มะเขือยักษ์ "หยกภูพาน"....

[kimzagass]

มะเขือยักษ์พันธุ์หยกภูพาน






มะเขือยักษ์ (Giant Eggplant)
พันธุ์หยกภูพาน มะเขือผลใหญ๋พิเศษขนาดผลโดยเฉลี่ย 0.8-1.5 กิโลกรัม สามารถนำมา
ปรุงอาหารรับประทานได้เช่นเดียวกันกับมะเขือปกติ ปลูกเลี้ยงง่าย เจริญเติบโตรวดเร็ว

มะเขือยักษ์พันธุ์หยกภูพาน ซึ่งตอนหลังได้รับการพิสูจน์แล้วว่าไม่ใช้พืช GMOs โดยเฉลี่ย
จะมีน้ำหนักประมาณลูกละ 1 กิโลกรัมครึ่ง และเมื่อเปรียบเทียบกับมะเขือทั่วไปแล้วจะมีขนาด
ใหญ่กว่า 30 เท่า ระหว่างที่ออกผลผลิตก็จะดูแลเป็นอย่างดี โดยการใส่ปุ๋ยคอกต้นละ 1 กิโลกรัม
ควบคู่กับการใช้น้ำหมักชีวภาพสลับกันไป" ซึ่งแต่ละต้นติดผลต้นละ 6-7 ลูก


ผลการทดลอง จึงสรุปได้ว่าปลูกมะเขือหยกภูพานเพื่อกินเพื่อใช้ประโยชน์ในการบริโภค รสชาติดี

แบบชาวบ้าน เขาก็เก็บลูกมะเขือที่มีอายุประมาณ 10 วัน หลังออก*กจะได้ลูกมะเขือยักษ์
อนุบาล มีเนื้อขาวล้วน ๆ ไม่มีเมล็ด ขนาดของมันก็ประมาณ ลูกเทนนิส

และสามารถปล่อยให้มีจำนวนลูกมะเขือห้อยแขวนอยู่บนต้นไม้เต็มที่ แต่ถ้าอยาก ปลูกให้เป็น
พืชแปลก เป็นมะเขือแฟนซีก็ต้องปล่อยให้มันแขวนโตงเตงอยู่บนกิ่งได้ 3-4 ลูก จะได้ยักษ์
เขียวขนาดใหญ่ แต่เป็นของใหญ่ที่กินได้ ไม่ว่าจะเอาไปต้ม ผัด แกง ทอด ชุบแป้ง ชุบไช่ทอด
ทำแกงเขียวหวานลูกชิ้นปลากราย ยกเว้นการเผา เพราะการเผามะเขือที่ใหญ่ ขนาดลูกมะพร้าว
อ่อนมันจะสุกเฉพาะข้างนอก ข้างในยังคงความดิบอยู่ เรียกว่า กว่าในจะสุกนอก haha




http://www.google.co.th

[kimzagass]

มะเขือยักษ์ใหญ่ เท่าลูกมะพร้าว




นักวิชาการระบุมะเขือพร้าว ใกล้สูญพันธุ์

เมื่อวันที่ 28 กันยายน ผู้สื่อข่าว จ.กาฬสินธุ์ รายงานว่า มีกระแสข่าวชาวบ้านในพื้นที่ฮือฮาผลมะเขือยักษ์ ที่บ้านนางบุญมี กุมลาชัย อายุ 76 ปี บ้านเลขที่ 259 ซ.คงเดช ถ.อนรรฆนาค เขตเทศบาลเมืองกาฬสินธุ์ จึงรุดไปตรวจสอบข้อเท็จจริง พบชาวบ้านกลุ่มหนึ่ง กำลังมุงดูผลมะเขือยักษ์สีเหลืองเข้ม ที่เกิดจากมะเขือต้นหนึ่งบริเวณหน้าบ้าน โดยมะเขือต้นดังกล่าวมีลักษณะเป็นทรงพุ่ม สูงประมาณ 100 เซนติเมตร มีผลดกประมาณ 10 ผล แต่ละผลมีขนาดใหญ่เท่ากำปั้นผู้ใหญ่ และในจำนวนนี้มีอยู่ผลหนึ่ง ซึ่งมีความแปลกและแตกต่างไปจากผลอื่นๆ คือมีสีเหลืองเข้ม และขนาดใหญ่เท่าลูกมะพร้าว เจ้าของบ้านต้องหาเก้าอี้ไปรองรับ เพราะเกรงกิ่งจะหักเนื่องจากรองรับน้ำหนักไม่ไหว

