ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตร ทางรายการวิทยุ 8 APR .... พริก-มะเขือ ปุ๋ยเกิน, มะเขือพวงโตช้า, นาข้าว/ยูเรีย-แม็ก.สังกะสี

[kimzagass]

ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตร ทางรายการวิทยุ 8 APR


***********************************************************

สร้างสรรสังคม....ส่งเสริมคนดี....พัฒนาชีวิต ให้มีคุณภาพ...

กองทัพบกเพื่อประชาชน เสนอรายการสีสันชีวิตไทย วิทยุเพื่อการเกษตรและอาชีพเสริม
ทางสถานีวิทยุ พล.ปตอ. เอเอ็ม 594 เวลา 08.10–09.00 และ 20.05-20.30 ทุกวัน

ผลิตรายการโดย กองกิจการพลเรือน หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบก
กระผม พันโทวีระ ใจหนักแน่น (คิม ซา กัสส์) เป็นผู้ดำเนินรายการครับ

เช่นเคยครับ รายการเรา 1188 สายด่วน 4 ตัว ฝากข้อความ-ฝากคำถาม-ฝากข่าว ก่อนเริ่ม
รายการที่ โทรศัพท์มือถือส่วนตัว (081) 913-4986

***********************************************************


จาก : (090) 184-35xx
ข้อความ : ลุงคิมคะ ฉันปลูกพริกขี้หนู 1 ไร่ พริกชี้ฟ้า 4 ไร่ มะเขือพวง 1 ไร่ มะเขือเปราะ 2 ไร่ ปลูกครั้งแรกยังไม่มีประสบการณ์ แต่ฟังลุงคิมมานาน ฉันให้ ยูเรก้า ไทเป ไบโออิ ซื้อมาจากลุงนันทสุรัตน์ เวลาใช้ น้ำ 200 ล. ใส่ปุ๋ยอย่างละ 200 ซีซี. ไม่ได้ใส่สมุนไพร ตอนนี้ พริก มะเขือ ใบเหี่ยว ใบเป็นสีเหลือง ข้างบ้านบอกว่าเป็นเชื้อรา ต้องใช้สารเคมีจึงจะเอาอยู่ ฉันไม่แน่ใจจึงถามลุงคิม .... ขอบคุณค่ะ ด่านมะขามเตี้ย

ตอบ :
- โถ.... แม่เจ้าประคุณลุนช่อง น้ำ 200 ล. ใส่ไทเป ไบโออิ ยูเรก้า อย่างละ 200 ล. นั่นเท่ากับใส่ปุ๋ย 600 ซีซี.
– ที่จริงใช้ “น้ำ 200 ล. + ไบโออิ 60 ซีซี. + ไทเป 60 ซีซี. + ยูเรก้า 60 ซีซี.” รวม 180 ซีซี./น้ำ 200 ล. ก็พอแล้ว

- ไบโออิ, ไทเป, ยูเกร้า “เต็มสูตร” จริงๆ ห้ามใช้เกินแต่ใช้น้อยกว่าได้ จะได้ไม่เปลือง ยึดหลักการให้ปุ๋ยต้นไม้ “ให้น้อยบ่อยครั้ง” เข้าไว้ อย่าเร่ง อย่าใจร้อน ต้นไม้ต้นพืชไม่มีคันเร่ง ไม่มีโวลลุ่มเหมือนวิทยุ โทรทัศน์ คิดดู คนกินข้าว 1 จาน มีเรี่ยวแรงตามอัตตะภาพ ถ้ากินข้าว 10 จาน จะเกิดอะไรขึ้น .... ปุ๋ย (ทุกยี่ห้อ) ไม่ใช่ของวิเศษ ถ้า “ดิน-น้ำ-แสงแดด/อุณหภูมิ/ฤดูกาล-สายพันธุ์/โรค” ไม่ O.K. ปุ๋ยยี่ห้ออะไร ราคาแพง ราคาถูก ซื้อสด ซื้อเคร ก็ช่วยไม่ได้ เพราะปัจจัยทุกอย่างต้องไปพร้อมๆกัน

