-
++kasetloongkim.com++ - Content
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ

เมนูหลัก

» หน้าแรก
» เว็บบอร์ด
» ผู้ดูแล
» ไม้ผล
» พืชสวนครัว
» พืชไร่
» ไม้ดอก-ไม้ประดับ
» นาข้าว
» อินทรีย์ชีวภาพ
» ฮอร์โมน
» จุลินทรีย์
» ปุ๋ยเคมี
» สารสมุนไพร
» ระบบน้ำ
» ภูมิปัญญาพื้นบ้าน
» ไร่กล้อมแกล้ม
» โฆษณา ฟรี !
» โดย KIM ZA GASS
» สมรภูมิเลือด
» ชมรม

ผู้ที่กำลังใช้งานอยู่

ขณะนี้มี 315 บุคคลทั่วไป และ 0 สมาชิกเข้าชม

ท่านยังไม่ได้ลงทะเบียนเป็นสมาชิก หากท่านต้องการ กรุณาสมัครฟรีได้ที่นี่

เข้าระบบ

ชื่อเรียก

รหัสผ่าน

ถ้าท่านยังไม่ได้เป็นสมาชิก? ท่านสามารถ สมัครได้ที่นี่ ในการเป็นสมาชิก ท่านจะได้ประโยชน์จากการตั้งค่าส่วนตัวต่างๆ เช่น ฉากหรือพื้นโปรแกรม ค่าอ่านความคิดเห็น และการแสดงความเห็นด้วยชื่อท่านเอง

สถิติผู้เข้าเว็บ

มีผู้เข้าเยี่ยมชม
PHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG Counter ครั้ง
เริ่มแต่วันที่ 1 มกราคม 2553

product13

product9

product10

product11

product12

ข่าวแวดวงเกษตร28





การใช้ไส้เดือนจัดการขยะอินทรีย์ชนิดต่างๆ 


การวิจัยในด้านการจัดการปัญหาขยะอินทรีย์ที่เกิดจากการเลี้ยงหรือการผลิตพืช และของเหลือทิ้งจากโรงงานอุตสาหกรรมต่างๆ โดยใช้ไส้เดือนดินอย่างกว้างขวาง ในระยะเริ่มแรกมีการวิจัยที่สถานีทดลองโรธาม์สในประเทศอังกฤษ ในปี 1980 ซึ่งขยะอินทรีย์ที่ใช้ไส้เดือนดินย่อยสลายประกอบด้วย มูลสุกร มูลวัว มูลม้า มูลกระต่าย ของเสียจากการเลี้ยงไก่ไข่ ไก่กระทง ไก่งวง เป็ดและกากเหลือทิ้งจากอุสาหกรรมการผลิตต่างๆ  ซึ่งภายหลังได้มีการวิจัยใช้ไส้เดือนดินกำจัดเศษเหลือทิ้งจากการผลิตผักด้วย โดยเฉพาะเศษเหลือทิ้งในอุตสาหกรรมการผลิตเห็ด อุตสาหกรรมมันฝรั่ง อุตสาหกรรมการผลิตเหล้าและเบียร์ และเศษเหลือทิ้งจากอุตสาหกรรมการผลิดกระดาษ ซึ่งในระยะเริ่มต้นได้ทดลองในห้องปฏิบัติการขนาดเล็ก แต่ต่อมาได้พัฒนาและขยายไปทดลองในระดับพื้นที่ที่ใหญ่ขึ้น เช่น ในฟาร์ม และในที่สุดก็พัฒนาระบบต่างๆ ให้เหมาะสมสำหรับใช้ในเชิงพาณิชย์

               


ในกระบวนการจัดการขยะเหลือทิ้งต่างๆ เหล่านี้โดยใช้ไส้เดือนดิน โดยมากจะมีวัตถุประสงค์ 2 หัวข้อหลักคือ


1. เพื่อนำเศษเหลือใช้หรือขยะอินทรีย์ทางการเกษตรมาให้ไส้เดือนดินย่อยสลาย แล้วนำผลผลิตที่จากการย่อยสลายขยะอินทรีย์เหล่านั้นมาใช้เป็นปุ๋ยใส่เข้าไปในพื้นดินที่ทำการเกษตรเพื่อปรับปรุงโครงสร้างของดินและเพิ่มแร่ธาตุอาหารแก่พืชและนำมาใช้กับการผลิตพืชสวนประดับ เช่น การใช้เป็นวัสดุเพาะกล้า หรือใช้ผสมกับวัสดุปลูกอื่นๆ สำหรับปลูกไม้กระถางทางการค้า เพื่อลดต้นทุนการซื้อปุ๋ยเคมี


