-
++kasetloongkim.com++ - Content
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ

เมนูหลัก

» หน้าแรก
» เว็บบอร์ด
» ผู้ดูแล
» ไม้ผล
» พืชสวนครัว
» พืชไร่
» ไม้ดอก-ไม้ประดับ
» นาข้าว
» อินทรีย์ชีวภาพ
» ฮอร์โมน
» จุลินทรีย์
» ปุ๋ยเคมี
» สารสมุนไพร
» ระบบน้ำ
» ภูมิปัญญาพื้นบ้าน
» ไร่กล้อมแกล้ม
» โฆษณา ฟรี !
» โดย KIM ZA GASS
» สมรภูมิเลือด
» ชมรม

ผู้ที่กำลังใช้งานอยู่

ขณะนี้มี 311 บุคคลทั่วไป และ 0 สมาชิกเข้าชม

ท่านยังไม่ได้ลงทะเบียนเป็นสมาชิก หากท่านต้องการ กรุณาสมัครฟรีได้ที่นี่

เข้าระบบ

ชื่อเรียก

รหัสผ่าน

ถ้าท่านยังไม่ได้เป็นสมาชิก? ท่านสามารถ สมัครได้ที่นี่ ในการเป็นสมาชิก ท่านจะได้ประโยชน์จากการตั้งค่าส่วนตัวต่างๆ เช่น ฉากหรือพื้นโปรแกรม ค่าอ่านความคิดเห็น และการแสดงความเห็นด้วยชื่อท่านเอง

สถิติผู้เข้าเว็บ

มีผู้เข้าเยี่ยมชม
PHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG Counter ครั้ง
เริ่มแต่วันที่ 1 มกราคม 2553

product13

product9

product10

product11

product12

ทับทิม




หน้า: 1/2




ที่มา : http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=gingerfever&month=10-2006&date=28&group=3&gblog=5



ทับทิม                 

      
         ลักษณะทางธรรมชาติ
               
      * เป็นไม้ผลยืนต้นอายุหลายสิบปี ทรงพุ่มสูงใหญ่ขนาดกลาง กิ่งเล็กโปร่งระเกะระกะ ปลูกได้ทุกพื้นที่ ทุกภาค และทุกฤดูกาล เจริญเติบโตได้ดีในดินร่วนปนทรายโปร่ง มีอินทรีย์วัตถุมากๆ น้ำและอากาศผ่านสะดวก ไม่ทนต่อสภาพน้ำท่วมขังนานหรือชื้นแฉะ  และต้องการแสงแดดร้อยเปอร์เซ็นต์ 
               

      * ช่วงพักต้นต้องการน้ำน้อย แต่ช่วงพัฒนาดอกและผลต้องการน้ำสม่ำเสมอ
                
      * การเจริญเติบโตของต้นโดยการแตกกิ่งหรือหน่อเรียกว่า  ลำ  จากส่วนโคนต้นใกล้ผิวดิน  ลำนี้เมื่อโตขึ้นจะเป็นส่วนหนึ่งของต้น  ซึ่งจะแตกกิ่งแขนงและกิ่งย่อยสำหรับออกดอกติดผลต่อไป
                

      * ต้นที่ปลูกจากเพาะเมล็ดให้ผลผลิตได้เมื่ออายุต้น 2-3 ปี  แต่ต้นที่ปลูกจากกิ่งตอนหรือกิ่งทาบจะให้ผลผลิตเมื่ออายุต้น 1 ปีครึ่ง - 2 ปี
               

      * ต้นที่อายุมากๆทรงพุ่มขนาดใหญ่จะให้ผลไม่ดกและคุณภาพไม่ดี  ใน  1 ต้น (กอ) ควรมีลำ 3-5 ลำแล้วตัดแต่งกิ่งให้ทรงพุ่มโปร่งจะให้ผลดกและคุณภาพดีกว่า
               

