ปากีสถาน ปลูกพืชพื้นที่ร้อนกว่า 40 องศา
และหนาวกว่า 10 องศา
เกษตรกรในเขตพื้นที่ภาคเหนือของประเทศปากีสถาน มีการเพาะปลูกผลไม้หลากหลายชนิดนับตั้งแต่ แอพริคอต, แอปเปิ้ล, เชอร์รี่ ถั่วรวมทั้งอัลมอนด์ วอลนัทและสนถั่ว สภาพแวดล้อมที่สูงและมีอากาศบริสุทธิ์ของเทือกเขาหิมาลัย มีระบบชลประทานโดยที่มีแหล่งน้ำมาจากธารน้ำแข็งบริสุทธิ์ได้สร้างมหัศจรรย์ด้านการเพาะปลูกอย่างน่าสนใจ
ผลไม้ในปากีสถานจำเป็นที่จะต้องนำมาแปรรูปเป็นผลไม้แห้งเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากระบบการขนส่งภายในประเทศค่อนข้างจะไม่สะดวก ผลไม้แห้งและถั่วมีการใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์อบแห้งผลไม้สดและแปรรูปถั่ว
ขณะเดียวกัน ปากีสถานยังได้มีการสนับสนุนให้เกษตรกรของตนเองทำการเกษตรแบบอินทรีย์ เพื่อลดค่าใช้จ่ายในการทำการผลิต และมีตลาดรองรับสำหรับผลผลิต มีการฝึกอบรมเกษตรกรอย่างต่อเนื่องเพื่อให้สามารถทำการผลิตได้ทันตามความต้องการของตลาด ทั้งตลาดส่งออกและตลาดภายในประเทศ
อย่างแอพริคอต วอลนัทและอัลมอนด์เกษตรกรที่ทำการผลิตจะได้รับการประกัน ราคาขั้นต่ำ ทางการได้เข้าไปส่งเสริมและสนับสนุนการจัดระบบการจัดการสินค้าประกันคุณภาพและ การควบคุมการส่งออก
ที่สำคัญในการบริหารจัดการพื้นที่เพื่อการเพาะปลูกนั้นทางการปากีสถานได้มีการจัดระบบการชลประทานให้กับเกษตรกรค่อนข้างเป็นระบบอยู่ที่ น่าสนใจไม่น้อย เนื่องจากน้ำส่วนใหญ่ที่นำ มาใช้เพื่อการนี้เป็น น้ำที่เกิดจากการละลายมาจากหิมะและน้ำแข็งจากเทือกเขา ซึ่งแน่นอนว่าหากบริหารจัดการไม่ดียามเกิดการแปรปรวนของสภาพภูมิอากาศโอกาสของการขาดแคลนน้ำก็จะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน
ขณะที่ความต้องการของผู้บริโภคมิได้ชะลอความต้องการตามสภาพภูมิอากาศ ซึ่งจากแนวทางดังกล่าวยังผลให้การเพาะปลูกเพื่อเลี้ยงผู้คนในประเทศสามารถดำรงอยู่และมีสนองความต้องการอย่างเพียงพอ และก็ ยังสามารถส่งออกไปจำหน่ายต่างประเทศ นำเงินตราเข้าประเทศได้อีกด้วย ที่สำคัญยังมีการบริหารการเพาะปลูกที่อิงต่อสภาพภูมิอากาศ หากจะกล่าวแบบการเกษตรไทย ก็เรียกว่า เป็นการบังคับการเจริญเติบโตและการให้ผลผลิตของพืชนั่นเอง อย่างที่มารีเมือง ท่องเที่ยวสำคัญของปากีสถานที่มีผู้ คนทั้งในประเทศและต่างประเทศรวมถึงคนไทยจำนวนไม่น้อยใฝ่ฝันที่จะได้สัมผัสกับพื้นที่และบรรยากาศ พบว่าอาหารที่สำคัญและมีจำหน่ายอย่าง ต่อเนื่องทุกฤดูกาล ก็คือ ถั่วชนิด ต่าง ๆ รวมไปถึงผลไม้นานาชนิดที่แห่งนี้ไม่เคยขาด
มารีเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ผู้คนให้ความสนใจทั้งกลางวันและกลางคืน ฉะนั้นอาหารและผลไม้จึงสามารถจำหน่ายได้ทั้ง กลางวันและกลางคืนเช่นกัน จึงนับเป็นแหล่งหนึ่งของประเทศปากีสถานที่น่าจะเรียกได้ว่าเป็นแหล่งเผยแพร่ผลผลิตและผลิตภัณฑ์ของตนออกสู่การลิ้มลอง ของผู้คนจากประเทศอื่น ๆ ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อนักท่องเที่ยวติดใจแล้วโอกาสของการแสวงหาผลไม้เหล่านั้นก็ย่อมที่จะเกิดขึ้นตามมา และเมื่อเกิดขึ้นก็แน่นอนว่า ปากีสถานสามารถส่งผลไม้ชนิดนั้น ๆ ไปยังต่างประเทศในอนาคตเพิ่มขึ้นนั่นเอง.
tidtangkaset@dailynews.co.th
http://www.dailynews.co.th/web/index.cfm?page=content&categoryID=340&contentID=82874
สงวนลิขสิทธิ์โดย © ++kasetloongkim.com++ All Right Reserved.