ผักกาดฮ่องเต้ Pak choi 


ผักกาดฮ่องเต้ (Pak Chai) หรือกวางตุ้งฮ่องเต้
มีชื่อวิทยาศาตร์ว่า Brassica chinensis var. chinensis ผักกาดฮ่องเต้จัดเป็นพืชตระกูล Brasicaceae (Crucifereae-Mustard family) มีถิ่นกำเนิดในประเทศจีน ญี่ปุ่นและเอเชียกลาง นำเข้ามาปลูกในไทยเป็นระยะเวลานาน เป็นพืช 2 ฤดู แต่ปลูกเป็นพืชฤดูเดียว ก้านใบมีสีเขียวอ่อน ลักษณะแบน ส่วนโคนก้านใบจะขยายกว้างมาก และหนา เนื้อกรอบ ปลายใบมน ไม่ห่อหัว

สภาพแวดล้อมการปลูก


อุณหภูมิ
ที่เหมาะสมต่อการเจริญเติบโตของผักกาดฮ่องเต้ อยู่ระหว่าง 20-25′C แต่สามารถทนต่อสภาพอุณหภูมิสูงได้ดีกว่ากลุ่มผักกาดหัว ดังนั้นจึงสามารถปลูก ได้ตลอดทั้งปี



ดิน
ผักกาดฮ่องเต้สามารถเจริญเติบโตในดินแทบทุกชนิด แต่เจริญเติบโตได้ดีที่สุดในสภาพดินร่วนปนทรายที่มีความอุดมสมบูรณ์ และอินทรีย์วัตถุสูง ค่าความเป็นกรด-ด่าง อยู่ระหว่าง 6.0-6.8 ถึงแม้ผักกาดฮ่องเต้ จะทนต่ออุณหภูมิสูงได้ดี แต่ก็ไม่ทนต่อความ แห้งแล้ง เนื่องจากเป็นพืชอายุสั้น และเจริญเติบโตเร็ว ดังนั้นแปลงปลูกควรต้องมีความชื้นสูง และต้องการแสงแดดเต็มที่ ตลอดทั้งวัน เพื่อการสังเคราะห์อาหาร

การใช้ประโยชน์และคุณค่าทางอาหาร



ผักกาดฮ่องเต

เป็นผักที่มีวิตามินสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งวิตามินเอ วิตามินซี นอกจากนั้นยังมีธาตุอาหารพวกแคลเซียม และฟอสฟอรัสสูง นิยมนำมาผัดกับเนื้อสัตว์ ผัดน้ำมันหอย หรือต้มเป็นแกงจือ รสชาติหวาน และกรอบ

การปฎิบัติดูแลรักษาผักกาดฮ่องเต้ในระยะต่างๆของการเจริญเติบโต



การเตรียมกล้า
เพาะกล้าผักกาดฮ่องเต้แบบประณีต ในถาดหลุม อายุกล้า 15-20 วัน

การเตรียมดิน ไถดินลึกประมาณ 15-20 ซม. หรือขุดดินตากแดดอย่างน้อย 14 วัน เพื่อกำจัดโรคแมลงและวัชพืช คลุกปูนขาวอัตรา 0-100 กรัม/่ตร.ม. เก็บเศษวัชพืชออกจากแปลง



การปลูก
- ใ่ส่ปุ๋ยคอกอัตรา 1 กก./ตร.ม. และปุ๋ย 15-15-15 อัตรา 30 กรัม/ตร.ม. ลงในดิน พรวนดินให้ละเอียด ขึ้นแปลงกว้าง 100-120 ซม. ให้ร่องห่าง 50 ซม. ปรับหน้าแปลงให้เรียบ
- หากใช้วิธีหยอดเม็ดโดยตรง ให้ใช้นิ้วกดหลุมลึก 0.5 ซม. หยอดเมล็ด 5 เมล็ดต่อหลุม ระยะปลูกแล้วแต่ความเหมาะสมของแต่ละ ฤดู กลบเมล็ด รดน้ำให้ชุ่ม ฉีดพ่น เซฟวิน 85 ป้องกันมดเข้าทำลาย
- หากย้ายปลูกระยะปลูก ฤดูฝนและฤดูหนาว 25×20 ซม. ส่วนฤดูร้อน 20×20 ซม.


ข้อควรระวัง

  1. หากใช้วิธีการหยอดเมล็ดอย่าใช้ในปริมาณที่มากเกินไป
  2. ฉีดพ่นธาตุอาหารเสริมให้สม่ำเสมอ


การให้ปุ๋ย
ปลูกซ่อมต้นที่เสียหายภายใน 7 วัน หลังย้ายปลูก กำจัดวัชพืชทุก 15-20 วัน หลังย้ายปลูกหรือเมล็ดงอก และทำการถอนแยกให้เหลือ 2-3 ต้น ขีดร่องลึก 2 ซม. ระหว่างแถวปลูกโรยปุ๋ย 46-0-0 ลงไปแล้วกลบดิน แล้วรดน้ำ อาจเพิ่มปุ๋ย 15-15-15 อัตรา 15-30 กรัม/ตร.ม. ฉีดพ่นสารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืชตามความจำเป็น และฉีดพ่นธาตุอาหารเสริม รดน้ำให้สม่ำเสมอ



การเก็บเกี่ยว
ควรเก็บเกี่ยวก่อนออกดอก (อายุประมาณ 35-45 วัน หลังปลูก) อย่าปล่อยให้ต้นแก่เกินไป คุณภาพจะต่ำลง ตัดต้น เหนือระดับดินเล็กน้อย เด็ดใบเสียหรือใบเหลืองออก ควรเหลือใบนอกไว้ 2-3 ใบ ป้องกันความเสียหายระหว่างการขนส่ง หากผลผลิตเปียกควรผึ่งให้แห้งก่อนบรรจุส่ง ไม่ควรล้างผลผลิต เพราะจะทำให้เน่าเสียหายได้ง่าย



ข้อสังเกต

ช่วงแล้งผลผลิตจะน้อยมาก ควรมีการเพาะกล้าและปลูกตลอดจนเก็บเกี่ยวให้ตรงกับระยะเวลาและพันธุ์นั้นๆ เพราะถ้ากล้าแก่เกินไป หรือเก็บผลผลิตช้าเกินไป มักจะได้คุณภาพและราคาต่ำ



โรคแมลงศัตรูที่สำคัญของผักกาดฮ่องเต้ในระยะต่างๆของการเจริญเติบโต

ระยะกล้า 15-20 วัน โรคใบจุด, ด้วงหมัดผัก, เพลี้ยอ่อน,

ระยะย้ายปลูก-ตั้งตัว 21-28 วัน โรคใบจุด, ด้วงหมัดผัก, หนอนใยผัก, เพลี้ยอ่อน, หนอนกระทู้,

ระยะเข้าหัว 28-55 วัน โรคใบจุด, โรคเน่าเละ, ด้วงหมัดผัก, หนอนใยผัก, เพลี้ยอ่อน, หนอนกระทู้,

ระยะโตเต็มที่ 56-70 วัน โรคใบจุด, โรคเน่าเละ, ด้วงหมัดผัก, หนอนใยผัก, เพลี้ยอ่อน, หนอนกระทู้,



ที่มา  :  ไม่ระบุ