      * ออกดอกติดผลได้ตลอดปีแบบไม่มีรุ่น  การจัดแปลงปลูกแบบแบ่งพื้นที่เป็นส่วนๆแล้วปฏิบัติบำรุงให้ได้ผลผลิตคุณภาพเกรด เอ. ขนาดจัมโบ้. ได้ผลผลิตในช่วงที่ตลาดมีความต้องการสูง  สามารถทำได้ไม่ยากนัก
               

     * ออกดอกจากซอกใบของปลายกิ่งแขนงที่เกิดใหม่ในปีนั้น  ดอกตัวผู้ (เกสรตัวผู้) กับดอกกระเทย (เกสรตัวผู้เกสรตัวเมียอยู่ในดอกเดียวกัน) แยกกันคนละดอกแต่อยู่ในต้นเดียวกัน เกสรตัวผู้กับเกสรตัวเมียในดอกกระเทยผสมกันได้แต่ส่วนใหญ่ไม่ค่อยมีโอกาสได้ผสมกันเองเพราะเกสรตัวผู้ซึ่งเกิดก่อนและพร้อมผสมก่อนเกสรตัวเมียฝ่อหรือบอดก่อน เกสรตัวเมียจึงต้องอาศัยละองเกสรตัวจากดอกอื่นทั้งจากต้นเดียวกันและต่างต้น.... ถ้านำเมล็ดของผลที่เกิดจากเกสรตัวผู้กับเกสรตัวเมียในดอกเดียวไปเพาะโอกาสกลายพันธุ์จะมีน้อย  แต่ไม่หมายความว่าไม่กลายพันธุ์ทั้งร้อยเปอร์เซ็นต์  นั่นคือ  ยังมีโอกาสกลายพันธุ์อยู่เหมือนกัน
               

      * เป็นพืชที่มีระบบรากตื้นหากินบริเวรผิวหน้าดิน  กรณีนี้ให้พูนดินโคนต้นสูงๆแผ่กว้างทั่วพื้นที่ทรงพุ่มปีละครั้ง  และแก้ไขด้วยการเสริมราก  หรือปลูกโดยเพาะเมล็ด เสริมรากแล้วเปลี่ยนยอด
               

      * ชอบสภาพแวดล้อมลักจืดลักเค็ม แปลงปลูกที่อยู่ใกล้ทะเล  มีลมทะเลพัดผ่านเสมอจะให้ผลผลิตดีกว่าแปลงปลูกในพื้นที่ห่างทะเล แต่ต้นที่ปลูกในแปลงใกล้ทะเลจะมีระบบรากน้อยกว่าแปลงปลูกในพื้นที่ห่างทะเล
               

      * ใช้ใบชาที่ชงจนน้ำจืดแล้วผสมอินทรีย์วัตถุหรือใส่โคนต้นจะช่วยให้คุณภาพผลผลิตดีขึ้น
               

      * ออกดอกติดผลได้ตลอดปีโดยทยอยออกแบบไม่มีรุ่น
               

      * เป็นดอกสมบูรณ์เพศผสมกันเองในดอกเดียวกันต้นเดียวกันหรือต่างดอกในต้นเดียวกันหรือจากต่างต้นได้
               

      * เกสรตัวผู้หรือเกสรตัวเมียอย่างใดอย่างหนึ่งหรือทั้งสองอย่างไม่สมบูรณ์เกิดจากขาดสารอาหารหรือฮอร์โมน หรือสภาพแวดล้อมไม่เหมาะสม (อากาศร้อนหรือฝนตกชุก) ผสมกันแล้วพัฒนาเป็นผลจะเป็นผลไม่สมบูรณ์ ไม่โต รูปทรงบิดเบี้ยว
               