นางบุญมี กล่าวว่า มะเขือต้นนี้มีอายุประมาณ 5 เดือน เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ตนเห็นว่าเจริญเติบโตเร็วและออกผลดก จึงรักษาไว้เพื่อเก็บผลไว้เป็นอาหาร ที่ผ่านมาเก็บไปประกอบอาหารแล้วหลายผล โดยนำไปต้มซุป แกงอ่อม และผัดเผ็ด ให้รสชาติที่กรอบ หวาน มัน แปลกไปจากมะเขือโดยทั่วไป

นางบุญมีกล่าวถึงความแปลกประหลาดของมะเขือต้นนี้อีกว่า เป็นเรื่องที่เหลือเชื่อมาก ที่ผลมะเขือที่ตนยังไม่เก็บไปรับประทาน มีผลขนาดใหญ่โตขึ้นเรื่อย ๆ ผิดธรรมดา โดยเฉพาะมีอยู่ผลหนึ่ง ซึ่งมีสีสันและรูปพรรณสัณฐาน พิสดารไปจากผลอื่น ๆ ตั้งแต่ติดลูก คือนอกจากจะมีผลขนาดใหญ่กว่าผลอื่นๆแล้ว ยังมีสีเหลืองเข้ม แตกต่างไปจากผลอื่นอย่างเห็นได้ชัด โดยวัดขนาดได้เส้นรอบวง 14 นิ้ว เส้นผ่าศูนย์กลาง 4 นิ้ว น้ำหนักประมาณครึ่งกิโลกรัม

"นับตั้งแต่มีมะเขือยักษ์สีเหลืองเข้ม ผิดธรรมชาติเกิดขึ้น ทำให้เพื่อนบ้านมาดูแล้วบอกต่อกันไป ถึงกับแตกตื่นกันมาดูเป็นจำนวนมาก ในจำนวนนี้มีทั้งมาดูในความแปลกประหลาดและตีเป็นเลขเด็ดด้วย ทำให้ที่ผ่านมามีคนได้รับโชคจากมะเขือยักษ์หลายคน โดยตัวเลขที่ได้นำมาจากการฝันเห็นตัวเลขบ้าง และนับจำนวนผลมะเขือบ้าง สำหรับตน จะยังรักษามะเขือต้นนี้ต่อไป เพราะเห็นเป็นสิ่งมหัศจรรย์ และเชื่อว่าเป็นสิริมงคล จึงจะเก็บเมล็ดไว้ขยายพันธุ์ต่อไป"

ด้านนายสมบูรณ์ เนื่องสมศรี อาจารย์สาขาเทคโนโลยีการผลิตพืช มหาวิทยาลัยเทคโนยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตกาฬสินธุ์กล่าวว่า มะเขือที่ออกผลขนาดใหญ่ดังกล่าว เชื่อว่าน่าจะเป็นมะเขือพร้าว หรือบางแห่งเรียกว่าพันธุ์หยกภูพาน ซึ่งเป็นมะเขือพันธุ์พื้นเมือง ที่มีลักษณะเด่นคือผลใหญ่ เท่าลูกมะพร้าว ที่หากได้รับการดูแลที่ดีหรือเกิดในจุดที่ดินมีสารอาหารอุดมสมบูรณ์ ก็จะทำให้ผลขนาดใหญ่เท่าลูกมะพร้าว จึงเป็นที่มาของชื่อที่เรียกว่ามะเขือพร้าว แต่ในระยะหลังๆหรือประมาณ 10 ปีกลับไม่ค่อยมีให้เห็น แทบจะเรียกว่าสูญพันธุ์ไป เพราะไม่มีใครอนุรักษ์พันธุ์ไว้ สาเหตุคือแต่ละต้นจะให้ผลเพียงต้นละ 1-3 ผลเท่านั้น แต่ยังพบเห็นประปรายในประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ส่วนที่มีผลเป็นสีเหลืองนั้น อาจจะเกิดจากการกลายพันธุ์ หรือเกิดการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมโดยวิธีกรรมทางธรรมชาติก็อาจเป็นไปได้

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า สำหรับบ้านที่มีมะเขือยักษ์สีเหลืองเกิดขึ้นนี้ ยังมีประวัติน่าสนใจว่าเมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา ต้นหมากที่ปลูกไว้หน้าบ้าน 2 ต้น ได้ถอดยวงออกมาเป็นรูปร่างคล้ายพญานาค ในครั้งนั้นได้สร้างความแตกตื่นให้ชาวบ้านและนักเสี่ยงโชคอย่างมาก เนื่องจากมีผู้โชคดีถูกหวยหลายคน ก่อนที่จะมาเกิดมะเขือยักษ์สีเหลือง ให้ชาวบ้านและเซียนหวยฮือฮาเป็นครั้งที่สอง




http://news.clipmass.com
.

