กำลังปรับปรุงครับ
ปลูกข้าวระบบใหม่ ชาวนาไทยยั่งยืน
โครงการจัดระบบการปลูกข้าว เป็นนโยบายหลักของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อแก้ไขปัญหาของชาวนา โดยเฉพาะที่มีการปลูกข้าวอย่างต่อเนื่อง ทันทีหลังจากเก็บเกี่ยวข้าวครั้งที่ผ่านมา จนสามารถทำให้มีการทำนาถึงปีละ 3 ครั้ง หรือ 5 ครั้งภายใน 2 ปี ซึ่งการปลูกข้าวต่อเนื่องนี้เอง เป็นสาเหตุหลักที่สร้างปัญหาที่ตามมาอีกหลายด้าน
นายชัยฤทธิ์ ดำรงเกียรติ อธิบดีกรมการข้าว กล่าวว่า การปลูกข้าวของชาวนาในยุคนี้ที่ต้องการผลผลิตจำนวนมาก จึงมีการเร่งปลูกข้าวทันทีหลังการเก็บเกี่ยว ดังนั้น ชาวนาส่วนใหญ่จะใช้พันธุ์ข้าวอายุสั้นที่ทางราชการไม่ได้รับรองพันธุ์ ซึ่งเป็นข้าวคุณภาพต่ำมาใช้ปลูกเพื่อให้สามารถปลูกได้ 3 ครั้งต่อปี และมีการใช้เมล็ดพันธุ์ในอัตราที่มากเกินไป ควบคู่กับการใช้ปุ๋ยเคมี สารเคมีในการควบคุมโรค แมลง ศัตรูข้าวต่างๆ และใช้สารเคมีควบคุมวัชพืชและข้าววัชพืชในปริมาณมากอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ได้ผลผลิตข้าวเพิ่มขึ้น
โดยพบว่า ปัจจุบันชาวนามีการใช้
- ปุ๋ยเคมีถึงร้อยละ 88
- ใช้สารควบคุมวัชพืชร้อยละ 80
- ใช้สารควบคุมแมลงร้อยละ 63
- ใช้สารกำจัดหอยเชอรี่และปูร้อยละ 46
- ที่สำคัญยังพบว่าชาวนามีสารพิษตกค้างในร่างกายมากกว่าร้อยละ 80
สิ่งเหล่านี้เป็นตัวบ่งชี้ได้เป็นอย่างดีว่าการกระทำดังกล่าวนอกจากจะทำให้ต้นทุนการผลิตสูงขึ้นแล้ว ยังส่งผลเสียต่อสุขภาพของชาวนาเอง ส่งผลกระทบต่อคุณภาพข้าวในภาพรวมของประเทศด้วย และยังส่งผลต่อระบบนิเวศทั้งในแปลงนาและสิ่งแวดล้อม
การจัดระบบปลูกข้าว จึงเป็นหนทางออกและหนทางรอดของชาวนาไทยได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรฯ ได้บูรณาการหน่วยงานในสังกัดที่เกี่ยวข้อง รณรงค์ส่งเสริมให้ชาวนาเข้าสู่ระบบปลูกข้าว มาตั้งแต่ปี 2554 ด้วยการให้ปลูกข้าวปีละ 2 ครั้ง โดยมีรูปแบบการปลูกข้าวแตกต่างกันไป คือ จะมีทั้งแบบปลูกพืชหลังนาหรือพืชปุ๋ยสดคั่นระหว่างการปลูกข้าวรอบที่ 1 กับรอบที่ 2 หรือจะเป็นการเว้นปลูกเฉยๆ ไม่ปลูกพืชอื่นสลับ ซึ่งพื้นที่นี้จะสามารถนำมาบริหารจัดการน้ำโดยเฉพาะการเป็นพื้นที่รับน้ำหากเกิดกรณีอุทกภัยอย่างเช่นปีที่ผ่านมา โดยรูปแบบของระบบปลูกข้าวนั้นจะมีการทำเวทีชุมชนเพื่อรับฟังความคิดเห็นของชาวนาในพื้นที่ที่ร่วมโครงการว่าต้องการเข้าระบบการปลูกข้าวรูปแบบใด
ตั้งแต่เริ่มโครงการจัดระบบปลูกข้าวจนถึงขณะนี้ นับว่ามีความคืบหน้าไปอย่างมาก สังเกตได้จากผลการจัดเวทีชุมชนมีชาวนาที่ต้องการปลูกพืชหลังนาคิดเป็นพื้นที่กว่า 6 แสนไร่ และในพื้นที่อีก 7 แสนไร่มีความร่วมใจกันที่จะปลูกข้าวพร้อมกัน ซึ่งเชื่อมั่นว่าจะสามารถแก้ปัญหาทั้งเรื่องการบริหารจัดการน้ำ ทั้งฝนแล้งและน้ำท่วม โรคแมลง ศัตรูข้าวโดยเฉพาะเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจนช่วยฟื้นคืนความอุดมสมบูรณ์ให้กับผืนดินจะได้ทำการปลูกข้าวได้อย่างยั่งยืนต่อไป
“ระบบปลูกข้าวใหม่นี้เป็นความหวังของประเทศไทย เพราะถ้าไม่นำระบบนี้มาใช้ในการแก้ปัญหาอย่างเบ็ดเสร็จ ในอนาคตชาวนาก็คงจะต้องประสบกับวิกฤติต่างๆ วนเวียนมาอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ซึ่งไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตชาวนาเท่านั้น ยังส่งผลต่อคนในชาติอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้” อธิบดีกรมการข้าว กล่าวทิ้งท้าย
http://www.naewna.com/local/16771
สงวนลิขสิทธิ์โดย © ++kasetloongkim.com++ All Right Reserved.