      *  อายุผลตั้งแต่ผสมติดถึงเก็บเกี่ยวประมาณ 4-5 เดือน    
               

      * ไม่ควรห่อผลด้วยกระดาษหยาบเพราะจะไปเสียดสีกับผิวทำให้ผิวหยาบกร้าน
               
      * เริ่มห่อผลเมื่อขนาดเท่ามะนาว ช่วงที่ผลยังมีสีเขียวอมเหลืองครีมเล็กน้อยให้ห่อด้วยวัสดุโปร่งแสง  เมื่อถึงช่วงผลแก่ใกล้เก็บเกี่ยวให้เปลี่ยนวัสดุห่อแบบโปร่งแสงเป็นทึบแสง  และจังหวะนี้ถ้ามีการแย้มถุงห่อให้ผิวผลได้รับแสงแดดบ้าง  ส่วนผิวผลบริเวณที่ได้รับแสงแดดจะเปลี่ยนสีเป็นสีแดง  ถ้าแดดจัดก็จะเป็นสีแดงจัดมาก (แดงเลือดนก)  ส่วนผิวผลบริเวณที่ไม่ได้รับแสงแดดก็จะเป็นสีเหลืองครีมเช่น
เดิม.....ทั้งนี้  ผลที่สีผิวแดงมาก (กว้างและจัด) จะมีราคาดีกว่าผลที่ผิวสีเหลืองครีมธรรมดาๆ               

       * ทับทิมมีกิ่งขนาดเล็กยาวเก้งก้างค่อนข้างไม่เป็นระเบียบ  บางกิ่งมีผล 4-5 ผล/กิ่ง  บางครั้งติดผลเป็นพวง 2-3 ผล ทำให้กิ่งต้องรับน้ำหนักมากถึงขนาดโน้มเอนราบลงพื้น  แก้ไขโดยการทำคอก 4 เหลี่ยมมีค้าง 1-2 ระดับล้อมต้นไว้คอยรับกิ่ง
               

      * เป็นผลไม้ประเภทมงคลนาม  เหมาะสำหรับใช้เป็นเครื่องเซ่นไหว้ โดยเฉพาะช่วงเทศกาลสารทจีน ตรุษจีน ไหว้พระจันทร์ เชงเม้ง  ทับทิมผลขนาดใหญ่ สีแดงเลือดนก สะอาดสดใส คุณภาพเนื้อในดี จะขายได้ราคาแพงมาก  แม้แต่การเซ่นไหว้ในวันปกติก็ยังใช้ได้ดี นอกจากมงคลนามแล้ว อายุหลังเก็บเกี่ยวที่อยู่ได้นาน  คุณค่าทางโภชนาการสูง  และคุณลักษณะอื่นๆที่เด่นเฉพาะตัว ยังเสริมให้ทับทิมเป็นผล
ไม้ในระดับแนวหน้าได้                   


         สายพันธุ์
               
        พันธุ์เมล็ดแดง :
    
               
        แสงตะวัน.  สายปัญญา.  แดงอินเดีย.  แดงมารวย.   แดงเจ้าพระยา.   เด่นตะวัน.  อติชัย. ทับทิมใหญ่ (ทับทิมแดงหรือพิลาสี). 
                                 
                 
        พันธุ์เมล็ดขาว :   
               
        ทั่วๆไปเรียกว่า  ทับทิมขาวหรือพิลาขาว  อยู่ในกลุ่มของทับทิมใหญ่  เนื้อสีขาวครีม    กลิ่นและรส
เหมือนทับทิมเมล็ดแดง  แต่ต้นมีหนามมากกว่าทับทิมแดง               
        พันธุ์เมล็ดนิ่ม :   
               
        ทับทิมเมล็ดนิ่มที่รู้จักกันมานาน คือ สายพันธุ์จากประเทศสเปน ชื่อ อติชัย  เคยมีผู้นำมาปลูกเหมือนกันย่านกลางดง ปากช่อง โคราช แต่ไม่ได้ผลเพราะทับทิมพันธุ์นี้ไม่อาจปรับตัวให้เข้ากับสภาพอากาศร้อนอย่างประเทศไทยได้
   
                

        หมายเหตุ :               
               
        ทับทิมมีทั้งพันธุ์กินผลและพันธุ์ดอก (ทับทิมกุหลาบ,  ทับทิมเล็กหรือทับทิมหนู.  ทับทิมซ้อน.) สำหรับเป็นไม้ประดับ......ทับทิมพันธุ์ดอกไม่ติดผลเพราะในดอกมีเกสรตัวผู้และเกสรตัวเมียไม่สมบูรณ์แข็งแรง
               
