-
++kasetloongkim.com++ - Content
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ

เมนูหลัก

» หน้าแรก
» เว็บบอร์ด
» ผู้ดูแล
» ไม้ผล
» พืชสวนครัว
» พืชไร่
» ไม้ดอก-ไม้ประดับ
» นาข้าว
» อินทรีย์ชีวภาพ
» ฮอร์โมน
» จุลินทรีย์
» ปุ๋ยเคมี
» สารสมุนไพร
» ระบบน้ำ
» ภูมิปัญญาพื้นบ้าน
» ไร่กล้อมแกล้ม
» โฆษณา ฟรี !
» โดย KIM ZA GASS
» สมรภูมิเลือด
» ชมรม

ผู้ที่กำลังใช้งานอยู่

ขณะนี้มี 196 บุคคลทั่วไป และ 0 สมาชิกเข้าชม

ท่านยังไม่ได้ลงทะเบียนเป็นสมาชิก หากท่านต้องการ กรุณาสมัครฟรีได้ที่นี่

เข้าระบบ

ชื่อเรียก

รหัสผ่าน

ถ้าท่านยังไม่ได้เป็นสมาชิก? ท่านสามารถ สมัครได้ที่นี่ ในการเป็นสมาชิก ท่านจะได้ประโยชน์จากการตั้งค่าส่วนตัวต่างๆ เช่น ฉากหรือพื้นโปรแกรม ค่าอ่านความคิดเห็น และการแสดงความเห็นด้วยชื่อท่านเอง

สถิติผู้เข้าเว็บ

มีผู้เข้าเยี่ยมชม
PHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG Counter ครั้ง
เริ่มแต่วันที่ 1 มกราคม 2553

product13

product9

product10

product11

product12

เทคโนฯ เกษตร





กำลังปรับปรุงครับ
ปูนขาวที่ใช้ทางการเกษตร

ดินและน้ำเป็นปัจจัยสำคัญทางการเกษตร เพราะดินและน้ำจัดเป็นปัจจัยหลักในการเกื้อหนุนผลผลิต เพื่อที่จะให้ผลผลิตที่ได้รับนั้นมีคุณภาพดีมากน้อยเพียงใด ด้วยเหตุนี้เองจุดเริ่มต้นของกิจกรรมต่างๆทางด้านการเกษตร จึงต้องมีการปรับความสมดุลของปัจจัยสำคัญๆ ที่เกี่ยวโยงไปถึงผลผลิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งการทราบถึงคุณสมบัติของดินและน้ำที่เป็นอยู่ ว่ามีสภาพอย่างไร หากไม่มีความสมดุล ก็จำเป็นจะต้องมีการปรับเปลี่ยนแก้ไขให้เหมาะสม
       ปัญหาของการปรับค่าความสมดุลของดินและน้ำให้มีความปกติ วิธีการหนึ่งในกระบวนการแก้ปัญหาดังกล่าว คือ "ปูนขาว" ซึ่งใช้ในกรณีที่เราทราบว่าดินหรือน้ำมีความเป็นกรดสูง หากแต่ว่าปูนขาวที่มีอยู่ทั่วไปที่ จะนำมาใช้ทางการเกษตรมีมากชนิด แต่อย่างไรก็ตามคุณสมบัติทางกายภาพ หรือสิ่งที่เรามองเห็นนั้นมันมีลักษณะที่ไม่ต่างกันเลย จะทำอย่างไรเพื่อจะนำมาใช้ได้อย่างถูกต้อง
        วัตถุประสงค์หลักของการนำปูนขาวมาใส่ลงในดินหรือน้ำก็คือ เมื่อสภาพของดินและน้ำมีความเป็นกรดสูง การใส่ปูนขาวลงไปเป็นการแก้ปัญหาเพื่อลดระดับความรุนแรงของกรดในดินและน้ำ ทำให้ ธาตุอาหารพืชละลายได้ดี รวมทั้งช่วยเพิ่มธาตุอาหารแคลเซียมและแมกนีเซียมให้แก่พืชไปในตัวด้วย นอกจากนั้นแล้วการใส่ปูนขาวลงไปก็ยังเป็นการลดความรุนแรง หรือฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ที่เป็นสาเหตุของโรคพืช โรคสัตว์ ในพื้นที่นั้นๆ ได้อีกด้วย
       โดยทั่วไปแล้ว "ปูนขาว" ที่มีจำหน่ายในท้องตลาดอยู่ทั่วไปมีหลายชนิด จะมีความแตกต่างกันในคุณสมบัติทางเคมี แต่คุณสมบัติทางกายภาพหรือดูจากภายนอกจะเหมือนๆ กันจนเกิดความสับสนต่อผู้ใช้ จึงต้องทำความเข้าใจประเภทของปูนขาวแต่ละชนิดดังนี้

ปูนขาวชนิดที่หนึ่งคือ หินปูน มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า แคลเซียมคาบอร์เนต (CaCo3) หินปูนบดละเอียด จะเป็นพวกหินฝุ่น ขี้เลื่อยหินอ่อน เปลือกหอยบดละเอียด ทั้งหมดนี้มีคุณสมบัติทางเคมีอย่างเดียวกัน เป็นปูนขาวตัวหลักที่เกษตรกรสามารถนำไปใช้แก้ไขดินเป็นกรดได้
                                                                          
