| วัชพืชไม่ได้แย่งปุ๋ย แต่เป็นตัวผลิตปุ๋ยให้ต่างหาก
กำจัดวัชพืช ให้ถูกวิธี ได้ปุ๋ยฟรีๆให้กับดิน
แถมสร้างระบบนิเวศน์ให้ดีได้ด้วย
วัชพืชนั้นสามารถแพร่กระจายเข้ามาในแปลงปลูกได้หลายวิธีเช่น ติดมากับเสื้อผ้า มูลสัตว์ ปลิวมากับลม ฯลฯ รวมทั้งมากับยาเคมีบางตัวในอดีตที่ใส่เมล็ดวัชพืชมาด้วย !
ในสมัยก่อนไม่มีเครื่องทุ่นแรง ชาวสวนก็ใช้มีดงอหวดกันไปวันละไร่ 2 ไร่ ก็ยังทำกันได้ มาสมัยนี้มีทั้งเครื่องตัดสะพายหลัง ทั้งรถตัดหญ้า ทำให้สะดวกขึ้นมาก ขนาดทางภาคใต้ที่มีฝนชุก หญ้าแรง เขาก็ยังสู้กับหญ้าโดยการวางแผนตัดหญ้าได้ไม่ยาก โดยปกติแล้ว เวลาที่ต้องกำจัดหญ้าก็จะป็นช่วงที่ต้นไม้ยังไม่โตจนพุ่มชนกันในช่วงปีแรกๆของการปลูกเท่านั้น เมื่อต้นไม้โตแล้วส่วนที่ต้องดูแลมากหน่อยก็เพียงหญ้าในทางที่ใช้ผ่านเข้าออกเก็บผลผลิต ซึ่งหากวางแผนแล้วก็ไม่ยากจนเกินไป
ช่วงเวลาที่ควรวางแผนกำจัดวัชพืช
- ส่วนมากมักเป็นช่วงต้น ,กลาง และปลายของฤดูฝน ช่วงแล้งก็มักไม่มีปัญหานัก รวมแล้วตัดหญ้าเพียงปีละประมาณ 3 ครั้ง
- ตัดหญ้า / วัชพืช ก่อนที่จะออกดอก มีเมล็ดร่วงหล่นในแปลงเป็นรุ่นต่อไป
- ตัดแล้วเอาคลุมแปลงไว้ จะไปคลุมทับหญ้ารุ่นใหม่ให้ทิ้งระยะการงอกห่างออกไปได้อีก
- ดินไม่เสียเพราะไม่ได้ใช้ยาเคมี ระบบนิเวศน์ที่ดีก็หวนกลับมาอีกครั้ง
เมื่อเราสามารถวางแผนและทำการกำจัดวัชพืชได้ถูกวิธีแล้ว ก็คงไม่เห็นว่าวัชพืชต่างๆเหล่านั้นรกไม่สาบายตาไม่สบายใจอีกต่อไป
ความหมายแท้จริงของวัชพืช ก็คือพืชที่ขึ้นอยู่ในสถานที่ที่เราไม่ต้องการจะให้มันขึ้น ซึ่งหญ้าที่เราต้องกำจัดทิ้งกันอยู่เสมอๆ ก็คือวัชพืชชนิดหนึ่ง เรามักจะคิดกันไปว่าหญ้าเหล่านั้น แย่งอาหาร แย่งปุ๋ย แย่งน้ำ เป็นแหล่งอาศัยของโรคและแมลงศัตรูพืช แต่ก็ลืมพิจารณาถึงประโยชน์ที่แท้จริงมากมายของวัชพืชเหล่านั้น
ประโยชน์ของวัชพืช
- วัชพืชต่างๆ ช่วยคลุมหน้าดินไว้ ไม่ให้น้ำชะล้างเอาอาหาร ฮิวมัสต่างๆ รวมทั้งปุ๋ยที่เราใส่ให้ต้นไม้ไหลไปกับน้ำ
- วัชพืชช่วยไม่ให้แดดเผาทำลายหน้าดิน อีกทั้งรากที่ช่วยอุ้มน้ำ และยังเป็นที่อยู่อาศัยของจุลินทรีย์ จุลินทรีย์ที่อยู่ที่รากพืชจะปลดปล่อยและแลกเปลี่ยนอาหารกับจุลินทรีย์ที่อยู่ในรากของพืชที่เราปลูก เป็นการเกื้อกูลกันในระบบนิเวศน์ ทำให้พืชที่เราปลูกได้รับสารอาหารที่หลากหลาย
- วัชพืชเป็นตัวบ่งชี้ความอุดมสมบูรณ์ของดิน หากดินไม่ดีก็จะมีวัชพืชเพียงเดียวนั้นขึ้นอยู่ แต่หากดินอุดมสมบูรณ์ดีก็จะมีวัชพืชหลากหลาย รวมทั้งเมื่อเราตัดวัชพืชลงในแปลง ก็จะย่อยสลายกลายเป็นปุ๋ยพืชสด
- นอกจากนี้วัชพืชหลายชนิดก็เป็นสมุนไพรด้วย เช่น
- ดอกหญ้าคา ช่วยรักษาอาการไอ
- ใบของต้นสาบเสือ นำมาขยี้แล้วทาจะเป็นยาช่วยห้ามเลือด
- หัวของแห้วหมู ช่วยในการรักษาอาการปวดท้อง ท้องร่วง และแก้กษัย
- ต้นของผักโขมหนาม ช่วยขับปัสสาวะ แน่นท้อง
มีตัวอย่าง สวนกาแฟที่ใช้การตัดหญ้า ผลผลิตเพิ่มขึ้นตนชาวสวนคนอื่นจับตามองและทำตามก็ได้ผลดีกันทั้งนั้น , สวนส้มโอ ประมาณ 200 ต้นมีหญ้าคางอกขึ้นสูงถึงเอว ต้นส้มโอออกลูกดกขั้วเหนียว ขนาดสม่ำเสมอ น้ำหนักมากจนกิ่งหัก ต้องซอยลูกทิ้งก็มี รู้อย่างนี้แล้วจะลองดูบ้างก็น่าจะดีนะคะ
|
