-
++kasetloongkim.com++ - Content
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ

เมนูหลัก

» หน้าแรก
» เว็บบอร์ด
» ผู้ดูแล
» ไม้ผล
» พืชสวนครัว
» พืชไร่
» ไม้ดอก-ไม้ประดับ
» นาข้าว
» อินทรีย์ชีวภาพ
» ฮอร์โมน
» จุลินทรีย์
» ปุ๋ยเคมี
» สารสมุนไพร
» ระบบน้ำ
» ภูมิปัญญาพื้นบ้าน
» ไร่กล้อมแกล้ม
» โฆษณา ฟรี !
» โดย KIM ZA GASS
» สมรภูมิเลือด
» ชมรม

ผู้ที่กำลังใช้งานอยู่

ขณะนี้มี 377 บุคคลทั่วไป และ 0 สมาชิกเข้าชม

ท่านยังไม่ได้ลงทะเบียนเป็นสมาชิก หากท่านต้องการ กรุณาสมัครฟรีได้ที่นี่

เข้าระบบ

ชื่อเรียก

รหัสผ่าน

ถ้าท่านยังไม่ได้เป็นสมาชิก? ท่านสามารถ สมัครได้ที่นี่ ในการเป็นสมาชิก ท่านจะได้ประโยชน์จากการตั้งค่าส่วนตัวต่างๆ เช่น ฉากหรือพื้นโปรแกรม ค่าอ่านความคิดเห็น และการแสดงความเห็นด้วยชื่อท่านเอง

สถิติผู้เข้าเว็บ

มีผู้เข้าเยี่ยมชม
PHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG Counter ครั้ง
เริ่มแต่วันที่ 1 มกราคม 2553

product13

product9

product10

product11

product12

ข่าวเกษตร15





พริกไทยหลัง AFTA ยังสดใส 
สศก.ชี้ได้เปรียบคุณภาพชาติคู่แข่ง/คาดปีนี้ผลผลิตลด
นายอภิชาต จงสกุล เลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เผยว่า จากการติดตามสถานการณ์การผลิตและการตลาดพริกไทยเมื่อเดือนมีนาคม โดยเฉพาะใน จ.จันทบุรี ซึ่งมีพื้นที่ปลูกและผลผลิตคิดเป็นประมาณร้อยละ 98 ของพื้นที่ปลูกและผลผลิตพริกไทยทั้งประเทศ พบว่า เกษตรกรเก็บเกี่ยวผลผลิตไปแล้วประมาณร้อยละ 80 ซึ่งจากสภาพอากาศที่ร้อนจัดอย่างต่อเนื่อง ทำให้ผลผลิตในปีนี้ออกล่าช้า ส่วนที่เหลือจะเก็บเกี่ยวได้ภายในเดือนเมษายน โดยคาดว่าจะมีผลผลิต 6,956 ตัน เพิ่มขึ้นจากปีที่ผ่านมาร้อยละ 5

อย่างไรก็ตาม การผลิตมีแนวโน้มลดลง สาเหตุสำคัญมาจากสภาพดินเสื่อมโทรมและเกษตรกรมีทางเลือกในการปลูกพืชหลายชนิดที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า จึงได้ปรับเปลี่ยนไปปลูกพืชอื่น เช่น ยางพารา และแก้วมังกร ซึ่งเกษตรกรบางรายจะขายในรูปพริกไทยอ่อน เนื่องจากสามารถขายผลผลิตโดยไม่สูญเสียน้ำหนักและไม่มีต้นทุนในการทำเป็นพริกไทยเมล็ดแห้ง โดยขายได้ในราคาเฉลี่ย กิโลกรัมละ 40 บาท ทำให้ผลผลิตพริกไทยเมล็ดแห้งคาดว่าจะเหลือประมาณ 4,000 ตัน และราคาที่เกษตรกรขายได้ของพริกไทยดำเกรดคละในเดือนมีนาคม อยู่ระหว่างกิโลกรัมละ 80-110 บาท ส่วนพริกไทยขาวอยู่ระหว่างกิโลกรัมละ 170-180 บาท

ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2553 เป็นต้นมา ไทยได้เปิดเสรีสินค้าพริกไทยภาษีร้อยละ 0 ตามข้อตกลงการค้าเสรีอาเซียน (AFTA) ซึ่งจากการติดตามสถานการณ์พบว่า มีการนำเข้าพริกไทยจากประเทศเพื่อนบ้าน ได้แก่ เวียดนาม กัมพูชาและลาว แต่ยังไม่ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรผู้ปลูกพริกไทย เนื่องจากมีข้อได้เปรียบในเรื่องคุณภาพ โดยเฉพาะกลิ่นและรสชาติทำให้พริกไทยจันทบุรียังเป็นที่ต้องการของตลาด จึงคาดว่าอนาคตพริกไทยหลังเปิด AFTA ยังคงสดใส ราคามีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นเนื่องจากความต้องการของผู้ประกอบการยังคงมีอย่างต่อเนื่อง แต่อาจมีปัญหาเกี่ยวกับผลผลิตมีไม่เพียงพอกับความต้องการใช้ในประเทศ ทำให้ต้องมีการนำเข้าเพิ่มขึ้น เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาดังกล่าว


ที่มา  :  แนวหน้า









สงวนลิขสิทธิ์โดย © ++kasetloongkim.com++ All Right Reserved.

ติดประกาศ: 2010-04-23 (1533 ครั้ง)

[ ย้อนกลับ ]
Content ©