[kimzagass]

มะเขือยักษ์ (Giant Eggplant)


พันธุ์หยกภูพาน มะเขือผลใหญ๋พิเศษขนาดผลโดยเฉลี่ย 0.5-2.5 กิโลกรัม สามารถนำมา ปรุงอาหารรับประทานได้เช่นเดียวกันกับมะเขือปกติ ปลูกเลี้ยงง่าย เจริญเติบโตรวดเร็ว 1 เดือนเริ่มติดผล

มะเขือยักษ์พันธุ์หยกภูพาน ซึ่งตอนหลังได้รับการพิสูจน์แล้วว่าไม่ใช้พืช GMOs โดยเฉลี่ย จะมีน้ำหนักประมาณลูกละ 1 กิโลกรัมครึ่ง และเมื่อเปรียบเทียบกับมะเขือทั่วไปแล้วจะมีขนาดใหญ่กว่า 30 เท่า ระหว่างที่ออกผลผลิตก็จะดูแลเป็นอย่างดี โดยการใส่ปุ๋ยคอกต้นละ 1 กิโลกรัม ควบคู่กับการใช้น้ำหมักชีวภาพสลับกันไป" ซึ่งแต่ละต้นติดผลต้นละ 6-7 ลูก ลูกหนึ่งกินกันได้ถึง 7-8 ครัวเรือน

ผลการทดลอง จึงสรุปได้ว่าปลูกมะเขือหยกภูพานเพื่อกินเพื่อใช้ประโยชน์ในการบริโภค

แบบชาวบ้าน เขาก็เก็บลูกมะเขือที่มีอายุประมาณ 10 วัน หลังออกดอกจะได้ลูกมะเขือยักษ์ อนุบาล มีเนื้อขาวล้วน ๆ ไม่มีเมล็ด ขนาดของมันก็ประมาณ ลูกเทนนิส

และสามารถปล่อยให้มีจำนวนลูกมะเขือห้อยแขวนอยู่บนต้นไม้เต็มที่ แต่ถ้าอยาก ปลูกให้เป็น พืชแปลก เป็นมะเขือแฟนซีก็ต้องปล่อยให้มันแขวนโตงเตงอยู่บนกิ่งได้ 3-4 ลูก จะได้ยักษ์ เขียวขนาดใหญ่ แต่เป็นของใหญ่ที่กินได้ ไม่ว่าจะเอาไปต้ม ผัด แกง ทอด ชุบแป้ง ชุบไช่ทอด ทำแกงเขียวหวานลูกชิ้นปลากราย ยกเว้นการเผา เพราะการเผามะเขือที่ใหญ่ ขนาดลูกมะพร้าว อ่อนมันจะสุกเฉพาะข้างนอก ข้างในยังคงความดิบอยู่ เรียกว่า กว่าในจะสุกนอกก็ไหม้เสียแล้ว


มะเขือยักษ์ -สีม่วงพันธุ์อิสราเอล

แบบอิสราเอล คือแบบผลกลมอ้วนเหมือนหยดน้ำ หรือทรงลูกแพร์ ก้านตรงขั้วผลเป็น สีเขียว(หนัก 0.5-1 กิโลกรัม) ก็เลยเรียก “มะเขือม่วงก้านเขียว” มักเห็นในอาหารฝรั่ง ง่ายสุดก็ย่างรวมกับผักอื่น ๆ เช่น พริกหวาน มะเขือเทศ ราดน้ำมันมะกอก เกลือ พริกไทย

ประโยชน์ ทางอาหาร นิยมนำไปเผาไฟ หรือลวกน้ำร้อนพอสลบ รับประทานกับน้ำพริกชนิดต่างๆ มีรสชาติหวานหอมอร่อยมาก ทางภาคเหนือยังใช้ต้มหรือเผา ตำเป็นน้ำพริกมะเขือรับประทานกับผักสดผักเคียงชนิดต่างๆด้วย

