-
++kasetloongkim.com++
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ
MySite.com :: ดูกระทู้ - ปัญหาเกษตร ทางรายการวิทยุ 26 DEC
 คำถามถามบ่อยของกระดานข่าวคำถามถามบ่อยของกระดานข่าว   ค้นหาค้นหา   กลุ่มผู้ใช้งานกลุ่มผู้ใช้งาน   ข้อมูลส่วนตัวข้อมูลส่วนตัว   เข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณเข้าระบบเพื่อตรวจข่าวสารส่วนตัวของคุณ   เข้าระบบเข้าระบบ 

ปัญหาเกษตร ทางรายการวิทยุ 26 DEC

 
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร
ดูกระทู้ก่อนนี้ :: ดูกระทู้ถัดไป  
ผู้ส่ง ข้อความ
kimzagass
หาวด้า
หาวด้า


เข้าร่วมเมื่อ: 12/07/2009
ตอบ: 11558

ตอบตอบ: 25/12/2011 7:03 am    ชื่อกระทู้: ปัญหาเกษตร ทางรายการวิทยุ 26 DEC ตอบกระทู้ด้วยเครื่องหมายคำพูด(quote)

ถาม-ตอบ ปัญหาเกษตร ทางรายการวิทยุ 26 DEC



**********************************************************

สร้างสรรสังคม....ส่งเสริมคนดี....พัฒนาชีวิต ให้มีคุณภาพ...

กองทัพบกเพื่อประชาชน เสนอรายการสีสันชีวิตไทย วิทยุเพื่อการเกษตรและอาชีพเสริม
ทางสถานีวิทยุ พล.ปตอ. เอเอ็ม 594 เวลา 08.10–09.00 และ 20.05-20.30 ทุกวัน

ผลิตรายการโดย กองกิจการพลเรือน หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบก
กระผม พันโทวีระ ใจหนักแน่น (คิม ซา กัสส์) เป็นผู้ดำเนินรายการครับ

เช่นเคยครับ รายการเรา 1188 สายด่วน 4 ตัว ฝากข้อความ-ฝากคำถาม-ฝากข่าว
ก่อนเริ่มรายการที่ โทรศัพท์มือถือส่วนตัว (081) 913-4986

*********************************************************




จาก : (084) 116-37xx
ข้อความ : อยู่อิสาน มีที่ 10 ไร่ มีน้ำตลอดปี อยากปลูกกุยช่าย แต่ไม่รู้จะหาพันธุ์ได้ที่ไหน หรือว่าควรปลูกอย่างอื่นดีกว่า
ขอคำแนะนำจากลุงคิมด้วยครับ......สุรินทร์
ตอบ :
ประสบการณ์ตรง :
- กุยช่าย "เคมี" ล้วนๆ (ปุ๋ยเคมี - สารเคมียาฆ่าแมลง) มีอายุให้เก็บได้ราว 3-4 ปี ในขณะที่กุยช่าย "อินทรีย์ นำ - เคมี เสริม - สารสมุนไพร" มีอายุให้เก็บได้ 10 (+) ปี ......

ตัวอย่าง (1)
แปลงกุยช่ายย่านสี่แยกทศกรรณ์ บางแวก ถ.กาญจนภิเษก (.....จำชื่อเจ้าของไม่ได้ สมัยนั้นลุงคิมโฆษณาให้ BIOKING แล้วใช้ปุ๋ยทางใบยี่ห้อนี้....) ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ ขี้วัว+ขี้ไก่แกลบ/ยิบซั่ม/กระดูกป่น/น้ำหมักชีวภาพ เป็นหลัก ใช้ปุ๋ยเคมี 3:1:1 อัตรา 1-2 กก./
ไร่/เดือน ให้ปุ๋ยทางใบสูตรบำรุงต้นเสริม กับแคลเซียม โบรอน สลับเป็นครั้งคราว จากเดิมใช้แต่ปุ๋ยทางราก 1:1:1 อัตรา 1 กส./ไร่/เดือน ไม่เคยให้ทางใบ ..... หลังจากปรับเปลี่ยนแนวทางบำรุงกุยช่าย ปรากฏว่าได้ผลผลิตเพิ่มขึ้น 3-4 เท่าตัว ต้นทุนลดกว่า 10 เท่า อายุต้นที่เคยอยู่ได้ 3 ปี เพิ่มเป็น 10 ปี