2. เพื่อนำผลผลิตของตัวไส้เดือนดินที่ขยายได้จากขบวนการกำจัดขยะ นำมาผ่านขบวนการที่เหมาะสมเพื่อผลิตเป็นอาหารโปรตีนสูงสำหรับสัตว์ต่างๆ เช่น ไก่ ปลา หมู และสัตว์ชนิดอื่นๆ เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการซื้อโปรตีนอาหารสัตว์




ในประเทศที่พัฒนาแล้วค่าใช้จ่ายในการกำจัดขยะและสิ่งปฏิกูลที่เกิดจากบ้านเรือนสูง ประกอบกับนโยบายด้านการพัฒนารักษาสิ่งแวดล้อมที่เข็มงวด และจิตสำนึกในการรักษาสิ่งแวดล้อมของประชาชน ส่งผลให้การกำจัดขยะอินทรีย์ที่เกิดจากครัวเรือนมีประสิทธิภาพมาก ซึ่งการใช้ไส้เดือนดินย่อยสลายขยะอินทรีย์ในครัวเรือนก็เป็นอีกวิธีการหนึ่งที่ได้รับความนิยมมาก และสามารถลดประมาณขยะอินทรีย์จากครัวเรือนได้

                
ภายในบ้านเรือนที่มักจะมีกิจกรรมต่างๆ ที่ก่อให้เกิดขยะอินทรีย์หลายชนิด โดยเฉพาะกิจกรรมการประกอบอาหารของครอบครัวในแต่ละวันจะมีขยะอินทรีย์จำพวกเศษผัก เปลือกผลไม้ หรือเศษอาหารเหลือทิ้งเป็นประจำ ซึ่งในแต่ละครัวเรือนโดยเฉลี่ยจะทิ้งขยะอินทรีย์ต่างๆ เหล่านี้อย่างน้อยประมาณ 1.5-3 กิโลกรัมทุกวัน ซึ่งในชุมชนที่ใหญ่กว่านี้ย่อมจะมีขยะอินทรีย์ที่มากกว่านี้หลายร้อยเท่า ซึ่งขยะอินทรีย์เหล่านี้จะถูกใส่ถุงขยะแล้วทิ้งทุกวัน โดยรถเทศบาลจะมารับแล้วนำไปกำจัดต่อไป ซึ่งขยะที่ทิ้งออกจากบ้านเรือนเป็นจำนวนมากก็จะก่อให้เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม โดยก่อให้เกิดกลิ่นเหม็นเป็นแหล่งสะสมและแหล่งก่อโรคและแพร่กระจายโรคโดยแมลงวัน หรือแมลงสาบ รวมทั้งก่อให้เกิดน้ำเสียในหลายๆ พื้นที่ ซึ่งจะต้องสูญเสียค่าใช้จ่ายในการแก้ไขสิ่งแวดล้อมที่เป็นพิษเหล่านี้ปีละหลายล้านบาท ดังนั้นหากแต่ละบ้านเลี้ยงไส้เดือนภายในบ้านและกำจัดขยะอินทรีย์ต่างๆ เหล่านนี้ก็จะสามารถลดประมาณขยะลงได้เป็นจำนวนมาก โดยการเลี้ยงไส้เดือนดินภายในภาชนะต่างๆ เช่น อ่างพลาสติก ลิ้นชักพลาสติก บ่อซีเมนต์หรือกระถางต้นไม้ไว้ภายในบริเวณบ้านหรือภายในห้องครัว เมื่อประกอบอาหารและมีเศษผัก เศษผลไม้ หรือเศษอาหารเหลือ ก็สามารถนำไปใส่ภายในภาชนะต่างๆ ที่เลี้ยงไส้เดือนดินดังกล่าวให้ไส้เดือนดินย่อยสลายกลายเป็นปุ๋ยต่อไป โดยสามารถใส่เศษขยะอินทรีย์ได้ทุกวัน และเมื่อครบ 30-60 วัน ก็สามารถแยกนำมูลไส้เดือนดินภายในภาชนะหรือน้ำหมักที่รองได้ไปใช้ปลูกต้นไม้ในบ้านได้ หรือ นำไส้เดือนที่ขยายเพิ่มขึ้นก็สามารถนำไปใช้เลี้ยงในภาชนะอื่นๆ ต่อไป หรือใช้จำหน่ายให้บ่อตกปลาหรือใช้เป็น อาหารเลี้ยงไก่ เลี้ยงปลา เพื่อเป็นโปรตีนเสริมได้




