มะระจีน
1.พันธุ์ มะระมีพันธุ์ขนาดผลเล็ก จนถึงขนาดใหญ่ คือระระขี้นก มะระย่างกุ้ง มะระจัน มะระสองพี่น้อง ที่นิยมปลูกเป็นการค้าคือ มะระจีน และมะระสองพี่น้อง ปัจจุบัน บริษัทและส่วนราชการต่างๆ ได้นำพันธุ์มะระมาปรับปรุงพันธุ์ จนมีพันธุ์ลูกผสมต่างๆ ที่หมาะกับการปลูกแล้วให้ผลดีในประเทศไทย
2. วิธีการเพาะกล้า มีหลายวิธี เช่นเพาะในแปลงเพาะ ในถุงเพาะ ในถาดเพาะ และเพาะกล้าให้งอกก่อน แล้วค่อยลงปลูกในแปลง
3. การเตรียมดิน ไถตากดินประมาณ 7-10 วัน พรวนดิน ยกร่อง ปรับหน้าดินให้เรียบ เพื่อไม่ให้น้ำขัง จากนั้น วัดระยะขุดหลุม ระหว่างต้น x ระหว่างแถว ประมาณ 1 x1.5 เมตร ใส่ปุ๋ยคอกประมาณ 1 กำมือต่อหลุม รดน้ำใส่ปุ๋ย
4. การปลูก นำกล้าที่ได้ หรือเมล็ดที่เพาะงอกแล้ว นำมาปลูก หลุมละ 3-4 เมล็ด เมื่อมีใบจริง 2 ใบ ก็ถอนแยกเหลือ 2 ต้นต่อหลุม คลุมด้วยฟางข้าว รดน้ำให้ชุ่ม
5. การให้น้ำ มะระเป็นพืชต้องการน้ำมาก ควรให้น้ำอย่างสม่ำเสมอทุกวัน เว้นวันที่มีฝนตก
6. การทำค้าง ใช้ไม้ไผ่ผ่าซีก กว้าง 2-3 เซนติเมตร ยาวประมาณ 2 เซนติเมตร ถ้าใช้ไม้ลวกไม่ต้องผ่าใช้ไม้ลวกยาวประมาณ 2 เมตร เช่นกัน ปักไม้ลงไปข้างๆ หลุม แต่ละร่อง แล้วใช้ไม้พาดขวางต้นบน ร่องที่ 1 และร่องที่ 2 จนสุดร่อง แล้วใช้ตาข่ายขึงทั้ง 3 ต้น คือด้านข้างทั้งสองและด้านบน เพื่อสะดวกในการดูแลรักษา และเก็ลผลผลิต
7. การใส่ปุ๋ย ใส่ปุ๋ยรองก้นหลุมด้วยปุ๋ยคอก และเมื่อมะระอายุได้ 7 วัน ควรใส่ปุ๋ยคอกประมาณ 1 กำมือต่อหลุม โดยโรยรอบๆ โคน หลังจากนั้น ทุกๆ 7 วัน ใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 12-24-12 หรือ 46-0-0 ประมาณ 1 ช้องแกง ต่อหลุม แล้วพรวนดินรดน้ำให้ชุ่ม แต่น้ำไม่ขัง เมื่ออายุ 30 วัน ควรใส่สูตร 15-15-15 อัตรา 2 ช้อนแกงต่อหลุม พรวนดินรดน้ำให้ชุ่ม
8. การห่อผล เมื่ออายุได้ 40 วัน จะออกดอกและผลขนาดเท่านิ้วก้อย ก็เริ่มห่อผลได้ทันที โดยใช้กระดาษหนังสือพิมพ์ทำเป็นถุงขนาด 15 x20 เซนติเมตร ปากถุงเปิดทั้ง 2 ด้าน นำปากถุงด้านหนึ่งสวมผลมะระ แล้วใช้ไม้กลัดปากถุงห่อผลมะระ เพื่อช่วยให้มะระไม่ถูกแมลงรบกวน และสีเขียวน่ารับประทาน
