-
++kasetloongkim.com++ - Content
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ

เมนูหลัก

» หน้าแรก
» เว็บบอร์ด
» ผู้ดูแล
» ไม้ผล
» พืชสวนครัว
» พืชไร่
» ไม้ดอก-ไม้ประดับ
» นาข้าว
» อินทรีย์ชีวภาพ
» ฮอร์โมน
» จุลินทรีย์
» ปุ๋ยเคมี
» สารสมุนไพร
» ระบบน้ำ
» ภูมิปัญญาพื้นบ้าน
» ไร่กล้อมแกล้ม
» โฆษณา ฟรี !
» โดย KIM ZA GASS
» สมรภูมิเลือด
» ชมรม

ผู้ที่กำลังใช้งานอยู่

ขณะนี้มี 204 บุคคลทั่วไป และ 0 สมาชิกเข้าชม

ท่านยังไม่ได้ลงทะเบียนเป็นสมาชิก หากท่านต้องการ กรุณาสมัครฟรีได้ที่นี่

เข้าระบบ

ชื่อเรียก

รหัสผ่าน

ถ้าท่านยังไม่ได้เป็นสมาชิก? ท่านสามารถ สมัครได้ที่นี่ ในการเป็นสมาชิก ท่านจะได้ประโยชน์จากการตั้งค่าส่วนตัวต่างๆ เช่น ฉากหรือพื้นโปรแกรม ค่าอ่านความคิดเห็น และการแสดงความเห็นด้วยชื่อท่านเอง

สถิติผู้เข้าเว็บ

มีผู้เข้าเยี่ยมชม
PHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG Counter ครั้ง
เริ่มแต่วันที่ 1 มกราคม 2553

product13

product9

product10

product11

product12

เห็ด18








เรื่อง :
นักเพาะเห็ดยุคใหม่ ควรใส่ใจเทคโนโลยี
   
ปัญหา :
 
 
ดอกเห็ด เป็นสินค้าชนิดหนึ่งที่มีการซื้อ-ขายกัน ทั้งในตลาดบนและตลาดล่าง ซึ่งกลยุทธ์การแข่งขันในการทำการตลาดในโลกปัจจุบัน ซึ่งมีการกล่าวถึงกันมากที่สุดก็คือ "คุณภาพและเทคโนโลยี"

"คุณภาพ" ของดอกเห็ดเป็นเรื่องสำคัญในการกำหนดการเรื่องราคาและจำนวนหรือปริมาณการซื้อขาย ความสม่ำเสมอของจำนวนผลผลิตเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่ตลาดมีความต้องการ ฟาร์มใดมีดอกเห็ดดี สวย ไม่เป็นโรค ไม่มีแมลงกิน ความชื้นไม่สูง สามารถเก็บรักษาไว้ได้นาน มีจำนวนผลผลิตสม่ำเสมอ สามารถส่งดอกเห็ดได้เป็นประจำ ฟาร์มนั้นก็จะได้ราคาดอกเห็ดที่ดีกว่าฟาร์มอื่น

"เทคโนโลยี" เป็นตัวกำหนด เป็นสิ่งที่ทำให้เกิดดอกเห็ดที่มีคุณภาพและจำนวนดอกเห็ดที่มีความสม่ำเสมอ อีกทั้งเทคโนโลยีเป็นสิ่งที่ช่วยลดต้นทุนในการผลิต ทำให้ผู้ประกอบการเพาะเห็ดได้กำไรมากขึ้น เพราะเหตุนี้ลุงลีจึงมีแนวคิดว่า "นักเพาะเห็ดยุคใหม่ควรใส่ใจเทคโนโลยี"

การเพาะเห็ดในประเทศไทย เรามีผู้เพาะเห็ดอยู่ 2 ประเภท ประเภทแรก เพาะเห็ดเป็นอาชีพเสริม โดยมากจะเพาะเห็ดตามฤดูกาล เช่น หลังเก็บเกี่ยวข้าว ได้ฟางข้าวมาก็จะไปซื้อเชื้อเห็ดแล้วมาเพาะเห็ด มักทำในลักษณะเป็นกอง กองเตี้ยบ้าง กองกลางบ้าง หรือบางท่านมีอาชีพหลักอยู่แล้วต้องการเพาะเห็ดเป็นอาชีพเสริม โดยไปซื้อก้อนเชื้อเห็ดมาเปิดดอกข้างบ้าน ทำโรงเรือนบ้าง ไม่ทำบ้าง ได้ดอกเห็ดก็นำไปขายที่ทำงานหรือถ้าได้มากหน่อยก็นำไปขายที่ตลาด

นักเพาะเห็ดประเภทที่ 2 ก็คือ นักเพาะเห็ดที่เพาะเห็ดเป็นอาชีพ มีการวางแผน มีการลงทุนมากบ้างน้อยบ้าง ตามกำลังทรัพย์ และความต้องการผลผลิต การเพาะเห็ดฟางแบบเป็นกอง มีหลายท่านทำเป็นอาชีพหลักมีรายได้สม่ำเสมอ เป็นการลงทุนการเพาะเห็ดที่ใช้เงินลงทุนไม่มากและให้ผลตอบแทนคุ้มค่าทีเดียว นักเพาะเห็ดบางท่านหลายฟาร์มที่ลงทุนเพาะเห็ดมากขึ้น มีการสร้างโรงเรือน มีเตานึ่ง มีเครื่องมือเครื่องใช้ เครื่องอำนวยความสะดวกที่ใช้ในการเพาะเห็ด ในประเทศไทยเรา มีฟาร์มเห็ดที่ทำเป็นอาชีพหลักค่อนข้างมาก มีการลงทุนตั้งแต่ระดับหมื่นจนถึงระดับร้อยล้านบาท

