ดร.สุเมธฯ วอนคนไทยหันมาสนใจชีวิตชาวนา
หากเราไม่มีชาวนา ไม่มีข้าว โดยที่ผ่านมาชาวนาประสบกับวิกฤติตลอดเวลา ทั้งฝนตก ฝนแล้งระบุ นวัตกรรมข้าวไม่มีความหมาย ถ้าชีวิตความเป็นอยู่ของชาวนาไทยยังจนอยู่...
เมื่อวันที่ 24 มิ.ย. ที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มีการแถลงข่าวการจัดประกวดรางวัลนวัตกรรมข้าวไทย ประจำปี 2553 ที่จัดโดยสำนักนวัตกรรมแห่งชาติ (สนช.) ร่วมกับมูนิธิข้าวไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ นายวีระชัย วีระเมธีกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (วท.) กล่าวว่า ข้าวมีความสำคัญกับคนไทยมาก ข้าวเป็นอาหารหลักรวมทั้งยังเป็นวัฒนธรรมที่เกี่ยวข้องกับชีวิตและประชาชน ประเทศไทยขึ้นชื่อว่าส่งออกข้าวมากที่สุดในโลก ดังนั้นการใช้นวัตกรรมมาสนับสนุนเรื่องข้าว ถือว่าเป็นประโยชน์เพราะที่ผ่านมาเวลามีการพูดถึงเรื่องข้าว จะพูดถึงแต่การพัฒนาและปรับปรุงสายพันธุ์ แต่นวัตกรรมเป็นการแปรรูปข้าวเพิ่มมูลค่าให้มาก เพราะปัจจุบันแม้ประเทศไทยจะส่งออกข้าวมากกว่า 10 ล้านตัน แต่ขณะเดียวกันก็มีคู่แข่งมากขึ้นเรื่อยๆ
ดังนั้นจึงต้องใช้นวัตกรรม เพื่เพิ่มมูลค่าเพิ่มให้ข้าว ที่สำคัญนวัตกรรมควรมีบทบาทว่าจะทำอย่างไรให้ข้าวไม่ต้องขายเป็ฯเกวียนแต่ ให้ขายเป็นกรัมหรือกิโลกรัม ขณะนี้ ได้เร่งให้สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ(สวทช.)ไปร่วมมือกับ สำนักวิจัยและพัฒนาข้าว กรมการข้าว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พัฒนาข้าวพันธุ์ขาวดอกมะลิ 105 และพันธุ์ กข6 ให้ทนแล้งได้สำเร็จโดยยังคงคุณภาพเหมือน กข6 และพันธุ์ขาวดอกมะลิ 105 เดิม โดยใช้วิธีปรับปรุงพันธุ์แบบมาตรฐาน (conventional breeding) และใช้ดีเอ็นเอเครื่องหมายที่เกี่ยวข้องกับลักษณะทนแล้งและคุณภาพหุงต้มช่วย ในการคัดเลือก เพื่อช่วยเหลือชาวนาที่กำลังประสบภัยแล้งโดยจะนำเข้ารายงานที่ประชุม ครม.วันที่ 29 มิ.ย.นี้ เพื่อหาแนวทางขยายผลต่อไป
ด้านนายสุเมธ ตันติเวชกุล ประธานกรรมการมูลนิธิข้าวไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า เรื่องข้าวถ้ายังยึดว่าข้าวต้องใส่กระสอบขายก็ไม่มีการพัฒนา ดังนั้นจึงต้องติดตามการเปลี่ยนแปลงของโลกให้ดี อย่าฝืนโลก ที่สำคัญข้าวหรือนวัตกรรมข้าวจะไม่มีความหมายถ้าชาวนายังจนอยู่ ขอให้ช่วยกันคิดว่าจะมีหนทางในที่จะคืนประโยชน์กลับไปสู่ชาวนาให้ได้ คนไทยกับข้าวแยกกันไม่ออก แต่ต้องมองผ่านข้าวให้ทะลุถึงชาวนา เราพูดถึงเรื่องข้าว เงิน แต่ไม่พูดถึงชาวนา หากเราไม่มีชาวนา ไม่มีข้าว เพราะฉะนั้นอยากให้ทุกฝ่ายเหลียวกลับมาสนใจชาวนา ทั้งนี้ ชาวนาประสบกับวิกฤติตลอดเวลาทั้งฝนตก ฝนแล้งโดนทั้งขึ้นและล่อง เราเป็นหนี้ชาวนา
สำหรับการแก้ปัญหาเรื่องข้าวในฐานะมูลนิธิข้าว เราคงไม่สามารถมีศักยภาพในการแก้ปัญหาได้ ทำได้เพียงให้ความรู้ผ่านสาธารณชน เพื่อสะท้อนปัญหาของชาวนา การแก้ไขปัญหาดังกล่าวต้องอาศัยความร่วมมือจากหลายหน่วยงานบูรณาการร่วมกัน เช่น กระเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรมและกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จะขึ้นอยู่กับกระทรวงใดกระทรวงหนึ่งไม่ได้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงชี้แนะตลอดระยะเวลา 60 ปีว่าให้มีการบริหารจัดการเรื่องน้ำ ดินและพันธุ์ข้าว.
ที่มา : ไทยรัฐ
สงวนลิขสิทธิ์โดย © ++kasetloongkim.com++ All Right Reserved.