การบำรุงรักษาสวนปาล์มน้ำมัน
- การป้องกันและการกำจัดวัชพืช ไม่ควรกำจัดวัชพืชในช่วงฤดูแล้งเพราะจะทำให้ดินขาดความชุ่มชื่นได้
- การใส่ปุ๋ย ต้องคำนึงถึง ปริมาณธาตุอาหารที่มีอยู่ในดินเดิม ความต้องการของปาล์มน้ำมันในระยะต่าง ๆ สภาพแวดล้อมลมฟ้าอากาศ ชนิดของปุ๋ยและอัตราส่วนในการใช้
- การป้องกันกำจัดโรคแมลง เมื่อพบศัตรูพืชไม่ควรพ่นสารเคมีทันที เพราะจะทำให้เสียค่าใช้จ่ายสูงและยังทำลายศัตรูธรรมชาติที่เป็นประโยชน์ต่อปาล์มน้ำมันอีกด้วย ควรสุ่มตัวอย่าง เช่น ตัดทางใบที่ 17 ตรวจนับหนอนร่าน ถ้าพบมีมากกว่า 5 ตัว ต่อทางใบโดยเฉลี่ย จึงควรป้องกันกำจัดโดยพ่นสารเคมี
- การตัดช่อดอก ในระยะเริ่มการเจริญเติบโต การตัดช่อดอกตัวผู้และตัวเมีย ทิ้งในระยะแรก มีผลทำให้ต้นปาล์มเจริญเติบโตเร็ว แข็งแรง และมีขนาดใหญ่ เพราะอาหารที่ได้รับจะเสริมส่วนของลำต้น แทนการเลี้ยงช่อดอกและผลผลิต เมื่อถึงระยะให้ผลผลิตที่ต้องการ ผลผลิตจะมีขนาดใหญ่ และสม่ำเสมอ ถ้าไม่ตัดปล่อยทิ้งไว้ไม่เก็บเกี่ยว อาจเป็นแหล่งของเชื้อโรค โดยเฉพาะโรคทะลายเน่าได้
การปลูกปาล์มน้ำมัน
การเกษตรเรื่องการปลูกปาล์มน้ำมัน
การปลูกปาล์มน้ำมันควรให้ตรงกับช่วงฤดูฝน เพื่อทำให้ต้นปาล์มอยู่รอดและเจริญเติบโต ฤดูปลูกที่เหมาะสม อยู่ในระหว่างเดือนพฤษภาคม – มิถุนายน ซึ่งเป็นช่วงต้นฤดูฝนควรปลูกเมื่อตกแล้ว เพราะดินมีความชื้นการปลูกในช่วงนี้ทำให้ต้นปาล์มน้ำมัน ตั้งตัวในแปลงได้ยาวนานก่อนถึงฤดูแล้ง
- ต้นกล้าที่จะใช้ปลูกต้องมีอายุระหว่าง 10 – 12 เดือน
- ระยะเวลาปลูกอยู่ช่วงฤดูฝนเพราะเป็นปัจจัยสำคัญ เดือนพฤษภาคม – มิถุนายน
- ก่อนจะทำการปลูกต้นปาล์มควรทำการให้น้ำและพ่นสารเคมีป้องกันโรคและแมลงเสียก่อน ส่วนต้นกล้าที่เน่าเสียหรือผิดปกติให้คัดทิ้งได้ทันที
- หลุมปลูกมีขนาด 45 x 45 x 35 ขุดหลุมดินชั้นบน และชั้นล่างแยกกัน และตากหลุมประมาณ 10 วัน
- การขนย้ายต้นปาล์มน้ำมันควรใช้รถบรรทุกเพื่อหลีกเลี่ยงการกระทบกระเทือน และขณะทำการเคลื่อนย้ายควรระมัดระวังต้นกล้าให้มาก
- ก่อนทำการปลูกต้นปาล์มน้ำมันให้นำร๊อกฟอสเฟตใส่รองก้นหลุม อัตราส่วน 250 กรัมต่อหลุม ก่อนนำต้นกล้าลงปลูก ควรคลุกเคล้าดินกับปุ๋ย เพื่อป้องกันการสัมผัสของรากโดยตรง ใส่ดินชั้นบนลงไปในหลุม และอัดดินให้แน่น
- การตรวจแปลงหลังจากปลูก ต้นกล้าจะต้องอยู่ในสภาพเดิม ถ้าตรวจพบควรแก้ไขทันที
- หากพบว่าต้นกล้าตายหรือเกิดความเสียหายควรทำการปลูกซ่อมภายในระยะเวลา 1 เดือน หลังจากปลูก
การเกษตรความรู้ทั่วไปเรื่องปาล์ม