นักเพาะเห็ดประเภทไหนที่ควรใส่ใจเทคโนโลยี ลุงลีคิดว่าน่าจะทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นนักเพาะเห็ดสมัครเล่น เพาะเห็ดเป็นอาชีพเสริมหรืออาชีพหลัก ทั้งนี้ เพราะว่าเทคโนโลยีเป็นสิ่งใกล้ตัวและราคาไม่แพงอย่างที่คิด ถ้าเราเลือกใช้เป็นและถูกต้อง

เครื่องมือเครื่องใช้ที่ใช้วัดค่าทางวิทยาศาสตร์ เป็นสิ่งหนึ่งที่จะช่วยเราได้ในการใช้เทคโนโลยี บางท่านอาศัยประสบการณ์ อาศัยความรู้สึกเป็นตัวกำหนด ก็ไม่ผิดถ้าผู้เพาะเห็ดท่านนั้นมีประสบการณ์สูง เพาะเห็ดมานาน แต่ถ้าท่านไม่อยู่ใครจะดูแลฟาร์มเห็ดแทนท่านได้ หรือลุงลีขอยกตัวอย่างซัก 1 ตัวอย่าง ให้ท่านพิจารณาคือ สมมติว่า ท่านมีโรงเรือนเพาะเห็ดนางฟ้าซึ่งเห็ดชนิดนี้ชอบอุณหภูมิ 27-30 องศาเซลเซียส ท่านเข้าไปในโรงเรือนเพาะเห็ดที่มีอุณหภูมิ 31 องศาเซลเซียส กรณีที่ 1 หลังจากที่ท่านนั่งรถติดแอร์กลับจากตลาด ซึ่งเย็นสบายอุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียส หรือกรณีที่ 2 หลังจากที่ท่านเดินตากแดดร้อนๆ จากชายทุ่งอุณหภูมิ 35 องศาเซลเซียส ในกรณีที่ 1 ท่านจะรู้สึกร้อนเมื่อเข้าโรงเรือน ในขณะเดียวกัน ในกรณีที่ 2 ท่านจะรู้สึกเย็นเมื่อท่านเข้าไปในโรงเรือน ทั้ง ๆ ที่ภายในโรงเรือนมีอุณหภูมิเดียวกัน คือ 31 องศาเซลเซียส แต่ถ้าท่านมีเทอร์โมมิเตอร์วัดอุณหภูมิติดอยู่ในโรงเรือน ราคาประมาณ 40-60 บาท ท่านก็จะทราบอุณหภูมิแท้จริงในโรงเรือน

ถ้าเราเริ่มจากโรงเปิดดอก การเพาะเห็ดโดยใช้ขี้เลื่อยในถุงพลาสติค เทคโนโลยีช่วยอะไรเราได้บ้าง ในการที่จะทำให้ได้ดอกเห็ดที่สมบูรณ์ ได้ดอกเห็ดจำนวนมาก ผลผลิตรวมสูง และใช้เวลาสั้นที่สุด ข้อสำคัญก็คือ จะทำให้ต้นทุนในการเปิดดอกเห็ดต่อหน่วยต่ำที่สุด

เราทราบว่าปัจจัยที่ทำให้เกิดดอกเห็ดอย่างน้อย 4 ปัจจัย คือ ปริมาณแสง อุณหภูมิที่เหมาะสม ความชื้นและปริมาณก๊าซออกซิเจน ถ้าเราสามารถควบคุมปัจจัยทั้ง 4 นี้ได้ เท่าที่เห็ดแต่ละชนิดต้องการ ความแน่นอนในการที่เราจะได้ดอกเห็ดก็จะมีมากขึ้น ดอกเห็ดออกพร้อมกัน การบ่มเส้นใยในช่วงพักสั้นลง ทำให้ประหยัดเวลา

ปริมาณแสง เป็นตัวกระตุ้นทำให้เห็ดออกดอกและกำหนดความยาวสั้นของก้านดอกเห็ด เราสามารถใช้ไฟนีออนเสริมได้ถ้าแสงไม่พอ เราสามารถตรวจวัดความเข้มของแสงได้ด้วยการดูลายมือตัวเองว่าเห็นชัดหรือไม่ชัด ถ้าจะให้แน่นอนก็ใช้เครื่องวัดแสง วัดทุกจุดที่วางก้อนเห็ด เครื่องวัดแสงปัจจุบันผลิตในประเทศจีนราคา 3,000-5,000 บาท ก็สามารถใช้ได้

อุณหภูมิและความชื้น เป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งในการเปิดดอก อุณหภูมิในโรงเรือนสามารถแก้ไขได้โดยเจาะช่อง เปิดหรือปิดช่องระบายอากาศหรือใช้เครื่องทำความร้อน เครื่องทำความเย็น ความชื้นสามารถเพิ่มได้โดยการให้น้ำ ยิ่งถ้าให้ความชื้นในลักษณะพ่นหมอก ดอกเห็ดก็จะสมบูรณ์ยิ่งขึ้น ซึ่งการให้ความชื้นแบบพ่นหมอก สามารถเลือกใช้ได้หลายวิธีคือ ใช้แรงดัน ใช้การเหวี่ยง ใช้อัลตร้าโซนิค โรงเรือนเพาะเห็ดทุกโรงเรือนควรมีเครื่องวัดอุณหภูมิและความชื้น ซึ่งราคาถูกมาก ถ้าเราใช้เทอร์โมมิเตอร์ 2 อัน อันละ 40-60 บาท ทำเป็นกระเปาะเปียกและกระเปาะแห้ง ถ้ามีเงินมากจะซื้อแบบดิจิตอล ก็จะอ่านง่ายและแน่นอนขึ้น

