เกษตรอินทรีย์โลกเติบโตต่อเนื่องแม้เศรษฐกิจโลกถดถอย
วิฑูรย์ ปัญญากุล
รายงานการสำรวจสภาพการณ์เกษตรอินทรีย์โลก (The World of Organic Agriculture : Statistics and Emerging Trends 2010) ที่จัดทำโดย FiBL และ IFOAM ที่เผยแพร่ในงาน BioFach เมื่อ 16 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ระบุว่า พื้นที่เกษตรอินทรีย์ทั่วโลกเพิ่มขึ้นกว่า 18 ล้านไร่ ทำให้มีพื้นที่เกษตรอินทรีย์ของโลกรวมกันกว่า 218.75 ล้านไร่ โดยราวสองในสามของพื้นที่เกษตรอินทรีย์นี้เป็นพื้นที่ทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ สำหรับประเทศที่มีพื้นเกษตรอินทรีย์มากที่สุด คือ ออสเตรเลีย อาร์เจนตินา และจีน ซึ่งออสเตรเลียและอาร์เจนตินายังคงครองอันดับประเทศที่มีพื้นเกษตรอินทรีย์มากที่สุดมาอย่างต่อเนื่องยาวนาน
ในขณะเดียวกัน จำนวนเกษตรกรที่ทำเกษตรอินทรีย์ก็เพิ่มขึ้นเป็นเกือบ 1.4 ล้านครอบครัว โดยประเทศที่มีเกษตรกรมากที่สุด คือ อินเดีย (340,000 ครอบครัว) ยูกานดา (180,000 ครอบครัว) และเม็กซิโก (130,000 ครอบครัว) ส่วนประเทศที่มีพื้นที่เกษตรอินทรีย์ในสัดส่วนที่สูงที่สุดคือ โฟลค์แลนด์ (36.9 %) ลิเชนสไตน์ (29.8 %) และออสเตรีย (15.9 %)
ส่วนการเก็บเกี่ยวผลผลิตจากธรรมชาติอย่างยั่งยืนนั้น (ซึ่งสามารถขอการรับรองมาตรฐานเกษตรอินทรีย์ได้ด้วยเช่นกัน) และการเลี้ยงผึ้งแบบเกษตรอินทรีย์ มีพื้นที่รวมกันราว 193.75 ล้านไร่ ซึ่งราวสองในสามอยู่ในประเทศกำลังพัฒนา (ตรงกันข้ามกันกับพื้นที่เพาะปลูกเกษตรอินทรีย์ ที่เพียงหนึ่งในสามอยู่ในประเทศกำลังพัฒนา) นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่เกษตรอินทรีย์อื่นๆ คือ พื้นที่เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ 2.69 ล้านไร่, พื้นที่ป่า 62,500 ไร่, และพื้นที่ทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ที่ไม่ใช่พื้นที่เกษตรอีกประมาณ 2 ล้านไร่
สำหรับตลาดเกษตรอินทรีย์โลก มูลค่าการขายรวมของปี 2551 น่าจะมูลค่าสูงถึง 50,900 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยตลาดยุโรปและสหรัฐอเมริกายังคงครองจ้าวตลาดอยู่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งสองตลาดใหญ่นี้มีส่วนแบ่งตลาดรวมกันกว่า 97% ของตลาดเกษตรอินทรีย์โลก แต่มีรายงานข่าวอย่างไม่เป็นทางการเพิ่มเติมว่า ตลาดเกษตรอินทรีย์ในประเทศจีนได้ขยายตัวขึ้นมากในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา จนแซงหน้าตลาดเกษตรอินทรีย์ของประเทศญี่ปุ่นแล้ว
สงวนลิขสิทธิ์โดย © ++kasetloongkim.com++ All Right Reserved.