        ปัจจุบันมีผู้นำสายพันธุ์ต่างประเทศเข้ามาปลูก บางสายพันธุ์ได้ผลผลิตดี บางสายพันธุ์ได้ผลผลิตไม่ดี  ทั้งนี้ คุณลักษณะสายพันธุ์ที่ต้องการคือ เนื้อสีแดงจัด  หนา เมล็ดเล็ก นิ่ม รสไม่ฝาด   ถึงขนาดรับประทานได้เลย ได้แก่พันธุ์แดงอินเดีย.  แดงมารวย  แดงเจ้าพระยา  และเด่นตะวัน.  ซึ่งผู้สันทัดกรณีบางท่านกล่าวว่า  เป็นสายพันธุ์เดียวกัน  แต่ต่างคนต่างตั้งชื่อกันเองเพื่อหวังผลในการจำหน่ายต้นพันธุ์
                               

        การขยายพันธุ์
                
        -  ตอน.  ทาบกิ่ง.  เสียบยอด.  ติดตา.  ปักชำ.  เพาะเมล็ดเสริมรากเปลี่ยนยอด (ดีที่สุด)
               
        - การเพาะเมล็ด (กลายพันธุ์)  เมื่อล้างเนื้อหุ้มเมล็ดหมดแล้วนำลงเพาะทันทีเพราะเมล็ดทับทิมไม่มีระยะพักตัว
                 

         ระยะปลูก
               
         - ระยะปกติ  4 X 6  ม. หรือ  6 X 6 ม.
               
         - ระยะชิด    4 X 3  ม. หรือ  3 X 3 ม.
                

         เตรียมดินและอินทรีย์วัตถุ  
               
         - ใส่ปุ๋ยคอก (มูลวัวเนื้อ/นม + มูลไก่ไข่/เนื้อ/นกกระทา (แห้งเก่าข้ามปี) ปีละ 2 ครั้ง
  
       - ให้ยิบซั่มธรรมชาติ  ปีละ 2 ครั้ง               
         - ให้กระดูกป่น  ปีละ 1 ครั้ง  
               
         - คลุมโคนต้นด้วยเศษพืชแห้งหนาๆเต็มพื้นที่บริเวณทรงพุ่ม ล้ำออกไปถึงนอกเขตทรงพุ่ม
                
        
- ให้ปุ๋ยน้ำชีวภาพระเบิดเถิดเทิงหรือจุลินทรีย์ 1-2 เดือน/ครั้ง
                
           หมายเหตุ :
               
         - การฝังซากสัตว์ เช่น หอยเชอรี่  ปลาสด  เป็นชิ้นเท่าลูกมะนาวหรือบดละเอียด ที่ชายเขตทรงพุ่ม 4-5 หลุม/ต้นทรงพุ่ม 3-5 ม. ฝังปีเว้นปี เพื่อให้ต้นมีสารอาหารกินตลอด 24 ชม. ต่อเนื่องหลายๆปีจะทำให้ต้นมีความสมบูรณ์สูงพร้อมต่อการบำรุงทุกขั้นตอน
  
       - ให้ปุ๋ยน้ำชีวภาพ (ทางใบ-ทางราก) บ่อยเกินไปจะทำให้ต้นหยุดการเจริญเติบโต ไม่แตกใบอ่อน  ผลหยุดขยายขนาดแล้วกลายเป็นผลแก่  การให้ทางใบอาจเป็นแหล่งอาศัยและแพร่ระบาดของเชื้อราได้                  
       
- ฮอร์โมนธรรมชาติและฮอร์โมนวิทยาศาสตร์จะให้ประสิทธิภาพเต็มร้อยก็ต่อเมื่อ ต้นมีสภาพความสมบูรณ์สูง                

         เตรียมต้น
               
         ตัดแต่งกิ่ง :
               
