กำลังปรับปรุงครับ
1.1 ความเป็นมาและความสำคัญของปัญหา
ฟางข้าวเป็นอินทรียวัตถุที่มีประโยชน์สูงควรถนอมไว้ในนาข้าวของเกษตรกรทุกคนและทุกภาคของประเทศไทย โดยเฉพาะนาเขตชลประทาน ซึ่งมีพฤติกรรมการทำนา 2-3 ครั้งต่อปี แต่จำนวนฟางข้าวอาจถูกนำออกจากนาหรือเผาทิ้ง โดยไม่มีการเพิ่มอินทรียวัตถุกลับคืนให้กับดินนาเช่นนี้ ดินย่อมเสื่อมคุณภาพขาดความอุดมสมบูรณ์ ถึงแม้ว่าจะมีการเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ให้แก่ดินโดยการใส่ปุ๋ยเคมีทดแทนก็ตาม แต่มีผลกระทบต่อดินนา คือ ปุ๋ยเคมีจะไปช่วยเร่งให้จุลินทรีย์ย่อยสลายอินทรียวัตถุให้หมดไปโดยเร็วสภาพดังกล่าวอาจทำให้ดินนาเสื่อมสภาพทางฟิสิกส์ทำให้ดินแข็งตัวมากขึ้นและมีแนวโน้มว่าดินจะมีสภาพเป็นกรดมากขึ้นด้วย ดังนั้นฟางข้าวจึงเป็นอินทรียวัตถุที่มีประโยชน์อย่างยิ่งต่อการปรับปรุงบำรุงดิน เกษตรกรไม่ควรนำออกจากแปลงนาหรือไม่ควรเผาทิ้งเป็นอย่างยิ่ง
สถานการณ์และสภาวะปัจจุบัน ซึ่งเป็นยุคของเกษตรเทคโนโลยีการทำนาของเกษตรกร ในเขตชลประทานภาคกลางที่มีปัจจัยการผลิตขั้นพื้นฐานค่อนข้างสมบูรณ์ เกษตรกรทำนาต่อเนื่อง 2-3 ครั้งต่อปี โดยวิธีการหว่านน้ำตมทำให้มีรอบการผลิตค่อนข้างรวดเร็ว (ประมาณ 12-21 วัน) เพื่อให้ทันต่อฤดูกาลผลิต ทำให้เกษตรกรเกือบทุกรายเผาฟางก่อนฤดูทำนา ด้วยวิธีการเตรียมดินแบบหยาบๆ และรีบเร่ง โดยไถกลบเศษฟางที่เหลือจากการเผากับตอซังลงไปในดินที่มีการระบายอากาศไม่ดีขาดออกซิเจน ทำให้เกิดมี Intermidiate Product สะสมมาก เช่นก๊าซมีเทน (CH4) เป็นต้น ปลดปล่อยสู่ชั้นบรรยากาศ ซึ่งมีผลเสียต่อสภาวะแวดล้อมของโลก ทำให้จุลินทรีย์ดินพวก Heterothropic ที่มีบทบาทการย่อยสลายฟางข้าวและตอซังมีอัตราการเจริญเติบโตต่ำ มีการย่อยสลายเป็นไปอย่างช้าๆ ทำให้เกิดกระบวนการ Immobilization เกิดขึ้นรุนแรง ทำให้ข้าวที่ปลูกใหม่ แสดงอาการขาดไนโตรเจนชั่วคราว ที่เกษตรกรนิยมเรียกว่า “โรคเมาหัวซัง” วิธีแก้ไขมีหลายวิธี ที่ดีและรวดเร็วคือ ทำให้ฟางข้าวหรือตอซังย่อยสลายให้รวดเร็วที่สุดโดยการเพิ่มหัวเชื้อจุลินทรีย์เข้าช่วยให้เกิดกิจกรรมย่อยสลายจากจุลินทรีย์หลายกลุ่มที่มีปฏิกริยาต่อเนื่องสนับสนุนกันเป็นลูกโซ่ระหว่างมีกิจกรรมจุลินทรีย์จะช่วยใช้ธาตุอาหารพืชที่มีอยู่ในดิน ขณะเดียวกันก็จะทำให้เกิดขบวนการทำให้ธาตุอาหารเปลี่ยนรูปที่เป็นประโยชน์เมื่อจุลินทรีย์เหล่านั้นตายไป ก็จะปลดปล่อยธาตุอาหารให้พืชใช้ได้ และยังก่อให้เกิดสารประกอบอินทรีย์ชนิดต่างๆ ที่มีผลดีต่อพืช เช่น ฮอร์โมน สารกระตุ้นการเจริญเติบโตของพืชและรากพืช ดังนั้นหลังเก็บเกี่ยวแล้วเกษตรกรไม่ควรเผาฟางข้าวเพราะจะทำให้สูญเสียคาร์บอนที่เป็นอาหารของจุลินทรีย์ดินที่จะนำไปก่อให้เกิดกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อพืช