- ปุ๋ยยี่ห้ออื่นใส่มาก ใส่เกิน/ใส่แถม ไม่เป็นอะไร ก็เพราะปุ๋ยยี่ห้อนั้นเขาทำเจือจางมากๆ ยิ่งรู้ว่าเกษตรกร ชอบแถม/ชอบเกิน ด้วยแล้ว ยิ่งสบายคนขาย แต่คนซื้อตายลูกเดียว

- เคยเอาปุ๋ยทางใบ ยี่ห้อดังๆ โฆษณาบ้าเลือด มาวัด ถ.พ. ได้แค่ 6-8 แต่ ไบโออิ ยูเรก้า ปุ๋ยทางใบ วัด ถ.พ.ได้ 12 เรียกว่า “เต็มพิกัด” ใจอยากใส่ให้มากกว่านี้ แต่ใส่ไม่ได้เพราะถึงจุดอิ่มตัวซะก่อน

– สมการเกษตร
.... ปุ๋ยถูก + ใช้ผิด = ไม่ได้ผล
,,,, ปุ๋ยผิด + ใช้ถูก = ไม่ได้ผล
.... ปุ๋ยผิด + ใช้ผิด = ไม่ได้ผล ยกกำลังสอง
.... ปุ๋ยถูก + ใช้ถูก = ได้ผล ยกกำลังสอง

- ปัญหาแบบนี้เกิดจาก คนเอาตัวเองเป็นศูนย์กลาง ไม่ใช่เอาพืชเป็นศูนย์กลาง .... บำรุงพืชตามใจคน ตามประเพณี ตามกระแส ตามโฆษณา ตามข้างบ้าน

----------------------------------------------------------------------------------------


จาก : (084) 193-66xx
ข้อความ : มะเขือพวงโตช้า หลายต้นตายแล้ว เตรียมดินใส่ยิบซั่ม กระดูก ขี้ไก่ พูนดินโคนต้นตามที่ลุงคิมบอก แบบนี้เพราะดินเป็นกรดไหมคะ.....

ตอบ :
- เพาะเมล็ดจนเริ่มมีรากงอกแล้วหยอดลงแปลงจริง ณ จุดที่ต้องการปลูกเลย
- ถ้าเพาะกล้าก่อนจนต้นโตแล้วจึงถอนย้ายไปปลูก ระบบรากจะกระเทือนแล้วไม่โต

– วิธีดีที่สุด คือ เตรียมดิน (ยิบซั่ม กระดูกป่น ขี้วัวขี้ไก่ ระเบิดเถิดเทิง 30-10-10) เตรียมแปลง (ลูกฟูก) พรวนดินให้ร่วน แล้วโรยเมล็ดมะเขือพวง โรยห่างๆ โรยแล้วเกลี่ยผิวดินกลบบางๆ คลุมหน้าแปลงด้วยหญ้าแห้งหนาๆ ปล่อยให้งอกเอง ให้น้ำสม่ำเสมอพอหน้าดินชื้น งอกขึ้นมาแล้วเลี้ยงตรงนั้นเลย ไม่ต้องย้าย ถ้าต้นเกิดใหม่ชิดกันมากให้พิจารณาตัดออกบ้างก็ดี

- บำรุง :
..... ทางใบ : มะเขือพวงตอบสนองดีมากต่อสูตรสหประชาชาติ ไบโออิ + ไทเป + ยูเรก้า 2 รอบ สลับด้วย แคลเซียม โบรอน 1 รอบ ห่างกันรอบละ 7-10 วัน
.... ทางราก : ระเบิดเถิดเทิง 8-24-24 เดือนละครั้ง


- หมายเหตุ :
.... ให้สูตรสหประชาชาติทางใบ ลดอัตราลง “กึ่ง” หนึ่ง .... หากใช้เต็มอัตราต้นจะเกิดอาการเอ๋อ ใบห่อ ยอดเหี่ยว แต่ไม่ตาย เอาเถอะอีกไม่เกิน 7-10 วัน ฟื้นต้นได้จะออกดอกติดลูกเต็มต้น

.... ในระเบิดเถิดเทิง 8-24-24 กับ สหประชาติ มีปุ๋ยทั้งอินทรีย์ และเคมีเพียงพอแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องให้ปุ๋ยเคมี

--------------------------------------------------------------------------------------------