สำหรับกลุ่มที่ปลูกมะเขือยักษ์นี้ได้วิเคราะห์ว่าควรจะปลูก เนื่องจากเป็นพืชที่ปลูกง่าย โตไว ให้ผลตอบแทนเร็ว และสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้นาน มีคุณค่าทางอาหารสูง อุดมด้วยวิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินซี ธาตุเหล็กและแคลเซียม อีกทั้งเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคสูงสุด เพราะสามารถบริโภคได้ทั้งเป็นผักสด นอกเหนือจากกินมะเขือสดกันมากแล้ว คนไทยยังใช้มะเขือมาทำอาหารมากมายเป็นพิเศษ ทั้งปิ้ง เผา ผัด และเอามาแกง ที่ขึ้นหน้าขึ้นตาที่สุด คือเอามะเขือมาปรุงรสน้ำพริกกะปิ น้ำพริกอื่นๆ เครื่องจิ้มต่างๆ คนไทยเองก็กินและปลูกมะเขือมาเนิ่นนานแล้ว ผัดเผ็ดต่างๆ มักใส่มะเขือเปราะที่หั่นเป็นซีกๆ ยำเนื้อย่างมะเขือเปราะใช้มะเขือฝานเป็นแว่นบางๆ มะเขือเปราะใส่ในหลนปลาร้าหรือปลาร้าสำเร็จ ช่วยทำให้หลนมีรสชาติกลมกล่อมขึ้น นอกจากนั้น ยังนิยมใส่ในแกงเผ็ด แกงเขียวหวาน แกงป่า มะเขือเปราะในแกงต่างๆ จะอ่อนนุ่มและดูดเอาน้ำและรสชาติของแกงไว้มาก อีกทั้งทำให้แกงข้นมากขึ้น มะเขือเปราะเวลาสุกจะมีรสหวานอ่อนๆ ซึ่งช่วยปรุงรสแกงให้กลมกล่อมขึ้น แกงแบบพื้นบ้านประจำภาค เช่น แกงแค แกงโฮะ ในภาคเหนือ และแกงเผ็ดแบบปักษ์ใต้ก็ขาดมะเขือเปราะไม่ได้ มะเขือเปราะยังเป็นที่รู้จักและแพร่หลายในต่างประเทศมากเป็นพิเศษ ถึงกับเรียกกันว่า มะเขือไทย (Thai eggplant) มีวางจำหน่ายตามซุปเปอร์มาร์เก็ตใหญ่ๆ ส่วนใหญ่มักนิยมใส่แกงเผ็ดเหมือนกัน



http://fws.cc/makeuyuk/index.php?topic=8.0

[kimzagass]

http://moon99.siam2web.com//?cid=389141

[kimzagass]

วิธีเสียบยอดมะเขือ....

COPY มาไม่ได้ คลิกไปดูเองนะคร้าบบบบบ


http://www.marigoldthai.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=538703244&Ntype=3


ลุงคิมครับผม
ปล.
ยอดมะเขือ เสียบบนตอพริกได้ .....(รต.สฤษดิ์ฯ 089-741-0366)

[kimzagass]

วิธีเสียบยอดมะเขือ....

COPY มาไม่ได้ (ไม่เป็น) คลิกไปดูเองนะคร้าบบบบบ


http://www.marigoldthai.com/index.php?lay=show&ac=article&Id=538703244&Ntype=3


ลุงคิมครับผม
ปล.
ยอดมะเขือ เสียบบนตอพริกได้ .....(รต.สฤษดิ์ฯ 089-741-0366)

[kimzagass]

การเปลียนยอดมะเขือพวงเป็นพันธุ์ใหม่


การเปลียนยอดมะเขือพวงเป็นยอดมะเขือยาวเป็นการเปลียนยอดที่มีความสนใจของผู้เขียนก็เลยนำความรู้มาให้สมาชิกคนเกษตรดอทคอมได้นำไปทดลองทำดู ข้อดี ในการเปลียนยอดแบบนี้ จะทำให้ลูกดกและสมบูรณ์ ลูกใหญ่ และมีอายุอยู่ได้หลายปีไม่ต้องปลูกใหม่ จะเริ่มกันเลยนะครับ