         - ทับทิมออกดอกจากซอกใบปลายกิ่งอายุข้ามปี  การตัดแต่งกิ่งประจำปีหรือหลังเก็บเกี่ยวผลผลิตให้ตัดเฉพาะกิ่งที่ออกดอกติดผลเพื่อสร้างใบใหม่สำหรับให้ออกดอกติดผลในปีต่อไป  ส่วนกิ่งที่ไม่ออกดอกติดผลในปีนี้ให้คงไว้แล้วบำรุงต่อไป
               
         - ตัดกิ่งบังแสงแดดต่อกิ่งอื่นออก ทำให้ทรงพุ่มโปร่งจนแสงแดดสามารถส่องได้ถึงทุกกิ่งทั่วทรงพุ่ม  กิ่งได้รับแสงแดดจะสมบูรณ์ดีกว่ากิ่งไม่ได้รับแสงแดดหรือได้รับแสงแดดน้อย
         - ตัดกิ่งกระโดง  กิ่งในทรงพุ่ม  กิ่งคดงอ  กิ่งชี้ลง  กิ่งไขว้  กิ่งหางหนู  กิ่งเป็นโรค และกิ่งออกดอกติดผลแล้วเพื่อเรียกยอดใหม่สำหรับออดอกติดผลในรุ่นปีต่อไป การตัดแต่งกิ่งภายในทรงพุ่มควรให้โปร่งจนแสงส่องผ่านลงไปถึงโคนต้นได้               
         - ตัดแต่งกิ่งปกติควรตัดให้เหลือใบประมาณ 50 เปอร์เซ็นต์และเมื่อใบอ่อนชุดใหม่ออกมาแล้วให้มีใบประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์จะช่วยให้การผลิดอกติดผลดี
         
- ตัดยอดกิ่งประธาน (ผ่ากบาล) ณ ความสูงต้นตามต้องการ  นอกจากช่วยทำให้แสงแดดผ่านจากยอดเข้าสู่ภายในทรงพุ่มได้อย่างทั่วถึง   แสงแดดที่ร้อนยังช่วยกำจัดเชื้อราได้เป็นอย่างดี    และเพื่อควบคุมขนาดความสูงทรงพุ่มอีกด้วย                 
        - นิสัยทับทิมมักออกดอกหลังจากกระทบหนาวได้ระยะหนึ่ง  ดังนั้นจึงควรตัดแต่งกิ่ง-เรียกใบอ่อนช่วงต้นหน้าฝนแล้วเข้าสู่ขั้นตอนการบำรุงต่อไปตามลำดับจะทำให้ต้นมีความสมบูรณ์เต็มที่ดีกว่าการตัดแต่งกิ่งในช่วงอื่น หมายความว่า หลังจากเก็บเกี่ยวผลผลิตแล้วยังไม่ต้องตัดแต่งกิ่งแต่ให้บำรุงตามปกติต่อไปก่อน  จนกระทั่งเข้าสู่หน้าฝนจึงลงมือตัดแต่งกิ่ง
         ตัดแต่งราก :               
         - ทับทิมมีระบบรากตื้น และจำนวนน้อยจึงไม่ควรตัดแต่งราก แต่ถ้าต้องการสร้างรากใหม่ให้มีประสิทธิภาพในการหาอาหารดียิ่งขึ้นให้ใช้วิธีล่อรากด้วยการพูนโคนต้น
               
         - ต้นอายุหลายปี ขนาดทรงพุ่มใหญ่มาก ระบบรากเก่าและแก่มาก  ให้พิจารณาตัดแต่งรากส่วนปลายออก 1 ใน 4 ด้วยการพรวนดินรอบทรงพุ่มลึก 10-15 ซม. หลังจากให้ฮอร์โมนบำรุงรากไปแล้วต้นจะแตกรากใหม่จำนวนมากขึ้นและมีประสิทธิภาพในการดูดซับสารอาหารได้ดีกว่าเดิม




หน้าถัดไป (2/2) หน้าถัดไป


Content ©