-
++kasetloongkim.com++ - Content
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ

เมนูหลัก

» หน้าแรก
» เว็บบอร์ด
» ผู้ดูแล
» ไม้ผล
» พืชสวนครัว
» พืชไร่
» ไม้ดอก-ไม้ประดับ
» นาข้าว
» อินทรีย์ชีวภาพ
» ฮอร์โมน
» จุลินทรีย์
» ปุ๋ยเคมี
» สารสมุนไพร
» ระบบน้ำ
» ภูมิปัญญาพื้นบ้าน
» ไร่กล้อมแกล้ม
» โฆษณา ฟรี !
» โดย KIM ZA GASS
» สมรภูมิเลือด
» ชมรม

ผู้ที่กำลังใช้งานอยู่

ขณะนี้มี 305 บุคคลทั่วไป และ 0 สมาชิกเข้าชม

ท่านยังไม่ได้ลงทะเบียนเป็นสมาชิก หากท่านต้องการ กรุณาสมัครฟรีได้ที่นี่

เข้าระบบ

ชื่อเรียก

รหัสผ่าน

ถ้าท่านยังไม่ได้เป็นสมาชิก? ท่านสามารถ สมัครได้ที่นี่ ในการเป็นสมาชิก ท่านจะได้ประโยชน์จากการตั้งค่าส่วนตัวต่างๆ เช่น ฉากหรือพื้นโปรแกรม ค่าอ่านความคิดเห็น และการแสดงความเห็นด้วยชื่อท่านเอง

สถิติผู้เข้าเว็บ

มีผู้เข้าเยี่ยมชม
PHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG Counter ครั้ง
เริ่มแต่วันที่ 1 มกราคม 2553

product13

product9

product10

product11

product12

นาข้าว








 

ซีพี พัฒนาสายพันธุ์ข้าวลูกผสมต้านทานเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล
หวังเจาะกลุ่มชาวนาภาค กลาง เหนือตอนล่าง

โดย : ยุพิน พงษ์ทอง


ปีนี้แม้ว่าเกษตรกรจะ ขยายพื้นที่ปลูกข้าวเพิ่มขึ้น แต่ผลผลิตที่ได้กลับไม่มากเท่าที่ควร ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการแพร่ระบาดของเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลที่มากับภัยแล้ง ประกอบกับเกษตรกรใช้พันธุ์ซ้ำๆ กันหลายรอบ ทำให้การระบาดของโรคยิ่งทวีความรุนแรงขึ้น กลุ่มธุรกิจพืชครบวงจร เครือเจริญโภคภัณฑ์ หรือ
ซีพี จึงวิจัยและทดลองปลูกข้าวพันธุ์ลูกผสม ที่มีความต้านทานเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลดีกว่าพันธุ์ข้าวทั่วไป


นายมนตรี คงตระกูลเทียน ประธานคณะผู้บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ร่วม กลุ่มธุรกิจพืชครบวงจร เครือเจริญโภคภัณฑ์ (
ซีพี)
 

กล่าวว่าแต่ละปีเกษตรกรต้องการเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพสูง 9 แสนตันต่อปี  แต่กรมการข้าวมีศักยภาพในการผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวคุณภาพได้เพียงปีละ 1 แสนตัน  เกษตรกรส่วนใหญ่ใช้วิธีเก็บผลผลิตเป็นพันธุ์เพื่อปลูกรอบต่อไป ผลผลิตเฉลี่ยต่อไร่อยู่ที่ 454 กิโลกรัม ขณะที่ผลผลิตเฉลี่ยข้าวของเวียดนาม อยู่ที่ 862 กิโลกรัมต่อไร่ อินโดนีเซีย 813 กิโลกรัมต่อไร่ และจีน 1,054 กิโลกรัมต่อไร่