เริ่มจากการเตรียมอุปกรณ์ในการเปลียนยอดนะครับ

1. ถุงพลาสดิก
2. มีดคัตเตอร์
3. เชือกสำหรับใช้รัด
4. ต้นมะเขือพวงที่จะเปลียนยอด
5. กิ่งพันธุ์มะเขือยาว
6. เทปพลาสติก

เมื่อเตรียมอุปกรณ์ครบแล้วก็เริ่มเลยนะครับ

1.เริ่มจากการตัดต้นมะเขือพวง ดังรูป




2.ฝ่าครึ่งต้นมะเขือพวงลึกประมาณ1นิ้ว ดังรูป



3.ตัดกิ่งมะเขือพวงตัดแนวเฉียงเป็นลิ่ม เสียบลงตรงระหว่างรอยฝ่าของต้นมะเขือ
พวง เมื่อเสร็จตามขั้นตอนที่กล่าวมา ก็ใช้ก็ใช้เทปพลาสติกพันแผลที่เสียบให้แน่น



4.แล้วก็ใช้ถุงพลาสติกครอบไว้ดังรูปเป็นอันเสร็จ



เมื่อทำเสร็จแล้วก็สังเกตดูว่าภายใน 15 วัน กิ่งที่เสียบไม่เน่าก็แสดงว่ารอดแล้ว ก็จะ
ได้ต้นมะเขือพวงยอดมะเขือยาว




http://www.khonkaset.com/index.php?option=com_content&view=article&id=55:2010-08-18-11-45-57&catid=34:2010-08-18-10-53-53&Itemid=63

[kimzagass]

การต่อยอดมะเขือเทศ บนต้นมะเขือพวง





ชื่อ การต่อยอดมะเขือเทศบนต้นมะเขือพวง
บุคคล / กลุ่มบุคคล
นายภิรมย์ เทพสุคนธ์ บ้านเลขที่ ๒๕๐/๒ มหายศ อำเภอเมือง จังหวัดน่าน
องค์ความรู้

๑. เลือกยอดมะเขือเทศพันธ์พื้นเมืองประมาณ ๑ ยอด (ขนาดยาวประมาณ ๓-๔ นิ้ว)
๒. เลือกยอกมะเขือเทศในข้อที่ ๑ ออกให้หมด เหลือแต่ยอด และเฉือนโคนให้มีลักษณะเป็นรูปปากฉลาม
๓. เลือกต้นมะเขือพวงขนาดสูง ๑ - ๑ ๑/๒ ฟุต ตัดปลายยอดที่คะเนว่ามีอายุใกล้เคียงกับยอดมะเขือเทศ
๔. ผ่ายอดมะเขือพวงลึกประมาณ ๑ ๑/๒ - ๒ นิ้ว
๕. นำยอดมะเขือเทศเสียบตรงที่ผ่าบนยอดมะเขือพวง โดยให้เปลือกสัมผัสกับด้านใดด้านหนึ่งก็ได้
๖. ใช้เทปพลาสติกพันรอยต่อเพื่อป้องกันน้ำเข้า และใช้ถุงพลาสติกขนาด ๖x ๘ นิ้ว คลุมยอดมะเขือเทศที่ต่อยอดมะเขือพวง และผูกเชือกด้านล่างให้แน่น
๗. ใช้กระดาษหนังสือพิมพ์คลุมอีกชั้นหนึ่ง เพื่อป้องกันไม่ให้ถูกแสงแดด
๘. ใช้เวลา ๒ สัปดาห์ แกะกระดาษหนังสือพิมพ์และถุงพลาสติกที่คลุมออก จะเห็นยอดผลิใบเป็นสีเขียว เมื่อยอดแข็งแรงดีแล้วให้แกะเทปพลาสติกออก

ประโยชน์
๑. อายุของมะเขือเทศโดยปกติจะมีอายุประมาณ ๓ เดือน แต่ถ้าใช้วิธีจะมีอายุถึง ๑ ปี
๒. ผลผลิตของมะเขือเทศเพิ่มขึ้นและมีตลอดปี สามารถนำไปจำหน่ายได้เร็ว
๓. ช่วยป้องกันโรครากเน่าและใบหงิก



http://kanchanapisek.or.th/oncc-cgi/text.cgi?no=11291

[kimzagass]

ข้อมูลงานวิจัย

การศึกษาต้นทุนการผลิตมะเขือเทศพันธุ์สีดาที่ปลูกโดยการเสียบยอดบนต้นตอมะเขือ 3 ชนิดในฤดูฝน Study on Production Cost and Return of Tomato (Lycopersicon esculentum Mill) Sida Variety Grafting on 3 Types of Egg-plant Rootstock in Raing Season.



