ภาวิณี สุดาปัน
มหัศจรรย์พันธุ์พืชแปลกพิลึกกึกกือ
จริงๆ เทคโนโลยีการเกษตรไทย ก้าวไกลไม่แพ้ต่างชาติ
หากจะพูดถึงของแปลกเมืองไทยเราก็มีหลายอย่างที่คนไม่เคยพบเห็นมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีการเกษตร เครื่องจักรกล เทคโนโลยีด้านอาหาร เทคโนโลยีการปศุสัตว์ และอื่นๆ เป็นต้น มนุษย์สามารถผลิต คิดค้น ศึกษา พัฒนาต่อยอดมาเรื่อยๆ และยังสามารถเพิ่มมูลค่าของผลิตภัณฑ์ได้อีก หากจะเปรียบเทียบกับสัตว์ชนิดอื่นคงไม่สามารถมีสติปัญญาอันเฉียบแหลมเหมือนมนุษย์ได้ เพราะแม้แต่ต้นมะเขือก็ยังสามารถที่จะปรับปรุงพันธุกรรมให้ผลดก ลูกโตได้ ขนาดน้ำหนักกว่า 1 กิโลกรัม ก็มี ไม่ต้องตกใจไป เพราะเขาทำได้จริงๆ
ต่างประเทศเขาก็ทำกัน ทำกันเยอะกว่าประเทศไทยซะอีก แต่คนไทยก็มิได้น้อยหน้าชาวต่างชาติแต่อย่างใด สามารถทำได้เช่นกัน คุณจตุพร ไวปรีชี เจ้าของฉายา พริกพิโรธร้อยครก แหม! แค่ฟังชื่อก็แสบสะท้านทรวงแล้ว เมืองไทยมีพริกชนิดนี้ด้วยหรือ
คุณจตุพร ทำการเกษตรมาจวบจนวัย 52 ปี ดูจากรูปร่างบ่งบอกว่าสุขภาพร่างกายยังแข็งแรงดี สีหน้าสีตาสดชื่น พูดจาพาสนุกสนาน อารมณ์ดี วันนี้นำพันธุ์พืชแปลกที่เราไม่เคยเห็นมาโชว์ให้เห็นกันจะจะ กลางแจ้งเลย มะเขือผลใหญ่มาก ขนาดกว่า 1 กิโลกรัม
ตั้งแต่เกิดมาผู้เขียนยังไม่เคยเห็นมะเขือใหญ่ขนาดนี้ เป็นบุญตาจริงๆ ที่ได้เห็น คิดซะว่าเกิดมาครั้งหนึ่งเห็นของแปลกกับเขาก็ภูมิใจแล้ว
นอกจากมะเขือยักษ์แล้ว ยังมีพันธุ์พืชแปลกๆ อีก 14 ชนิด หากนับรวมมะเขือยักษ์ด้วยก็เป็น 15 ชนิด มาโชว์ให้เห็น แต่ถ้าท่านผู้ใดสนใจอยากเห็นกับตา สัมผัสด้วยมือ หรือซื้อหาไปปลูกไว้ให้ลูกหลานได้ดู ก็สามารถไปเดินเที่ยวชมงาน เกษตรมหัศจรรย์ วันเทคโนโลยีชาวบ้าน ครั้งที่ 2 ที่จะจัดขึ้นในช่วง วันที่ 24-28 เดือนกุมภาพันธ์ 2553 นี้ ที่เดอะมอลล์ บางแค แต่สำหรับปักษ์นี้ผู้เขียนจะนำเรื่องราวที่ได้รับรู้มาเล่าสู่กันฟัง พอเป็นกระสาย
เมื่อเกริ่นถึงพันธุ์พืชมหัศจรรย์แล้ว เรามาทำความรู้จักกันตั้งแต่พืชชนิดแรกเลยดีกว่า คือ มะเขือยักษ์ ลักษณะเด่นคือ ผลใหญ่ ขนาดน้ำหนักเกือบ 1 กิโลกรัม ผลกินได้ สามารถอยู่ได้นาน 3-5 ปี ถ้าดูแลต้นดีๆ ระยะเวลาการปลูกประมาณ 4 เดือน ก็ให้ผลผลิตแล้ว