เทศบาลและอบต. เป็นหน่วยงานที่ให้บริการชุมชนในด้านความสะอาด ด้านสาธารณสุข และด้านความสวยงามของภูมิทัศน์ในชุมชน การจัดเก็บทำลายขยะก็เป็นอีกงานหนึ่งที่เทศบาลและอบต. ให้บริการแก่ชุมชน ดังนั้นการเลี้ยงไส้เดือนดินกำจัดขยะอินทรีย์เพื่อผลิตปุ๋ยหมักจึงเป็นแนวทางหนึ่งของการกำจัดขยะอินทรีย์ที่น่าสนใจ แทนการฝังกลบหรือเผาและไม่ก่อให้เกิดมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังได้ผลผลิต คือปุ๋ยหมักมูลไส้เดือนดิน ปุ๋ยน้ำหมักมูลไส้เดือนดินและตัวไส้เดือนดิน ซึ่งทางเทศบาลและอบต. สามารถนำไปใช้ในการบำรุงต้นไม้ที่ใช้จัดภูมิทัศน์ตามบริเวณชุมชนต่างๆ และสามารถแจกจ่ายไส้เดือนดินที่ขยายได้ให้แก่เกษตรกรหรือชาวบ้านต่อไปได้



                  ประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรม ดังนั้นจึงมีโรงงานอุตสาหกรรมที่แปรรูปผลผลิตทางการเกษตรหลายแห่งตั้งอยู่มากมาย เช่น โรงงานคัดบรรจุผลผลิตทางการเกษตร โรงงานแปรรูปอาหารกระป๋อง เช่น ผลไม้กระป๋องโรงงานมันฝรั่ง โรงงานกระดาษ โรงกลั่นสุรา โรงหมักเบียร์หรือโรงผลิตเห็ด ฯลฯ ซึ่งโรงงานต่างๆ เหล่านี้จะก่อให้เกิดขยะอินทรีย์จำนวนมากในแต่ละวัน ซึ่งอาจก่อให้เกิดสภาพแวดล้อมเป็นพิษได้หากไม่มีระบบกำจัดขยะที่ถูกต้องและเหมาะสม ดังนั้นสามารถเลี้ยงไส้เดือนดินเพื่อกำจัดขยะต่างๆ เหล่านี้ได้ดี เนื่องจากมีวัตถุดิบที่เกิดจากกระบวนการผลิตอยู่ทุกวันโดยไม่ต้องนำมาจากแหล่งอื่นๆ ซึ่งเป็นการกำจัดขยะที่ไม่สูญเสียค่าใช้จ่ายสูงและไม่ก่อให้เกิดกลิ่นเหม็นรบกวนชุมชนด้วย




