-
++kasetloongkim.com++ - Content
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ

เมนูหลัก

» หน้าแรก
» เว็บบอร์ด
» ผู้ดูแล
» ไม้ผล
» พืชสวนครัว
» พืชไร่
» ไม้ดอก-ไม้ประดับ
» นาข้าว
» อินทรีย์ชีวภาพ
» ฮอร์โมน
» จุลินทรีย์
» ปุ๋ยเคมี
» สารสมุนไพร
» ระบบน้ำ
» ภูมิปัญญาพื้นบ้าน
» ไร่กล้อมแกล้ม
» โฆษณา ฟรี !
» โดย KIM ZA GASS
» สมรภูมิเลือด
» ชมรม

ผู้ที่กำลังใช้งานอยู่

ขณะนี้มี 326 บุคคลทั่วไป และ 0 สมาชิกเข้าชม

ท่านยังไม่ได้ลงทะเบียนเป็นสมาชิก หากท่านต้องการ กรุณาสมัครฟรีได้ที่นี่

เข้าระบบ

ชื่อเรียก

รหัสผ่าน

ถ้าท่านยังไม่ได้เป็นสมาชิก? ท่านสามารถ สมัครได้ที่นี่ ในการเป็นสมาชิก ท่านจะได้ประโยชน์จากการตั้งค่าส่วนตัวต่างๆ เช่น ฉากหรือพื้นโปรแกรม ค่าอ่านความคิดเห็น และการแสดงความเห็นด้วยชื่อท่านเอง

สถิติผู้เข้าเว็บ

มีผู้เข้าเยี่ยมชม
PHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG Counter ครั้ง
เริ่มแต่วันที่ 1 มกราคม 2553

product13

product9

product10

product11

product12

ข่าวทั่วไป47







พิจิตรระดมปราชญ์ชาวบ้านตั้งศูนย์เรียนรู้กสิกรรมธรรมชาติ

ปราชญ์ชาวบ้านผู้เรียนรู้จากการปฏิบัติจริงรวมตัวตั้งโรงเรียนชาวนาถ่ายทอดความรู้ หวังกู้วิกฤตด้วยปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มอบเป็นวิทยาทานให้กับเยาวชนและชาวบ้านสนใจเรียนรู้กสิกรรมธรรมชาติ


โดย...สิทธิพจน์ เกบุ้ย


มีปราชญ์ชาวบ้านหลายร้อยคนในสังคมไทย ที่เสนอหลักคิด วิธีการทำงาน เพื่อแก้ไขปัญหาให้กับชุมชนและสังคม ผ่านกระบวนการการปฏิบัติตลอดชีวิต จากลองผิดลองถูก เช่นเดียวกับ นายจักรภฤต บรรเจิดกิจ อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 48 หมู่ 2 บ้านน้อย ต.สายคำโห้ อ.เมือง จ.พิจิตร ผู้ซึ่งทางราชการยกย่องให้เป็นปราชญ์ชาวบ้าน เนื่องจากเป็นผู้ที่รอบรู้และตระหนักถึงสภาวะความต้องการอาหารของมนุษย์ ซึ่งปัจจุบันเริ่มมีความต้องการมากขึ้น


อีกทั้ง ภาวะโลกร้อนที่เกิดจากภาคอุตสาหกรรมทำให้เกิดความแปรปรวน ฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาล เกิดพายุ เกิดน้ำท่วม เกิดภูเขาไฟระเบิด และอีกมากมายจากภัยธรรมชาติ ซึ่งล้วนเป็นการลงโทษมนุษย์โดยธรรมชาติ ดังนั้น จึงอยากทำให้ในอนาคตประเทศชาติใดมีอากาศบริสุทธิ์ มีน้ำดื่มสะอาด และเป็นผู้ผลิตพืชผลอาหารเลี้ยงชาวโลกได้ก็จะได้เป็นมหาอำนาจที่ยิ่งใหญ่มากกว่าการมีอาวุธนิวเคลียร์ ดังนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวจึงทรงให้แนวทางพสกนิกรปวงชนชาวไทยที่ทำอาชีพการเกษตร ให้เข้าสู่การทำไร่นาสวนผสมสู่ระบบเศรษฐกิจพอเพียง และให้เรียนรู้กสิกรรมธรรมชาติเพื่อขับเคลื่อนปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง


นางบุปผา อุ้ยเอ้ง เกษตรและสหกรณ์จ.พิจิตร บอกว่า เกษตรแสะสหกรณ์จึงเล็งเห็นความสำคัญในเรื่องดังกล่าว จึงได้เรียกปราชญ์ชาวบ้านที่ล้วนเป็นชาวนา ชาวสวน ชาวไร่ และมีความรู้จากการปฏิบัติจริงให้มารวมตัวกัน เพื่อถ่ายทอดความรู้จากประสบการณ์จากรุ่นสู่รุ่น จึงได้ตั้งศูนย์เรียนรู้กสิกรรมธรรมชาติเพื่อขับเคลื่อนปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ขึ้นที่บ้านพักกลางทุ่งนาของเกษตรกรที่เป็นปราชญ์ชาวบ้าน ตั้งอยู่ที่ 48 หมู่ 2 ต.สายคำโห้ อ.เมือง จ.พิจิตร


ทั้งเกษตรกรและสหกรณ์จ.พิจิตร ได้ให้งบสนับสนุนเป็นการปรับปรุงอาคารหลังคามุงแฝก เพื่อใช้เป็นที่เรียนรู้ 80,000 บาท และให้งบประมาณในการจัดฝึกอบรมชาวบ้านและเยาวชนตลอดจนพี่น้องเกษตรกร อีก 9 รุ่น เป็นจำนวนเงิน 900,000 บาท โดยตั้งเป้าอบรมมาตั้งแต่เดือนมกราคม 2553 ไปจนถึง สิ้นเดือน พฤษภาคม 2553 อบรมรุ่นละ 40 คน เป็นเวลา 4 วัน 3 คืน ซึ่งมีผู้เรียนรู้วิชาต่าง ๆ จากปราชญ์ชาวบ้านไปแล้วเกือบ 300 คน


"หลักสูตรที่เปิดอบรมถ่ายทอดความรู้จากปราชญ์ชาวบ้านสู่ชาวบ้านที่เป็นชาวไร่ ชาวนา ประกอบด้วย ฐานเรียนรู้ปลุกจิตสำนึกคนรู้รักษ์แม่พระธรณี แม่พระโพสพ แม่พระคงคา แม่พระพาย แม่พระเพลิง"

นางบุปผา กล่าว


อีกทั้งยังเปิดสอนหลักสูตรการเลี้ยงไก่ชนที่มีลุงสมควร สมเคราะห์ อายุ 59 ปี อยู่บ้านเลขที่ 45/1 หมู่ 2 ต.สายคำโห้ อ.เมือง จ.พิจิตร ซึ่งในอดีตเป็นนักพนันและเซียนไก่ชนตัวยง เป็นมือให้น้ำไก่ตามบ่อนไก่ต่าง ๆ มาแล้วหลายร้อยสังเวียน พออายุมากขึ้นก็แขวนนวมจากการพนันมาเพาะเลี้ยงไก่ชนขาย มีตั้งแต่ราคาหลักร้อยถึงหลักหมื่น เป็นผู้ถ่ายทอด


นอกจากนี้ นางบังอร สีดา อายุ 50 ปี เกษตรกรปราชญ์ชาวบ้าน จากหมู่ 2 ต.ย่านยาว อ.เมือง จ.พิจิตร ที่ทำไร่นาสวนผสมและปลูกผักปลอดสารพิษขาย ประสบความสำเร็จจากการใช้น้ำส้มควันไม้ก็มาสอนวิชาคนเอาถ่าน คือ การเผาถ่านเพื่อสกัดเอาน้ำสมควันไม้ไปฉีดพ่นเป็นสารป้องกันแมลง และได้ถ่านไปเป็นพลังงานเชื้อเพลิง


