-
++kasetloongkim.com++
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ
MySite.com :: ดูกระทู้ - ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตรทางรายการวิทยุ 2 JAN
 คำถามถามบ่อยของกระดานข่าวคำถามถามบ่อยของกระดานข่าว   ค้นหาค้นหา   กลุ่มผู้ใช้งานกลุ่มผู้ใช้งาน   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว   เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณเข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ   เข้าระบบเข้าระบบ 

ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตรทางรายการวิทยุ 2 JAN

 
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11553

ตอบตอบ: 02/01/2012 5:37 am    ชื่อกระทู้: ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตรทางรายการวิทยุ 2 JAN ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตร ทางรายการวิทยุ 2 JAN



**********************************************************

สร้างสรรสังคม....ส่งเสริมคนดี....พัฒนาชีวิต ให้มีคุณภาพ...

กองทัพบกเพื่อประชาชน เสนอรายการสีสันชีวิตไทย วิทยุเพื่อการเกษตรและอาชีพเสริม
ทางสถานีวิทยุ พล.ปตอ. เอเอ็ม 594 เวลา 08.10–09.00 และ 20.05-20.30 ทุกวัน

ผลิตรายการโดย กองกิจการพลเรือน หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบก
กระผม พันโทวีระ ใจหนักแน่น (คิม ซา กัสส์) เป็นผู้ดำเนินรายการครับ

เช่นเคยครับ รายการเรา 1188 สายด่วน 4 ตัว ฝากข้อความ-ฝากคำถาม-ฝากข่าว
ก่อนเริ่มรายการที่ โทรศัพท์มือถือส่วนตัว (081) 913-4986

**********************************************************




จาก : (085) 890-42xx
ข้อความ : มนุษย์เงินเดือนจะทำนา ปรึกษานักวิชาการแล้วบอกว่า ทำนาแบบ อินทรีย์ นำ - เคมี เสริม - ตามความเหมาะสม
ของพืช ถูกต้องที่สุด.....มีนาอยู่สองพี่น้อง 20 ไร่ น้ำดีตลอดปี จะปลูกข้าวหอมมะลิอิสาน ทำครั้งแรกให้ยิ่งใหญ่ไปเลย.....
จึงอยากขอคำแนะนำจากผู้พันด้วยค่ะ.....สวัสดีปีใหม่นะคะ
ตอบ :
- กรณีข้าวหอมมะลิ ปลูกได้เลย (ฟันธง) ไม่ผิดหวังเพราะ "ชื่อ" การันตีอยู่แล้ว ที่จริงหอมมะลิ กข105 นี่เกิดในภาคกลาง
อ.บางคล้า ฉะเชิงเทรา แต่ไปโตที่อิสานเพราะสภาพดินที่นั่นอำนวย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าปลูกภาคกลางหรือภาคอื่นไม่
ได้นะ ติดตามข่าวดีๆจะรู้ว่า ภาคกลางมีหลายจังหวัดที่ปลูกได้ ภาคเหนือก็มี

เอาเลยสนับสนุน ไปหาเมล็ดพันธุ์จากอิสาน เลือกที่คุณภาพดีๆหน่อย อย่าให้มีข้าวสายพันธุ์อื่นปนมากนัก ทางที่ดีน่าจะไปดูถึง
แปลงปลูกเลย ดูซิว่าเขามีวิธี บริหาร-จัดการ อย่างไร ในแปลงปลูกจะเห็นลักษณะข้าวสายพันธุ์อื่นขึ้นปะปน จากนั้นค่อยเจรจา
ขอซื้อเมล็ดพันธุ์

การพิสูจน์พันธุ์ข้าวด้วยการดูเมล็ดด้วยสายตาเป็นเรื่องยากมากๆ เพราะ ลักษณะ-รูปทรง-ขนาด-สีสัน ของเมล็ดคล้ายกันมาก หรือ
เล็กมาก (การตรวจสอบเมล็ดพันธุ์ ต้องตรวจ ดีเอ็นเอ เท่านั้น จึงจะรู้ผลแน่นอน) เพราะฉนั้นเมื่อได้เมล็ดมาครั้งแรกแล้ว ให้ปลูก
เพื่อทำพันธุ์ก่อน วิธีการก็คือ ทำนาข้าวแบบประณีต บำรุงทุกขั้นตอนอย่างสม่ำเสมอและถูกต้อง แล้วทำการแยกข้าวปนตอนที่เขา
เป็น ต้น-ออกรวง-ก่อนเกี่ยว ดูจะง่ายกว่า