ตัวอย่าง (2)
คุณโช อยู่ไทรน้อย นนทบุรี ปลูกกุยช่ายเก็บดอก เนื้อที่ 6 ไร่ สวนยกร่องน้ำหล่อ เดิมทำแบบ "ปุ๋ยเคมี-สารเคมี" เพียวๆ ใช้คนงานเก็บดอกกุยช่าย 4 คน ทำงานเช้าถึงบ่ายแก่ๆ ครั้นปรับเปลี่ยนมาเป็นแนว "อินทรีย์-เคมี" แล้ใช้ฮอร์โมน่ไทเปตามคำแนะนำ ได้ปริมาณดอกออกเพิ่มขึ้น จนต้องเพิ่มคนงานจาก 4 คนเป็น 8 คน จึงเก็บทันในเวลาเท่าเดิม


- กุยช่ายขาว ราคาสูงกว่ากุยช่ายเขียว 3-5 เท่า ตามฤดูกาล .... กุยช่ายเคมีล้วนๆ ทำกุยช่ายขาว 1 รุ่นต้องเว้นทำกุยข่ายเขียว 2-3 รุ่นก่อน เพื่อฟื้นฟูต้น ไม่งั้นต้นโทรมตาย แต่กุยช่ายอินทรีย์นำ-เคมีเสริม (เล็กน้อย) สามารถำกุยช่ายขาว สลับกับช่ายเขียวได้รุ่นเว้นรุ่น โดยต้นไม่โทรม ทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้นหลายเท่าตัวจากปกติ

- กุยช่ายพันธุ์ไทย ให้ดอกมากแต่เล็ก ส่วนกุยช่ายพันธุ์ไต้หวันให้ดอกน้อยแต่ใหญ่ ปัจจุบันมีการใช้ฮอร์โมนเข้าช่วย ทำให้พันธุไทยให้ดอกมากและมีขนาดใหญ่ขึ้นด้วย

- การขายพันธุ์ด้วยเมล็ด แม้ทุนต่ำแต่ให้ผลผลิตช้า แนะนำให้ปลูกโดยวิธีถอนแยกหน่อจากต้นแม่ แม้ต้นจะสูงกว่าเมล็ดแต่ได้ผลผลิต
เร็วและดีกว่า

- กุยช่ายทั้งใบและดอกบำรุงแบบ "อินทรีย์นำ-เคมีเสริม" ผลผลิตที่ได้คุณภาพดี (เสี้ยนน้อย) อายุหลังเก็บเกี่ยวนาน (เกือบอาทิตย์) น้ำหนักดี รสชาดดี.....ส่วนกุยช่ายทั้งใบและดอกบำรุงแบบ "เคมีล้วน" ผลผลิตที่ได้ เสี้ยนมาก อายุหลังเก็บเกี่ยวอยู่ได้นานไม่เกิน 3 วัน น้ำหนักน้อย รสชาดไม่ดี ..... กุยช่ายตอบสนองต่อแคลเซียม โบรอน. ดีมากๆ จึงควรให้แคลเซียม โบรอน.ทางใบบ่อยๆ กับให้ทางราก (ยิบซั่ม) ซึ่งกุยช่ายจะได้รับแคลเซียม.ตลอดเวลา


