมี

...ขอถามว่า จะแก้ไขอย่างไรครับ

(จากกล้วยไม้ มาถามเรื่องผักชีฝรั่ง คนละเรื่องเดียวกัน คงไม่เป็นไร..เพราะคนเขียนเรื่องเป็นคน ๆ เดียวกัน)


ขอบคุณครับ


ปล. รูปในเรื่อง บางรูปหายไปแยะเลย น้าทิดกรุณานำรูปมาลงใหม่ด้วยนะครับ.

.โปรแกรมฝากรูปของ OHOZAA.com จะเป็นแบบนี้แหละครับ ลงรูปเอาไว้ นาน ๆ ไปรูปหายไปเฉย ๆ จะมีแต่คำว่า Image not found ผมก็เลยหันมาใช้โปรแกรม Upic.me ตามน้าทิดแดง



.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
DangSalaya
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 23/06/2011
ตอบ: 1874

ตอบตอบ: 02/11/2014 7:08 pm    ชื่อกระทู้: ผักชีฝรั่งออกดอก ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

สวัสดีครับลุงคิม คุณ Wildcat และสมาชิกสีสันชีวิตไทยทุกท่าน



ผมหยุดเขียนเรื่องผักชีฝรั่งไปซะนาน คุณ Wildcat เข้ามาถามปัญหา.... มีรูปมาลงให้ดูด้วย

สมาชิกลุงคิมมักจะเป็นแบบนี้เหมือนกันหมดคือ

การถามปัญหาโดยไม่บอกกล่าวว่า....ปลูกพืชชนิดนั้น ๆ ที่ไหน ตำบล อำเภอ จังหวัดอะไร
จะให้คนตอบตรัสรู้เองหรือยังไงก็ไม่รู้ หรือว่า.....ถ้าบอกสถานที่ว่าอยู่ที่ไหน กลัวคนตามไปทวงหนี้หรือครับ ต่อให้รู้ว่าอยู่ที่ไหน ถ้าไม่มีความจำเป็นต้องผ่านก็คงไม่ได้แวะไปหาหรอกครับ

ผมอยู่พุทธมณฑล เพื่อนอยู่มหาสวัสดิ์ ห่างกันไม่ถึง 20 กม. นาน น๊าน...นอกจากมีงานบุญ งานแต่ง งานตาย จะได้เจอกันซักครั้ง เพราะทางนั้นไม่ใช่ทางเสือผ่าน...

.แต่ เจริญนคร คลองสาน อยู่ไกลกัน 45 กม. ผมไปบ่อย เพราะเป็นบ้านโยม-พ่อ แม่ ลูก ๆ อยู่ที่นั่น

ด้วยประการะฉะนี้.....คำตอบที่ได้รับคือ กำปั้นทุบดิน....คือถามมายังไง ก็ตอบไปตามนั้น....ส่วนที่จะได้ข้อมูลที่ตรงประเด็นหรือไม่ คิดเอาเอง..


จะเริ่มยังไงดีล่ะ

ผักชีฝรั่งที่คุณ แคท เอารูปมาลงให้ดูนั้น ฟันธงได้เลยว่า

1.- ปลูกกลางแดด ไม่มีอะไรพรางแสง ดังนั้นใบจะสั้น กางแผ่แบนแต๊ดแต๋ติดดิน แล้วก็ออกดอกตามธรรมชาติของผักชีฝรั่ง คือ ได้น้ำ ได้ปุ๋ย พอถึงเวลา มันจะออกดอก

2.- ใช้ปุ๋ยสูตรเสมอต้นเสมอปลาย....ถ้าไม่ใช่ 15-15-15 ก็ 16-16-16 หรือ 20-20-20 หรืออาจจะ 21-21-21 แต่ผมดู ๆ แล้วเดา ๆ เอา น่าจะ 20-20-20 หรือไม่ก็ ใช้ปุ๋ยเกร็ด 21-21-21 ปุ๋ยสูตรนี้ลุงคิมบอกว่าเป็นปุ๋ยสูตรสิ้นคิด





