|
ผู้ที่กำลังใช้งานอยู่
|
|
|
|
|
|
ขณะนี้มี 540 บุคคลทั่วไป และ 0 สมาชิกเข้าชม
ท่านยังไม่ได้ลงทะเบียนเป็นสมาชิก หากท่านต้องการ กรุณาสมัครฟรีได้ที่นี่
|
|
|
|
|
|
|
|
เข้าระบบ
|
|
|
|
|
|
ถ้าท่านยังไม่ได้เป็นสมาชิก? ท่านสามารถ สมัครได้ที่นี่ ในการเป็นสมาชิก ท่านจะได้ประโยชน์จากการตั้งค่าส่วนตัวต่างๆ เช่น ฉากหรือพื้นโปรแกรม ค่าอ่านความคิดเห็น และการแสดงความเห็นด้วยชื่อท่านเอง
|
|
|
|
|
|
|
|
product13
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
product9
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
product10
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
product11
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
product12
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
| |
|
|
|
|
นาข้าว
กรมข้าวแนะวิธี รับมือหอยเชอรี่ ย้ำเข้าช่วงฤดูฝน ถล่มนาข้าวหนัก |
|
|
|
นายสุรพงษ์ ปรานศิลป์ อธิบดีกรมการข้าว เปิดเผยว่า ขอเตือนให้ชาวนาได้เฝ้าระวังการแพร่ระบาดของหอยเชอรี่ในช่วงฤดูฝน โดยลักษณะของหอยเชอรี่จะเหมือนกับหอยโขง แต่ตัวโต กว่า และสามารถขยายพันธุ์ได้อย่างรวดเร็วลูกหอยอายุเพียง 2-3 เดือนจะจับคู่ผสมพันธุ์ได้ตลอดเวลาหลังผสมพันธุ์ได้ 1-2 วัน ตัวเมียจะวางไข่เวลากลางคืน โดยวางไข่ตามกิ่งไม้ ต้นหญ้าริมน้ำ ต้นข้าว ไข่สีชมพูเกาะติดกันเป็นกลุ่มยาว 2-3 นิ้ว มีจำนวนประมาณ 388-3,000 ฟองไข่จะฟักออกเป็นตัวหอยภายในเวลา 7-12 วันหลังวางไข่ เกษตรกรจะสังเกตการเข้าทำลายต้นข้าวในระยะกล้าและที่ปักดำใหม่ๆ ไปจนถึงระยะแตกกอ หอยเชอรี่จะชอบกินต้นข้าวในระยะกล้าที่มีอายุประมาณ 10 วันมากที่สุด โดยเริ่มจากส่วนโคนต้นข้าวที่อยู่ใต้น้ำจากพื้นดินประมาณ 1-1.5 นิ้ว จากนั้นกินส่วนใบที่ลอยน้ำจนหมดทั้งต้นทั้งใบใช้เวลาเพียง 1-2 นาที
สำหรับวิธีป้องกันกำจัดหอยเชอรี่ทำได้หลายวิธีผสมผสาน เช่น วิธีกลโดยการเก็บทำลายตัวหอยและไข่ การดักและกั้นตามทางน้ำไหลผ่านให้ใช้สิ่งกีดขวางตาข่ายเฝือก ภาชนะดักปลาจับหอยเชอรี่ การใช้ไม้ปักหลักในนาข้าวล่อให้หอยมาวางไข่แล้วเก็บทำลาย การใช้เหยื่อล่อเพื่อให้หอยเข้ามากินและหลบซ่อนตัว ชนิดพืชที่ใช้ทำเหยื่อที่หอยชอบกิน เช่น ใบผัก ใบมันเทศ ใบมันสำปะหลัง ใบมะละกอ หรือพืชอื่นๆ ที่มียางขาวคล้ายน้ำนม โดยชีววิธีช่วยกำจัด คือ การใช้เอื้องหมายนากำจัดหอยเชอรี่ซึ่งเป็นพืชสมุนไพรที่นำเอาส่วนของดอก ใบและเหง้ามาบดให้ละเอียดผสมน้ำแล้วนำไปลาดเทลงแปลงนาที่มีการระบาดของหอยเชอรี่จะได้ผลดี เช่นเดียวกับกากชาที่มีสาร ซาโปนิน ที่มีผลต่อระบบการหายใจของสัตว์เลือดเย็นทุกชนิดจึงควรระมัดระวังมิให้น้ำในแปลงนาไหลซึมเข้าบ่อปลา และบ่อกุ้งด้วย
ที่มา : แนวหน้า
|
|
สงวนลิขสิทธิ์โดย © ++kasetloongkim.com++ All Right Reserved. ติดประกาศ: 2010-06-06 (1243 ครั้ง) [ ย้อนกลับ ] |
|
|
|
|
|