ปริมาณก๊าซออกซิเจนในโรงเรือน เป็นสิ่งที่มองข้ามกันมาก บางโรงเรือนเปิดดอกเห็ดเข้าไปแล้วอึดอัดมาก คนยังอยู่ไม่ได้แล้วเห็ดจะออกดอกได้อย่างไร ปริมาณออกซิเจนสัมพันธ์กับปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ถ้าคาร์บอนไดออกไซด์สูง เห็ดก็มีการแบ่งตัวของเส้นใย ไม่ออกดอก หรือถ้าออกดอกแล้วดอกเห็ดจะมีลักษณะเป็นหูดหรือหนังคางคก ถ้าปริมาณก๊าซออกซิเจนมีเพียงพอ ดอกเห็ดจะสวยสมบูรณ์ขึ้น เราสามารถวัดปริมาณก๊าซออกซิเจนโดยอาศัยความรู้สึกในการหายใจว่าไม่อึดอัด หรือใช้เครื่องวัดหาปริมาณออกซิเจน และปริมาณคาร์บอนไดออกไซด์ ราคาเครื่องวัดของจีนประมาณ 6,000-8,000 บาท

นอกเหนือจากปัจจัยทั้ง 4 แล้ว ในโรงเรือนเปิดดอกควรป้องกันแมลงได้ สิ่งที่จะทำให้เรารู้ว่ามีแมลงอยู่ในโรงเรือนเห็ดหรือไม่ เป็นแมลงชนิดใด อุปกรณ์ที่ใช้ถูกที่สุดก็คือ กาวเหนียวดักแมลง ต้นทุนถูกมาก ราคา 1 บาท ต่อหนึ่งจุด เท่านั้น ไรศัตรูเห็ดที่ทำลายก้อนเชื้อเห็ดเป็นจำนวนมาก ถ้ามีแว่นขยายส่องพระ ขยาย 10-20 เท่า อันละประมาณ 200 บาท ก็จะสามารถส่องดูตัวไรเห็นได้

ข้อมูลในการเปิดดอกเห็ดแต่ละชนิด นักวิจัยได้ทำและเขียนสรุปไว้ค่อนข้างจะแน่นอน ถ้าเราใช้เทคโนโลยีทำให้ได้ตามข้อมูลนั้น โอกาสที่เราจะได้ดอกเห็ดก็จะมีมาก อุปกรณ์ที่ใช้วัดค่าต่างๆ ในโรงเรือนราคาไม่แพงนักเมื่อเทียบกับราคาก้อนเชื้อเห็ดในโรงเรือน เครื่องวัดค่าที่ติดตั้งในโรงเรือนแต่ละโรงเรือน มีเครื่องวัดอุณหภูมิ ความชื้น และกาวดักแมลง ราคาไม่เกิน 200 บาท ต่อโรงเรือน อุปกรณ์วัดค่าแสงและปริมาณออกซิเจน สามารถเวียนใช้ได้หลายโรงเรือน

จากโรงเปิดดอกมาถึงโรงทำก้อนเชื้อเห็ด ปัจจุบันเราทำก้อนเชื้อเห็ดจากขี้เลื่อย แล้วมีการใส่อาหารเสริมกันมาก บางท่านยังไม่รู้เลยว่าใส่ไปเพื่ออะไร ได้ยินได้ฟังมาว่าใส่แล้วดีก็ทำตาม ทำให้ต้นทุนสูงและอาจทำให้เกิดการสูญเสียมากด้วย

สิ่งที่ควรคำนึงถึงในการทำก้อนเชื้อเห็ดก็คือ ค่าความเป็นกรดเป็นด่าง ความชื้น ความแน่นของก้อนเชื้อ น้ำหนักของก้อนเชื้อ ปริมาณธาตุอาหารที่เหมาะสมกับเห็ดแต่ละชนิด การนึ่งฆ่าเชื้อ การเขี่ยเชื้อและการบ่มก้อนเชื้อ ทุกปัจจัยมีความสำคัญเท่าๆ กัน ถ้ามีปัจจัยใดปัจจัยหนึ่งไม่สมบูรณ์ ก้อนเชื้อเห็ดก็จะไม่สมบูรณ์หรือเสีย ยิ่งเสียมากต้นทุนการผลิตก็จะมากตาม

เทคโนโลยีในการผลิตก้อนเชื้อเห็ดมีการพัฒนามากในต่างประเทศ แต่ประเทศเรายังมีการพัฒนาน้อยมาก ทำแบบเดิมมาเหมือนเมื่อ 20-30 ปี ที่แล้ว ทำให้เกิดการหมุนเวียนของคนเพาะเห็ดคือ มีคนใหม่เข้ามาเพาะเห็ดสัก 2-3 ปี แล้วก็เลิกเพราะขาดทุน แล้วก็จะมีคนใหม่เข้ามาเพาะเห็ดใหม่ หมุนเวียนอย่างนี้ตลอด 20-30 ปี ที่ผ่านมา ในขณะที่ฟาร์มเห็ดที่นำเอาเทคโนโลยีมาใช้มีกำไร มีความมั่นใจ มีการขยายฟาร์มมากขึ้น เพราะรู้ว่าลงทุนแล้วจะได้กำไร

