ผักสลัด
เรียบเรียงโดย ผศ.ดร.ธวัชชัย ทีฆชุณหเถียร และ น.ส.ขวัญเกล้า มรรคุวัฒนพงษ์
จัดทำเป็นหน้าเว็บ โดย รศ.ดร. อรรณพ วราอัศวปติ
ตำบลไทยสามัคคี อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา
ตำบลไทยสามัคคี ปลูกผักปลอดสารพิษได้ผลดีมาตั้งแต่ พ.ศ. 2539 ปัจจุบันมีกลุ่มผู้ปลูกผักปลอดสารพิษอยู่ 4 กลุ่ม ประมาณ 53 ราย อำเภอวังน้ำเขียว มีความสูงเหนือระดับน้ำทะเล 300-400 เมตร เป็นป่าเขา ลอนลูกฟูก ต้นน้ำมูล จึงมีความชุ่มชื้น ดินอุดมสมบูรณ์และอุณหภูมิเย็นสบาย โดยมีปริมาณฝนตกเฉลี่ย 1,249 มม./ปี จำนวนวันฝนตกเฉลี่ย 129.2 วัน/ปี อุณหภูมิต่ำสุดและสูงสุดเฉลี่ย/ปี 16.5 และ 36.0 องศาเซลเซียส จึงมีความเหมาะสมในการปลูกไม้ดอกกึ่งเมืองหนาว ผัก ไม้ผล และเห็ดหอม นับว่าเป็นทุนทางธรรมชาติของชาววังน้ำเขียวที่มีค่าสูงยิ่ง
การปลูกผักสลัดปลอดสารพิษ
ผักปลอดสารพิษที่อำเภอวังน้ำเขียว สามารถปลูกได้ตลอดทั้งปี และได้เปรียบคู่แข่งทางภาคเหนือหลายประการ เช่น ในช่วงฤดูฝน ได้เปรียบในด้านพื้นที่เพราะภาคเหนือพื้นที่เป็นภูเขาสูง และทางซับซ้อน เมื่อฝนตกทำให้ถนนลื่น จึงทำให้มีปัญหาในการขนส่ง บางครั้งขนส่งผักลงจากดอยไม่ได้ ส่วนที่อำเภอวังน้ำเขียวมีการคมนาคมที่สะดวก สามารถขนส่งได้เร็วกว่าและไม่มีปัญหาในการข่นส่ง อีกทั้งยังอยู่ใกล้แหล่งตลาดที่สำคัญ ซึ่งส่วนมากจะอยู่ในกรุงเทพฯ ทำให้ผักถึงมือผู้บริโภคแบบสดๆ และสามารถเก็บไว้ได้นานถึง 2 อาทิตย์ และรสชาติยังไม่เปลี่ยนอีกด้วย
แต่ในการปลูกผักในหน้าหนาวผักมีขนาดใหญ่เกินไป ซึ่งมีผลต่อการจำหน่ายเนื่องจากลูกค้าปฏิเสธผักที่มีน้ำหนักมากเกินไป จึงต้องมีการตัดบางส่วนทิ้งไปเพื่อให้ได้น้ำหนักที่เหมาะสม แต่ในการปลูกผักหน้าหนาวสามารถปลูกระยะชิดเพื่อให้ผักมีขนาดเล็กลง จะได้น้ำหนักที่เหมาะสมตามที่ตลาดต้องการ
ปัจจุบันนี้รัฐบาลได้ส่งเสริมการผลิตผักปลอดสารพิษเพื่อการส่งออกมากขึ้น และเป็นที่ต้องการของผู้บริโภคเป็นส่วนใหญ่ เนื่องจากได้ตระหนักถึงปัญหาสารตกค้างในพืชผัก จึงหันมาบริโภคผักปลอดสารพิษมากขึ้น
1. พื้นที่
- พื้นที่อำเภอ วังน้ำเขียว เป็นพื้นที่ที่มีลักษณะเป็นลอนลูกฟูก อากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี มีศักยภาพเหมาะอย่างยิ่งในการทำเกษตรกรรมเมืองหนาว
- มีแหล่งน้ำเพียงพอต่อการทำเกษตรกรรม
- มีการคมนาคมที่สะดวก ซึ่งพื้นที่อยู่ใกล้แหล่งตลาดที่สำคัญคือกรุงเทพฯ จึงทำให้สามารถจำหน่ายผลผลิตไปได้ทั่วทุกภาค และสะดวกรวดเร็ว
2. พันธุ์ผักสลัดที่ใช้ปลูก
