ชาวนาพิจิตรค้นพบสัจธรรมวิถีชีวิตต้องอยู่เคียงคู่ธรรมชาติ รักษาระบบนิเวศน์และสิ่งแวดล้อม เปิดโรงเรียนชาวนาเข้าอบรมเรียนรู้ปัญหาอย่างมีเหตุมีผล ลดใช้สารเคมี ลดต้นทุนการผลิตได้มีสิทธิรวย
ชาวพิจิตร มีอาชีพหลัก คือการทำนา แต่ปัจจุบันภาวะโลกร้อนภัยแล้งและแมลงศัตรูพืช โดยเฉพาะเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล โดยเฉพาะปัญหาเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลกัดกินต้นข้าวสร้างความเสียหายให้ชาวนาหลายคนจนแทบหมดตัว เหตุเพราะขาดความรู้ความเข้าใจในการใช้สารเคมีและสารชีวภาพในการกำจัดศัตรูพืชเหล่านั้น เมื่อเกิดวิกฤติชาวนาจึงรวมตัวกันว่าต้องพัฒนาความรู้ โดยได้รับการสนับสนจากทำให้ นายธีรพงศ์ เพ็ชรพงศ์ นายก อบต.รังนก จึงจัดงบประมาณสนับสนุนให้เปิดโรงเรียนเกษตรกรยั่งยืนหลักสูตรชาวนาขึ้น
นายธีรพงศ์ บอกว่า โครงการดังกล่าวจัดอบรมทุกวันศุกร์ หลักสูตรหนึ่งๆ ต้องเข้าอบรม 10 ครั้ง โดยมีท้องฟ้าและทุ่งนาเป็นห้องเรียนแปลงนาเป็นครูมีศัตรูพืชและวัชพืช เป็นสื่อการเรียนการสอน มีปัญหาของเพื่อนร่วมชั้นเรียนเป็นตำราเสริมของหลักสูตร
ทั้งนี้หลักสูตรดังกล่าวนอกจากเน้นเชิงปฎิบัติจริงแล้ว ยังมีกิจกรรมมากมาย เช่น เรียนรู้ระบบนิเวศน์ในนาข้าว เพราะในท้องทุ่งนา มีแมลงศัตรูพืชและแมลงที่เป็นมิตรและเป็นคุณประโยชน์กับชาวนาโดยธรรมชาติ
นอกจากนี้ชาวนาจะได้วิเคราะห์เรื่องของพันธุ์ข้าวและศัตรูของข้าวที่พบตามธรรมชาติ ว่าสมควรจะควบคุมหรือเปล่า พร้อมกับการพัฒนาของข้าวที่ปลูกในแต่ละช่วง ว่า มีแมลงอะไรเข้ามากัดกินหรือเปล่า และจะมีการกำจัดและควบคุมอย่างไรซึ่งจะมีประโยชน์ในเรื่องของการลดต้นทุนในการผลิต
เพราะแทนที่ชาวนาจะมีการใช้สารเคมีโดยไม่มีเหตุผล ก็กลับมาใช้การวิเคราะห์ระบบนิเวศน์แทนการหลับหูหลับตา ซื้อสารเคมีฉีดแบบบ้าระห่ำ เพื่อที่จะได้ใช้ยาให้ถูกกับชนิดของศัตรูพืช และระยะเวลาที่เหมาะสม ตลอดจนทำให้ร่างกายปลอดภัยและข้าวที่ผลิตก็เป็นข้าวปลอดสารเคมี อีกด้วย
"โครงการนี้เคยเกิดขึ้นมานานนับสิบปีแล้วแต่เงียบหายไป แต่ขณะนี้มีหลายองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเริ่มเห็นความสำคัญของการติดอาวุธทางปัญญาให้กับชาวนา จึงหันมาสนับสนุนงบฯการจัดอบรม ในลักษณะนี้ขึ้น "นายธีรพงศ์
นางอำไพ ดวงแก้ว อายุ 42 ปี อยู่บ้านเลขที่ 14/3 หมู่ 9 บ้านกระทุ่มน้ำเดือด ต.รังนก อ.สามง่าม จ.พิจิตร เล่าว่า ตนเองทำนาอยู่ 40 ไร่ และเพื่อนๆชาวนารวม 35 คนได้ตัดสินใจเข้าอบรมหลักสูตรนาข้าวในครั้งนี้
ยอมรับว่าที่ผ่านมาดำเนินชีวิตชาวนาผิดพลาดเพราะขาดความรู้ความเข้าใจในปัญหา จึงใช้สารเคมีอย่างไม่มีเหตุผล ทำนาแล้วก็ต้องขาดทุนแถมร่างกายกับได้รับสารพิษ การมาเรียนครั้งนี้ได้ความรู้ว่าในธรรมชาติยังมีแมลงที่เป็นมิตรกับชาวนา เช่น แมงมุมหมาป่า แมงมุมถุง มวลเขียวดูดไข่ แมลงพวกนี้จะช่วยกำจัดเพลี้ยกระโดด
อย่างไรก็ตามที่ผ่านมายอมรับว่าฉีดยาเพราะเชื่อโฆษณาโดยไม่ได้ดูเหตุผล ซึ่งหลังจากที่อบรมแล้วมั่นใจว่าจะกลับไปพัฒนา นาข้าว ให้ปลอดจากแมลงศัตรูพืช และจะต้องลดต้นทุนการผลิต และทำนาอย่างมีสติ เพื่อให้ข้าวของ จ.พิจิตร มีคุณภาพเป็นที่ต้องการ และมั่นใจของผู้บริโภคว่าข้าวพิจิตร รสชาติอร่อย และ ปลอดสารพิษ ที่สำคัญ ชีวิตของชาวนาก็ปลอดภัย อีกด้วย
สำหรับชาวนากลุ่มใด หรือ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ต้องการให้นักวิชาการเกษตรและปราชญ์ชาวบ้านไปร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้สามารถติดต่อได้ที่ โทร 086-931-3295
ที่มา : โพสต์ทูเดย์