แต่ถ้าหาเมล็ดพันธุ์จากทางราชการได้จะดีมากๆ อันนี้ไม่รู้เหมือนกันนะว่า ราการหน่วยนั้นอยู่ที่ไหน มีหรือเปล่า แจกหรือขายอย่าง
ไร ได้มาครั้งแรกอาจจะไม่มากนัก เราก็เอามาปลูกทำพันธุ์ก่อนแล้วขยายพันธุ์เพิ่มภายหลังได้

เรื่องของคุณภาพความเป็นหอมมะลิไม่น่ากลัว เพราะหอมมะลิในอิสานวันนี้ใส่แต่ยูเรีย หรือไม่ก็ 16-20-0 เท่านั้น จะมีสักกี่ราย
ที่ให้ ธาตุรอง/ธาตุเสริม แม้แต่ฮอร์โมน แต่ถ้าหอมมะลิเราทำแบบ อินทรีย์ นำ - เคมี เสริม ตามความเหมาะสมของหอมมะลิใน
ดินภาคกลาง (เน้นย้ำ.....ดินภาคกลาง) โดยเฉพาะแม็กเนเซียม.สร้างความสมบูรณ์ต้น, กำมะถัน.ช่วยสร้างกลิ่น, สังกะสี.
ช่วยสร้างแป้ง, แคลเซียม.ช่วยสร้างคุณภาพดีหรือแม้แต่โซเดียม-แมงกานิส.จากปลาทะเลในน้ำหมักระเบิดเถิง เหล่านี้ก็น่าจะ
รังสรรค์ผลงานของหมอมมะลิได้นะ

ที่สำคัญ แน่ใจหรือว่า ตลาดหอมมะลิที่ปลูกในจังหวัดภาคกลางจะสู้หอมมะลิที่ปลูกในอิสานได้ งานนี้คงต้องเหนื่อยโฆษณา ประชา
สัมพันธ์หน่อยละ

- ทำไมจึงมองแต่หอมมะลิ ที่จริงความคิดเริ่มต้นระดับนี้น่ามองเห็นอะไรๆกว้างไกลกว่านี้ อยากเสนอแนะข้าวพันธุอื่นบ้าง อย่างเช่น
ไรซ์เบอร์รี่, หอมนิล, สังข์หยด, ข้าวพันธุ์พื้นเมืองอื่นๆ ที่มีงานวิจัยรองรับ มีหน่วยราชการสนับสนุน

-ได้ข้าวเปลือกมาแล้วไม่ขายสด แต่วางแผนการตลาดแบบ ต้นน้ำ-กลางน้ำ-ปลายน้ำ รวมถึง BIPRODUCT ที่มาจากข้าว น่าดีกว่ามั้ง....




2. กลไกของข้าวหอมมะลิ

ในปีค.ศ. 2007 มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ได้ค้นพบว่าข้าวหอมมะลิ KDML 105 มีสารตัวหนึ่งชื่อ 2-acetyl-1-pyrroline
หรือ 2-AP ถึงแม้ว่ายีนของข้าวสายพันธุ์นี้จะประกอบไปด้วยสารมากกว่า 200 ตัว แต่นักวิทยาศาสตร์ได้ยืนยันว่า 2-AP เป็น
สารตัวสำคัญที่สร้างกลิ่นหอมในข้าว กลิ่มหอมนี้คล้ายคลึงกับกลิ่นของใบเตย (Pandanus amaryllifolius) ซึ่งเป็นพืช
ชนิดหนึ่งที่มักจะใช้ในการปรุงอาหารในแถบเอเชียตะวันออกฉียงใต้

นักวิจัยจากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ก็ได้ค้นพบว่าการรวมราชนิดหนึ่งกับใบเตยจะสามารถสร้างยีนกลิ่นหอมที่เป็นเอกลักษณ์
ยีนชนิดนี้ก็ได้จดลิขสิทธิ์ทรัพย์สินทางปัญญาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ดีเอ็นเอ ของข้าวหอมมะลิเป็นการรวมตัวของกว่า 500 ยีน และในจำนวนนี้มียีน 8 ตัวที่อยู่สถานะไม่ได้ถูกกระตุ้น และจากการ
วิจัย นักวิทยาศาสตร์ชาวไทยได้ค้นพบว่าในจำนวนยีนทั้งหมด มียีนที่เสียอยู่ 8 จุดและเป็นจุดเดียวกันกับยีนที่ไม่ได้ถูกกระตุ้น
จึงได้ทำการเปลี่ยนสถานะของยีนเหล่านี้และนี่คือที่มาของกลิ่นหอมของข้าวหอมมะลิไทยที่เป็นเอกลักษณ์

3. การพัฒนาของข้าวหอมมะลิ
ประเทศไทยอยู่บนเส้นละติจูด 6-20 องศาเหนือ และเป็นประเทศในแถบเขตร้อน ประเทศไทยนั้นมี 3 ฤดู ฤดูร้อนคือช่วงประ
มาณเดือนมีนาคมจนถึงเดือนพฤษภาคม ฤดูฝนคือช่วงประมาณเดือนมิถุนายนจนถึงเดือนตุลาคมและฤดูหนาวคือช่วงประมาณ
เดือนพฤจิกายนจนถึงเดือนกุมภาพันธ์ อุณหภูมิเฉลี่ยอยู่ที่ 22-25 องศา ปริมาณน้ำฝนต่อปีลี่ยอยู่ที่ 1000 มม. เพราะว่าไม่
การเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิมากนัก บวกกับมีแสงอาทิตย์ตลอดปี ประเทศไทยจึงเหมาะกับการปลูกข้าวหอมมะลิเป็นที่สุด

http://www.ccicthai.com/index.php?langtype=th&pageid=th_23





การปลูกข้าวหอมมะลิ 105 แบบเกษตรอินทรีย์สมบูรณ์แบบ ในบริเวณภาคกลางของประเทศไทย

ห้างหุ้นส่วนจำกัดพรุ๊ฟอิทและภาควิชาเกษตรกลวิธาน คณะเกษตร มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตบางเขน ได้ร่วมมือกัน
ดำเนินโครงการเพาะปลูกข้าวหอมมะลิ 105 แบบเกษตรอินทรีย์สมบูรณ์แบบในพื้นที่ภาคกลางของประเทศไทย โครงการนี้
ถือเป็นนวัตกรรมผลิตภัณฑ์และกระบวนการผลิตระดับประเทศสำหรับการผลิตข้าวหอมมะลิเกษตรอินทรีย์เพื่อการส่งออกไปตลาด
โลกและตลาดภายในประเทศไทย โดยมีระบบการควบคุมและป้องกันการปนเปื้อนตลอดขั้นตอนการผลิตและตรงกับหลักมาตร
ฐานเกษตรอินทรีย์สากล ตลอดทั้งสามารถวิเคราะห์คุณประโยชน์ทางการเกษตรด้านความปลอดภัยที่กำหนดให้ไม่มีสารพิษ
ตกค้างทางการเกษตร

แหล่งที่มา : สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ. 2554. "การเพาะปลูกข้าวหอมมะลิ 105 เกษตรอินทรีย์สมบูรณ์แบบบริเวณเขต
ภาคกลางของประเทศไทย (Fully Organic Rice Production var. Koa-Dok-Ma-Li-105 on Central Region
of Thailand)". องค์ความรู้และนวัตกรรมด้านเกษตรอินทรีย์ ปี พ.ศ. 2552-2553. http://www.nia.or.th/organic/
books/14_1.pdf. (สืบค้นเมื่อ 21 มีนาคม 2554).

http://www.nstda.or.th/nstda-knowledge/4906-fully-organic-rice


http://www.kasetloongkim.com/modules.php?name=Content&pa=showpage&pid=1700
นาข้าวแบบประณีต


http://www.kasetloongkim.com/modules.php?name=Content&pa=showpage&pid=1711
ปลูกข้าวทำพันธุ์



