ต้นปาล์มน้ำมันพันธุ์สุราษฎร์ธานี 2 อายุ 3 ปี อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม
จำหน่ายต้นกล้าโดย ศูนย์วิจัยปาล์มน้ำมันหนองคาย อ.บึงกาฬ
ความแตกต่างของ "เมล็ด กับ เนื้อเยื่อ" ปาล์มน้ำมัน
.....ทีมงานได้รับคำถามน่าสนใจมาหลายครั้ง เกี่ยวกับเรื่องความแตกต่างระหว่าง เมล็ดพันธุ์ปาล์มน้ำมัน กับ เนื้อเยื่อปาล์มน้ำมัน ว่า เมื่อเพาะเลี้ยงดูแลจนเติบโตเป็นต้นกล้าปาล์มน้ำมันแล้ว จะดีกว่าหรือด้อยกว่ากันตรงไหนอย่างไร ?
เป็นคำถามที่ดีและน่าสนใจมากสำหรับการเรียนรู้ในเรื่องนี้ เพราะมันเป็นหนึ่งในความรู้เพื่อประกอบการตัดสินใจทำการเกาตรปาล์มน้ำมันของท่านเกษตรกรและผู้สนใจได้เป็นอย่างดี เหตุเพราะว่า ในประเทศไทยของเรานั้น การเพาะเลี้ยงต้นกล้าปาล์มน้ำมันจะใช้วิธีการเพาะเลี้ยงจากเมล็ดงอก เกือบทั้งหมด
จนกระทั่งไม่กี่ปีมานี้ ซึ่งคิดว่าคงราวๆ ไม่น่าเกิน 5 ปี ที่ต่างประเทศเริ่มทำการผลิตต้นกล้าปาล์มน้ำมันด้วยเทคนิควิธีการที่เรียกว่า "เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ" TISUE CULTURE ซึ่งสำหรับแหล่งผลิตต้นปาล์มน้ำมันคุณภาพสูงทั่วโลก มักจะทำได้ง่ายดายจนเป็นเรื่องปกติธรรมดาไปแล้ว เพราะถือกุญแจความลับด้านวิทยาการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเอาไว้ในมือตนเอง และเพื่อจะเพิ่มประสิทธิภาพในการขยายพันธุ์เชิงจำนวน ให้กับการผลิตต้นกล้าปาล์มน้ำมันสายพันธุ์ที่เป็นเลิศ การนำเนื้อเยื่อส่วนต่างๆ ของต้นปาล์มน้ำมันที่คัดเลือกไว้มาทำการผลิตเนื้อเยื่อ ที่สามารถเจริญเติบโตเป็นต้นใหม่ได้จำนวนมากในขวดอาหาร จึงกลายเป็นกระแสใหม่ของการตลาดปาล์มน้ำมันไป
และเมื่อผลิตภัณฑ์เนื้อเยื่อปาล์มน้ำมันมาสู่ประเทศไทย ก็ได้มีการพยายามลอกเลียนเทคโนโลยีดังกล่าว ด้วยคิดฝันเอาว่า เขาทำได้ เราก็ทำได้ ของกลุ่มธุรกิจการเกษตรปาล์มน้ำมันบางราย จึงทำการผลิตต้นกล้าปาล์มน้ำมันด้วยวิธีการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ โดยใช้แนวคิดที่ว่า
หากสามารถทำได้ จะทำให้มีปริมาณต้นกล้าปาล์มน้ำมันคุณภาพดี จำนวนมากและเติบโตได้รวดเร็ว โดยใช้เวลาลดลงทำให้ขายได้มาก ขายได้ง่ายขึ้น ซึ่ง เป็นการคิดที่มีการทำลองผลกันอยู่ในขณะนี้ แต่ก็ยังไม่พบรายงานผลการทดลองใดๆ ยืนยันว่ามันเวิร์คตามที่คิด ไว้ แต่อย่างน้อยที่สุด ในด้านภาพลักษณ์แล้ว ก็ถือว่า ประสพความสำเร็จด้วยดีในการทำอะไรที่มันดู ไฮเทค กับต้นปาล์มน้ำมันอย่างการ เพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ ดังกล่าว แต่ทว่าในทางความเป็นจริงเท่าที่มีข้อมูลอยู่ในมือของทีมงานเรา เราพบว่า การพยายามกระทำดังเช่นการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อนั้น หากเป็นกรณีของพืชทั่วไป อย่างไม้ดอก ไม้ผล ไม้ประดับ ก็ไม่น่าจะคิดอะไรมากมายนัก แต่สำหรับต้นปาล์มน้ำมันแล้ว ไม่ได้ง่ายดายขนาดจะสำเร็จได้ง่าย ๆ