สำหรับนักเพาะเห็ดบ้านเรา ฟาร์มเล็กฟาร์มใหญ่ควรคำนึงถึงเทคโนโลยีให้มาก บางฟาร์มทำมาหลายปี ไม่เคยมีการวัดค่าความเป็นกรดเป็นด่างของน้ำที่ใช้และที่ก้อนเชื้อเห็ดเลย ทั้งๆ ที่อุปกรณ์ที่ใช้วัดราคาถูกมาก จะใช้กระดาษลิทมัสราคา 30-50 บาท ต่อม้วน หรือใช้ KU kid ราคา 300-500 บาท ตรวจได้หลายสิบครั้ง หรือจะซื้อเครื่องมือดิจิตอลตรวจวัดค่าความเป็นกรดเป็นด่างและความชื้นราคาประมาณ 2,500-3,000 บาท ใช้ได้ตลอดหลายปี ก็ไม่มีใช้ แต่ซื้อขี้เลื่อยราคารถละ 20,000 บาท หรือปล่อยให้มีก้อนเสียเป็นพันถุงเสียได้ ถ้าไม่ซื้อไว้ใช้ก็นำน้ำหรือก้อนเชื้อเห็ดไปที่สำนักงานพัฒนาที่ดินตรวจให้ ก็สามารถทำได้ โดยให้ตรวจหาปริมาณธาตุอาหาร Ca, Mg, C, N, P, K, Fe ด้วยก็จะดี จะทำให้เรารู้ว่า เราควรจะใช้อาหารเสริมอะไร และใส่จำนวนเท่าไร ใส่มากไป ไม่ใช่ว่าจะดี ทำให้สิ้นเปลือง และทำให้มีการเกิดการปนเปื้อนสูงขึ้นได้

สัดส่วนของคาร์บอนกับไนโตรเจนก็มีส่วนที่สำคัญในด้านผลผลิต เทคโนโลยีในส่วนนี้จะเริ่มมีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่อมีการค้นคว้าวิจัยมากขึ้น

เทคโนโลยีในการใช้พลังงานนึ่งเห็ด การเขี่ยเชื้อ การทำ Hygiene และการจัดการเพื่อลดการปนเปื้อนให้น้อยลง มีการคิดกันมาก แต่ขาดการส่งเสริมให้มีการนำไปใช้จริง นักเพาะเห็ดต้องเรียนรู้ ค้นคว้าหาความรู้ด้วยตัวเอง

สำหรับเกษตรกรบ้านเรา สิ่งที่ควรทำง่ายๆ ก็คือ ควรรู้ว่าอุณหภูมิในก้อนเชื้อเห็ดขณะนึ่งมีอุณหภูมิสูงสุดเท่าไร โดยใช้เทอร์โมมิเตอร์ชนิดคงค่าสูงสุดไว้ได้ ขนาด 200 องศาเซลเซียส แล้วนำลงไปเสียบไว้ในก้อนเชื้อเห็ดขณะที่นึ่ง จะทำให้รู้ว่าอุณหภูมิในขณะนึ่งก้อนเชื้อเห็ด ภายในก้อนเชื้อมีอุณหภูมิสูงเกิน 100 องศาเซลเซียส หรือไม่ เทอร์โมมิเตอร์ที่ว่าราคาไม่แพงมาก ใช้ทดสอบหลายจุดในเตานึ่ง จะทำให้ทราบได้ว่าจุดไหนอุณหภูมิไม่ถึง จะได้ลดการสูญเสีย

การวัดจำนวนและชนิดของจุลินทรีย์ในห้องเขี่ยเชื้อก็มีความจำเป็น โดยใช้อาหารวุ้น PDA ธรรมดา เปิดทิ้งไว้ประมาณ 1 นาที แล้วคอยเช็คดูเป็นสิ่งที่น่าจะทำ

เทคโนโลยีในการเขี่ยเชื้อและทำเชื้อเห็ดยิ่งก้าวล้ำไปมาก นักเพาะเห็ดบ้านเราที่นิยมเก็บเนื้อเยื่อจากดอกเห็ดมาทำเชื้อเอง ควรที่จะมีการตรวจสอบหาไวรัสบ้าง เพราะว่าขณะนี้ไวรัสได้มีการระบาดค่อนข้างมาก ทำให้ผลผลิตลดลงมาก

คำว่าคุณภาพและเทคโนโลยีจึงเป็นของคู่กัน เทคโนโลยีเป็นตัวทำให้ได้คุณภาพ เทคโนโลยีเป็นตัวที่ทำให้ลดต้นทุนการผลิต นักเพาะเห็ดยุคใหม่จึงควรใส่ใจเทคโนโลยีให้มาก อย่ารังเกียจเทคโนโลยี อย่าหนี จงวิ่งเข้าหาและเลือกนำเอาเทคโนโลยีมาใช้ตามความเหมาะสม โอกาสที่จะประสบความสำเร็จก็จะมีสูง


siweb.dss.go.th/qa/search/search_description.asp?QA_ID... -








ฟาร์มเห็ด พัทยา เราใช้จุลินทรีย์


ฟาร์มเห็ด พัทยา
เราใช้จุลินทรีย์ เป็นตัวยับยังการเจริญเติบโตของ รา ไร หนอน ในเห็ดต่างๆ ซึ่งจะใช้การป้องกันมากกว่าการกำจัด เราจะฉีด อาทิตย์ ล่ะครั้ง จุลินทรีย์ มี 3ประการได้แก่ พลายแก้ว ไมโตฟากัส บีที 3 ตัวนี้ช่วยให้คุณป้องกัน ศัตรูพืชที่ได้ผล และทำให้คุณได้ผลผลิดมากมาย สิ่งที่ตามมาคือกำไร อยากรู้ข้อมูลเพิ่มเติมสอบถามได้ที่ ฟาร์มเห็ด พัทยา 080-0529101


ฟาร์มเห็ด เรา เป็นฟาร์มเห็ด ปลอดสารพิษ เราจะไม่ใช้สารเคมีใดๆที่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภค ที่ ฟาร์ม เราจะเน้นใช้ จำพวกจุลินทรีย์ที่ไม่เป็นอันตรายต่อนมนุษย์และสิ่งแวดล้อม อาทิ บาซิลลัสพลายแก้ว บาซิลลัสไมโตฟากัส และ เชื้อบีทีชีวภาพ