(1) ลักษณะผักของคุณคล้ายกับที่บ้านน้องสาว มันปลูกใส่กะละมังอลูมีเนียม ตั้งกลางสายลมและแสงแดด เอาไว้กินใบ....เนื่องจากใส่กะละมังมีเนียมก้นไม่รั่ว ไม่มีทางระบายน้ำ ฝนตก รดน้ำบ่อย น้ำค่อนข้างแฉะเกือบจะแช่

แต่ใครสั่งใครสอนมันไม่รู้ มันบอกว่า คนขสยปุ๋ยให้ใส่ปุ๋ย 8-24-24 ...(= สูตรเรโช 1-3-3 ตัวหน้าต่ำ ตัวกลาง ตัวหลังสูง) ใส่บ่อย ๆ ใบไม่เขียว แต่ดอกออกตรึม ต้นแคระแกรน(แคนย่อน)





(2) หลังจากผมบอกให้มันปรับเปลี่ยนวิธีการปลูกใหม่ ถอนต้นเก่าทิ้งไปเลย แต่ให้เก็บเมล็ดแก่เอาไว้

...กะละมังมีเนียม เอาระเบิด 30-10-10 ผสมน้ำใส่แช่ 2 อาทิตย์ เอาต้นใบเตยหอมลงปลูกแทน จากนั้นก็เอาผักชีฝรั่งจากสวนเจ๊ใหญ่ ฝากไปให้มันปลูกใส่ในยางรถยนต์เก่า

ทางดินใช้ปุ๋ย ระเบิด 30-10-10..(นาน ๆ ครั้ง) เมื่อน้องมันชอบตั้งกลางแดด ดังนั้น ทางใบ ใช้ ไบโออิ + ยูเรก้า – T/E ฉีดพ่นตามสะดวก....แต่น้องสาวมันติดแบบ เคมีนำ อินทรีย์เสริม...ก็ให้มันใช้ 16-8-8 สลับ 21-7-14 ใส่แบบ พรม ๆ ทุก 15 วัน





(3) ที่บ้านน้องชายคนเล็ก ปลูกลงดินแบบปล่อยธรรมชาติ มีต้นไม้ใหญ่บังร่มบ้าง นาน ๆ ก็ให้ปุ๋ยซักครั้ง....ก็มีสภาพ แบกะดิน แบบนี้ ซึ่งก็พอมีใบให้เก็บกินได้บ้าง

คุณหรือเพื่อน ๆ อาจสงสัยว่า เวลาใครถามปัญหา ผมจะมีรูปที่ตรง หรือใกล้เคียงกับปัญหานั้น ๆ ให้ดู

บอกได้เลยว่า.....ผมชอบศึกษา สนใจใฝ่รู้(สทร - เสือกทุกเรื่อง) ผมเจออะไรในเรื่องที่ผมสนใจ แปลกหูแปลกตา จะถ่ายรูปเก็บใส่ตู้(Folder)และจดบันทึกเอาไว้เป็นเรื่อง ๆ เพื่อเปรียบเทียบว่า เพราะอะไร พืชชนิดนั้น ๆ ปลูกที่ไหน ทำไมถึงเป็นแบบนั้น และ ฯลฯ ..

อีกอย่าง ในการนำเสนอของผม ถ้าไม่มีรูปให้ดู บางทีมันเดาไม่ออก ถ้ามีรูป มันช่วยได้แยะ....