พันธุ์ผักสลัดที่ใช้ปลูกมี 6 สายพันธุ์ ได้แก่ กรีนโอ๊ค, เรดโอ๊ค, เรดลีฟ, บัตเตอร์เฮด, คอส และ สลัดแก้ว ซึ่งทั้ง 6 สายพันธุ์นี้มีการปรับตัวในพื้นที่ดีมาก และ พันธุ์ที่ปรับตัวได้ดีที่สุดคือ สลัดแก้ว พันธุ์ที่เลือกนี้ตรงกับตามความต้องการของตลาด พันธุ์ที่ตลาดต้องการมากที่สุดได้แก่พันธุ์สลัดแก้ว และ คอส โดยจะทำการสั่งเมล็ดพันธุ์ซึ่งเป็นพันธุ์ลูกผสม มาจากอเมริกา กิโลกรัมละ 40,000 บาท มีประมาณ 300,000 เมล็ด ในการสั่งแต่ละครั้งเกษตรกรจะรวมกลุ่มกัน และสั่งโดยตรงจากบริษัทเมล็ดพันธุ์
3. การเตรียมวัสดุเพาะ
- วัสดุเพาะกล้า ประกอบไปด้วย แกลบเผา 3 ส่วน ดิน 1 ส่วน ปุ๋ยหมัก(โบกาฉิ) 1 ส่วน
- และกระบะเพาะกล้าผัก ขนาด 6x17 ช่องจะเพาะได้ประมาณ 108 ต้น หรือกระบะโฟมจะเพาะได้ 90 ต้น
- เมล็ดพันธุ์ผักที่เพาะได้มีความงอกประมาณ 80 %
4. วิธีการเพาะกล้าผัก
1. นำวัสดุเพาะมาผสมกัน และนำใส่กระบะเพาะ
2. ใช้ไม้จิ้มกลางหลุมของวัสดุเพาะนำเมล็ดผักหยอดลงในหลุมกระบะ เพาะหลุมละ 1 เมล็ดแล้วกลบด้วยวัสดุเพาะบางๆ
3. นำกระบะเพาะวางไว้ในร่มรำไร หรือในโรงเรือนแล้วรดน้ำให้ชุ่ม วันละ 2 ครั้ง เวลา 7.00 -8.00 น. และ 15.00-16.00 น.
4. เมล็ดผักจะงอกหลังหยอดเมล็ด 3-5 วัน หลังจากผักมีใบ 3-5 ใบ หรือ มีอายุประมาณ 20 วัน ให้ย้ายกล้าปลูกลงในแปลง
5. การเตรียมแปลงปลูก
- ตรวจสภาพของดินวัดความเป็นกรด-ด่างของดิน ซึ่งระดับที่เหมาะสมคือ 6-6.5
- ไถดะปรับพื้นที่ให้เรียบและโปร่ง จากนั้นให้ไถซ้ำอีก 2-3 ครั้ง เพื่อให้ดินละเอียดขึ้น
- ตากดินไว้ 7 วัน เพื่อกำจัดโรคพืชและแมลง
- ขุด,ถอน,และกำจัดพืชที่ไม่ต้องการออก
- หว่านปูนขาวเพื่อปรับสภาพความเป็นกรดของดิน 100-200 กก./ไร่
- ยกแปลงขนาด 1.20 x 40 เมตร ยกร่องสูง 50 เซนติเมตร
- หว่านปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก 1-2 ตัน/ไร่เพื่อเพื่อความร่วนซุยและไถพรวนอีกครั้งหนึ่ง
- ใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 เพื่อเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ของดินให้เหมาะสมกับการปลูกผัก อัตรา 50 กก./ไร่
- คลุมด้วยฟางข้าวแห้งเพื่อรักษาความชื้น 1 แปลงใช้ประมาณ 3 ก้อน
- พื้นที่ 1 ไร่ ทำแปลงขนาด 1.2 x 40 เมตร ได้ 20-25 แปลง
6. วิธีการย้ายกล้าปลูก
1. รดน้ำแปลงผักที่เตรียมไว้แล้วให้ชุ่ม
2. ย้ายกล้าผักจากกระบะลงในแปลงแต่ยังไม่ต้องรดน้ำเพื่อไม่ให้ดินอัดแน่นเกินไป เพราะอาจจะทำให้รากขาดอากาศหายใจ
3. รดน้ำแปลงผักให้ชุ่มอีกครั้งในตอนเช้า เพื่อไม่ให้ดินอัดแน่นที่ต้นกล้า
4. ระยะปลูกผัก 3 - 4 ต้น แล้วแต่ความกว้างของหน้าแปลง ถ้าหน้าแปลงกว้างประมาณ 1 เมตร จะใช้ระยะปลูก 3 ต้น
