ฟักแม้ว Chayote ซาโยเต้
ฟักแม้ว (Chayote) ฟักแม้ว,ชาโยเต้ หรือมะเขือเครือ เป็นพืชผักที่มีคุณค่าทางอาหารสูง ประกอบด้วย แคลเซียม วิตามินซี และฟอสฟอรัส สามารถบริโภคได้ทั้งยอดและผล ปลูกเลี้ยงง่าย โรคและแมลงน้อยมีปลูกมาทางภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียง เหนือตอนบน เช่น จังหวัดเลย และเพชรบูรณ์ แต่การบริโภคยังไม่แพร่หลายนัก เนื่องจากผลผลิตยังมีปริมาณไม่มากพอ ละมีจำหน่าย เฉพาะ แหล่งผลิต สภาพแวดล้อม ฟักแม้วเป็นพืชที่ชอบอากาศหนาวเย็น ชอบดินร่วน ระบายน้ำดี อุณหภูมิที่เหมาะสมกับการเจริญ เติบโต ประมาณ 20-30 องศาเซลเซียส ถ้าต้องการให้ผลผลิตออกมาต่อเนื่องตลอดทั้งปี ต้องมีแหล่งน้ำอย่างพอเพียง
การปลูกและการดูแลรักษา
นำผลฟักแม้วที่เห็นว่าแก่เต็มที่แล้ว โดยจะสังเกตเห็นได้จากเมล็ดและรากงอกออกมา แล้วนำไปเพาะลงถุงที่เตรียมไว้ โดยมีส่วนผสม ของ แกลบเผา แกลบดิบ ดินร่วน อัตราส่วน 1:1:2 ผสมกับปุ๋ยคอกเล็กน้อยให้ลึกครึ่งผล จนกระทั่งแตกยอดออกมายาวประมาณ 20-35 เซนติเมตร จึงนำไปปลูกในหลุมที่เตรียมไว้ ที่มีขนาด 50×50x50 ซม. โดยใช้ระยะปลูก 2×2 เมตร จะทำให้ได้จำนวนต้น 400 ต้น/ไร่ ทำค้างสูงประมาณ 2 เมตรให้น้ำ 2 วัน/ครั้ง สำหรับดินร่วนปนทราย ถ้าเป็นดินเหนียวควรให้น้ำ 4-5 วัน/ครั้ง ให้ปุ๋ยสูตร 12-24-12 และ 15-15-15 อัตรา 50-100 กิโลกรัม/ไร่ เพิ่มอินทรีย์วัตถุในดิน โดยใส่ปุ๋ยคอกทีมีเปอร์เซ็นต์ของธาตุอาหารสูง เช่น มูลไก่แห้ง ซึ่งมีธาตุอาหารสูง และเพิ่มปุ๋ยหมักเพื่อทำให้ดินร่วนขึ้น และจะทำให้อุ้มน้ำได้ดี โดยเฉพาะในดินทราย และควรมีการตัดแต่งเถา 3-4 ครั้ง/ปี โดยไว้เถาที่สมบูรณ์ ประมาณ 3-5 เถา/ต้น การเก็บเกี่ยว หลังจากปลูกจนถึงอายุ 6 เดือน ฟักแม้วจะเริ่มให้ผลผลิต
การเก็บผล
จะสังเกตได้จากสีของผลฟักแม้วมีสีเขียวอ่อน ขนาดของผลปานกลาง มีหนามเล็กน้อย ถ้าเก็บผลผลิตแก่เกินไป ผลจะมีเส้นใยมาก ผลผลิต ประมาณ 100-160 ผล/ต้น/ปี หรือ 25-40 กก./ต้น
ที่มา : ไม่ระบุ
ฟักแม้ว...ซาโยเต้....