มะเขือเทศเชอร์รี่ เป็นมะเขือเทศที่มีรสชาติหวาน กลิ่นหอม กินผลสดได้ นุ่มลิ้นเมื่อสัมผัส ผลดกมาก ดูจากรูปภาพก็จะเห็น ผู้เขียนกินมาแล้วอร่อยจริงๆ
คุณจตุพร บอกว่า "ผมกำลังพัฒนารูปแบบการปลูกมะเขือเทศเชอร์รี่ให้เป็นรูปตัวสัตว์ต่างๆ ต่างจากมะเขือเทศทั่วๆ ไป คือ สามารถนำไปขยายพันธุ์ต่อได้โดยการใช้มือบีบลูกมะเขือลงบนแปลงปลูกก็สามารถเกิดได้เลย"
อย่างนี้มันต้องพิสูจน์
พริกระฆังทอง เป็นพริกที่มีลักษณะผลคล้ายผลชมพู่ เผ็ดพอๆ กับพริกขี้หนูสวน จากการสังเกตพริกมีสีสันสวยงาม สีสด มีทั้งผลสีเขียวอ่อน สีแดงสด ลักษณะผลมีสี่แฉก ผลดกเต็มต้น เหมือนรูประฆัง
พริกหวานงาช้างลพบุรี มีลักษณะใหญ่มาก (คงต้องไปพิสูจน์กันเองที่งานแล้วละ ว่าใหญ่หรือไม่)
น้ำเต้าพันธุ์แปลกใหม่ ผลใหญ่ ลูกละ 6 กิโลกรัม ผลกินอร่อย
ฟักหอม เอาไว้ต้มไก่ เวลาต้มมีกลิ่นหอม เดินผ่านแล้วกลิ่นเตะจมูก (นอกจากนี้ ยังสามารถนำไปทำอาหารได้อีกหลายอย่างเทียว)
ต้นแคเตี้ย ดอกติดดิน สูงเต็มที่แค่ชูมือ เกษตรกรสามารถนำไปปลูก สักประมาณ 50-100 ต้น ก็สามารถมีรายได้วันละ 200-300 บาท
แก่นตะวัน เป็นพืชสมุนไพรตัวหนึ่งที่มาจากงานวิจัยของมหาวิทยาลัยขอนแก่น สรรพคุณป้องกันโรคความดันโลหิตสูง โรคเบาหวานได้
กล้วยงาช้าง เป็นกล้วยผลใหญ่ 1 ลูก หนักกว่า 1 กิโลกรัม ลักษณะเหมือนงาช้าง ผลโค้งยาว เป็นกล้วยเปลือกบาง กินได้ อร่อย รสหอมหวาน เหนียวนุ่ม เป็นกล้วยไทยที่มีคุณประโยชน์
พริกยักษ์ มีขนาดน้ำหนักผลละ 1 ขีด ความยาว 1 คืบ โตประมาณ 2 นิ้ว เนื้อหนา รสเผ็ด เอาไปต้มยำทำแกงได้ทุกอย่าง
มะเขือยาวยักษ์ ลูกยาวประมาณ 1 ศอก ผลใหญ่เท่าแขน ปรุงอาหารกินอร่อย จะนำไปเผาหรือนำไปยำก็ดี นอกจากพืชแปลกที่กล่าวถึงมาแล้ว ยังมีพืชอีกหลายอย่างที่ยังไม่ได้กล่าวถึง คงต้องติดตามข่าวสารกันอย่างต่อเนื่อง
คุณจตุพร เล่าให้ฟังว่า "ผมคัดพันธุ์พืชแปลกๆ มาเป็นเวลากว่า 2 ปีแล้ว รวมกลุ่มกันทำกับสมาชิกในหมู่บ้าน จำนวน 15 ราย โดยมีผมเป็นประธานกลุ่ม ตั้งชื่อกลุ่มว่า ราชาพริกพิโรธ (มีคนตั้งฉายามาอีกทีหนึ่ง) โด่งดังและเป็นที่รู้จักกันสืบเนื่องมา สาเหตุที่คิดทำพืชพันธุ์แปลกขึ้นมานี้ เป็นเพราะผมเล็งเห็นว่าเกษตรกรไทยมีความสามารถ แต่ทำไมคุณภาพผลิตผลทางการเกษตรสู้ชาวต่างชาติไม่ได้ นอกจากนี้ ผลิตมาแล้วก็ไม่มีตลาดจำหน่ายผลผลิต ผมจึงอยากหาทางช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกร โดยการส่งเสริมให้ความรู้กับพี่น้องเกษตรกร เพื่อให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพสู้ชาวต่างชาติได้ พี่น้องเกษตรกรจะได้ลืมตาอ้าปากได้สักที หลุดพ้นจากความยากจน มีฐานะความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น กลุ่มของผมไม่มีพันธะสัญญาระหว่างสมาชิกในกลุ่ม เพียงแต่ผลผลิตที่ได้ต้องมีคุณภาพและเป็นที่ต้องการของตลาด ถ้าเกษตรกรเขาสนใจก็สามารถนำพันธุ์ไปปลูกแล้วนำผลผลิตมาขายที่ผมได้ ผมก็จะนำไปขายอีกทีหนึ่ง"
คุณจตุพร บอกว่า สามารถติดต่อได้โดยตรงที่ บ้านเลขที่ 70/5 หมู่ที่ 8 ตำบลโพธิ์เก้าต้น อำเภอเมือง จังหวัดลพบุรี หรือหากต้องการพูดคุยสอบถามก็สามารถติดต่อได้โดยตรง ที่โทร. (086) 121-6869 ตนยินดีตอบทุกคำถามเท่าที่สามารถตอบได้
"ผมก็ไม่ได้มีความรู้อะไรมากมายหรอก" เจ้าของพูดแบบถ่อมตัว
สำหรับเรื่องการปลูก ดูแลรักษา เจ้าของฉายาราชาพริกพิโรธ แนะนำว่า เคยมีลูกค้าบางคนบอกกับตนว่า ต้นไม้เวลาอยู่กับเจ้าของทำไมงามแท้ แต่พอมาอยู่กับเราอยู่ได้ไม่กี่วันก็ตาย ขออธิบายว่า ต้นไม้ก็เหมือนกับคน การดูแลเอาใจใส่เป็นเรื่องสำคัญ พืชเขาไม่สามารถดูแลตัวเองได้ ผู้ปลูกต้องคอยดูแลเอาใจใส่ หมั่นบำรุง ป้องกันเรื่องโรคและแมลง ถ้าหากต้นพืชเป็นแผลที่ราก หากเปรียบกับคนก็เหมือนกับคนฟันผุ จะเจ็บปวดไม่สามารถกินอาหารได้ พืชก็เช่นกัน เมื่อรากเป็นแผล เน่าเปื่อย ทำให้ต้นพืชขาดสารอาหารและแห้งเหี่ยวตายในที่สุด เพราะฉะนั้นผู้ปลูกเลี้ยงควรให้ความสำคัญกับเรื่องนี้เป็นพิเศษ
ส่วนการให้ปุ๋ยนั้น คุณจตุพร กล่าวว่า พืชก็ต้องการวิตามินเสริมเหมือนกัน เพื่อไปบำรุงใบ ดอก ลำต้น เพราะฉะนั้นปุ๋ยก็เป็นอาหารเสริมชนิดหนึ่งที่มนุษย์ต้องการ โดยปุ๋ยที่ตนให้จะเป็นปุ๋ยอินทรีย์ เป็นปุ๋ยที่ช่วยบำรุงโครงสร้างดินให้มีคุณภาพไม่ให้เสื่อม หากเปรียบเทียบกับการให้ปุ๋ยเคมีแล้วจะพบว่าได้ผลในช่วงแรกๆ เมื่อนานวันขึ้น ต้นพืชได้รับการบำรุงปุ๋ยเคมีบ่อยๆ จะทำให้โครงสร้างของดินเสีย ส่งผลให้ดินเสื่อมคุณภาพเร็วด้วย
ผู้ที่สนใจ หากอยากติดต่อเร็วด่วน ก็ตามที่อยู่และเบอร์โทรศัพท์ หรือหากไม่สะดวก พบกับคุณจตุพรได้ที่ เดอะมอลล์ บางแค วันที่ 24-28 กุมภาพันธ์ 2553
ที่มา : เทคโนโลยีชาวบ้าน
สงวนลิขสิทธิ์โดย © ++kasetloongkim.com++ All Right Reserved.