5. ควรทำการย้ายกล้าผักในตอนเย็น เพื่อให้ผักพักตัวช่วงกลางคืน และฟื้นตัวเร็วขึ้น
6. ใน 1 ปีสามารถปลูกผักได้ 2-3 ครั้ง ขึ้นอยู่กับความต้องการของตลาด แต่ไม่ควรปลูกในมากกว่านี้เพราะจะทำให้ดินเสื่อมเร็ว และ ควรมีการพักแปลงอย่างน้อย 1 รุ่น เพื่อให้ดินฟื้นตัว ตัดวงจรศัตรูพืชในดินและปลูกปุ๋ยพืชสด เช่นโสน
7. การดูแลรักษา
1. การให้น้ำ
ไม่แนะนำให้ใช้ระบบฝนเทียมแต่จะใช้แรงงานคนเดินฉีดสายยางตามแปลงเพราะน้ำจากสายยางจะสามารถชะล้างไข่ของแมลงศัตรูพืชที่ติดอยู่ที่ใบลงดินได้ จากนั้นจุลินทรีย์ในดินก็ย่อยกินไข่แมลงศัตรูพืชเหล่านี้
นอกจากนี้ผู้ปลูกจะได้ถือโอกาสตรวจแปลงไปในตัวหากมีความผิดปกติก็จะพบเห็นทันที
- หน้าหนาวรดน้ำวันละ 1ครั้ง เวลา 6.00-7.00 น. ก่อนแดดออก เพราะจะช่วยชะล้างน้ำค้างตอนเช้า ซึ่งน้ำค้างมีฤทธิ์เป็นกรดสามารถทำให้เกิดโรคราน้ำค้างได้ จะเน้นในช่วงหน้าหนาวและหน้ามรสุม
- หน้าร้อนรดน้ำวันละ 2 ครั้ง ถ้าอากาศร้อนมาก ให้รดน้ำตอนบ่าย เวลาประมาณ 14.00 น. เพื่อช่วยลดอุณหภูมิภายในแปลง ซึ่งไม่เป็นอันตรายต่อต้นพืช
- หน้าฝนถ้าฝนตกก็ไม่ต้องรดน้ำ ถ้าฝนตกมากเกินไปจะทำให้ดินแน่นพืชจะขาดอากาศหายใจ จะต้องใช้ตะขอคุ้ยดินรอบต้นเพื่อให้มีการถ่ายเทอากาศ
2. การใส่ปุ๋ย
- ใช้ปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 อัตรา 50 กก./ไร่ แบ่งใส่ 2 ครั้ง ครั้งแรกหลังจากปลูก 1 อาทิตย์ และอีก 2 อาทิตย์ใส่อีกครั้งหนึ่ง
- ใช้ปุ๋ยเคมีสูตร 46-0-0 อัตรา 50 กก./ไร่ แบ่งใส่ 2ครั้ง ครั้งแรกหลังจากปลูก 1 อาทิตย์ และอีก 2 อาทิตย์ใส่อีกครั้งหนึ่ง
- ใช้ปุ๋ยชีวภาพ หรือปุ๋ยน้ำอินทรีย์ อัตรา 30-50 ซีซี.(3-5 ช้อนโต๊ะ) ต่อน้ำ 20 ลิตร ฉีดพ่นทุกๆ 5-7 วัน ตั้งแต่เริ่มปลูก (ฉีดช่วงเช้าจะดีที่สุด)
8. โรคและแมลง
- โดยส่วนใหญ่แล้วการเสียหายจากโรคและแมลงทำลายไม่เกิน 10 % จึงไม่เป็นปัญหาสำหรับการผลิตผักปลอดสารพิษ
- เมื่อพบโรคและแมลงจะใช้แรงงานคนกำจัด โดยเด็ดใบหรือถอนต้นทิ้ง เพื่อไม่ให้เกิดการแพร่ระบาด
9. อายุการเก็บเกี่ยว และ การเก็บเกี่ยว
- เรดโอ๊ค อายุเก็บเกี่ยว 45-50 วัน
- สลัดแก้ว อายุเก็บเกี่ยว 70 วัน
- เรดลีฟ อายุเก็บเกี่ยว 45 วัน
- บัตเตอร์เฮด อายุเก็บเกี่ยว 50 วัน
- คอส อายุเก็บเกี่ยว 55 วัน
- กรีนโอ๊ค อายุเก็บเกี่ยว 40 วัน
- การเก็บเกี่ยว ใช้มีดตัดโคนต้นของผักตัดใบแก่ออกแล้ววางใส่ตะกร้า ระวังอย่าให้ผักช้ำ
- เมื่อเก็บเกี่ยวเสร็จแล้ว ควรพักแปลงทิ้งไว้ประมาณ 1 เดือน และ ทำการปรับปรุงบำรุงดินเพื่อให้ดินอุดมสมบูรณ์พร้อมที่จะปลูกผักในครั้งต่อไป