ผลผลิตเฉลี่ยข้าวของ 3 ประเทศ ที่สูงขึ้นมาจากภาครัฐส่งเสริมให้ใช้พันธุ์ข้าวลูกผสม  (Hybrid Rice)  เพื่อเพิ่มผลผลิต และลดต้นทุนการปลูก ในอนาคตอาจจะกระทบต่อความสามารถการแข่งขันและการค้าข้าวของไทยได้ 
ซีพี จึงมีนโยบายที่จะพัฒนาสายพันธุ์ข้าวลูกผสม เพื่อเป็นทางเลือกของเกษตรกรในการเพิ่มศักยภาพการผลิต

ปัจจุบัน ซีพี ได้เปิดขายพันธุ์ข้าวลูกผสม 2 สายพันธุ์ คือ ซี.พี. 304 และ ซี.พี.388 ให้เกษตรกรทดลองปลูกในพื้นที่ 7 จังหวัด คือ นครปฐม ปทุมธานี ชัยนาท ตาก เชียงราย เชียงใหม่ และ อุตรดิตถ์ จากเป้าหมาย 20 จังหวัด 

พันธุ์ข้าวลูกผสมทั้ง 2 สายพันธุ์ให้ผลผลิตสูงเฉลี่ย 1,000-1,200 กิโลกรัมต่อไร่ ทนสภาพอากาศร้อนและหนาวจัด แต่พันธุ์ ซี.พี. 304 สามารถต้านทานเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลได้ 100% เหมาะสมกับพื้นที่ปลูกข้าวภาคกลางที่อากาศร้อนจัด มีการระบาดของเพลี้ยรุนแรง ใช้เวลาปลูก 90-100 วัน


ขณะที่ ซี.พี.388 จะต้านทานเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลได้ 60-70% เหมาะกับการปลูกข้าวเขตภาคเหนือ ที่อากาศเย็นการระบาดของเพลี้ยกระโดดยังไม่รุนแรง ใช้เวลาปลูก 110 วัน ทั้ง 2 สายพันธุ์มีคุณภาพคล้ายกับข้าวพันธุ์ชัยนาท สุพรรณบุรี พิษณุโลก เป็นข้าวแข็ง 


"หลังจากที่ทดลองปลูกข้าวไปแล้วพบทุกพื้นที่ได้ผลผลิตดี  ต้านทานเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลได้ดี มีเกษตรกรจองซื้อพันธุ์ข้าวทั้ง 2 พันธุ์จำนวนมาก แต่ผลิตได้เพียง 100 ตัน เพราะขั้นตอนการผลิตยุ่งยากใช้เวลานาน คาดปี 2554 ผลผลิตจะเพิ่มเป็น 600 ตัน“ นายมนตรี กล่าว


นายมนตรี กล่าวว่าเพื่อให้พันธุ์ข้าวมีประสิทธิภาพคงที่ เกษตรกรไม่ควรเก็บข้าวเพื่อใช้เป็นพันธุ์ในการปลูกครั้งต่อไป เนื่องจากสภาวะอากาศมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
ซีพีจึงต้องวิจัยพันธุ์ข้าวที่มี ความเหมาะสมต่อเนื่อง  ขณะนี้อยู่ระหว่างวิจัยและพัฒนาข้าวพันธุ์ลูกผสมอีก 5 สายพันธุ์  ต้องให้ผลผลิตสูง ต้านทานเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลได้ 100% ถ้าไม่สามารถต้านทานได้ทั้งหมดก็ต้องให้ผลผลิตสูงตั้งแต่ 1,500 กิโลกรัมต่อไร่ ขึ้นไป


นอกจากนี้
ซีพี ยังมีแผนที่จะช่วยภาครัฐขยายพันธุ์ข้าวของส่วนราชการเพื่อให้เกษตรกรมีทาง เลือกเมล็ดพันธุ์ข้าวพันธุ์ดีมากขึ้น ได้แก่ พันธุ์ กข.29 และ กข.41 เป็นพันธุ์ข้าวที่ต้านทานเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลออกจำหน่าย ในเขตพื้นที่ภาคกลางและภาคเหนือตอนล่าง ในช่วงฤดูนาปี 2553/2554 เพื่อเป็นทางเลือก และลดความเสี่ยงให้เกษตรกรในเขตที่มีการระบาดของเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาลขั้น รุนแรง 
 