ฟักแม้ว ปลูกครั้งเดียวเก็บกินและขายได้ 3 ปี ที่โครงการหลวงทุ่งเริง
ระยะนี้อยู่ในช่วงของ "ข้าวยากหมากแพง" สินค้าทุกชนิดขึ้นราคาเป็นว่าเล่น หรือเพราะราคาน้ำมันที่ขยับขึ้นราคาแทบทุกวัน แต่ราคาสินค้าด้านการเกษตรยังคงที่ บางชนิดเท่านั้นที่ขึ้นราคา เพราะการเก็งกำไรของนักธุรกิจ จากคำขวัญของเทคโนโลยีชาวบ้านที่ว่า "เงินทองเป็นมายา ข้าวปลาเป็นของจริง" จึงใช้ได้กับทุกวาระทุกสมัย ฉบับนี้มูลนิธิโครงการหลวงใคร่ขอเชิญชวนทุกท่านปลูกพืชผักรับประทานกันเองในบ้าน ไม่ต้องไปหาซื้อของแพงในตลาด ปลูกได้ง่าย ใช้เวลาสั้นแต่เก็บกินได้นาน สะอาดปลอดภัยไร้สารพิษ นั่นคือ ฟักแม้ว
บางท่านที่ชอบรับประทานข้าวต้ม มักจะสั่งอาหารประเภทนี้ จนพูดติดปากกันว่าถ้าสั่งฟักแม้วผัดน้ำมันหอย ราคาจานละ 30 บาท หากสั่งซาโยเต้ผัดน้ำมันหอย จะราคาเพิ่มเป็น 50 บาท
ฟักแม้ว เป็นชื่อเรียกตามภาษาพื้นบ้านภาคเหนือ หรือจะเรียกให้โก้หรูแบบภาษาญี่ปุ่นและได้ราคาสูงต้องเรียกว่า ซาโยเต้ ฟักแม้วเป็นพืชข้ามปี ลำต้นเป็นเถาเลื้อย มีมือเกาะที่เจริญจากข้อใบ ขยายพันธุ์ด้วยผลแก่ สภาพพื้นที่ที่เหมาะสมต่อการปลูกฟักแม้วจะต้องสูงจากระดับน้ำทะเล ประมาณ 500-1,400 เมตร เป็นที่ราบหรือที่ราบเชิงเขา อุณหภูมิเฉลี่ย 15-28 องศาเซลเซียส
การปลูกง่ายมาก เริ่มจากคัดเลือกหัวพันธุ์ที่ปลอดเชื้อไวรัสและแก่เต็มที่ นำไปปักชำในขี้เถ้าแกลบและทรายในที่ร่มที่มีความชื้น รอจนแตกรากและเริ่มแตกใบอ่อนจึงย้ายไปปลูกในหลุม ขนาด 50 x 50 x 50 เซนติเมตร ห่างกันประมาณ 1 เมตร ทำค้างด้วยไม้ไผ่เพื่อให้เถาฟักแม้วเลื้อยเกาะ หลังปลูก 15 วัน จึงใส่ปุ๋ยอินทรีย์ หรือใส่ปุ๋ยเคมี สูตร 15-15-15 ทุก 15 วัน
ศัตรูพืชของฟักแม้ว ได้แก่ โรคราน้ำค้าง ราแป้ง เพลี้ยอ่อน เพลี้ยไฟ เพลี้ยหอย แมลงหวี่ขาว การป้องกันกำจัด ควรใช้น้ำมันปิโตรเลียม หรือผงฟู 70 กรัม ผสมน้ำ 20 ลิตร อาจจะใช้สารเคมีกำจัดแมลงบ้างบางครั้งหากจำเป็นเมื่อเกิดศัตรูพืชระบาดมาก แต่ไม่ขอแนะนำเนื่องจากเราจะต้องรับประทานยอดอ่อนและผลอ่อน ควรปฏิบัติตามคำแนะนำหรือปรึกษาเจ้าหน้าที่พืชผักของมูลนิธิโครงการหลวง
ฟักแม้วสามารถเก็บผลผลิตได้ตั้งแต่หลังจากปลูก 50-60 วัน และเก็บเกี่ยวยอดและผลอ่อนรับประทานหรือจำหน่ายได้ตลอดระยะเวลา 3 ปี จึงรื้อออกแล้วปลูกใหม่ เนื่องจากต้นฟักแม้วที่แก่จะให้ยอดอ่อนน้อย ในขณะเดียวกัน เกษตรกรสามารถเก็บผลแก่ไว้ทำพันธุ์ได้เอง
คุณประโยชน์ของฟักแม้ว ด้วยการนำมาประกอบอาหาร เช่น ต้มหรือลวกจิ้มน้ำพริก แกงส้ม แกงเลียง ยำ ที่ชื่นชอบมากคือ นำไปผัดน้ำมันหอย ฟักแม้วมีคุณค่าทางอาหารคือ ให้วิตามินซี แคลเซียม ฟอสฟอรัส บำรุงกระดูกและฟัน ป้องกันหวัด