ผลงานวิจัยการใช้ปุ๋ยหมักฟางข้าวปรับปรุงดินนา ประเสริฐและคณะ (2531) รายงานว่าผลการทดลองใช้ปุ๋ยหมักฟางข้าวปรับปรุงดินนาในท้องที่ จังหวัดสุรินทร์ โดยใช้เวลาติดต่อกันถึง 12 ปี (2519-2530) พบว่า ถ้าใช้ปุ๋ยหมักฟางข้าวในอัตรา 2 ตัน/ไร่ ผลผลิตข้าว กข.7 ในปีแรกของการทดลองได้ผลผลิตเพียง 265 กก./ไร่ และเพิ่มขึ้นเป็น 621 กก./ไร่ ในปี 2530 หรือเพิ่มขึ้นถึง 356 กก. คิดเป็นการเพิ่มถึงร้อยละ 134 และถ้าหากเปรียบเทียบกับนาที่ไม่ได้ใส่ปุ๋ยหมักฟางข้าวซึ่งในปี 2530 ให้ผลผลิตเพียง 358 กก./ไร่ ซึ่งต่ำกว่าผลผลิตของแปลงที่ใส่ปุ๋ยหมักฟางข้าวถึงไร่ละ 263 กก./ไร่ หรือต่ำกว่าร้อยละ 73 และเมื่อเปรียบเทียบกับแปลงที่ใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 8-4-4 กก./ไร่ ของ N,P2O5 และ K2O อย่างเดียว ให้ผลผลิตในปีที่ 12 (2530) 507 กก./ไร่ ขณะที่ใส่ปุ๋ยเคมีอัตราเดียวกันร่วมกับปุ๋ยหมักฟางข้าวในอัตรา 2 ตัน/ไร่ จะให้ผลผลิตสูงถึง 793 กก./ไร่ สูงกว่าถึง 286 กก./ไร่ หรือร้อยละ 56 จากแปลงที่ใส่ปุ๋ยเคมีอย่างเดียวและยังพบอีกว่าแปลงที่ใส่ปุ๋ยหมักฟางข้าวอัตรา 2 ตัน/ไร่ ติดต่อกันให้ผลผลิตสูงกว่าแปลงที่ใส่ปุ๋ยเคมีอย่างเดียวติดต่อกัน (ประเสริฐและคณะ (2531))
1.2 วัตถุประสงค์ของการทำโครงงาน
1.2.1 เพื่อศึกษาและพัฒนาประสิทธิภาพของปุ๋ยหมักฟางข้าว
1.2.2 เพื่อเปรียบเทียบปุ๋ยหมักฟางข้าวแบบใหม่กับปุ๋ยหมักฟางข้าวแบบเดิม
1.3 สมมติฐานของการศึกษาโครงงาน
ต้นคะน้าที่ใส่ปุ๋ยหมักฟางข้าวแบบใหม่จะให้ผลผลิตได้ดีกว่าต้นคะน้าที่ใส่ปุ๋ยหมักฟางข้าวแบบเดิม
1.4 ขอบเขตของการวิจัย
1.4.1 ตัวแปรในการวิจัย
ตัวแปรต้น ชนิดของปุ๋ยหมักฟางข้าวแบบใหม่และแบบเก่า
ตัวแปรตาม ผลการเจริญเติบโตของต้นคะน้าและปริมาณผลผลิต
ตัวแปรควบคุม วิธีการผลิตปุ๋ย ปริมาณและระยะเวลาการให้ปุ๋ย
1.4.2 วัสดุ อุปกรณ์
- กากน้ำตาล
- เชื้อจุลลินทรีย์ (นมเปรี้ยว หรือ โยเกิร์ต )
- น้ำเปล่า
- น้ำส้มควันไม้
- ถาดปลูกผัก
- เมล็ดพันธุ์ผัก
- ถังหมัก
1.4.4 สถานที่
- บ้านเลขที่ 299 ถ.วงศ์ศาโรจน์ ต.อุทัยใหม่ อ.เมือง จ.อุทัยธานี 61000
1.5 คำจำกัดความที่ใช้ในการวิจัย
1.5.1 ปุ๋ยหมักชีวภาพ หมายถึง ปุ๋ยอินทรีย์ที่ผ่านกระบวนการหมักกับน้ำสกัดชีวภาพ ช่วยในการปรับปรุงดิน ย่อยสลายอินทรียวัตถุในดินให้เป็นอาหารแก่พืช
1.5.2 ฟางข้าว หมายถึง เป็นอินทรียวัตถุที่มีประโยชน์สูงควรถนอมไว้ในนาข้าว (ใน ต.ท่าซุง อ.เมือง จ.อุทัยธานี )
1.5.3 ปุ๋ยหมักฟางข้าวแบบเก่า หมายถึง ปุ๋ยอินทรีย์ที่หมักโดยใช้ฟางข้าวที่เป็นวัสดุธรรมชาติที่เหลือใช้ในการหมักช่วยในการปรับปรุงดิน ย่อยสลายอินทรียวัตถุในดินให้เป็นอาหารแก่พืช
1.5.4 ปุ๋ยหมักฟางข้าวแบบใหม่ หมายถึง ปุ๋ยอินทรีย์ที่หมักโดยใช้ฟางข้าวที่เป็นวัสดุธรรมชาติที่เหลือใช้ในการหมักช่วยในการปรับปรุงดิน ย่อยสลายอินทรียวัตถุในดินให้เป็นอาหารแก่พืช และยังช่วยในการป้องกันและกำจัดโรคราให้แก่พืช
1.6 ประโยชนที่คาดวาจะไดรับ
1.6.1 ผลผลิตทางการเกษตรเจริญเติบโตงอกงามกว่า ปุ๋ยหมักธรรมดา
1.6.2 ทุนการผลิตของเกษตรกรน้อยลง
สงวนลิขสิทธิ์โดย © ++kasetloongkim.com++ All Right Reserved.