รายงานพิเศษ วช. เรื่อง
เครื่องหยอดข้าวและเครื่องหว่านข้าวพ่วงรถไถเดินตาม
นักประดิษฐ์ไทย สร้างเครื่องหยอดข้าวและเครื่องหว่านข้าวพ่วงรถไถเดินตามสำเร็จ เป็นครั้งแรกในประเทศไทย จนได้รับรางวัลจากสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ หวังช่วยทุ่นแรงและลดต้นทุนให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวในประเทศไทย
ข้าวไทย เป็นที่ยอมรับจากทั่วโลกว่ามีรสชาติอร่อยและคุณภาพดี ซึ่งหนึ่งในพันธุ์ที่ดีที่สุดคือข้าวขาวดอกมะลิ 105 ที่ปลูกกันมากในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของไทย ทั้ง จ.สุรินทร์ ร้อยเอ็ด ยโสธร ศรีสะเกษ บุรีรัมย์ และมหาสารคาม แต่พื้นที่ดังกล่าวมักประสบปัญหาภัยแล้ง และการปลูกข้าวโดยการหว่านของเกษตรกร มักทำไม่ทันฝนแรกในฤดูฝนและเมื่อพบฝนทิ้งช่วง จะไม่สามารถปลูกข้าวได้ผลตามต้องการ
ดังนั้น นายสุรเวทย์ กฤษณะเศรณี จึงเริ่มคิดค้นเครื่องหยอดข้าวและเครื่องหว่านข้าวพ่วงรถไถเดินตาม เครื่องแรกของไทย ตั้งแต่ปี 2545 จนสำเร็จและได้รับรางวัลผลงานประดิษฐ์คิดค้น สาขาเกษตรศาสตร์และชีววิทยา ประจำปี 2550 จากสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.)
โดยเครื่องดังกล่าวเป็นการดัดแปลงรถไถเดินตามที่เกษตรกรมีอยู่แล้ว มาใช้ให้เกิดประโยชน์เป็นเครื่องหยอดและหว่านข้าวในเครื่องเดียวกัน โดยใช้ถังบรรจุเมล็ดข้าวและชุดกำหนดเมล็ดข้าวร่วมกัน โดยใช้อุปกรณ์เปิดร่องและกลบเมล็ด
ในกรณีหยอดข้าว ส่วนกรณีหว่านข้าวจะใช้อุปกรณ์กระจายเมล็ดติดที่ผลจานที่ใช้ในการเตรียมดิน เมื่อใช้เครื่องดังกล่าวจะช่วยทุ่นแรงเกษตรกร เพราะทำงานได้เร็วถึงกว่า 10 ไร่ต่อวัน หมดปัญหาปลูกไม่ทันฝน ลดความเสี่ยงในกรณีฝนทิ้งช่วง ช่วยแก้ปัญหาความไม่สม่ำเสมอของต้นข้าว
ซึ่งเครื่องดังกล่าวสามารถควบคุมจำนวนและความสม่ำเสมอของเมล็ดที่หยอดและหว่านลงไปได้ โดยใช้เมล็ดเพียง 10 กิโลกรัมต่อไร่ จากเดิมหากเกษตรกรลงมือเองต้องใช้เมล็ดกว่า 20-30 กิโลกรัมต่อไร่ จึงช่วยลดอัตราการใช้เมล็ดพันธุ์และต้นทุนให้เกษตรกรได้ถึงร้อยละ 50 และยังได้ผลผลิตต่อไร่เพิ่มขึ้นอีกร้อยละ 18 จากความสม่ำเสมอของเมล็ดที่ลงไป
ทั้งนี้ นายสุรเวทย์ กล่าวว่า ขณะนี้กำลังต้องการขยายและส่งเสริมให้โรงงานที่มีความพร้อม และอยู่ในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ได้เข้ามาผลิตเครื่องดังกล่าวในเชิงพาณิชย์ หากผลิตในเชิงพาณิชย์ทีละมากๆ จะเป็นการลดต้นทุนเครื่องให้มีราคาถูกลงยิ่งขึ้น
จากเดิมที่เครื่องหว่านขนาดเล็กติดรถไถเดินตาม ราคากว่า 4,000 บาท เครื่องหว่านขนาดใหญ่ติดรถแทรกเตอร์ ราคา 10,000 บาท ส่วนเครื่องหยอดขนาดเล็กติดรถไถเดินตาม เครื่องละ 9,000 บาท และเครื่องหยอดขนาดเล็ก ติดรถแทรกเตอร์ ราคาเครื่องละ 40,000 บาท ทั้งนี้หากราคาถูกลง จะช่วยให้เกษตรกรรายย่อยมีโอกาสได้ใช้เครื่องดังกล่าวมากขึ้น
โดยปัจจุบันได้มีการผลิตเครื่องดังกล่าวจำหน่ายให้เกษตรกรไปแล้วกว่า 40 เครื่อง โดยมีโรงงานอยู่แห่งเดียวที่ จ.ลพบุรี ซึ่งหากมีการผลิตในพื้นที่ ก็จะลดค่าขนส่งไปได้มาก โดยคณะผู้วิจัยจะสนับสนุนความรู้ให้โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด เพื่อช่วยให้เกษตรกรสามารถลดต้นทุนการผลิต แต่ได้ผลผลิตที่มากขึ้นในเวลาที่เร็วขึ้น หากผู้ประกอบการหรือเกษตรกรที่สนใจเครื่องดังกล่าว สามารถติดต่อเพิ่มเติมกับคณะผู้วิจัยได้ที่โทร. 08-4656-8019
news.sanook.com › สกู๊ปพิเศษ -
สงวนลิขสิทธิ์โดย © ++kasetloongkim.com++ All Right Reserved.