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงทุ่งเริง หมู่ที่ 6 ตำบลบ้านปง อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ โทรศัพท์ (053) 318-304 หรือที่งานประชาสัมพันธ์ โทร. (053) 810-765 ต่อ 108
http://www.rd1677.com/branch.php?id=37796
การปลูกฟักแม้ว
ฟักแม้ว (Chayote) ฟักแม้ว,ชาโยเต้ หรือมะเขือเครือ เป็นพืชผักที่มีคุณค่าทางอาหารสูง ประกอบด้วย แคลเซียม วิตามินซี และฟอสฟอรัส สามารถบริโภคได้ทั้งยอดและผล ปลูกเลี้ยงง่าย โรคและแมลงน้อยมีปลูกมาทางภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน เช่น จังหวัดเลย และเพชรบูรณ์ แต่การบริโภคยังไม่แพร่หลายนัก เนื่องจากผลผลิตยังมีปริมาณไม่มากพอ และมีจำหน่ายเฉพาะแหล่งผลิต สภาพแวดล้อม ฟักแม้วเป็นพืชที่ชอบอากาศหนาวเย็น ชอบดินร่วน ระบายน้ำดี อุณหภูมิที่เหมาะสมกับการเจริญเติบโต ประมาณ 20-30 องศาเซลเซียส ถ้าต้องการให้ผลผลิตออกมาต่อเนื่องตลอดทั้งปี ต้องมีแหล่งน้ำอย่างพอเพียง
การปลูกและการดูแลรักษา
นำผลที่เห็นว่าแก่เต็มที่แล้ว โดยจะสังเกตเห็นได้จากเมล็ดและรากงอกออกมา แล้วนำไปเพาะลงถุงที่เตรียมไว้ โดยมีส่วนผสมของ แกลบเผา แกลบดิบ ดินร่วน อัตราส่วน 1:1:2 ผสมกับปุ๋ยคอกเล็กน้อยให้ลึกครึ่งผล จนกระทั่งแตกยอดออกมายาวประมาณ 20-35 เซนติเมตร จึงนำไปปลูกในหลุมที่เตรียมไว้ ที่มีขนาด 50 x 50 x 50 ซม. โดยใช้ระยะปลูก 2 × 2 เมตร จะทำให้ได้จำนวนต้น 400 ต้น/ไร่ ทำค้างสูงประมาณ 2 เมตรให้น้ำ 2 วัน/ครั้ง สำหรับดินร่วนปนทราย ถ้าเป็นดินเหนียวควรให้น้ำ 4-5 วัน/ครั้ง ให้ปุ๋ยสูตร 12-24-12 และ 15-15-15 อัตรา 50-100 กิโลกรัม/ไร่ เพิ่มอินทรีย์วัตถุในดิน โดยใส่ปุ๋ยคอกทีมีเปอร์เซ็นต์ของธาตุอาหารสูง เช่น มูลไก่แห้ง ซึ่งมีธาตุอาหารสูง และเพิ่มปุ๋ยหมักเพื่อทำให้ดินร่วนขึ้น และจะทำให้อุ้มน้ำได้ดี โดยเฉพาะในดินทราย และควรมีการตัดแต่งเถา 3-4 ครั้ง/ปี โดยไว้เถาที่สมบูรณ์ ประมาณ 3-5 เถา/ต้น การเก็บเกี่ยว หลังจากปลูกจนถึงอายุ 6 เดือน ฟักแม้วจะเริ่มให้ผลผลิต
การเก็บผล
จะสังเกตได้จากสีของผลมีสีเขียวอ่อน ขนาดของผลปานกลาง มีหนามเล็กน้อย ถ้าเก็บผลผลิตแก่เกินไป ผลจะมีเส้นใยมาก ผลผลิต ประมาณ 100-160 ผล/ต้น/ปี หรือ 25-40 กก./ต้น
http://kasetonline.com/tag/%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%B8%A5%E0%B8%87%E0%B8%9F%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%B9%89%E0%B8%A7/