กำลังปรับปรุงครับ
การปลูกถั่วเหลืองหลังนา ในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนมีพื้นที่ปลูกในแต่ละปีประมาณ 2 แสนไร่เศษ แหล่งปลูกสำคัญได้แก่ จังหวัดชัยภูมิ ขอนแก่น เลย และหนองบัวลำภู ประวัติการปลูกถั่วเหลืองในเขตนี้เริ่มมีมาก่อนปี พ.ศ. 2530 ในระยะแรกมีการปลูกโดยการไถเตรียมดินแล้วกระทุ้งหลุมหยอดเมล็ด ซึ่งต่อมาได้มีการพัฒนาการปลูกเพื่อลดต้นทุนและลดความเสี่ยงด้านต่างๆ โดยเกษตรกรผู้ปลูกได้อาศัยประสบการณ์จากการเรียนรู้และสะสมมา จนในปัจจุบันนี้ได้มีเทคโนโลยีการผลิตถั่วเหลืองหลังนา หลายรูปแบบ แตกต่างกันตามเงื่อนไขของพื้นที่และทรัพยากรซึ่งเกษตรกรผู้ปลูกมีอยู่วิธีการปลูกรูปแบบหนึ่งที่มีการปฏิบัติมากในแหล่งปลูกอำเภอภูผาม่าน จังหวัดขอนแก่น และเริ่มมีการขยายผลไปยังแหล่งปลูกใกล้เคียงคือ การปลูกโดยไม่ไถเตรียมดิน ไม่เผาฟางแต่ใช้ฟางกลบเมล็ด ซึ่งเป็นรูปแบบที่เกษตรกรเห็นว่าได้ผลดี ลงทุนต่ำทำให้เกษตรกรมีผลตอบแทนจากการปลูกเพิ่มสูงขึ้น
วัตถุประสงค์
1. เพื่อลดต้นทุนในการผลิต เพิ่มผลผลิตและผลตอบแทนการปลูกถั่วเหลืองหลังนาของเกษตรกร
2. เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากกิจกรรมการปลูกถั่วเหลืองหลังนา
3. เพื่อเป็นแนวทางสร้างความยั่งยืนในการผลิตถั่วเหลืองหลังนา
ความเป็นมา
การปลูกถั่วเหลืองหลังนาของเกษตรกรภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนในระย
แรกมีการปลูกโดยไถเตรียมดินกระทุ้งหลุมหยอดเมล็ดโดยแรงงานคน ต่อมาเกษตรกรเห็นว่าเป็นวิธีการที่ต้องใช้แรงงานมาก เสียค่าใช้จ่ายสูงแม้ว่าจะได้ผลผลิตสูง แต่มีผลตอบแทนต่ำทำให้เกษตรกรพัฒนารูปแบบการปลูกเป็นหลายลักษณะเช่น การปลูกโดยไม่ไถ่เตรียมดิน เผาฟางแล้วปลูกโดยวิธีหว่านและการปลูกโดยไม่ไถเตรียมดิน ไม่เผาฟาง ปลูกโดยวิธีหว่าน เป็นต้น แต่ละรูปแบบก็มีข้อดีเด่น ข้อจำกัดและเหมาะสมกับแต่ละสภาพเงื่อนไข ซึ่งเทคโนโลยีการผลิตเหล่านี้ได้พัฒนามาจากภูมิปัญญาของเกษตรกรที่ได้เรียนรู้ ปรับปรุงแก้ไขและเพิ่มเติมจากการปฏิบัติมาในอดีตจึงเห็นสมควรมีการเผยแพร่เทคโนโลยีการผลิตที่เป็นภูมิปัญญาของเกษตรกรเหล่านี้สูงเกษตรกรรายอื่น เพื่อปรับใช้สำหรับแนวทางเพิ่มผลตอบแทนในการผลิตถั่วเหลืองหลังนาต่อไป