อีกทั้ง นางสุวิมล ปานประสิทธิ์ อายุ 48 ปี เรียนจบจากวิทยาลัยเกษตรพิจิตร แล้วก็ไปใช้ชีวิตชาวนา 100 เปอร์เซ็นต์ ที่บ้านเกิด หมู่ 2 ต.ย่านยาว อ.เมืองพิจิตร ก็มาถ่ายทอดกรรมวิธีการใช้ปุ๋ยน้ำสกัดจากมูลสัตว์ที่ทำง่าย ๆ แต่ได้ประโยชน์แร่ธาตุอาหารแก่พืช ลดการซื้อสารยูเรีย ซึ่งเป็นธาตุอาหารจำเป็นต่อพืช


ช่นเดียวกับ นายคำสิงห์ ชัยมุต อายุ 55 ปี ปราชญ์ชาวบ้าน จากหมู่ 2 ต.หนองโสน อ.สามง่าม จ.พิจิตร ก็มาสอนและถ่ายทอดความรู้เรื่อง  การใช้สมุนไพร ในการกำจัดแมลงและศัตรูพืช  เพื่อให้ผลผลิตออกมาเป็นพืชปลอดสารพิษ


นอกจากนี้ นางสาวทัศนีย์ เลี่ยมแจง อายุ 27 ปี ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านหมู่ 2 ต.ย่านยาว อ.เมือง จ.พิจิตร ผู้ซึ่งเป็น  ปราชญ์ชาวบ้านในการเลี้ยงหมูหลุม โดยหลักธรรมชาติหมูโตเร็วถ่ายมูลออกมาไม่เหม็น และสามารถนำมูลสุกรไปใช้เป็นปุ๋ยในไร่นาได้


นอกจากนี้ คุณลุงณรงค์ น้อยตา อายุ 60 ปี อดีตข้าราชการบำนาญเคยเป็นครูโรงเรียนจุฬาภรณ์ พิษณุโลก แต่ใจรักการเกษตรและได้เป็นปราชญ์ชาวบ้าน นอกเหนือจากวุฒิปริญญาตรี คือ รู้ลึก รู้จริง ทำจริง เรื่องการเลี้ยงกบทั้งในบ่อธรรมชาติ บ่อปูน เลี้ยงกบคอนโดในยางรถยนต์ ลองผิดลองถูกจนสามารถถ่ายทอดความรู้สู่พี่น้องเกษตรกรได้ ก็มาร่วมเป็นทีมปราชญ์ชาวบ้านแบ่งปันความรู้สู่ชุมชนคนภูธร


จากความเข้มแข็งของปราชญ์ชาวบ้านผนวกกับความเสียสละจึงได้เกิดศูนย์เรียนรู้กสิกรรมธรรมชาติเพื่อขับเคลื่อนปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงตามแนวพระราชดำรัสของในหลวงที่ทรงพระราชทานไว้ว่า “ไม่มีความยากจนในหมู่คนขยัน” จึงบังเกิดขึ้น


ดังนั้น ถ้าพี่น้องเกษตรกรสนใจจะมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ดูงาน สามารถติดต่อได้ที่ โทร. 086-4616239 , 081-0415883 ซึ่งศูนย์แห่งนี้มีวิชาการทำน้ำส้มควันไม้ การทำน้ำหมักสมุนไพรไล่แมลง และการทำฮอร์โมนน้ำชีวภาพ การขยายเชื้อจุลินทรีย์เห็ดโคนป่า การคัดเมล็ดพันธุ์ข้าว การทำปุ๋ยหมักเติมอากาศ การทำน้ำยาซักผ้า ล้างจาน สบู่แบบเอนกประสงค์ รวมถึง การเลี้ยงไก่พื้นเมือง เลี้ยงกบ เลี้ยงปลาดุก เลี้ยงไส้เดือน 
 
โดยปราชญ์ชาวบ้านจะเป็นผู้ถ่ายทอด ให้กับผู้ที่สนใจจะเรียนรู้เพื่อนำไปพัฒนาอาชีพการเกษตร ให้ประเทศไทยเป็นครัวโลกผู้ผลิตอาหารเลี้ยงชาวโลกต่อไปอีกด้วย



ที่มา  :  โพสต์ทูเดย์









สงวนลิขสิทธิ์โดย © ++kasetloongkim.com++ All Right Reserved.

ติดประกาศ: 2010-04-23 (1084 ครั้ง)

[ ย้อนกลับ ]
Content ©