...... ทำแปลงกุยช่ายแบบ ร่องแห้ง (สันแปลงกว้าง 3 ม. สูง 50 ซม. ยิ่งสูงยิ่งดี ช่องระหว่างสันแปลงกว้าง 1 ม.) ทำให้ปลูกกุยช่ายได้จนเต็มพื้นที่ ......การให้ น้ำ/ปุ๋ย/ฮอร์โมน/สารสมุนไพร ด้วยระบบสปริงเกอร์ ช่วยให้ประหยัดเวลา เพิ่มประสิทธิภาพ-ประสิทธิผลของเนื้องาน

......ทำแปลงแบบ ยกร่อน้ำหล่อ หว่านปุ๋ย ฉีดสารเคมี ด้วยมือ (สพายเป้ ลากสายยาง) รดน้ำด้วยเรือ เสียเวลา สิ้นเปลืองแรงงาน ประสิทธิภาพประสิทธิผลของเนื้องานน้อย



คลิก
http://www.kasetloongkim.com/modules.php?name=Forums&file=viewtopic&t=166
ปลูกกุ่ยช่าย (ครบวงจร.....)

-------------------------------------------------------------------------------------------------





จาก : (085) 679-21xx
ข้อความ : ปลูกข้าวหอมมะลิอยู่ชัยภูมิ มีที่ 15 ไร่ จะใช้ปุ๋ยของลุงคิมทุกสูตรได้ไหมคะ ตอนนี้ใช้ปุ๋ย.....จากอเมริกา (ไดเร็คเซลล์) ราคาแพงมาก ลิตรละพันกว่า ชาวนาอิสานชอบใช้กันมาก ปุ๋ยของลุงคิมน่าจะวางขายตามร้านทั่วไปด้วย จะได้หาซื้อง่าย......ขอบคุณค่ะ
ตอบ :
"เจ้าตุ้ม" เด็กหนุ่มอายุ 19-20 ปี อดีตคนงานไร่กล้อมแกล้ม บ้านเดิมอยู่บุรีรัมย์ วันนี้ขอลาไปรับใช้ชาติ เป็นทหารเรีอนาวิกโยธิน อยู่สัตหีบ

เมื่อปีก่อน ให้เอาปุ๋ยจากไร่ก้อมแกล้มทั้ง 4 ตัว ไปให้แม่ใช้กับนาข้าวหอมมะลิ พร้อมกับเทคนิคการใช้ นาข้าวเนื้อที่ 5 ไร่ ทำนาแบบ "ไบโอไดนามิก" ปรากฏว่าได้ผลผลิต 42 ถัง/ไร่ ข้าวลีบ-ข้าวป่น-ข้าวท้องปลาซิว น้อยมาก ต่างจากแปลงข้างเคียงอยู่ติดกัน ดิน-น้ำ-อากาศ อย่างเดียวกัน ใส่ปุ๋ยยูเรียไร่ละ 1 กส. ได้ผลผลิต 28 ถัง/ไร่ แถม ข้าวลีบ-ข้าวป่น-ข้าวท้องปลาซิว มากอีกต่างหาก

คลิก
http://www.kasetloongkim.com/modules.php?name=Content&pa=showpage&pid=1709
นาข้าวแบบไบโอไดนามิค...




ธาตุอาหารที่พืชทั่วโลก (เน้นย้ำ......ทั่วโลก) ต้องการกินมี 14-16 ธาตุ เหมือนกันหมด ใส่ครบทุกตัวแล้วขายลิตรละ 200-300 บาท ก็กำไรเหลือเฟือแล้ว แล้วอั้ยที่ขายลิตรละ 1,000 - 1,500 มันใส่อะไรอีก นอกจาก 14-16 ตัวนี้ บางยี่ห้อขายลิตร 10,000 ยิ่งน่าสงสัยหนักว่า ใส่อะไรเป็นส่วนผสมพิเศษ

สินค้าขายตรง ไดเร็คเซลล์.....ตัวสินค้าน่ะดี ยอมรับ แต่ระบบการขายต่างหากที่เลว....ว่ามั้ยต้นทุนแค่ลิตรละ 100 พ่อขายตั้ง 1,000 ตั้ง 10,000 ....เอาเข้าไป