บาซิลลัส พลายแก้ว จุลินทรีย์ ปฏิัปักษ์กลุ่มแบคทีเรียบาซิลลัส ซับติลิส ที่ได้รับการคัดเลือกว่ามีประสิทธิภาพสูง ในการป้องกันกำจัดเชื้อราที่สำัคัญในประเทศไทย เช่น โรคกรากเน่า โคนเน่า โรคผลเน่า (แอนแทรกโนส) ฯลฯ


บาซิลลัสไมโตฟากัส
เป็น ผลิตภัณฑ์จากจุลินทรีย์ปฏิปักษ์ในกลุ่มแบคทีเรีย บาซิลลัส ซับติลิส ที่ได้รับคัดเลือกว่ามีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันและกำจัดไรศัตรูเห็ด โดยเฉพาะไรไข่ปลา ซึ่งเป็นปัญหาในธุรกิจการเพาะเห็ดเพื่อการค้าปัจจุบัน

เชื้อบีทีชีวภาพ เป็น จุลินทรีย์ที่ทำลายหนอนหนังเหนียว , หนอนใบ, หนอนคืบ, หนอนกระทู้ กำจัดหนอนวัยอ่อน ใช้วิธีการเพาะขยายเชื้อ เพื่อให้ต้นทุนการผลิตต่ำ ฉีดพ่นในแปลงผััก สวนไม้ผล ไม่มีสารพิษตกต้าง ปลอดภัยทั้งผู้ใช้ และผู้บริโภค

สาระความรู้ เกี่ยวกับฟาร์มเห็ด

http://www.pattaya-farm.com





ฟาร์มเห็ดพัทยา
ฟาร์มเห็ด พัทยา เราได้จัดทำก้อนเห็ดที่ได้มาตรฐาน เพื่อ " ขายก้อน" ใ้หกับลูกค้าที่สนใจรับไปเปิดดอก เช่น เห็ดขอน เห็ดนางฟ้าภูฐาน เห็ดหูหนู เห็ดยานางิ เ็ห็ดบด หรือ เห็ดกระด้าง ในราคาไม่แพง และเรายังเน้นบริการหลังการขายใ้หเป็นอย่างดี "ฟาร์มเห็ดพัทยา" เรามีพื้นที่ไม่มากในการทำฟาร์มเห็ด ใช้พื่้นทำทั้งหมด 1 งาน 30 ตารางวา ในการทำโรงเรื่อนและสถานที่ทำก้อนเห็ด ทำโรงเปิดดอกได้ 7 โรง โรงทำก้อนเห็ด 1 โรง ทำห้องเขี่ยเชี้อ 1 โรง และเช่าที่ อีก 1 งานกว่าๆ ทำโรงเปิดดอก อีก 8 โรง หากสนใจเข้ามาเยี่ยมชม เราเปิดให้บริการได้ตลอดทั้งวัน หรือ โทรมาสอบถาม





การทำโรงเรือนเพาะเห็ด

ฟาร์มเห็ดโรงเืรือนเพาะเห็ด ที่่ทำจากไม้ ความกว้าง 4 คูณ 6เมตร สูง 2.5 เมตร ใส่ได้ประมาณ 2800-3000 แล้วแต่เราจะใส่ให้สูงประมาณกี่ก้อน ผมแนะนำให้ใส่ความสูงประมาณ 10-11ก้อนก็พอ เพราะความซื้อจะได้ ส่วนหลังคาที่จะใช้คลุมก็แล้ัวแต่ว่าเป็นเห็ดอะไร ถ้าเป็นเห็ดขอน ก็ใช้พลาสติกคลุมก่อนแล้วก็คลุมสแลมตามทับอีกทีเพื่อให้มีแสงสว่างตามที่เห็ดของต้องการ สแลมก็จะใช้ประมาณ 80 เปอร์เซน ถ้าเป็นเห็ดนางฟ้าขอแนะนำให้ทำสูงกว่านี้หน่อยเพราะอากาศจะดีกว่า หลังคาก็น่าจะเป็นจาก หรือหญ้าคา เพาะเห็ดนางฟ้าชอบความเย็น 20-28 องศา

โรงเพาะเห็ดแบบโรงปูน ขนาด 4 เมตร คูณ7 เมตร สูง 3 เมตร โรงเพาะเห็ด แบบปูนนี้จะทำความสะอาดได้ง่ายกว่าโรงธรรมดา หลังคาใช้กระเบื้อง เพราะไม่ต้องมาเปลี่ยนบ่อยใช้ได้นาน

ถ้าหากมีอะไรสงสัย หรือไม่เข้าใจ หรือต้องการความรู้ ฟาร์มเห็ดพัทยา เต็มใจที่จะถ่ายทอดการเพาะเห็ดในถุงพลาสติดไม่มากก็น้อยเพื่อนำไปเป็นรายได้ถ้าหากมีอะไรผิดพลาดก็ต้องขออภัย ณ ที่นี้



การเลี้ยงดูเห็ดแต่ละชนิด

เห็ดภูฐาน หรือ นางฟ้า ลักษณะของดอกเห็ดนางฟ้า มีลักษณะคล้ายกับดอกเห็ดเป๋าฮื้อ และดอกเห็ดนางรม เมื่อเปรียบเทียบกับเห็ดเป๋าฮื้อ ดอกเห็ดนางฟ้าสีจะอ่อนกว่า และมีครีบอยู่ชิดกันมากกว่า เห็นนางฟ้าสามารถเก็บไว้ในตู้เย็นนานได้หลายวัน เช่นเดียวกับเห็ดเป๋าฮื้อ เนื่องจากเห็ดชนิดนี้ไม่มีการย่อตัวเหมือนกับเห็ดนางรม ด้านบนของดอกจะมีสีนวลๆ ถึงสีน้ำตาลอ่อน