คุณลักษณะดีเด่นของเทคโนโลยี
1. ไม่ต้องไถเตรียมดินทำให้ลดต้นทุนในการผลิต โครงสร้างดินไม่เสียและ
สามารถปลูกถั่วเหลืองได้เร็วขึ้นซึ่งเป็นผลดีในแง่การเจริญเติบโตและให้ผลผลิตลดความเสี่ยงจากฝนในช่วงเก็บเกี่ยว
2. ไม่ต้องมีการเผาฟางซึ่งเป็นเศษซากพืชที่มีประโยชน์ในการปรับปรุงบำรุงดิน
ไม่ส่งผลต่อสภาพแวดล้อมต่างๆ เมื่อเปรียบเทียบกับวิธีการปลูกโดยทั่วไปของเกษตรกรซึ่งนิยมการเผาฟางก่อนปลูก
3. การกลบฟางทำให้เกิดผลดีในการรักษาความชื้นภายในดินลดจำนวนครั้งของการให้น้ำแก่พืช
4. การกลบฟางทำให้ลดต้นทุนในการกำจัดวัชพืชเนื่องจากมีปริมาณวัชพืชน้อย อันเป็นผลจาก
การกลบฟาง
5. ทำให้เมล็ดถั่วเหลืองงอกได้ดีขึ้น เนื่องจากเมล็ดที่ฟางคลุมจะไม่โดนแดดเผามีความชื้นพอสำหรับการงอกจึงมีจำนวนต้นต่อพื้นที่สูงกว่าการปลูกแบบหว่าน ซึ่งเมล็ดไม่มีอะไรมาคลุมทำให้ผลผลิตต่อพื้นที่สูงกว่าด้วย
คำแนะนำวิธีการใช้
หลักการสำคัญของการปลูกถั่วเหลืองรูปแบบนี้คือ การไม่ไถเตรียมดิน ไม่เผาตอซังข้าวใช้ตอซังกลบ เมล็ดถั่วเหลืองที่หว่าน รูปแบบการปฏิบัติของเกษตรกรแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะ คือ
รูปแบบที่ 1
การปลูกโดยวิธีไม่ไถเตรียมดินไม่เผาฟาง หว่าน แล้วคราดล้มตอซังกลบเมล็ด วิธีการปฏิบัติมีดังนี้คือ หลังจาการเก็บเกี่ยวข้าวนาปีแล้ว จะสูบน้ำเข้าแปลงปลูกให้ระดับน้ำท่วมสูงประมาณ 10 ซม. ทำร่องน้ำในแปลงปลูกโดยใช้รถไถเดินตามกรีดร่องตามแปลงปลูก ซึ่งระยะห่างของร่องไม่แน่นอนขึ้นอยู่กับสภาพแปลงปลูกว่ามีความสม่ำเสมอเพียงใด ซึ่งเกษตรกรเจ้าของแปลกปลูกจะรู้สภาพพื้นที่ของแต่ละแปลงเป็นอย่างดี กล่าวคือ ถ้าแปลงปลูกมีความสม่ำเสมอก็ไม่ต้องทำร่องน้ำมากหรือทำให้ห่างขึ้นได้ แต่ถ้าแปลงไม่สม่ำเสมอจำเป็นต้องกรีดร่องน้ำจำนวนมากและถี่เพื่อระบายน้ำออกจากจุดซึ่งเป็นพื้นที่ลุ่มเพราะถ้าระบายน้ำออกได้ไม่ดีการงอการเจริญเติมโตและการการให้ผลผลิตของถั่วเหลืองจะไม่ดีด้วย (บางรายจะทำร่องน้ำภายหลังจากหว่านและคราดกลบเมล็ดแล้ว) จากนั้นจึงเริ่มหว่านเมล็ดพันธุ์ถั่วเหลือง