ยืนยันภูมิปัญญาถิ่น ใช้วิทย์พิสูจน์กระถินไล่ "แมลงวัน"
วรเทพ พิกุลทอง “น้องอวย” จากโรงเรียนสุราษฎร์ธานี
เริ่มเข้าสู่หน้าร้อน หลายๆ พื้นที่ก็ได้รับสัญญาณบอกกล่าวจาก “พายุฤดูร้อน” ที่กระหน่ำพัดจนหลายแห่งเสียหายไปพอสมควร นอกจากอากาศที่ร้อนจัดแล้ว “แมลงวัน” ก็เป็นอีกสัญลักษณ์หนึ่งของฤดูกาลนี้ ซึ่งไม่เพียงแต่สร้างความรำคาญเท่านั้น ยังพ่วงความสกปรกและเชื่อโรคมาด้วย
หลายคนมีวิธีจัดการเจ้าพันตาด้วยวิธีต่างๆ บ้างใช้ “กาวดักแมลงวัน” บ้างใช้ยาฆ่าแมลง หรือบ้างก็ใช้แผ่นซีดีแขวนไล่แมลงวันซึ่งก็ได้ผลอีกวิธีหนึ่ง แต่นายวรเทพ พิกุลทอง หรือ “น้องอวย” จากโรงเรียนสุราษฎร์ธานี เลือกที่จะใช้สารสกัดจากกระถินที่มั่นใจในความปลอดภัยได้มากกว่า อีกทั้งยังเป็นการใช้วิทยาศาสตร์ยืนยันภูมิปัญญาท้องถิ่นว่าใช้ได้จริงอีกด้วย
น้องอวยเล่าว่านำเมล็ดกระถินแก่ไปคั่วแล้วบดให้ละเอียด จากนั้นนำไปสกัดสารเคมีสำหรับไล่แมลงวันด้วยเอทิลแอลกอฮอล์โดยแช่ทิ้งไว้ 12 ชั่วโมง จากนั้นทำให้แอลกอฮอล์ระเหยซึ่งจะได้สารสกัดออกมา แล้วนำสารสกัดที่ได้ไปใส่กระปุกพลาสติกขนาดประมาณ 50 ลูกบาศก์เซนติเมตรซึ่งมีแท่งคาร์บอนตรงกลาง จากนั้นนำไปใช้กับเครื่องระเหยสารไฟฟ้าที่โดยทั่วไปใช้สำหรับไล่ยุง
ส่วนการทดสอบประสิทธิภาพน้องอวยได้ทำกล่องซึ่งล้อมรอบด้วยตาข่ายทุกด้าน โดยทำพื้นสีเขียวซึ่งน้องอวยอธิบายว่าเป็นสีที่ดึงดูดแมงวันได้ดี จากนั้นนำเปลือกกุ้งไปใส่ไว้เพื่อล่อให้แมลงวันเข้าไปในกล่องทางรูเล็กๆ ขนาด 1 นิ้ว เมื่อเปรียบเทียบกรณีที่ใช้สารสกัดจากกระถินและไม่ใช้แล้ว พบว่าในกล่องที่วางใกล้เครื่องระเหยสารสกัดกระถินไม่มีแมลงวันเข้าไป ส่วนกล่องที่ไม่ได้วางเครื่องระเหยสารไว้ใกล้พบแมลงวันหลายตัว
นอกจากนี้ยังได้ทดสอบว่าระยะที่ไกลสุดที่สารกระถินจะไล่แมลงวันได้ไกลแค่ไหน ก็จะใช้วิธีเลื่อนเครื่องระเหยสารออกจากกล่องที่ใส่เปลือกกุ้งล่อแมลงวันได้ จากผลการทดลองพบว่าสามารถไล่แมลงวันได้ดีในรัศมี 1.5 เมตร พร้อมทั้งได้นำไปให้ผู้ประกอบการอาหารได้ทดลองใช้ 100 คนซึ่ง 87 คนในจำนวนนั้นชื่นชอบกับผลลัพธ์ที่ได้
ส่วนที่มาของโครงการนี้น้องอวยกล่าวว่าเพราะช่วงเดือน เม.ย.-มิ.ย.จะเป็นช่วงที่มีแมลงวันระบาดมากที่สุด และแมลงวันก็เป็นพาหะของโรคท้องร่วงอีกด้วย ขณะเดียวกันก็เคยได้ข่าวว่ามีแมลงวันเข้าไปไข่ในเยื่อโพรงจมูกและรูหูของชายคนหนึ่งเมื่อปีที่ผ่านมา จึงคิดที่จะหาวิธีไล่แมลงวันที่ใช้ภูมิปัญญาท้องถิ่น ซึ่งได้ทราบข้อมูลว่าเวลาชาวบ้านทำ “ปลาส้มฟัก” จะใส่เมล็ดกระถินลงไปด้วยเพื่อป้องกันหนอนแมลงวัน ทำให้เกิดความคิดว่าหากป้องกันหนอนแมลงวันได้ ก็น่าจะไล่แมลงวันได้เช่นกัน
สำหรับโครงงานนี้ได้รับรางวัลชนะเลิศอันดับ 2 จากการประกวดโครงงานวิทยาศาสตร์กับสมาคมวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ ประจำปี 2548 และยังเป็นโครงงานที่นำเสนอเพื่อคัดเลือกเข้าโครงการพัฒนาอัจฉริยภาพทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีสำหรับเด็กและเยาวชน (JSTP) ของสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ด้วย
อย่างไรก็ดีน้องอวยกล่าวว่าข้อจำกัดของสารสัดนี้คือกระจายกลิ่นได้น้อยทำให้ไล่แมงวันได้วงแคบๆ จึงคิดจะแก้ปัญหาโดยใช้เพิ่มขนาดแท่งคาร์บอนซึ่งได้รับความร้อนจากขดลวดในเครื่องกระจายกลิ่นให้ใหญ่ขึ้น อีกทั้งขณะนี้ยังไม่สามารถบอกได้ว่าสารที่ไล่แมลงนั้นคืออะไร เป็นสารประกอบชนิดไหนซึ่งต้องศึกษาต่อไป แต่อย่างน้อยก็สามารถยืนยันว่าภูมิปัญญาท้องถิ่นเรื่องกระถินนั้นใช้ไล่แมลงวันได้
ที่มา : ผู้จัดการ - ร.ร.สุราษฎร์ธานี
สงวนลิขสิทธิ์โดย © ++kasetloongkim.com++ All Right Reserved.