.
-------------------------------------------------------------------------------------------------




จาก : (081) 790-14xx
ข้อความ : มะม่วงลูกเล็กเท่านิ้วโป้มือ ร่วงจังเลย ใช้อะไรดีคะ.....
ตอบ :
- ให้น้ำสม่ำสมอ พอหน้าดินชื้น
- ใส่ปุ๋ยทางราก 3:1:1 + ยิบซั่ม + กระดูกป่น + น้ำหมักชีวภาพระเบิเถิดเทิง 30-10-10
- ให้ปุ๋ยทางใบบำรุงผลเล็ก 1:3:1 หรือ 3:1:2 + ธาตุรอง/ธาตุเสริม + แคลเซียม โบรอน + +สารสมนไพรสูตรรวมมิตร


-------------------------------------------------------------------------------------------------




จาก : (081) 667-42xx
ข้อความ : ยาฆ่าหญ้ามีผลเสียต่อต้นข้าวไหมครับ เพราะข้าวก็คือพืชตระกูลหญ้า ถ้ามีผลเสียแก้ไขอย่างไร เพราะยังจำเป็นต้อง
ใช้อยู่..... เกษตรกรเลาขวัญ
ตอบ :
ยาฆ่าหญ้า ทั้งยาฆ่า-ยาคุม ส่งผลเสียต่อต้นข้าวด้วยอย่างแน่นอน เพราะข้าวกับหญ้าเป็นพืชตระกูลเดียวกัน

มีงานวิจัย (ในเว้บ แต่จำไม่ได้ว่าเว้บไหน พยายามค้นหาแต่ยังไม่เจอ) ทดสอบเปรียบเทียบระหว่าง แปลงข้าวที่ใช้ยาฆ่ายาคุมหญ้า
กับแปลงข้าวที่ไม่ใช้ โดยทั้งสองแปลงบำรุงอย่างเดียวกันเป๊ะๆ ปรากฏว่า ..... 7 วันแรก แปลงที่ไม่ใช้ ต้นข้าวสูงกว่าแปลงที่ใช้ประมาณ
1 ฝ่ามือ.... 7 วันที่สอง ต้นข้าวแปลงที่ไม่ใช้สูงกว่า 1 ฝ่ามือกับอีก ครึ่งฝ่ามือ ...... 7 วันที่สาม ต้นข้าวแปลงที่ไม่ใช้สูงกว่าอีก
ครึ่งฝ่ามือ แต่ขนาดลำต้นอ้วนกว่า ลักษณะพร้อมแตกกอดีกว่า

ส่วนผลในแปลงที่ใช้ยาฆ่ายาคุม ระยะ 7-10 วันแรกหลังการใช้ ต้นข้าวไม่มีการเจริญเติบโตทางสูงเลย คือ "นิ่ง หรือ งัน หรือ ชะงัก"
การเจริญเติบโตนั่นเอง

สรุป : หลังใช้ยาฆ่ายาคุม 21 วัน ต้นข้าวในแปลงที่ไม่ใช้ ลำต้นสูงกว่าแปลงที่ใช้ประมาณ 2 คืบมือ หรือ กว่า 1 เท่าตัว ลักษณะลำต้น
และใบ สมบูรณ์กว่าอย่างเห็นได้ชัด



-------------------------------------------------------------------------------------------------




จาก : (081) 777-48xx
ข้อความ : พริกหนุ่มขาว อายุ 3 เดือน มีอาการบ้าใบ แก้ไขอย่างไรคะ.....
ตอบ :
ทางใบ :
1. ให้ "น้ำ 100 ล. (พีเอช 6.0) + ฮอร์โมนไข่ไทเป 100 ซีซี. + 0-52-34 (100 กรัม) + สารสมุนไพรสูตรรวมมิตร 200 ซีซี.
2. เด็ดทิ้งใบโคนกิ่ง 3-4 ใบ

ทางราก :
ให้ ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิง 8-24-24 อัตรา 1 ล/ไร่/20-30 วัน



-------------------------------------------------------------------------------------------------





.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group
Forums ©