ผมไม่รู้ว่าคุณแคท ปลูกผักชีฝรั่งอยู่ที่ไหน พื้นที่ปลูกกว้างขวางขนาดไหน ตามที่ถามในรูป(ดอกดีจังเลยว่ะ...น่าเก็บเมล็ดขายนะ)....ทางแก้คือ

(ก) ถ้าคุณจะเก็บเมล็ดเอาไว้ทำพันธุ์ คุณก็ปล่อยเอาไว้แบบนั้น ทิ้งไว้จนดอกกลายเป็นเมล็ด พอมันเริ่มแก่ก็เก็บเมล็ดเอาไว้ทำพันธุ์ ถ้ามีแยะก็ขายได้นะ กิโลละ 4 พัน

(ข) ถ้าไม่ต้องการดอกและเมล็ด ก็ตัดช่อดอกทิ้งให้หมด แล้วหาอะไรมาบังร่มอาจจะเป็น ซาแรน ขนาด 60% หรือไม่ก็ซื้อมุ้งตาข่ายสีเขียว เอามาทบกันสองชั้น บังให้ต้นผักมันร่ม บังรอบ ๆ ด้วย มันจะได้มืดลงหน่อย ปล่อยทิ้งเอาไว้ให้มันอยู่มืด ๆ แบบนั้น ไม่เกินอาทิตย์ ใบมันจะตั้งชูขึ้น และยาวขึ้น เพื่อหาแสง

(ค) แต่ถ้าจะให้ใบใหญ่และยาว
ปุ๋ยทางดิน ก็ให้ระเบิด 30-10-10 .เดือนละครั้งน่าจะพอ....
ทางใบก็ ไบโออิ – ยูเรก้า 10 – 20 ซีซี / น้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่น 10 – 15 วันครั้ง จะเพิ่มธาตุรอง/ธาตุเสริมด้วยก็ไม่มีใครว่า..

...ถ้ามีผักไม่มาก ธาตุรอง / ธาตุเสริมที่หาง่ายราคาถูก ก็หาซื้อ เฟติร่อนคอมบิ กับ เหล็กคีเลต เอามาใช้ ซองละ 5 บาท อัตราที่ใช้ 1 ซอง / น้ำ 20 ลิตร ถ้าใช้สองอย่างพร้อมกัน ก็ใช้อย่างละ ครึ่ง ซอง / น้ำ 20 ลิตร

ถ้าจะใช้ 2 ซอง / น้ำ 20 ลิตร อยากรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ทดลองทำดูเอาเองครับ จะได้คำตอบ

(ง) ถ้าไม่มีหรือหาซื้อไม่ได้ในข้อ (ค) ให้หาซื้อ จิ๊บ(จิ๊บเบอร์แรลลิกแอซิค) กับ NAA (เน็บทาลีนอาเซติคแอซิค)
.....จิ๊บ ใช้ยืดทางยาว
.....NAA ใช้ขยายทางข้าง ...ถ้าไม่อยากเสียสตางค์ซื้อ...(ลุงคิมเคยบอกว่า)

ถ้าจะยืดทางยาว ใช้น้ำมะพร้าวอ่อนชนิดที่เนื้อเป็นวุ้น ถ้าหามะพร้าวอ่อนไม่ได้ ก็หาซื้อหน่อไม้หรือเด็ดยอดหญ้าขนตอนเช้าก่อนพระอาทิตย์ขึ้น เอามาต้ม เอาน้ำไปฉีดพ่น ในน้ำมะพร้าวอ่อนเนื้อเป็นวุ้น กับยอดหน่อไม้ จะเป็นตัวยืดให้ยาวหรือเพราะมีสาร จิ๊บ อยู่ในนั้นเอามาผสมน้ำฉีดพ่น.....ยอดจะยาวววววว
เคยสังเกตหน่อไม้มั๊ยครับ คืนเดียว ยอดยาวเกือบเมตร....

ถ้าจะขยายทางข้าง ใช้น้ำมะพร้าวแก่ ซึ่งจะมีสาร NAA มันจะทำให้ใหญ่ๆๆๆๆๆ แบบนี้เรียกว่า ทั้งยาว ทั้งใหญ่ หรือทั้งใหญ่ ทั้งยาว พร้อมกัน

........ปุ๋ยที่ชาวสวนผักชีฝรั่งใช้กันส่วนมาก ....ปกติเค้าไม่ค่อยจะบอกกันหรอกครับ.....ผมก็ไม่รู้ว่าเค้าจะปิด หรือหวงกันไว้ทำไมเหมือนกัน...นี่แหละครับ ประเทศไทย ...


