กระเทียมอินทรีย์ "น้ำปาด" ตั้งเป้า 3 ปีส่งออกต่างแดน
พื้นที่ดินร่วนปนทรายใน อ.น้ำปาด จ.อุตรดิตถ์ ที่กรมส่งเสริมการเกษตรระบุว่าเป็นแหล่งปลูกกระเทียมคุณภาพดีที่สุด มีรสเผ็ดและกลิ่นฉุน กลายเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของกระเทียมน้ำปาด การันตีด้วยรางวัลกระเทียมที่มีคุณสมบัติทางยาสูงอันดับที่ 1 ของประเทศ ทำให้กระเทียมน้ำปาดขึ้นชื่อและเป็นที่ต้องการของตลาด ไม่เฉพาะการนำกระเทียมปรุงอาหารแบบสดๆ เท่านั้น การแปรรูปเป็นส่วนผสมของเครื่องเทศจำหน่ายทั่วประเทศ สร้างงานสร้างรายได้สู้เกษตรกรเป็นอย่างยิ่ง
ชั้น บุญทันมา ประธานกลุ่มกระเทียมน้ำปาด เปิดเผยว่า จากอดีตจนปัจจุบันในพื้นที่ ต.บ้านฝาย ต.เด่นเหล็ก ต.แสนตอ ของ อ.น้ำปาด ยึดอาชีพปลูกกระเทียมขาย โดยมีพื้นที่ทั้งสิ้นกว่า 5,000 ไร่ ด้วยชื่อเสียงและความต้องการของผู้บริโภคต่อกระเทียมน้ำปาดมีเป็นจำนวนมาก บางทีถูกแอบอ้างนำกระเทียมจากที่อื่นปะปนกระเทียมน้ำปาด ทำให้ผู้บริโภคผิดหวังและมีความรู้สึกไม่ค่อยดีต่อกระเทียมน้ำปาด ทำให้กระทบต่อการตลาดบ้าง
"ตลอดระยะเวลาการปลูกกระเทียม เกษตรกรโหมใช้ปุ๋ยและสารเคมี และนำกระเทียมซึ่งไม่ใช่พันธุ์พื้นเมืองหรือพันธุ์ท้องถิ่นมาปลูก ส่งผลกระทบสภาพดินที่เสื่อมโทรม ผลผลิตคุณภาพต่ำ กลายเป็นจุดเปลี่ยนของกระเทียมน้ำปาด เมื่อเกษตรกรค่อยๆ ลดพื้นที่ปลูก จนในที่สุดหายไปจากน้ำปาดในช่วงกว่า 10 ปีที่ผ่านมา แล้วหันไปปลูกพืชชนิดอื่นแทน" ประธานกลุ่มกระเทียมน้ำปาดเผย
ขณะที่ มาลัย อินคำน้อย เกษตรกรปลูกกระเทียมน้ำปาด บอกว่า ประสบการณ์ที่ผ่านมาชาวน้ำปาดเจ็บปวดและต้องจดจำ ทั้งๆ ที่มีของดี คุณภาพดีที่สุดในโลก มาถึง ณ วันนี้ ทิศทางของกระเทียมน้ำปาดกำลังกลับมาดีขึ้นและมาในรูปแบบใหม่ เป็นการฟื้นฟูทั้งตัวเกษตรกรและพื้นที่ปลูก ส่วนกระเทียมน้ำปาดต้องปลูกพื้นที่ 3 ตำบลเท่านั้น เนื่องจากสภาพดินร่วงปนทรายทำให้ปลูกกระเทียมได้ดี และมีเอกลักษณ์ที่กระเทียมที่ไหนๆ ลอกเลียนแบบไม่ได้คือหัวกระเทียมจะเป็นสีม่วง เปลือกบาง กลิ่นฉุน ไม่ฝ่อ รสเผ็ดมาก และมีธาตุกำมะถันสูง ซึ่งเป็นผลยืนยันจากกรมส่งเสริมการเกษตร
เธอย้ำด้วยว่านับเป็นความโชคดีของเกษตรกรชาวน้ำปาดที่นายนพรุจ ปิยะจิตติวงศ์ นักธุรกิจบริษัท การ์ลิคไทยน้ำปาด จำกัด ซึ่งชื่นชอบและเคยรับประทานกระเทียมน้ำปาด มีโอกาสเดินทางมาท่องเที่ยว อ.น้ำปาดและหาซื้อกระเทียมไปรับประทาน เมื่อทราบถึงปัญหาและการหยุดปลูกกระเทียมของชาวน้ำปาด จึงปลุกกระแส กระตุ้นให้เกษตรกรฟื้นความเป็นกระเทียมน้ำปาดกลับมาอีกครั้ง พร้อมจัดทีมงานนักวิชาการ ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาด ลงพื้นที่ก่อเกิด กระเทียมโทน หัวเดียวไม่มีกลีบที่ อ.น้ำปาด คุณภาพดีที่สุดในโลก
"ขณะนี้มีเกษตรกรที่ร่วมโครงการจำนวน 53 ราย พื้นที่ปลูก 102 ไร่ เป็นเกษตรกรกลุ่มแรกที่ตัดสินใจปลูกกระเทียมน้ำปาด ด้วยความหวังอยากเห็นน้ำปาดคือแหล่งปลูกและส่งออกกระเทียมคุณภาพดีที่สุดในโลกอีกครั้ง โดยเกษตรกรจัดตั้งนามกลุ่มกระเทียมน้ำปาด ปลูกกระเทียมปลอดสารพิษ" มาลัยกล่าว
ด้าน ไกรวุฒิ หีบแก้ว ผู้จัดการโครงการกระเทียมน้ำปาดปลอดสารพิษยอมรับว่า ระยะเวลาปีแรกของการกลุ่มเกษตรกรถือว่าประสบความสำเร็จ เกษตรกรพึงพอใจ เนื่องจากบริษัทรับซื้อกระเทียมแบบคละหัวราคาเดียวกิโลกรัมละ 25 บาท ไม่ต้องนำไปเร่ขายเหมือนที่ผ่านมา แต่ต้องเป็นไปตามสัญญาว่าต้องปลูกกระเทียมปลอดสารพิษและต้องยินยอมนักวิชาการตรวจสารตลอดระยะ 3 ครั้ง หากพบมีการใช้สารเคมีจะไม่รับซื้อ
นอกจากส่งเสริมการปลูกแล้ว ยังส่งเสริมให้เกษตรกรเรียนรู้การตลาด สร้างเอกลักษณ์เป็นของตนเอง เริ่มด้วยการใช้ชื่อกระเทียมน้ำปาดแท้ปลอดสารพิษและต้องเป็นกระบอกที่มีน้ำหนัก 1 กิโลกรัมพอดี จำหน่ายกิโลกรัมละ 60 บาท ด้วยความตั้งใจภายใน 3 ปี กระเทียมน้ำปาดจะกลายเป็นแหล่งปลูกกระเทียมปลอดสารพิษเพื่อการส่งออกของประเทศอีกด้วย
" บุญพิมพ์ ใบยา"
ที่มา : คม ชัด ลึก
สงวนลิขสิทธิ์โดย © ++kasetloongkim.com++ All Right Reserved.