หลังจากหว่านเสร็จจึงทำการคราดล้มตอซังข้าวโดยใช้คราดเหล็กติดรถไถนาเดินตาม คราดจำนวน 1 รอบ เพื่อให้ตอซังข้าวล้มลงและกลบเมล็ดพันธุ์ถั่วเหลืองที่หว่าน แล้วแช่น้ำขังเมล็ดไว้ในแปลงนาน 6-12 ชั่วโมง ให้เมล็ดถั่วดูน้ำจนอิ่มจึงระบายน้ำตามร่องน้ำที่ได้ทำไว้ในตอนแรก ให้น้ำแห้งและไม่มีน้ำท่วมขังเมล็ดเพราะอาจทำให้เมล็ดเน่าได้ สรุปขั้นตอนการปลูกได้ดังนี้
1. เก็บเกี่ยวข้าวนาปี
2. สูบน้ำเข้าแปลง
3. ทำร่องน้ำโดยใช้รถไถ่นาเดินตาม
4. หว่านเมล็ดพันธุ์
5. ใช้รถไถเดินตามคราดล้มตอซัง 1 รอบ
6. แช่ขังเมล็ดไว้ 6-12 ชั่วโมง
7. ระบายน้ำออกให้แห้ง
8. เมล็ดงอก
รูปแบบที่ 2
การปลูกโดยไม่ไถเตรียมดิน หว่านแล้วตัดตอซังคลุมเมล็ด หลังจากเก็บเกี่ยวข้าวนาปีแล้ว สูบน้ำเข้าแปลงให้น้ำท่วมสูงประมาณ 5 ซม. แล้วไถกรีดร่องน้ำ โดยใช้รถไถเดินตามเช่นเดียวกับรูปแบบที่ 1 จากนั้นจึงเริ่มหว่านเมล็ดพันธุ์ ถั่วเหลืองลงในแปลงขณะเดียวกันก็ใช้รถไถเดินต่ามซึ่งติดใบมีดที่ประดิษฐ์ขึ้นสำหรับตัดหญ้า (มีลักษณะคล้ายใบมีดของเครื่องตัดหญ้าสนามโดยทั่วไป) หรือใช้เครื่องตัดหญ้าชนิดสะพายไหล่หรือใช้แรงงานคนตัดตอชังให้ล้มและกลบเมล็ด ให้น้ำแช่ขังเมล็ดนาน 6-12 ชั่วโมง จึงระบายน้ำออกเช่นเดียวกับรูปแบบที่ 1
สรุปขั้นตอนการปลูกได้ดังนี้
1. เก็บเกี่ยวข้าวนาปี
2. สูบน้ำเข้าแปลงนา
3. ทำร่องน้ำโดยใช้รถไถเดินตาม
4. แช่เมล็ดไว้ 6-12 ชั่วโมง
5. ตัดฟางกลบเมล็ด
6. หว่านเมล็ดพันธุ์
7. ระบายน้ำออกจากแปลงให้แห้ง
8. เมล็ดงอก
เงื่อนไขประกอบ
เพื่อให้ได้ผลดีเกษตรกรผู้ปลูกควรมีข้อคำนึงและการปฏิบัติดังนี้
1. ดินปลูกควรมีความสามารถในการอุ้มน้ำดี เช่น ดินเหนียว หรือ เหนียวปนทราย
2. ตอชังที่ได้จากต้นข้าวที่มีการเจริญเติบโตดีจะทำให้การคราดล้มหรือกลบเมล็ดถั่วเหลืองได้ดีกว่าตอซังข้าวที่สั้น จากต้นข้าวที่เจริญเติบโตไม่ดีพอ ถ้าเป็นตอซังที่เตี้ยสั้นจะคราดล้มได้ไม่ดีจึงควรใช้การตัดคลุมแทน
3. การเอาน้ำเข้าแปลงปลูกภายหลังจากการเก็บเกี่ยวข้าวเพื่อทำร่องน้ำไปถึงขั้นตอนสุดท้ายของการปลูกไม่ควรจะมากจนเกินไปเพราะจะทำให้การคราดล้มตอซังหรือตัดฟาง มีความยุ่งยากเนื่องจากปฏิบัติงานไม่สะดวก