10. การปฏิบัติหลังการเก็บเกี่ยว
- ล้างทำความสะอาดผัก
- ตัดแต่งส่วนที่เน่าเสีย หรือผิดปกติออก แล้วทาปูนแดงที่รอยตัด เพื่อป้องกันเชื้อโรคเข้าทำลาย
- คัดขนาดคุณภาพของผัก ทำการบรรจุในถุงพลาสติก หรือตะกร้า เพื่อการขนส่ง
- รถที่ใช้รถขนส่งเป็นรถของเกษตรกร เป็นรถห้องเย็นเพื่อป้องกันความเสียหายของผัก และให้ผักสดอยู่ตลอด และการข่นส่ง 1 เที่ยว สามารถบรรจุได้ 500-600 กก. จะส่งทุกสัปดาห์ในวันพฤหัส และอาทิตย์
- ผักสดสามารถเก็บไว้ในตู้เย็นได้นานถึง 2 สัปดาห์
11. ราคา ขนาด และ ตลาด
- ทุกตลาดราคาขาย อยู่ที่ กก.ละ 30-50 บาท แล้วแต่ฤดูกาล
- ผักที่มีขนาดใหญ่จะส่งขายให้กับโรงแรมเป็นส่วนใหญ่
- ผักที่มีขนาดเล็กจะส่งขายให้กับตลาดทั่วๆไป
ตลาด ในปัจจุบัน
- - ตลาดกลางเสรีเซ็นเตอร์,ซีคอนสแคว์,ตลาด อตก. 300 กก./สัปดาห์
- - บริษัท GM ตัวแทนโรงแรม จ.ภูเก็ต 300 กก./สัปดาห์
- - โรงแรมแชงกีรา,โอเรียลเต็ล,คิงสวีท 500 กก./สัปดาห์
- - โครงการส่งเสริมกสิกรรมไร้สารพิษอันเนื่องมาจากพระราชดำริ 50 กก./สัปดาห์
- - ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ สาขา บางแค,งามวงศ์วาน,บางกะปิ,และ ดิ เอ็มโพเรียม 400 กก./สัปดาห์
- - บริษัทดีทแฮม, การท่าเรือ, โรงงานยาสูบ, ตลาดสีลม 100 กก./สัปดาห์
12. ต้นทุนการผลิต ผลผลิต และ กำไร
ข้อมูลการผลิตผักสลัดปลอดสารพิษโดยเฉลี่ยมี
ต้นทุนรวมค่าขนส่ง กิโลกรัมละ 12 บาท ราคาขายกิโลกรัมละ 35 บาท กำไร 23 บาทต่อกิโลกรัม
ใน 1 ตารางเมตร ผลิตได้ 12 ต้น ต้นละ 200 กรัม หรือรวม 2.4 กิโลกรัม
พื้นที่ 1 ไร่ ปลูกได้ 25 แปลง ขนาด 1.2 x 40 เมตร หรือ 1,200 ตารางเมตร
ปลูกได้ปีละ 3 ครั้ง รวมผลผลิต 8,640 กิโลกรัมต่อปี รายได้ 302,400 บาท กำไร 198,720 บาท ต่อ ปี ต่อ ไร่
13. ราคาเครื่องมือและอุปกรณ์ที่สำคัญ
- รถไถเล็ก 1 คัน 50,000 บาท
- เครื่องปั๊มน้ำ 1 เครื่อง 40,000 บาท
- ตะกร้าพลาสติก ใบละ 170 บาท
- ถาดเพาะ ขนาด 17x6 ใบละ 35 บาท
- ปุ๋ยคอก 4 กระสอบราคา 60 บาท
- ปุ๋ยหมัก(โบกาฉิ) กระสอบละ 45 บาท
- ฟางข้าวแห้งก้อนละ 45 บาท
- ปุ๋ย สูตร 46 - 0 - 0 ถุงละ 50 กก. ราคา 650 บาท
- ปุ๋ย สูตร 15 - 15 - 15 ถุงละ 50 กก. ราคา 550 บาท
เอกสารอ้างอิง
สำนักงานเกษตรอำเภอวังน้ำเขียว. 2545. แผนพัฒนาการเกษตรตำบลไทยสามัคคี อำเภอวังน้ำเขียว จังหวัดนครราชสีมา.
นายไกร ชมน้อย. 2546. ติดต่อส่วนตัว. 111 หมู่ 2 ต.ไทยสามัคคี อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา 30370. โทรศัพท์ 0-1274-6961