หอมใหญ่
1.พันธุ์ : หอมใหญ่เป็นพืชควบคุมเมล็ดพันธุ์ที่ส่งนำเข้าจะมาทางสำนักงานเศรษฐกิจ และจำหน่ายให้ทางสหกรณ์ หรือกลุ่มผู้ปลูกหอมใหญ่ ซึ่งมีอยู่ 2 จังหวัด คือ เชียงใหม่ และกาญจนบุรี พันธุ์ที่นำเข้า มีหลายพันธุ์ มีทั้งพันธุ์หนัก และพันธุ์เบา เช่นตราพระอาทิตย์ และ429
2. การเตรียมดิน หอมใหญ่เป็นพืชที่อ่อนแอต่อโรค ฉะนั้นควรมีการไถแล้วตากดินเพื่อฆ่าเชื้อราในดินเป็นเดือน หรือเกษตรกรบางรายจะไถตากดินนานหลายเดือนแล้วใส่ปุ๋ยคอก พรวนดิน ยกร่อง
3. การเพาะกล้า หอมใหญ่ต้องมีการเพาะกล้าก่อนโดยมีการเตรียมดินไถตากแดดก่อนใส่ปุ๋ยคอก พรวนดิน พ่นสารเคมีกำจัดมด และแมลงในดิน คลุกเมล็ดด้วยสารเคมีป้องกันกำจัดโรคพืช และแมลง หว่านให้สม่ำเสมอ คลุมด้วยฟางข้าวหรือหญ้าคาตัดเป็นท่อนๆ รดน้ำด้วยสปริงเกอร์ให้ชุ่มทุกๆ วัน หรือเช้า-เย็นก่อนงอก
4. วิธีการปลูก เมื่อกล้าหอมใหญ่อายุประมาณ 30-35 วันก็ทำการถอน จุ่มสารกันรา ปลูกในร่องที่เตรียมไว้ โดยก่อนปลูกจะโรยฟางบางๆ ให้ทั่วและพ่นด้วยสารเคมี Oxadiazon ทิ้งไว้ 1 คืน แล้วโรยฟางข้าว รดน้ำให้ชุ่มนำกล้าที่ถอนมาจุ่มสารป้องกันราแล้วนำไปปลูก รดน้ำด้วยสปริงเกอร์ให้ชุ่ม เช้า-เย็น
5. การให้น้ำ หอมใหญ่ระยะตั้งตัว หรือระยะแรกๆ ต้องให้น้ำสม่ำเสมอ เช้า-เย็น ไม่ชอบน้ำท่าวมขัง และหมั่นรดตลอดเมื่ออากาศแห้งแล้ง และควรรดน้ำตอนเช้าเพื่อล้างน้ำค้างด้วย
6. การใส่ปุ๋ย หอมใหญ่ จะทำการใส่ปุ๋ยสูตร 15-15-15 เรื่อยๆ แต่บางๆ โดยห่างกันประมาณ 15 วัน จนเริ่มตั้งหัวหรือพร้อมหัว ควรใส่สูตร 13-13-21 เพื่อเร่งหัวและได้น้ำหนัก
7. การเก็บเกี่ยว เมื่อหอมใหญ่มีอาการแก่จัดสังเกตุที่คอหอม คือระหว่างต้นกับหัวจะอ่อนและต้นพับลงดินแสดงว่าหอมแก่แล้ว ก็ทำการถอนตัดหัว คัดเบอร์ส่งตลาดได้
8. โรค โรคหอมใหญ่ที่สำคัญคือ โรคแอนแทรคโนส ใบจุดสีม่วง โรคเลื้อย โรคเน่าและควรพ่นด้วยสารป้องกันกำจัดโรคพืช คือ คาร์เบนตาซิม โปรคลอราช แบนโดเซป และตัวใดตัวหนึ่งโดยสลับกันพ่น
9. แมลงศัตรู หอมใหญ่มีแมลงศัตรูที่สำคัญคือ หนอนกระทู้หอม หนอนชอนใบ ควรพ่นด้วยสารเคมี คลอร์ฟลูอาซูรอน เทบูฟีโนไซด์ สปิโนแสด บาซัลลัส ทูริงเยนซิส เชื้อไวรัส ฟิโปรนิล