               
มีการทำไร่ ทำสวน ทำนา และเลี้ยงสัตว์กันเป็นจำนวนมากเกือบทุกทั่วภาคของประเทศ ซึ่งเมื่อเก็บผลผลิตจำหน่ายแล้วมักจะมีวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรเกิดขึ้นในไร่นาหรือภายในสวน ซึ่งเกษตรกรส่วนใหญ่จะกำจัดโดยวิธีการเผา เนื่องจากเป็นวิธีการที่ทำได้ง่ายที่สุด เมื่อมีการจัดการดังกล่าวติดต่อกันเป็นเวลานานปลายปีจะก่อให้เกิดสภาพที่ทำให้ดินเสื่อมโทรมในเวลาต่อมา ซึ่งปัญหาดังกล่าวสามารถแก้ไขได้โดยการนำวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรเหล่านั้นมาทำปุ๋ยหมักแล้วนำกลับมาใช้ภายในฟาร์มต่อไปซึ่งเป็นการเพิ่มอินทรียวัตถุและธาตุอาหารแก่ดินได้ในระดับหนึ่ง แต่การทำปุ๋ยหมักโดยทั่วไปจะใช้เวลานานและเสียแรงงานมาก ดังนั้น เกษตรกรอาจจะสามารถนำวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรดังกล่าวมาให้ไส้เดือนดินย่อยสลายเพื่อผลิตเป็นปุ๋ยหมักได้ซึ่งเป็นอีกแนวทางหนึ่งที่น่าจะเหมาะสมกว่าเพราะใช้เวลาน้อยและไม่สิ้นเปลืองแรงงานในการจัดการมาก หรืออีกแนวทางจึ่งที่สามารถทำได้ก็คือ การสร้างสภาพแวดล้อมในไร่นาหรือภายในสวนให้เหมาะสม คือ ใส่เศษอินทรียวัตถุคลุมดินแล้วรดน้ำให้มีความชื้นอยู่เสมอแล้วปล่อยไส้เดือนดินสายพันธุ์ที่เหมาะสมลงไปในดินเพาะปลูกเหล่านั้นเพื่อให้ไส้เดือนดินช่วยฟื้นฟูดินปลูก





 

 ปัจจุบันมีการเลี้ยงสัตว์ในฟาร์มขนาดใหญ่หลายแห่ง โดยเฉพาะฟาร์มเลี้ยงสุกร ฟาร์มเลี้ยงไก่ หรือ ฟาร์มโคนม โคเนื้อ ซึ่งฟาร์มเลี้ยงสัตว์ต่างๆ ดังกล่าว ในอดีตมีการเลี้ยงสัตว์กันขนาดเล็กตามบ้านเรือน หรือการเลี้ยงแบบปล่อยซึ่งจะไม่ก่อปัญหา แต่ในปัจจุบันมีการตั้งฟาร์มเลี้ยงสัตว์ขนาดใหญ่ทางการค้า ซึ่งในการเลี้ยงสัตว์ชนิดต่างๆ มักจะมีมูลสัตว์จำนวนมากที่ทับถมกันจนเกิดกลิ่นเหม็นและเป็นปัญหาที่สำคัญต่อสภาพแวดล้อมภายในฟาร์มและบริเวณใกล้เคียงถ้าไม่มีระบบการจัดการที่ดี โดยเฉพาะในเรื่องกลิ่นเหม็นและแหล่งเพาะแมลงวันเป็นปัญหาสำคัญในการเลี้ยงสัตว์ในปัจจุบัน ทำให้ต้องมีการติดตั้งระบบกำจัดของเสียและใช้สารเคมีในการกำจัดแมลงวัน ทำให้สูญเสียค่าใช้จ่าย และมีสารเคมีตกค้างในฟาร์มเป็นจำนวนมาก ดังนั้นการเลี้ยงไส้เดือนดินเพื่อกำจัดมูลหรือของเสียจากฟาร์มเลี้ยงสัตว์ต่างๆ ดังกล่าวน่าจะเป็นอีกทางออกหนึ่งสำหรับฟาร์มเลี้ยงสัตว์ เนื่องจากการทำงานของไส้เดือนดินจะสามารถลดกลิ่นและย่อยสลายของเสียหรือมูลสัตว์ต่างๆ เหล่านั้นกลายเป็นปุ๋ยหมักได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งสามารถนำไส้เดือนดินมาประยุกต์ใช้ได้ง่ายมาก



ตารางแสดงขนาดของภาชนะกับประมาณของไส้เดือนดินที่เลือกเลี้ยงกำจัดขยะอินทรีย์ภายในครัวเรือน

จำนวนคนในบ้าน


ปริมาณไส้เดือนดิน (น้ำหนัก)


ขนาดของภาชนะ (เซนติเมตร)


1-2 คน


500 กรัม


60x60x30


2-3 คน


1 กิโลกรัม


75x60x30


4-6 คน


1.5 กิโลกรัม


90x60x30







 ดาว์นโหลดไฟล์ได้ที่ http://www.uploadtoday.com/download/?a5290ca906e6b0766b5250eed78fb727









สงวนลิขสิทธิ์โดย © ++kasetloongkim.com++ All Right Reserved.

ติดประกาศ: 2010-04-23 (1325 ครั้ง)

[ ย้อนกลับ ]
Content ©