ปูนขาวชนิดที่สองคือ ปูนมาร์ล (Marl) แคลเซียมคาบอร์เนต (CaCo3) คือหินปูนที่ผุกร่อนตามธรรมชาติ เกิดการสลาย เป็นก้อนเล็กๆ มีความอ่อนตัวลงกว่าเดิม เกิดตามบริเวณภูเขาหินปูนในประเทศไทยมีพบที่ จังหวัดลพบุรี และสระบุรี หลังจากหินปูนผุพังแล้วจะทับถมเป็นชั้น ๆ อยู่ใต้ดิน บริเวณที่เป็นชั้นของปูนมาร์ลอยู่ใกล้ผิวดินจะถูกนำมาใช้ในการเกษตรมีแร่ธาตุพวกแคลเซี่ยมมาก

ปูนขาวชนิดที่สามคือ ปูนขาวหรือปูนชื้น
ชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่าแคลเซียมไฮดรอกไซด์ (Ca(OH) 2  แต่จริง ๆ ไม่ได้ชื้น ปูนขาวชนิดนี้ที่มีขายตามร้านวัสดุก่อสร้างทั่ว ๆ ไป บรรจุถุงขายใช้ผสมปูนซีเมนต์เป็นปูนฉาบในการก่อสร้างกันมาก เราสามารถนำมาใช้แก้ดินเป็นกรด โดยเฉพาะการแก้ไขน้ำเป็นกรด จะใช้ปูนขาวชนิดนี้ กรรมวิธีในการผลิตปูนชนิดนี้ เกิดจากการเผาหินปูน หรือเปลือกหอย เมื่อได้ปูนเผา (CaO) ขณะร้อน ๆ ก็ฉีดน้ำเข้าไปทำปฏิกิริยาเกิดเป็นแคลเซียมไฮดรอกไซด์ (Ca(OH) 2 มีราคาแพง เมื่อละลายน้ำจะไม่ร้อน

ปูนขาวชนิดที่สี่คือ ปูนเผา มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า แคลเซียมออกไซค์ (CaO) เป็นหินปูนหรือเปลือกหอยนำมาเผาจนสุก ปล่อยให้เย็นแล้วบดละเอียด มีฤทธิ์ที่ มีปฏิกิริยากับกรดรุนแรง ขณะละลายน้ำจะรู้สึกร้อน หากใส่ใกล้ต้นพืชอาจทำให้เหี่ยวเฉา หรือตายได้ต้องระวังอย่าให้สัมผัสโดยตรง             
                                             
ปูนขาวชนิดที่ห้าคือ ปูนโดโลไมท์  ชื่อเรียกทางวิทยาศาสตร์ว่า แคลเซียมแมกนีเซียมคาร์บอเนต CaMg(Co3)2 เป็นหินปูนที่มีแมกนีเซียมปนอยู่ มีความเป็นด่างต่ำ ลักษณะเหมือนหินปูนบดละเอียด หากจะพิสูจน์ว่าปูนขาวชนิดไหนคือโดโลไมท์หรืออันไหนเป็นหินปูนบด จะต้องทำการวิเคราะห์ทางเคมีในห้องปฏิบัติการเพื่อหาปริมาณของแมกนีเซียมที่เจือปนอยู่ ปูนโดโลไมท์ โดยทั่วไปราคาจะแพงกว่าหินปูนแต่ถูกกว่าปูนก่อสร้าง เมื่อใช้ปูนชนิดนี้จะได้ธาตุอาหารของแพลงตอนพืชพวกแมกนีเซียม แคลเซียมเพิ่มเติมอีกด้วย
       สำหรับวิธีการใช้ปูนขาวแต่ละชนิดจะมีขั้นตอนวิธีการใช้ที่แตกต่างกันออกไป โดยเฉพาะปูนเผาที่มีความเป็นด่างสูง มีแร่ธาตุอาหารมาก ใช้ปรับสภาพน้ำที่มีความเป็นกรดมากๆ จะต้องใช้และใส่อย่างระมัดระวัง ซึ่งการปรับสภาพของดินและน้ำนั้นจะต้องดูปัจจัยสิ่งแวดล้อมด้วยว่าควรจะใช้ปูนชนิดใด เพราะแต่ละอย่างจะมีคุณสมบัติไม่เหมือนกัน ราคาแตกต่างกัน การใช้ควรใช้ด้วยความระมัดระวัง เพราะหากใช้ผิดหรือใส่ในปริมาณที่ไม่เหมาะสมก็อาจเกิดโทษและเป็นปัญหาอื่นๆ ได้อีกเหมือนกัน

http://www.igetweb.com/www/otwothailand/index.php?mo=3&art=426264









สงวนลิขสิทธิ์โดย © ++kasetloongkim.com++ All Right Reserved.

ติดประกาศ: 2010-08-25 (940 ครั้ง)

[ ย้อนกลับ ]
Content ©