และ อะมาแม็กติน เป็นต้น
ที่มา : กรมวิชาการเกษตร
ปลูกหอมหัวใหญ่ครบวงจร ลดความเสี่ยงราคาตกต่ำ
นายถาวร ปัญญา เกษตรกรคนเก่ง อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ ประสบความสำเร็จจากการนำผลผลิตหอมหัวใหญ่ มาขายโดยใช้ระบบโควต้า เพื่อควบคุมผลผลิตที่จะนำออกสู่ตลาดในแต่ละฤดูกาล ลดความเสี่ยงเรื่องการขาดทุน และสามารถประมาณราคาผลผลิตออกสู่ท้องตลาดได้
ถาวร เล่าว่า เดิมตนเองปลูกหอมหัวใหญ่ แต่ประสบปัญหาฝนตกชุกน้ำท่วมทำให้ผลผลิตเสียหาย ไม่ได้คุณภาพ จึงเริ่มเปลี่ยนแปลงการผลิตทั้งรูปแบบและช่วงเวลาการผลิต โดยเชื่อมโยงความต้องการของตลาด แล้วนำมากำหนดเวลาการผลิต โดยช่วงที่ทำการผลิตได้ดีมีคุณภาพ คือปลายเดือนธันวาคม เป็นต้นไป ซึ่งผลผลิตที่ออกจะมีราคาสูง
ด้านการดูแลรักษาจะปรึกษาผู้เชี่ยวชาญโรคและแมลงมาโดยตลอด ให้ความสำคัญต่อผู้เชี่ยวชาญ ยึดมั่นในความพอเพียงในการดำเนินชีวิต ตลอดจนผลิตเท่าที่กำลังที่ตนเองทำได้
ปัจจุบัน ถาวร ทำการผลิตแบบครบวงจรคือ ผลิต รวบรวม และขาย เพื่อลดความเสี่ยงเรื่องการขาดทุน ประกอบกับตนเองเป็นผู้รวบรวมหอมหัวใหญ่รายใหญ่ของ อ.แม่วางจะมีโควต้าที่แน่นอนในการขายผลผลิต นอกจากนี้ยังได้นำหอมหัวใหญ่นอก (หอมแขก) มาทำการทดลองปลูกเพื่อลดปัญหาต้นทุนสูง เนื่องจากราคาพันธุ์ต่ำกว่า และยังมีอาชีพเสริมคือ รวบรวมลำไยทั้งสดและแห้ง เนื่องจากราคาพันธุ์ต่ำกว่า และยังมีอาชีพเสริมคือ รวบรวมลำไยทั้งสดและแห้ง สร้างรายได้เพิ่มตลอดทั้งปี
แหล่งจำหน่ายผลผลิต ได้แก่ ตลาดในท้องถิ่น และรวบรวมขายส่งเอง ปัญหาที่พบคือ การลักลอบนำเข้าหอมหัวใหญ่โดยผิดกฎหมาย ส่งผลให้ราคาผลผลิตตกต่ำ วิธีการแก้ไขคือ ผลิตหอมหัวใหญ่ให้สามารถผลผลิตเก็บเกี่ยวได้ในช่วงที่ไม่ตรงกับแหล่งอื่น ๆ โดยงดผลิตในช่วงที่หอมหัวใหญ่จากพม่า จีน และปากีสถานออกสู่ตลาด เพื่อลดปัญหาราคาตกต่ำ เนื่องจากมีการนำเข้าจากต่างประเทศ สำหรับผู้ที่สนใจ ปลูกหอมหัวใหญ่แบบครบวงจร ติดต่อได้ที่ 236 หมู่ 3 ต.บ้านกาด อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ โทรศัพท์ 0-5348-9238 หรือ 08-1884-4958
ที่มา : เดลินิวส์
สงวนลิขสิทธิ์โดย © ++kasetloongkim.com++ All Right Reserved.