4. อัตราการหว่านเมล็ดพันธุ์ที่เกษตรกรใช้ 20-30 กิโลกรัมต่อไร่ ขึ้นอยู่กับคุณภาพเมล็ดพันธุ์
5. การคราดล้มตอซังมากกว่า 1 รอบ อาจจะทำให้เมล็ดเน่าเสียมีการงอกไม่ดี
6. ระยะเวลาในการแช่ขังน้ำของเมล็ดพันธุ์ขึ้นอยู่กับอุณหภูมิของอากาศ กล่าวคือถ้าอุณหภูมิต่ำ จะสามารถแช่ขังเมล็ดในน้ำได้นานกว่าสภาวะที่มีอุณหภูมิสูง (อากาศร้อน) นอกจากนั้นยังขึ้นอยู่กับคุณภาพของเมล็ด ถ้าเป็นเมล็ดที่แห้งสนิทดีจะสามารถแช่ขังน้ำได้เป็นเวลานานกว่าเมล็ดพันธุ์ถั่วเหลืองที่ตากยังไม่แห้งสนิท
7. หลังจากการแช่ขังเมล็ดในน้ำจนเมล็ดดูดน้ำอิ่มแล้วต้องระบายน้ำออกจากแปลงให้หมดอย่าให้มีบริเวณที่น้ำท่วมขังเพราะจะทำให้เมล็ดจุดนั้นเน่าเสียได้ วิธีการแก้ไขปัญหานี้ทำโดยการมีความพิถีพิถันในการทำร่องน้ำโดยเฉาะจุดที่เป็นลุ่มควรมีร่องน้ำจำนวนมากเพื่อระบายน้ำออก
8. ต้นทุนในการคราดล้มตอซัง กรณีจ้างคนคราดล้มโดยใช้รถไถเดินตามเจ้าของแปลงวันละ 150 บาท สามารถทำได้ประมาณ 10 ไร่ต่อวัน กรณีใช้เครื่องตัดฟางที่ติดรถไถเดินตามสามารถตัดฟางได้ประมาณ 3-5 ไร่ต่อวัน และถ้าใช้เครื่องตัดหญ้าชนิดสะพายไหล่สามารถตัดฟางได้วันละประมาณ 3 ไร่
การเผยแพร่
จากข้อดีของเทคโนโลยีการปลูกถั่วเหลืองหลังการทำนาดังกล่าวได้มีเกษตรกรในพื้นที่ใกล้เคียงปรับเปลี่ยนมาปลูกในลักษณะนี้มากขึ้น รวมถึงเกษตรกรจากที่อื่นได้มาศึกษาดูงานและนำไปปฏิบัติ เช่นเกษตรกรในโครงการหมู่บ้านวิชาการเกษตรกรจังหวัดอุดรธานี บ้านเหล่ากล้วย ตำบลเสอเพลอ อำเภอกุมภวาปี จังหวัดอุดรธานี ได้นำไปปฏิบัติในฤดูกาลปลูก 2543/44 และเป็นที่ยอมรับในฤดูกาลปลูก 2544/45 จะไก้ปรับใช้ให้เหมาะสมกับสภาพเงื่อนไขของพื้นที่ต่อไป
หมายเหตุ เกษตรกรผู้ให้ข้อมูล
1.นายสวัสดิ์ สลับเงิน บ้านคอนสาร อำเภอคอนสาร จังหวัดชัยภูมิ
2.นายวิจิตร ทองคำ บ้านเซินใต้ ตำบลโนนคอม อำเภอภูผาม่าน จังหวัดขอนแก่น
ที่มา : เทคโนโลยี ภูมิปัญญาท้องถิ่น ,กรมวิชาการเกษตร กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
http://www.maehongson-club.com/viewthread.php?tid=427&rpid=1525&ordertype=0&page=1#pid1525
สงวนลิขสิทธิ์โดย © ++kasetloongkim.com++ All Right Reserved.