ก็เพราะเนื้อเยื่อที่มีการทำการเพาะเลี้ยงกันในปัจจุบันเกือบทั้งหมด ต้องเรียกว่า หากเป็นของที่ทำเองในประเทศ เช่น เซลล์เนื้อเยื่อ ก็หาเองในประเทศ ห้องวิจัยก็เป็นห้องแบบลงทุนไม่สูง เอาแบบพื้นๆ มาตรฐานราคาซัก 3 - 5 ล้านบาท แล้วเข้าไม่ถึงเทคนิคการวิเคราะห์โครงการและการทำขั้นตอน ตัดต่อพันธุกรรม ได้อย่างจริงจัง โอกาสที่กล้าปาล์มน้ำมันนั้นจะ เวิร์ค ก็ต้องพูดว่า 50 : 50
ซึ่งได้บอกไปแล้วว่า สำหรับศูนย์วิจัยพัฒนาสายพันธุ์ปาล์มน้ำมัน ที่มีเทคโนโลยีขั้นสูงทั่วโลกนั้น เขาทำได้ เพราะเขารู้ว่าเขาดัดแปลงและตัดแต่งพันธุกรรมของต้นปาล์มของเขาเองไว้อย่างไร ซึ่งพอนำเอาเซลล์เนื้อเยื่อมาทำการเพาะเลี้ยงแล้ว จะไม่เกิดกรณีการแปรรปรวนทางพันธุกรรม และเขาก็ส่งเจ้าเซลล์เนื้อเยื่อที่ว่านี่เอง มาทำตลาดในประเทศไทยและประเทศอื่นๆ ทั่วโลก โดยอาศัยเซลล์เนื้อเยื่อจากต้นพันธุ์ที่คัดเลือกไว้เป็นอย่างดี แล้ว ซึ่งมันคนละเรื่องกับการพยายาม ก็อบปี้ ซีร็อกซ์ ถ่ายสำเนาเอกสาร แบบทื่อๆของคนไทย
ทำให้เราพยายามรวบรวมข้อมูลอยู่เหมือนกันว่า ของที่ไหนบ้างที่ทำแล้วเวิร์ค ด้วยกระบวนการทั้งหมดและวัสดุเซลล์เชื้อพันธุ์จากต้นปาล์มน้ำมันในประเทศไทยบ้าง และเราก็ยังพยายามหาข้อมูลกันอยู่ แต่ที่นอกเหนือจากเรื่องนี้ เรายังติดตามเรื่องข้อมูลผลการทดลองในต่างประเทศ แต่ก็มักได้รับทราบข่าวสารมาบ้างว่า ไม่สำเร็จ มีการแปรปรวนทางพันธุกรรมสูง หรือเปอร์เซนต์น้ำมันหายไปเลยครึ่งหนึ่งของสเปคสายพันธุ์
เพราะยังงั้นเอง ทางออกจึงอยู่ที่การนำเข้าเซลล์เนื้อเยื่อจากต่างประเทศ ที่ ชัวร์ๆ ว่า ทำแล้วเวิร์คแน่ๆ มาเพาะเลี้ยงแล้วขายราคาแพงหน่อย แต่ก็ยังได้ชื่อว่า เป็นปาล์มโคลนนิ่ง ซึ่ง มัน ไฮเทค กว่า ปาล์มน้ำมันที่เพาะเลี้ยงจากเมล็ด แต่จะให้แนะนำก็คงต้องบอกว่า ต้นที่เพาะเลี้ยงจากเมล็ดยังให้ความสบายใจกว่า ที่แน่ๆ ก็ในเรื่องของราคาขายต่อต้น และ ความเสี่ยงที่ต่ำกว่า ในเรื่องของการกลายพันธุ์ ครับ
_____________________________________________________________________________
สนใจติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม
ทีมงาน COSPAT.COM 081-4670691
Email. cospat@live.com
สงวนลิขสิทธิ์โดย © ++kasetloongkim.com++ All Right Reserved.