ระยะ 1 – 2 เดือน.ใช้...46-0-0 สลับ 25-7-7
เดือนที่ 3 ขึ้นไปใช้ 16-8-8..กับ. 21-7-14...สลับด้วย 13-0-46 เดือนละครั้ง

สลับกันยังไง สลับแบบไหน วินิจฉัยเอาเอง เพราะอะไร....เพราะสภาพของต้นผัก จะเป็นตัวบ่งชี้ว่า ณ วันนี้ จะใช้ปุ๋ยตัวไหน


สูตรปุ๋ยผักชีฝรั่งของเจ๊ใหญ่ จะมีทั้งภาคทฤษฎี ภาคบังคับ และภาคตามความเคยชิน

ภาคทฤษฎี คือ..
..แกจะบอกว่า ….ไอ้ทิด เค้าว่ากันว่า......(เค้าไหนว่าก็ไม่รู้)

(ภาคถูกบังคับ)

ให้ใช้ ระเบิด 30-10-10 ตอนเตรียมดิน
ไบโออิ + ยูเรก้า + T/E ..เดือนละครั้ง
.แคลเซี่ยม-โบร่อน เดือนเว้นเดือน
ไบยูเรต + จิ๊บ + NAA …เดือนละครั้ง(สลับกับ รายการไบโออิ)คือ เดือนเว้นเดือน

คุณรู้จักปุ๋ยยูเรียชนิด ไบยูเรตมั๊ยครับ มีรูปให้ดู





(4) ปุ๋ยไบยูเรต เป็นปุ๋ย ยูเรียทางใบ N – 46% (NH2N - 46%) ที่ทรงประสิทธิภาพกว่า ยูเรีย จี. (15-0-0) ใช้น้อยนิดเดียว เขียวทันตาเห็น

ไบยูเร็ต คือ สารไบยูเร็ต ซึ่งประกอบด้วย สารละลายโซเดียมไฮดรอกไซด์ และ สารละลายคอเปอร์ซัลเฟส ( NaOH + CuSO4 ไบยูเร็ต มีสูตร คือ C2 H5 N3 O2 ) ก็แค่นี้ ผมบอกผิดหรือถูกไม่รู้เหมือนกัน ฟังเค้าบอกมาอย่างนี้ ....



อ่านตารางการใช้ปุ๋ยของเจ๊ใหญ่แล้วอาจจะ เง็ง
เอายังงี้ สมมุติว่า (คุณต้องทำตารางหรือทำชาร์ทเอาไว้กันลืมและกันเง็ง)

วันที่ 1 ตค. ไบโออิ + ยูเรก้า + T/E .
วันที่ 15 ตค.แคลเซี่ยม-โบร่อน
วันที่ 30 ตค.ไบยูเรต + จิ๊บ + NAA

…รอบเดือนต่อไป..
วันที่ 30 พย. ไบโออิ + ยูเรก้า + T/E .
วันที่ 1 ธค. ไบโออิ + ยูเรก้า + T/E .
วันที่ 15 ธค..แคลเซี่ยม-โบร่อน
วันที่ 30 ธค. ไบยูเรต + จิ๊บ + NAA

ตรงที่บอกว่า + T/E ก็คือ ใช้เฟติร่อนคอมบิ สลับกับ เหล็กคีเลท หรือใช้คู่กันก็ได้ครับ

ทีนี้ภาคตามความเคยชิน คือ

ตรงช่องว่างระหว่างเดือน เจ๊ใหญ่แกอดไม่ได้ที่จะใช้ เคมีเสริมตามความเคยชิน

ก็ใช้ปุ๋ยสูตรตามที่บอกข้างต้น คือ


...แทนที่จะใช้ยูเรีย 46-0-0 แกยังถูกบังคับให้ใช้ 30-0-0 (แค่นี้ก็ใบเขียวเกินพอเหลือแหล่แล้ว เจอเหล็กคีเลทเข้าไปอีก ใบเขียวแทบจะดำปี๋)