คนเป็นถึง "ศาสตราจารย์ด็อกเตอร์" เป็น "อาจารย์สอนมห่-ลัยฯ" ขายสารจับใบ ไดเร็คเซลล์ จากอเมริกา ลิตรละ 700 (แกลลอน 5 ล. = 3,500) ผลงานขายระดับแหวนเพชร ไปทัวร์ต่างประเทศทุกปี ..... อภิโธ่ อภิถัง น้ำล้างจาน ก็ใช้เป็นสารจับใบได้ (งานวิจัยระดับด็อกเตอ์) กลับไม่ส่งเสริมให้เกษตรกรใช้ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่า บรรดาศานุศิษย์ที่เรียนไปจากศาสตราจารย์แบบนี้ จบออกไปแล้ว อุดมการณ์-อุดมคติ เพื่อชาติเพื่อสังคม เป็นอย่างไร..... ลงคิมก็ขาย แต่ขายในสิ่งที่ถูกต้อง ขายในสิ่งที่เกษตรกรทำเองไม่ได้ ถ้าพร้อมซื้อสอนวิธีเลือกซื้อ ถ้าพร้อมทำเองสอนวิธีทำ...........สวัสดี ประเทศไทย


................... ที่นี่ โหดไม่พอ ว่ะ .....................


-------------------------------------------------------------------------------------------------






จาก : (081) 347-09xx
ข้อความ : อยู่นครสวรรค์ มีที่ 5 ไร่ น้ำดีตลอดปี จะปลูกดอกสร้อยทอง ลุงคิมว่าดีไหม ขอคำแนะนำวิธีบำรุงด้วยปุ๋ยลุงด้วย จะขายส่งตลาดดอกไม้ในจังหวัดนี่แหละ.....ขอบคุณครับ
ตอบ :
ประสบการณ์ตรง.....
ดี เห็นด้วยอย่างมากๆสำหรับสร้อยทอง ปลูกเลย เนื้อที่ 5 ไร่ กำลังดีๆ ไม่มากไม่น้อย เหมาะสมกับแรงงานในบ้าน กับตลาดต่างจังหวัดอย่างนครสรรค์

ทำแปลงแบบยกร่องแห้ง ติดสปริงเกอร์ เหมือนแปลงกุยช่ายที่กล่าวข้างบน

สร้อยทองส่วนใหญ่ล้มเหลวเพราะ "ปุ๋ยเคมีผิดสูตร ผิดอัตรา ยาฆ่าหญ้า และสารเคมียาฆ่าแมลง" เพราะทำเกษตรแบบ เคมีล้วนๆ จึงอยากแนะนำให้ทำแบบ อินทรีย์นำ - เคมีเสริม

สร้อยทองเ คมีเพียวๆ อยู่ได้แค่ 3 ปี ต้องรื้อทิ้งปลูกใหม่
สร้อยทอง อินทรียืฃ์นำ เคมีเสริมนิดหน่อย อย่ได้นานนับ 10 ปี



ความล้มเหลวของสวนสร้อยทอง :
- หลังตัดต้นเพื่อเอาผลผลิตรุ่นใหญ่ ตัดต้นจนถึงผิวหน้าดิน เกษตรกรฉีดยาฆ่ายาคุมหญ้า ฉีดลงบนหน้าดิน ฉีดประจำทุกรุ่น หลายๆรุ่น ยาฆ่าหญ้าเป็นกรดจึงทำให้ดินเป็นกรด เมื่อดินเป็นกรดย่อมส่งผลเสียโดยตรงถึงต้นสร้อยทอง ต้นโทรม ให้ลผลิตน้อย คุณภาพไม่ดี......