จาก : (081) 726-90xx
ข้อความ : มีเรื่องจะเล่าให้ฟัง แถวบ้านฉัน ทำนา 10 ไร่ ได้ข้าว 6 ก. ข้าวลีบเยอะมาก เขาบอกว่าเพราะอากาศหนาวจึงเป็นข้าวลีบ เขาใส่ยูเรียอย่างเดียวไร่ละสอบครึ่ง ถามลงทุนเท่าไร เขาไม่ยอมบอก ของฉัน 10 ไร่ ใช้แม็กเนเซียม. สังกะสี. ในระเบิดเถิดเทิง ไบโออิ ยูเรก้า ใส่ปุ๋ยแค่ไร่ละ 10 กก. ได้ข้าว 12 ก. ข้าวลีบไม่มีเลย เมล็ดสวยมาก ทำพันธุ์ได้ เขาไม่เชื่อ ไม่ยอมทำตาม.....

จาก : (086) 171-68xx
ข้อความ : ลุงคิมคะ เอาเรื่องนี้ออกอากาศได้เลยนะคะ ฉันทำนาดำ ดำห่าง 30 ซม. ตอนทำเทือกใส่น้ำหมักทำเอง +16-8-8 ไร่ละ 10 กก. ทำนาไถกลบฟางมาแล้ว 2 รุ่น รุ่นนี้ขี้เทือกลึกครึ่งหน้าแข้ง เป็นห่วงแต่น้ำจะมีถึงเกี่ยวไหม ตอนนี้ข้าวได้ 30 วันแล้วยังเขียวดี คนข้างบ้านเขาด่าฉันเสียคนไปเลย ถ้ามึงได้ข้าวกูให้มึงเหยียบ, ทำอะไรที่เขาไม่ทำกัน, ชีวภาพไปไม่รอดหรอก,อีกหลายๆด่า ลุงคิมเข้าใจใช่ไหมคะ ..... ราชบุรี

ตอบ :
- นี่คือปัญหาสากล ที่กลายเป็นค่านิยม วัฒนธรรมไปแล้ว
- ชาวนาทำนามานาน ไม่น่าเชื่อว่าชาวนาไม่รู้ว่าที่ตัวเองทำนั้นมัน “มันไม่ใช่ มันไม่ได้ผล” เพราะรายได้จากการขายข้าวลบด้วยค่าใช้จ่ายที่เรียกว่าต้นทุน (รายได้ – รายจ่าย = กำไร) ออกมาเป็นตัวเลข ชัดยิ่งกว่าชัด ศักดิ์ศรีชาวนาอย่างหนึ่ง คือ ขายได้เท่าไหร่ห้ามถามต้นทุนเด็ดขาด ขืนใครถาม โกรธหน้าเขียว

@@ ความล้มเหลวที่ชาวนาไม่รู้ หรือไม่เคยสังเกตุ :
– นาข้าวขี้เทือกลึกครึ่งหน้าแข้ง ต้นข้าวโตดีกว่าขี้เทือกลึกแค่ตาตุ่ม ....
- ไถกลบฟาง ใส่ปุ๋ยอินทรีย์น้ำ ทำให้ได้ดินดีกว่านาเผาฟาง ไม่ใส่ปุ๋ยอินทรีย์น้ำ .....
– ข้าวนาดำ ต้นข้าวสมบูรณ์ แข็งแรง โรคแมลงน้อย ให้ผลผลิตดีกว่าข้าวนาหว่าน
- นาดำ แบบจ้างรถดำนา ประหยัดค่าเมล็ดพันธุ์มากกว่านาหว่าน

- นาหว่าน พื้นที่ 20 x 20 ซม. มีเมล็ดข้าว 1 เมล็ด ได้ต้นข้าว 1 ต้น แล้วแตกกอใหม่ได้ 40-50-60 ลำ ลำต้นใหญ่ขนาดหลอดดูดเฉาก๊วย..... พื้นที่ 20 x 20 ซม. มีเมล็ดข้าว 20 เมล็ด ได้ต้นข้าว 20 กอ ต้นข้าวขึ้นถี่ แต่ละต้นแตกกอไม่ได้ เพราะเบียดกันมาก ลำต้นขนาดใหญ่ให้ผลผลิตดีกว่าต้นข้าวขนาดเล็ก ชนิดเทียบกันไม่ได้เลย