แล้วก็มีสูตร ... 25-7-7... 16-8-8....21-7-14...13-0-46 ส่วนการสลับใช้อย่างไร เจ๊ใหญ่แกจะสลับใช้ของแกเองตามความคาดเดา โดยจะใช้หว่านแบบนิด ๆ หน่อย ๆ ซึ่งชาวสวนเค้าเรียกว่า
ใส่ปุ๋ยแบบพรม ๆ

..การหว่านปุ๋ยแบบนิดหน่อย ด้วยเครื่องพ่น 10 กิโล / ไร่ มันค่อนข้างยากสำหรับคนมือแปอย่างผม กดพรืดเดียวก็แทบจะหมดถังแล้ว จำเป็นต้องใช้ ฟิลเล่อร์ ผสม แล้วให้มือโปรพ่น

คนอื่นใช้อะไรเป็น ฟิลเล่อร์ ผมไม่รู้ แต่ที่ผมเคยทดลองใช้แกลบดิบแช่น้ำ 1 คืน เอาขึ้นทิ้งให้หมาด ๆ เอาปุ๋ยลงผสมคลุกเคล้า ใส่เครื่องแล้วเดินพ่น

ปุ๋ยผสมกับแกลบดิบ ผมว่าได้สองเด้ง ปุ๋ย คือ 1 เด้ง...แกลบดิบจะมีฝุ่นรำข้าวติดอยู่..ทั้งแกลบดิบ และรำข้าว ย่อยสลายก็กลายเป็นปุ๋ย ได้อีก 1 เด้ง...

คุณแคท ต้องอย่าลืมว่า ที่บอกมาเป็น ดิน น้ำ สายลม แสงแดด และ สภาพภูมิทัศน์แถวบ้านคนไม่บ้าไม่กล้าทำนะครับ เกิดว่าคุณจำเอาไปทำตามแล้วไม่ได้ผล จะมาด่าผมภายหลังไม่ได้...

ฉะนั้น...คุณต้อง ทดลอง ปรับสภาพหลาย ๆ อย่างเพื่อให้ได้วิธีการที่เหมาะสมกับบ้านคุณ ดีหรือไม่ดี เหมาะสมหรือไม่เหมาะ ต้นไม้มันจะบอกคุณเอง

…แต่เท่าที่ดูจากรูป ก็ดูดีนะ ลองตัดช่อดอกทิ้ง หาอะไรมาคลุม ลดปุ๋ยที่เคยใช้ลงครึ่งหนึ่งของที่เคยใช้ ลดการให้น้ำลงหน่อย น่าจะดีขึ้นครับ Good Evening และ Good Luck ครับ

ถ้าอยากรู้ ราคาพืชผัก...ตลาดสี่มุมเมือง ในแต่ละวัน เพื่อจะได้พิจารณาว่า เดือนไหน ผักอะไร มีราคาแพง....จะได้ปลูกดักหน้าเอาไว้..เป็นการรู้ทันตลาด หูตาจะได้สว่าง(หายโง่กัน)ซะบ้าง....


ขอยกตัวอย่าง เมื่อเดือน กย.57 ผักชีฝรั่ง ราคาพรวดเดียวขึ้นถึง กก.ละ 100 บาท อุ๊ยตายว๊ายกรี๊ด....เจ๊ใหญ่และชาวสวนที่ปลูกผักชียิ้มยิ่งผ่องใส คนอื่น ๆ เห็นราคาดีว๊อย ก็รีบตีดินปลูกกันจมไปเลย.......