แนวทางแก้ไข.... หลังตัดต้นให้ฉีดพ่นด้วยน้ำหมักชีวภาพเพื่ออาศัยพลังจุลินทรีย์ให้เป็นตัวปรับปรุงดิน ทำให้ดินร่วน เมื่อ หน่อหญ้า/วัชพืช ขึ้นมาก็ให้ถอนด้วยมือ

- หน่อสร้อยทองที่เกิดใหม่หลังตัดด้น เป็นหน่อขนาดเล็ก ส่งผลให้ได้ช่อดอกสั้น ราคาถูก เพราะเกษตรกรใส่ปุ๋ย 1:1:1 (16-16-16) และไม่มีการใส่อินทรีย์วัตถุใดๆ เพราะเชื่อว่า ในปุ๋ยอิทรีย์มีเปอร์เซ็นต์เนื้อปุ๋ยน้อย

แนวทางแก้ไข.... ทำสร้อยทองแบบ อินทรีย์นำ - เคมีเสริม หลังตัดต้นให้ใส่น้ำหมักชีวภาพระเบิดเถิดเทิง 3:1:1 + ขี้ไก่แกลบ/ขี้วัว + ยิบซั่ม จะได่หน่อขนาดใหญ่ สมบูรณ์ แข็งแรง และจำนวนมาก

ระยะก่อนออดอก บำรุงทางใบด้วย UN จะช่วยให้ได้ดอกมาก ก้านยาว ตรงดี ถึงระดับเกรดส่งออก

- ราน้ำค้าง ราสนิม โรค 2 ตัวนี้เป็นโรคประจำตระกูลสร้อยทอง เกิดในดินที่เป็นกรดจัด เชื้อแก่จะล่องลอยอยู่ในอากาศหรือปลิวตามลม ตกกลางคืนน้ำค้างลงเกาะตามต้นสร้อยทอง เชื้อนี้จะไปแฝงเข้าไปอยู่ในหยดน้ำค้างนั้น ครั้นน้ำค้างแห้งก็จะซึมแทรกเข้า
ไปอยู่ในต้นสร้อยทอง จากนั้นประมาณ 3 วันจะเห็นอาการบนต้นสร้อยทอง เกษตรกรต้องใช้สารเคมีประเภทดูดซึม แม้ว่าสารเคมีจะฆ่าเชื้อได้แต่ต้นก็ต้องโทรม ทำให้ไม่ได้ผลผลิต

แนวทางแก้ไข..... ใช้ "น้ำเปล่า" ฉีดล้างน้ำค้างให้ออกจากต้นก่อนที่น้ำค้างจะแห้ง นั่นคือ ต้องฉีดพ่นตอน ตี.5 หรือก่อนมีแสงแดด การฉีดพ่นด้วยเป้สะพายหลัง หรือสายยาง หรือเรือรดน้ำ คงทำไม่ทัน ต้องสปริเกอร์เท่านั้นจึงจะทำงานได้ทัเ





ที่มาภาพ : http://image.ohozaa.com/i/685/sam_9041.jpg




ก า ร ป ลู ก ด อ ก ส ร้ อ ย ท อ ง

ภาวนา อัศวะประภา
กองส่งเสริมพืชสวน กรมส่งเสริมการเกษตร

http://www.eto.ku.ac.th/neweto/e-book/plant/flower/goldenrod.pdf

--------------------------------------------------------------

.
กลับไปข้างบน
แสดงข้อมูลส่วนตัวของสมาชิก ส่งข่าวสารส่วนตัว
แสดงการตอบก่อนนี้:   
ตั้งกระทู้ใหม่   ตอบกระทู้    MySite.com หน้ากระดานข่าวหลัก -> ถาม-ตอบ ปัญหาการเกษตร ปรับเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

 
ไปยัง:  
คุณ ไม่สามารถ ตั้งกระทู้ใหม่ในกระดานนี้
คุณ สามารถ ตอบกระทู้ในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ แก้ไขการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลบการตอบกระทู้ของคุณในกระดานนี้
คุณ ไม่สามารถ ลงคะแนนในแบบสำรวจในกระดานนี้

Powered by phpBB © 2001, 2005 phpBB Group
Forums ©