วิธีการเพาะ
1. ผสมวัสดุเพาะทั้งหมดเข้าด้วยกัน และทดสอบความชื้นให้พอเหมาะโดยจะมีความชื้นประมาณ 75-80%

2. บรรจุวัสดุเพาะลงในถุง ถ้าเป็นวัสดุเพาะเป็นขี้เลื่อยใช้ถุงขนาด 6.5x12.5 นิ้ว หนัก 800 - 1,000 กรัม ถ้าวัสดุเพาะเป็นฟางหมักควรใช้ถุงขนาด 7x13 นิ้ว แล้วอัดวัสดุให้แน่น แต่ละถุงจะมีน้ำหนักประมาณ ถ้าเป็นฟางหมัก 6-8 ขีด ถ้าเป็นขี้เลื่อยประมาณ 600 - 800 กรัม เสร็จแล้วใส่คอขวดรัดด้วยยางรัดปิดด้วยจุกสำลี

3. นำถุงก้อนเห็ดที่บรรจุแล้วไปนึ่งฆ่าเชื้อ โดยใช้หม้อนึ่ง 2 แบบ คือ

3.1 หม้อนึ่งฆ่าเชื้อแบบลูกทุ่ง หรือหม้อนึ่งไม่อัดความดัน โดยใช้ถัง 200 ลิตร บรรจุครั้งละ 100 ถุง นึ่งนาน 1.5-2 ชั่วโมง หรือหม้อนึ่งที่ประกอบด้วยเหล็กแผ่นเป็นรูปสี่เหลี่ยมบรรจุถุงได้ตั้งแต่ 500-5,000 ถุง โดยใช้ระยะเวลาในการนึ่งประมาณ 4-10 ชั่วโมง

3.2 การนึ่งแบบมีความดัน จะเป็นถังที่สามารถทนความร้อนสูงได้ 121 องศาเซลเซียส และมีความดันประมาณ 15-18 ปอนด์/ตารางนิ้ว ใช้เวลาในการนึ่งประมาณ 2-3 ชั่วโมง


การปลูกเชื้อเห็ดลงถุง
เปิดจุกสำลีออกแล้วใช้เชื้อเห็ดในเมล็ดธัญพืชหยอดลงไปประมาณ 20 เมล็ด แล้วปิดด้วยกระดาษนำไปบ่มให้เส้นใยเห็ดเดินต่อไป ระยะเวลาการบ่มเส้นใย เห็ดนางรมและนางฟ้าภูฐาน จะใช้เวลาประมาณ 25-30 วัน ส่วนเห็ดนางฟ้าและเห็ดเป๋าฮื้อ จะใช้เวลา ประมาณ 45-50 วัน



การเปิดดอก
เมื่อเส้นใยเห็ดเดินเต็มถุงหรือใช้เวลาในการบ่มได้ที่แล้ว นำถุงก้อนเชื้อเห็ดเข้าในโรงเรือนเปิดดอกและดึงกระดาษที่ปิดหน้าถุงออก เพิ่มความชื้นภายในโรงเรือนให้ได้ ประมาณ 80-85% โดยการฉีดพ่นน้ำ เป็นละอองฝอย วันละ 2-3 ครั้ง จากนั้นประมาณ 7-10 วัน ดอกเห็ดก็จะเริ่มออกและเก็บได้ ก่อนเก็บผลผลิต ควรงดการให้น้ำเพราะเห็ดจะเปียกชื้นไม่เป็นที่ต้องการของตลาด



การเก็บเกี่ยว

ทำการดึงดอกเห็ดที่ออกจากหน้าถุงเมื่อโตเต็มที่อยู่ในระยะที่ยังไม่บาน สังเกตจากขอบดอกเห็ดยังงุ้มอยู่ โดยดึงดอกเห็ดให้หลุดออกจากถุงทั้งกลุ่มไม่ให้เหลือโคนติดที่ถุง เพราะจะทำให้หน้าถุงเน่าทำให้มีเชื้อราอื่นหรือมีแมลงหวี่เข้าทำลาย



ห็ดขอน

เห็ดขอนขาวเป็นเห็ดที่ขึ้นได้เองตามธรรมชาติ ตามขอนไม้ที่ผุพังในเขตป่าร้อนชื้น เช่น ประเทศไทย ลาว เขมร เวียดนามและมาเลเซีย ประชาชนนิยมบริโภคกันมากเพราะรสชาติดี ปัจจุบันเกษตรกรหันมาสนใจการเพาะเห็ดชนิดนี้กันมากขึ้นเรื่อย ๆ ประกอบกับการเพาะและการดูแลรักษาไม่ยุ่งยากเกินไป และเหมาะกับสภาพดินอาหาศของไทยเรา โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เพราะบางปีเพาะได้แม้กระทั่งฤดูหนาว


วิธีการทำให้เห็ดได้ผลผลิตดี

1. ในการเพาะเห็ดขอนขาวนั้น บริเวณที่เพาะเห็ดต้องไม่ร่มเกินไป บริเวณหลังคาต้องให้แสงแดดส่องถึงพื้นโรงเรือนด้วย ก็หมายความว่า โรงเรือนที่ใช้ในการเพาะเห็ดขอนขาวนั้นต้องไม่ทึบเกินไป ต้องให้มีแสงส่องผ่าน ซึ่งแสงนี่แหละจะเป็นตัวกระตุ้นให้เห็ดเกิดดอกดียิ่งขึ้น