พอมาเดือนตค.57 ราคาลดลงเหลือ กก.ละ 80 บาท ....ไม่เป็นไรน่า ..ราคายังดี

พอมาเย็นวันที่ 2 พย. 57 ราคาลงมาเหลือ กก.ละ 16 บาท..จาก กก.ละ 100 ลงมา 80 เหลือ 16 บาท ต่างกัน ฟ้ากับเหว

..คนที่หว่านเมล็ดไปแล้ว ได้แต่ปลอบใจตัวเอง เดือน ธค. ราคาคงจะขึ้น ...


นี่แหละครับ พี่น้องเกษตรกรไทย ที่มีเกษตรอำเภอคอยหลับหูหลับตาเป็นที่ปรึกษา กินเงินเดือนจากภาษีของท่าน ๆ เรา ๆ แสบซะไม่มีละ

ขอบอก....เมื่อตลาดใหญ่สี่มุมเมืองราคานี้ ตลาดที่อื่น ๆ ก็จะผันแปรตาม...คลิกเลยจร้า.....

ผักชีฝรั่ง

http://www.taladsimummuang.com/dmma/portals/pricelistitem.aspx?id=010213010


ผักทั่วไป

http://www.taladsimummuang.com/dmma/portals/PriceList.aspx?id=01

.....ความจริง เว็ปตลาดสี่มุมเมืองนี่ เค้ารู้กันมาตั้งนานแล้วละคุณ....
....แล้วทำไมเพิ่งจะมาบอก.....

โถ คุณท่าน...ขนาด ปรมาจารย์อย่างลุงคิมบอกอะไรไป....ยังมีคนบอกว่า....ขืนเชื่ออีตาคิม มีหวังออกลูกเป็นลิง.......

แล้ว...ผมเป็นใคร.....ก็แค่คนบ้ากล้าทำคนหนึ่ง ในอีกหลาย ๆ คนเท่านั้น... ใครขืนเชื่อผม มีหวังออกลูกสวยกว่า ปอย ตรีชฎา มั๊ง


....คุณรู้จัก ปอย ตรีชฎามั๊ยครับ มีรูปให้ดู





(5) น้องปอย ก่อนเปลี่ยน




(6)



(7)



(8 )



(9)



(10)

(6 – 10) น้องปอย หลังแปลง....

....จากผักชีฝรั่ง กลายเป็นผักน้องปอยซะแล้ว...เกรงใจลุงคิม เดี๋ยวแกจะว่า
...ทำไมมึงไม่เอามาลงแยะ ๆ วะ

เอาแค่นี้แหละครับ พอหอมปากหอมแก้ม.... คิดว่า ดูเล่นเพลิน ๆ ก่อนวสันตฤดูจะสั่งฟ้า เข้าสู่ฤดูเหมันต์อันอบอ้าว ...เค้าว่า ปีนี้ หิมะจะตกนะ.....



ขอจบแค่นี้....คุณแคท จะเข้าใจหรือไม่เข้าใจอะไรยังไง ก็ว่ากันมา....

ปล. สำหรับรูปที่....OHOZZA.com.. ทำขาดหาย....คงต้องตามล้างตามเช็ดกันจมไปเลย....ทำไมหายแยะจัง.. คงต้องใช้โปรแกรม UPIC.ME ครับทำง่ายดี



.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
toodtoo
สาวดอง
สาวดอง


เข้าร่วมเมื่อ: 13/10/2012
ตอบ: 95

ตอบตอบ: 03/11/2014 8:07 pm    ชื่อกระทู้: ของจริงหรือของแปลง ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

.
.
สวัสดีครับลุง พี่ทิดแดง


อุ๊ยตาย ว๊าย กรี๊ด...วี๊ด ว๊าย .ว๊าว.....

ถามจริง ๆ เลยทิด ....ผักชีฝรั่งตอนท้าย ๆ น่ะ ของจริงหรือของแปลง....เค้าใช้อะไรทำ มันถึงได้เนียนขนาดนั้น....
ทิดเคย วิจัยมั่งหรือยัง....ลองวิจารณ์ให้น้อง ๆ ได้ฟังกันมั่งเด้......




.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group
Forums ©