9. การเก็บเกี่ยวผลผลิต มะระจะเก็บเกี่ยวได้เป็นรุ่นๆ เริ่มต้นแต่โคนเถาว์จนถึงปลายเถาว์ วันเว้นวัน
10. โรคของมะระ ได้แก่ โรคเหี่ยวตาย โรคเหี่ยวเนื่องจากเชื้อแบคทีเรีย โรคาน้ำค้าง ควรพ่นด้วย สเตรปโตมัยซิน เมนโดเซป ไดเมทโทม็อบ มาเน็ป
11. แมลงที่สำคัญ ได้แก่ แมลงวันทอง แมลงวันเจาะเถา เพลี้ยไฟ เพลี้ยอ่อน ควรพ่นด้วย มาลาไธออน ไดเมทโธเอท อะบาเม็กติน หรืออิมิดาโดลพริด
ที่มา : กรมวิชาการเกษตร
กับมะระหวานหรือ ซาโยเต้ และแหล่งที่จะหาต้นพันธุ์
มะระหวาน (Sechium eduli Sw.) หรือฝักแม้ว บ้างก็เรียก มะเขือเครือ มะเขือแม้ว แตงกะเหรี่ยง นี้ มีวิตามินซี ป้องกันเลือดออกตามไรฟัน มีแคลเซียม บำรุงกระดูกและฟัน และฟอสฟอรัส ก็ดีต่อกระดุกและฟันเช่นเดียวกัน และยังมีใยอาหารที่ย่อยง่ายช่วยให้ขับถ่ายสะดวก มะระหวาน นอกจากผลที่กินได้แล้ว ยอดอ่อนก็สามารถกินได้ด้วย ก่อนหน้าที่มะระหวานหากินได้ไม่ง่าย ๆ เพราะว่าเป็นพืชที่ปลูกอยู่ทางเหนือแถบเชียงราย เพชรบูรณ์ เพราะเป็นพืชที่ชอบอากาศหนาวเย็น และดินร่วนระบายน้ำได้ดี
แต่ตอนนี้ เนื่องจากมะระหวานเป็นพืชที่ได้รับความนิยมมาก เพราะรสชาติหวานอร่อย ไม่ว่านำไปผัดเปล่า ๆ ใส่น้ำมันหอย ผัดใส่ไข่ แกงจือ แกงแคหรือต้มกินกับน้ำพริกได้ทุกชนิด มะระหวานจึงหาซื้อได้ง่ายขึ้น ต้นมะระหวานมีลักษณะเป็นไม้เลื้อย มีหนวดหรือมือจับ งอกออกมาข้างก้านใบหย่อมละ 2-4 เส้น รายขยายออกตามอายุ เพื่อเก็บสะสมอาหาร ใบมี 5 แฉก คล้ายใบตำลึงแต่ใหญ่กว่า และผิวขรุขระ ภายในมีเนื้อและมีเมล็ดเพี่ยง 1 เมล็ด ขยายพันธุ์โดยใช้ผล และเก็บเกี่ยวส่วนขยายพันธุ์ในฤดูหนาว ฤดูกาลที่เก็บเกี่ยวได้มากคือ ระหว่างเดือนตุลาคมถึงกุมภาพันธ์ ส่วนที่ให้ประโยชน์ทางยา คือส่วนผลนี่เอง ที่มีมั้งวิตามินซี แคลเซียมและฟอสฟอรัส
ติดต่อพีนธุ์ที่ สถานีทดลองเกาษตรที่สูงวาวีโทร.(053)714-439,710-434 และมูลนิธิโครงการหลวง โทรศัพท์(053) 810765-8
http://jiamjit.awardspace.info/index.php?option=com_content&task=view&id=13&Itemid=44
สงวนลิขสิทธิ์โดย © ++kasetloongkim.com++ All Right Reserved.