นายชำนาญ ศรีเอี่ยมอ่อง ชาวนา ต.ภาษี อ.บางเลน จ.นครปฐม บอกว่าได้ใช้พันธุ์ข้าวลูกผสม ซี.พี. 304 ปลูกในพื้นที่ 100 ไร่  เพราะเห็นเพื่อนบ้านใช้ ได้ผลผลิตดี ไม่มีปัญหาเพลี้ยกระโดดสีน้ำตาล  เริ่มต้นพื้นที่ปลูกข้าว 11 ไร่  ได้ผลผลิตเฉลี่ย 1,182 กิโลกรัมต่อไร่ สูงกว่าเดิมที่ใช้พันธุ์ข้าว กข.ทั่วไป ที่ให้ผลผลิตเฉลี่ย 1,000 กิโลกรัมต่อไร่  ส่วนต้นทุนการเพาะปลูกถูกกว่าเฉลี่ยอยู่ที่ 4,515 บาทต่อไร่ ขณะที่ต้นทุนพันธุ์ข้าว กข. อยู่ที่ 5,000-7,000 บาทต่อไร่ 


"ผมชอบข้าวพันธุ์ ซี.พี. เพราะได้ผลดี ไม่มีปัญหาเพลี้ยกระโดด ข้าวดีด ข้าวเด้ง ทำให้ประหยัดค่าใช้จ่าย เรื่องยาฆ่าแมลงไปมาก แต่พันธุ์ข้าว ซี.พี. มีข้อเสียราคาแพงถึงกิโลกรัมละ 120 บาท เก็บเป็นพันธุ์ใช้ต่อไปไม่ได้  ขณะที่พันธุ์ของกรมการข้าวอยู่ที่กิโลกรัมละ 20 บาท" นายชำนาญ กล่าว


นายเอนก ศิลปพันธุ์ รองกรรมการผู้จัดการบริหาร สายงานวิจัยและพัฒนา กลุ่มธุรกิจพืช ครบวงจร เครือ
ซีพี กล่าวว่า การปรับปรุงพันธุ์ข้าวลูกผสมใช้กระบวนการคัดเลือกสายพันธุ์ โดยวิธีการแบบดั้งเดิมในลักษณะเดียวกับการพัฒนาพันธุ์ข้าวโพดลูกผสม จะไม่ใช้การตัดต่อยีนหรือพันธุกรรมของข้าว ดังนั้นข้าวลูกผสมของบริษัทจึงไม่ใช่ข้าวจีเอ็มโอ
 
ทั้งนี้ ผลการทดสอบการปลูกพันธุ์ข้าวลูกผสม ซี.พี. 304 ในแปลงเกษตรกรในหลายพื้นที่ พบว่าให้ผลผลิตสูงกว่าพันธุ์ข้าวทั่วไป 20-30% ลักษณะเมล็ดข้าวกล้องเรียวยาวเกิน 7 มิลลิเมตร มีค่าอะไมโลส 23-24% จัดอยู่ในกลุ่มเดียวกับข้าวพันธุ์ชัยนาท พิษณุโลก และสุพรรณบุรี  คุณภาพการหุงต้มเทียบเท่ากับพันธุ์ข้าวขาวทั่วไป 



ที่มาข่าวจาก
กรุงเทพธุรกิจออนไลน์


 

ค้นหาบทความเกี่ยวข้อง Tag ข้าวทนโรค - ข้าวทนแมลง



dna.kps.ku.ac.th/...ข้าว/ซีพี-ชูพันธุ์ข้าวลูกผสมสู้-เพลี้ยสีน้ำตาล.html









สงวนลิขสิทธิ์โดย © ++kasetloongkim.com++ All Right Reserved.

ติดประกาศ: 2010-06-06 (1278 ครั้ง)

[ ย้อนกลับ ]
Content ©