2. การรักษาอุณหภูมิและความชื้น เห็ดขอนขาวต้องการอุณหภูมิในการเกิดดอกประมาณ 32-35 องศาเซลเซียส และอาศัยความชื้นสัมพัทธ์ ประมาณ 80-90 เปอร์เซ็นต์ นั่นแสดงให้เห็นว่าเราจะต้องมีการให้น้ำ รักษาความชื้น และดูแลเรื่องอุณหภูมิให้เหมาะสมแค่นี้ก็ไม่ทนที่จะเก็บดอกแล้ว


3. การรักษาความสะอาด เพราะโดยปกติแล้วเวลาทำงานไปเรื่อยๆ คนเรามักจะมักง่าย ไม่ค่อยใส่ใจเรื่องความสะอาด ดังนั้นจะทำให้เกิดการหมักหมม ทำให้เกิดโรคและแมลงระบาดได้ ซึ่งจะเป็นการทำลายอนาคตของตนเอง



ศัตรูของเห็ดขอนขาว

จำพวกแมลง เช่น ไรไข่ปลา ถ้าระบาดในโรงเรือนจะทำให้เสียหายต่อผลผลิตได้ ควรป้องกันล่วงหน้าเสียก่อน เช่น ระหว่างบ่มเชื้อ ต้องฉีดพ่นทุก ๆ วัน โรงเรือนเปิดดอกต้องพ่นยาเสียก่อน ก่อนที่นำก้อนเห็ดเข้าไปในโรงเรือน ถ้าระบาดในระหว่างออกดอก ควรเก็บดอกเห็ดออกให้หมดแล้วพ่นด้วยยาเซฟวิน 85 อย่างเข้มข้น โดยใช้ยา 9 ช้อนแกงต่อน้ำ 1 ปิ๊ป หรือ 20 ลิตร ฉีดพ่นให้ทั่วแล้วปิดโรงเรือนไว้ 2 วัน ไม่ให้รดน้ำ พอครบ 2 วัน แล้วค่อยรดน้ำวันละ 3 ครั้ง



ข้อควรระวัง

1. การดูแลเรื่องการรดน้ำต้องให้สม่ำเสมอวันไหนฝนตกมากไม่ต้องรดน้ำมากเพียงผิวบาง ๆ ก็พอ
2. ถ้าเห็ดขาเหลืองเอาหญ้าคาลงบางส่วนให้ร้อน 2-3 วัน และลดการรดน้ำลงเหลือ 2-3 ครั้งต่อวัน
3. ถ้ามีแมลงรบกวน อย้าใช้ยาฆ่าแมลงฉีดพ่นดอกเห็ด ควรเก็บดอกเห็ดให้หมดเสียก่อนค่อยพ่นยา
ไล่แมลง
4. ไม่จำเป็นอย่าให้บุคคลอื่นเข้าไปในโรงเรือนเห็ด อาจจะนำเชื้อโรคหรือแมลงเข้าสู่โรงเรือนเราได้
5. มีปัญหาควรปรึกษาผู้รู้ทันที หรือศูนย์เชื้อเห็ดอีสานสาขาที่อยู่ใกล้บ้าน




เปิดเคล็ดลับเพาะ"เห็ดยานาง

เห็ดโคนญี่ปุ่นหรือยานางิมีชื่อสากลว่า Agrocybe cylindracea Maire ดอกมีสีน้ำตาลถึงน้ำตาลเข้ม ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิที่เห็ดออกดอก ถ้าอุณหภูมิยิ่งเย็นสีจะยิ่งเข้ม ก้านดอกสีขาว เนื้อแน่นและมีเนื้อเยื่อยาว ทำให้ไม่เปราะหรือหักง่าย รสชาติคล้ายกับเห็ดโคนไทย

ขั้นตอนการเพาะเห็ดโคนญี่ปุ่นนั้นไม่ยากเริ่มจากการทำถุงก้อนเชื้อ ประกอบด้วย ขี้เลื่อยยางพารา รำละเอียด ปูนโดโลไมค์ ปูนยิบซั่ม ดีเกลือ ภูไมค์ ปุ๋ย ดับเบิ้ลซูเปอร์ฟอวเฟส แป้งข้าวเหนียว ชาเขียวหรือกระถินป่น ส่าเหล้า และ น้ำ จากนั้นนำมาผสมเข้าด้วยกัน จนเนียนเป็นเนื้อเดียวกัน


เมื่อส่วน ผสมต่างๆ และปรับความชื้นให้เหมาะสมแล้ว จากนั้นก็นำมาบรรจุลงในถุงพลาสติก ที่ทนความร้อนแน่นพอประมาณ ถ้าบรรจุหลวมเกินไปเชื้อจะเดินไปเร็วทำให้อายุ ก้อนเชื้อจะสั้น แต่ถ้าบรรจุแน่นเกินไปเชื้อเห็ดจะเดินได้ช้าต้องเสียเวลา บ่มก้อนเชื้อนาน จากนั้นก็สวมคอขวดและอุดด้วนจุกประหยัดสำลีแล้วนำไปนึ่งฆ่า เชื้อปนเปื้อน


การนึ่งฆ่าเชื้อโรคจะต้องแน่ใจว่าหม้อนึ่งของเรามี ความสามารถทำอุณหภูมิความร้อนให้ได้ถึง 100 องศาเซลเซียสและสามารถทนความ ร้อนได้นาน 3 ชั่วโมง หลังจากนึ่งก้อนเชื้อแล้วให้นำไปพักไว้ในห้องต่อ เชื้อ ซึ่งห้องดังกล่าวควรมีลักษณะมิดชิด ไม่มีกระแสลมแรงและที่สำคัญต้อง สะอาดปราศจากแมลงและเชื้อโรคศัตรูเห็ดต่าง