- รูปแบบการทำนา จากดีมากที่สุดไปหาดีน้อยที่สุด ดังนี้... นาหยอดเมล็ดด้วยเครื่องหยอด – นาดำด้วยมือ – นาดำด้วยเครื่อง – นาโยน – นาหว่านเมล็ดด้วยเครื่องพ่น – นาหว่านเมล็ดด้วยมือ

– น้ำมากต้นข้าวสูงสุดท้ายก็ล้ม น้ำน้อยเจ๊าะแจ๊ะ หน้าดินถึงแห้งระดับหน้าดินแตกระแหงต้นข้าวไม่สูง รากมาก แตกกอมาก ต้นไม่ล้ม ต้นข้าวเตี้ย (ส้น) รวงยาวแต่ต้นข้าวสูง (ยาว) รวงสั้น

- ยูเรีย ทำให้ข้าวเขียวตองอ่อน เขียวไม่ทน ใบบาง ต้นหลวม อ่อนแอ โรคแมลงมาก เมล็ดลีบมาก เป็นท้องไข่มาก ข้าวป่นมาก น้ำหนักไม่ดี ทำพันธุ์ข้าวปลูกไม่ดี

- แม็กเนเซียม.ช่วยสร้างคลอโรฟีลด์ ทำให้ข้าวเขียวทน ใบหนา สังเคราะห์แสงดี สมบูรณ์ แข็งแรง ต้นไม่ล้ม โรคแมลงน้อย
- สังกะสี. สร้างแป้ง ช่วยให้ข้าวไม่เป็นเมล็ดลีบ ไม่เป็นท้องไข่ เมล็ดแกร่งใส น้ำหนักดี บดแล้วไม่ป่น ทำพันธุ์ข้าวปลูกดี

– ช่วงเวลา 7–9 โมงเช้า ใบธงอ่อนลู่ลง แสดงว่ายูเรีย.เกิน แต่ขาดธาตุรอง/ธาตุเสริม/ฮอร์โมน อย่างรุแรง

- ข้าวต้องการสารอาหาร (ปุ๋ย) 14 ตัว แต่ละตัวมีประโยชน์ต่อพืชแตกต่างกัน การใส่ยูเรีย. 46-0-0 แม้จะใส่ไร่ละ 50 กก.หรือ 1 กส. ก็เท่ากับได้สารอาหาร คือ N เพียงตัวเดียว .... นาข้าวบางแปลงใส่ยูเรีย ไร่ละ 2 กส. เท่ากับ 100 กก. ก็ยังได้สารอาหาร คือ N เพียงตัวเดียวเหมือนกัน .... บางแปลงใส่ ยูเรีย 2 กส. แถมใส่ 16-20-0 อีก 1 กส. รวมเป็น 3 กส. หรือ 150 กก./ไร่ ก็เท่ากับได้ปุ๋ยเพียง 2 ตัว คือ N-P เท่านั้นเอง .... ก็มีที่ชาวนาบางคนบอกว่าเลข 0 ที่ 16-20-0 ก็คือปุ๋ยเหมือนกัน


- ข้อเสียของ “ยูเรีย” ที่ชาวนาไม่เคยถาม .... คนขายไม่เคยพูด นักส่งเสริมไม่เคยบอก :
@@@ ผลเสียต่อต้น.....ทำให้ข้าวเขียวตองอ่อน เขียวไม่ทน ใบบาง ใบอ่อน ต้นสูงล้ม ต้นหลวม ผนังเซลล์อ่อนแอ โรคแมลงมาก

@@@ ผลเสียต่อเมล็ด.....เมล็ดลีบมาก เป็นท้องไข่มาก ข้าวป่นมาก น้ำหนักไม่ดี ทำพันธุ์ข้าวปลูกไม่ดี