บทคัดย่อ :
การศึกษาต้นทุนการผลิตมะเขือเทศพันธุ์สีดาที่ปลูกโดยการเสียบยอดบนต้นตอมะเขือ 3 ชนิด เปรียบเทียบกับการปลูกมะเขือเทศแบบธรรมดาในฤดูฝนปี 2532 และ 2533 โดยวางแผนการทดลองแบบ RCBD ทำ 4 ซ้ำ พบว่า

ต้นทุนการผลิตต่อไร่รวมทั้งหมดของการปลูกมะเขือเทศ โดยการเสียบยอดบนต้นตอมะเขือเทศชนิดต่างๆ เท่ากับ 7,120.55 บาท แยกเป็นต้นทุนผันแปร 7,004.22 บาท ต้นทุนคงที่ 446.33 บาท

สำหรับการปลูกมะเขือเทศแบบธรรมดา ต้นทุนการผลิตต่อไร่ รวมทั้งหมดเท่ากับ 6,341.25 บาท แยกเป็นต้นทุนผันแปร 6,224.92 บาท ต้นทุนคงที่ 446.33 บาท (Table 2)

ทางด้านผลผลิตที่ได้รับมีความแตกต่างกันระหว่างการปลูกโดยเสียบยอดบนต้นตอมะเขือเทศชนิดต่างๆ กับการปลูกแบบธรรมดา คือ ถ้าปลูกมะเขือเทศโดยการเสียบยอดบนต้นตอมะเขือพวง จะได้ผลผลิตเฉลี่ยสูงสุดถึง 1,882.60 กก.ต่อไร่ รองลงมา คือ ใช้ต้นตอมะเขือเปราะและมะเขือยาวซึ่งได้ผลผลิต 1,622.31 และ 1,568.74 กก.ต่อไร่ ตามลำดับ

ส่วนการปลูกมะเขือเทศแบบธรรมดาจะได้ผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่ต่ำสุด คือ ได้ 1,088.55 กก. เท่านั้น สำหรับราคาผลิตผลที่จำหน่ายได้จะอยู่ในช่วงต่ำสุด 4 บาทต่อ กก. และสูงสุด 10 บาทต่อ กก. ถ้าคิดราคาตลอดฤดูการผลิต (เฉพาะฤดูฝน) แค่ 5 บาทต่อ กก. ก็จะขายได้ต่อไร่ถึง 9,413, 8,111.55, 7,843.7 และ 5442.75 บาท

ในการปลูกมะเขือเทศโดยการเสียบยอดบนต้นตอมะเขือพวง มะเขือเปราะ มะเขือยาว และปลูกแบบธรรมดาตามลำดับ แต่เมื่อหักต้นทุนการผลิตออกหมดแล้ว พบว่า การปลูกมะเขือเทศ โดยใช้ต้นตอมะเขือพวง มะเขือเปราะ และมะเขือยาว จะมีกำไรสุทธิเท่ากับ 2,292.45, 991 และ 723.15 บาทต่อไร่

ส่วนการปลูกมะเขือเทศแบบธรรมดา จะขาดทุน 898.50 บาทต่อไร่

ส่วนระยะเวลาการเก็บเกี่ยวผลผลิต ที่มีความสำคัญต่อผลผลิตที่เพิ่มขึ้นนั้น ก็พบว่า ถ้าปลูกมะเขือเทศโดยการเสียบยอดบนต้นตอมะเขือชนิดต่างๆ จะทำให้ช่วงเวลาการเก็บเกี่ยวนานขึ้นถึง 3 ครั้ง จะเก็บเกี่ยวได้ตลอดฤดูการผลิตเฉลี่ย 15 ครั้ง ถ้าปลูกแบบธรรมดาจะเก็บเกี่ยวได้นานเฉลี่ยแค่ 12.5 ครั้ง ซึ่งนั่นหมายความว่า ยิ่งเวลาการเก็บเกี่ยวนานขึ้น ผลผลิตที่ได้ย่อมมีมากกว่า ผลที่ได้จากการลงทุนก็จะเพิ่มขึ้น



http://www.lartc.rmutl.ac.th/d_research.php?ID=0000000107