ส่วนเตรียมหัวเชื้อต้อง สังเกตว่าหัวเชื้อที่ดีจะต้องมีเส้นใยเห็ดเจริญเต็มขวดไม่มีเชื้อรา อื่น ๆ ปนเปื้อนและต้องไม่เป็นเชื้อเห็ดที่แก่เกินไปจนเส้นใยรัดตัวแน่นเป็น สีน้ำตาล-ดำ ก่อนการใช้หัวเชื้อเห็ดต้องทำการเคาะเชื้อเห็ดให้แตกร่วนเสีย ก่อนและทิ้งไว้ 1 คืนก่อนทำการเขี่ยเชื้อลงถุงก้อนเชื้อเห็ด


หลังทำการต่อเชื้อเห็ดลงในถุงก้อนเชื้อแล้วให้นำถุงก้อนเชื้อเห็ดไปพักบ่มไว้ในโรง เรือนพักบ่มเชื้อ ลักษณะโรงเรือนบ่มพักที่ดีควรมีอากาศถ่ายเทดีจะมีแสงหรือ ไม่มี แสงก็ได้ แต่ต้องไม่โดนแสงแดดโดยตรง ไม่โดนน้ำฝนหรือละอองฝน ไม่อับ ชื้น ระยะเวลาการบ่มอยู่ที่ประมาณ 40 วัน เมื่อเส้นใยเห็ดเดินเต้มถุงดีแล้ว ให้สังเกตเส้นใยเห็ดจะรัดตัวและมีการสะสนมอาหารให้ทำการย้ายก้อนเห็ดไปไว้ใน โรงเรือนเปิดดอกทันที






ที่มา : หนังสือพิมพ์คม ชัด ลึก


http://www.komchadluek.net/2008/06/17/x_agi_b001_207202.php?news_id=207202



ฟาร์มเห็ดพัทยา
ฟาร์มเห็ด พัทยา เราได้จัดทำก้อนเห็ดที่ได้มาตรฐาน เพื่อ " ขายก้อน" ใ้หกับลูกค้าที่สนใจรับไปเปิดดอก เช่น เห็ดขอน เห็ดนางฟ้าภูฐาน เห็ดหูหนู เห็ดยานางิ เ็ห็ดบด หรือ เห็ดกระด้าง ในราคาไม่แพง และเรายังเน้นบริการหลังการขายใ้หเป็นอย่างดี "ฟาร์มเห็ดพัทยา" เรามีพื้นที่ไม่มากในการทำฟาร์มเห็ด ใช้พื่้นทำทั้งหมด 1 งาน 30 ตารางวา ในการทำโรงเรื่อนและสถานที่ทำก้อนเห็ด ทำโรงเปิดดอกได้ 7 โรง โรงทำก้อนเห็ด 1 โรง ทำห้องเขี่ยเชี้อ 1 โรง และเช่าที่ อีก 1 งานกว่าๆ ทำโรงเปิดดอก อีก 8 โรง หากสนใจเข้ามาเยี่ยมชม เราเปิดให้บริการได้ตลอดทั้งวัน หรือ โทรมาสอบถาม
ติดต่อเรา

- PATTAYA FARM -


เอกรัตน์ ฉิมพานิช

ณัชชา วงษ์เมือง


135/5 ม.4 ต.บางละมุง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี 20150

โทร : 038-170266 มือถือ : 080-0529101 ,
ฟาร์มเห็ดพัทยา
ฟาร์มเห็ด พัทยา เราได้จัดทำก้อนเห็ดที่ได้มาตรฐาน เพื่อ " ขายก้อน" ใ้หกับลูกค้าที่สนใจรับไปเปิดดอก เช่น เห็ดขอน เห็ดนางฟ้าภูฐาน เห็ดหูหนู เห็ดยานางิ เ็ห็ดบด หรือ เห็ดกระด้าง ในราคาไม่แพง และเรายังเน้นบริการหลังการขายใ้หเป็นอย่างดี "ฟาร์มเห็ดพัทยา" เรามีพื้นที่ไม่มากในการทำฟาร์มเห็ด ใช้พื่้นทำทั้งหมด 1 งาน 30 ตารางวา ในการทำโรงเรื่อนและสถานที่ทำก้อนเห็ด ทำโรงเปิดดอกได้ 7 โรง โรงทำก้อนเห็ด 1 โรง ทำห้องเขี่ยเชี้อ 1 โรง และเช่าที่ อีก 1 งานกว่าๆ ทำโรงเปิดดอก อีก 8 โรง หากสนใจเข้ามาเยี่ยมชม เราเปิดให้บริการได้ตลอดทั้งวัน หรือ โทรมาสอบถาม
ติดต่อเรา

- PATTAYA FARM -


เอกรัตน์ ฉิมพานิช
ณัชชา วงษ์เมือง


135/5 ม.4 ต.บางละมุง อ.บางละมุง จ.ชลบุรี 20150

โทร : 038-170266 มือถือ : 080-0529101
e-mail : [ bas9191 at hotmail.com ]



เอกรัตน์ ฉิมพานิช

ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด ( มหาชน)

สาขาย่อย ฮาร์เบอร์มอลล์ (แหลมฉบัง)

เลขที่บัญชี 401-446551-3 ออมทรัพย์




http://pattaya-farm.blogspot.com/2009_05_01_archive.html









สงวนลิขสิทธิ์โดย © ++kasetloongkim.com++ All Right Reserved.

ติดประกาศ: 2010-04-23 (4651 ครั้ง)

[ ย้อนกลับ ]
Content ©