@@@ ผลเสียต่อสารอาหาร.....ความเข้มข้นของสารอาหารในเมล็ดข้าวน้อยกว่าที่ระบุในงานวิจัย เพราะต้นข้าวได้สารอาหารไม่ครบถ้วน – ต้นข้าวต้องการปุ๋ย N-P-K ครบสูตร อัตราส่วน 3 : 1 : 1 (30-10-10) หรือ 2 : 1 : 1 (16-8- 8 ) สูตรใดสูตรหนึ่ง อัตรา 10-20 กก./ไร่/รุ่น นอกนั้นข้าวต้องการ ธาตุรอง ธาตุเสริม ฮอร์โมน .... นักส่งเสริมบางคนพูดว่า ธาตุรอง ธาตุเสริม มีอยู่ในดินตามธรรมชาติอยู่แล้ว ส่วนฮอร์โมน ต้นข้าวสร้างขึ้นเองได้ ซึ่งในความเป็นจริงนั้น ธาตุรอง ธาตุเสริม จะเกิดเองบนดินได้ สภาพโครงสร้างของดินต้องดีและถูกต้องอย่างแท้จริง ส่วนฮอร์โมนที่ว่า ต้นข้าวสร้างขึ้นเองได้ สภาพความสมบูรณ์ของต้นข้าวต้องสูงจริงๆ ในเมื่อดินไม่ดีสภาพต้นจะสมบูรณ์ได้อย่างไร เมื่อสภาพต้นไม่สมบูรณ์ก็ไม่อาจสร้างฮอร์โมนขึ้นมาเองได้

- ชาวนาหว่านปุ๋ยลงไปในนา หว่านแรงๆ แรงสุดแรงเกิด เพื่อให้เม็ดปุ๋ยกระจายไปทั่วพื้นที่ แต่ชาวนาไม่เคยเฉลียวใจเลยว่า ต้นข้าวทุกกอได้รับปุ๋ยกอละ 1-2-3 เม็ดเท่ากันหรือไม่ เมื่อบางกอไม่ได้รับปุ๋ยจึงไม่โต ชาวนาจึงหว่านซ้ำจาก 1 กส. เพิ่มเป็น 2 กส. หรือ 3 กส. นี่คือสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ต้นทุนในการทำนาสูง

– ชาวนา รวมถึงเกษตรกรกลุ่มอื่นด้วย มักพูดเสมอว่า ใส่ปุ๋ยเคมีมากๆจะทำให้ ดินเสีย-ดินแน่น-ดินดาน-ดินไม่กินปุ๋ย แต่ก็ยังใส่มากอยู่ บางคนยังคิดว่า ใส่ปุ๋ยน้อยเกินไปต้องใส่เพิ่มอีก

- ชาวนาหรือเกษตรกรหลายๆกลุ่ม ไม่ยอมรับ ไม่เชื่อ ไม่มั่นใจ ว่า ปุ๋ยเคมีจะเกิดประสิทธิภาพได้ ก็ต่อเมื่อในดินมีอินทรีย์วัตถุเป็นตัวรองรับ ทั้งนี้ เกษตรกรมักมองแต่ข้อดีของปุยเคมีโดยไม่มองข้อเสีย กับมองแต่ข้อเสียโดยไม่มองข้อดีของปุ๋ยอินทรีย์

- ข้าวต้องการและตอบสนองต่อปุ๋ยทางใบกับปุ๋ยทางรากเท่าๆกัน นั่นคือ ควรเน้นการให้ปุ๋ยทางใบให้มากกว่าการให้ปุ๋ยทางราก

สรุป :
- ลดปุ๋ยทางดิน แล้วเพิ่มปุ๋ยทางใบ .................................
- ลดปุ๋ยธาตุหลัก แล้วเพิ่มปุ๋ยธาตุรอง ธาตุเสริม ฮอร์โมน .........
– ลดปุ๋ยเคมี แล้วเพิ่มปุ๋ยอินทรีย์ จุลินทรีย์ ..........................
– ลดซื้อ แล้วเพิ่มทำเอง ............................................

ลดลด ลดลด “4 ลดเบื้องต้น” คือ แนวทางที่ถูกต้อง ตรงกับความต้องการของพืชตระกูลข้าวที่สุด กับทั้งช่วยลดต้นทุน เอาเงินค่าปุ๋ยทางดินมาจ่ายค่าปุ๋ยทางใบ ปุ๋ยอินทรีย์ และสารปรับปรุงบำรุงดิน จ่ายน้อยกว่า แถมช่วยเพิ่มปริมาณ คุณภาพผลผลิต และมีอนาคตที่ยั่งยืนขึ้นอีกด้วย

---------------------------------------------------------------------------------------