ปาล์มเป็นไม้ยืนต้น ชื่อสามัญ palm ชื่อวิทยาศาสตร์ Palmae หรือ Arecacae นับเป็นพืชวงศ์ใหญ่ที่สุดรองจากหญ้า ทั้งในแง่จำนวนของชนิด และปริมาณที่มีอยู่อย่างอุดมสมบูรณ์ จำแนกได้กว่า 210 สกุล และราว 3,800 ชนิด ปาล์มส่วนใหญ่มีลักษณะเฉพาะที่เด่นชัด คือลำต้นเป็นข้อ มีใบบนยอดเพียงที่เดียว ไม่แตกกิ่งก้าน มีก้านใบที่ยาวและใหญ่ ลักษณะใบแตกต่างกัน แต่ก็ไปรวมกลุ่มกันที่ปลายก้านที่เดียว
ต้นปาล์ม
ลำต้น
ปาล์มส่วนมากมีลักษณะลำต้นเดี่ยว งอกขึ้นจากพื้นต้นเดียว ไม่แตกหน่อหรือแตกกิ่ง เช่น มะพร้าว หมาก ปาล์มน้ำมัน ตาล เป็นต้น ยังมีปาล์มอีกหลายชนิด ที่มีลำต้นเดียวแต่มีการแตกกอขึ้นในที่ใกล้กันเป็นกอใหญ่ เช่น หมากแดง หมากเหลือง ปาล์มไผ่ ส่วนปาล์มที่มีขนาดลำต้นเล็ก นิยมปลูกเป็นไม้ประดับ
ใบปาล์ม
ใบ
ปาล์มมีลักษณะเด่นอยู่ที่ใบมีก้านใบที่ยาว และมีใบย่อยเรียงรายจำนวนมาก ใบอ่อนเป็นก้านยาวชูขึ้นไปบนยอด แล้วคลี่ขยายออกมา จำแนกได้เป็นสองประเภทใหญ่ๆ คือ ใบรูปขนนก และใบรูปพัดหรือฝ่ามือ
• ใบรูปขนนก (Pinnate) มีก้านใบเป็นแกนกลาง และมีใบย่อยเรียงสองข้าง ที่เห็นชัดก็ได้แก่ มะพร้าว หมาก ปาล์มขวด นอกจากนี้ยังมีใบของเต่าร้าง ที่เป็นรูปขนนกสองชั้น และใบปาล์มหางกระรอก เป็นใบพวง
• ใบรูปพัดหรือรูปฝ่ามือ (fan leaf, palmate leaf) ใบรูปพัด มีลักษณะคล้ายพัดจีน มีใบย่อยแตกออกจากจุดปลายของก้านใบในรัศมีวงกลม แผ่ออกไปติดกันบ้าง แยกกันบ้าง เช่น ใบตาล ลาน ปาล์มพัด เป็นต้น
ผลปาล์ม
ผล
ผลของพืชจำพวกปาล์มโดยมากมีเปลือกแข็ง มีขนาดที่หลากหลาย ผลปาล์มหลายชนิดรับประทานได้ ที่รู้จักกันดี ก็คือ ตาล จาก ชิด สละ ระกำ มะพร้าว หมาก (ใช้เคี้ยว) ปาล์มที่มีผลขนาดใหญ่ที่สุด คือมะพร้าวแฝด (coco-de-mer) ลักษณะผลของปาล์มส่วนใหญ่มีความคล้ายกัน บางชนิดก็มีผลเล็กมาก ออกเป็นช่อ เป็นทะลายเช่นเดียวกับหมากและมะพร้าว ส่วนเปลือกของผลระกำและสละนั้นบางมาก เปลือกนอกของปาล์มหลายชนิดเป็นเส้นใยเกาะตัวหนาแน่น ผลปาล์มส่วนใหญ่เหมาะแก่การแพร่พันธุ์เป็นอย่างยิ่ง หลายชนิดมีเปลือกนอกที่เบา มีเส้นใยเกาะหนา ลอยน้ำได้ บางชนิดมีเปลือกบางเป็นอาหารของสัตว์ป่า
ดอกปาล์ม
ดอก
จั่น หรือ ดอก ของพืชในวงศ์ปาล์มไม่ได้มีกลิ่น ไม่มีกลีบดอกสวยงาม โดยมากเป็นดอกขนาดเล็กและแข็ง ดอกของปาล์มนั้นประกอบด้วยกลีบเลี้ยง 3 กลีบ กลีบดอก 3 กลีบ เกสรตัวผู้ 3-6 อัน หรือมากกว่า เกสรตัวเมียมีรังไข่ 1-3 อัน ดอกของปาล์ม ออกเป็นช่อเป็นพวง ช่อดอกที่ยังอ่อนของปาล์มหลายชนิด เมื่อปาดส่วนปลายออกจะได้น้ำหวาน ทำน้ำตาลสด น้ำตาลปึก และน้ำตาลเมา ปาล์มส่วนใหญ่จะออกดอกเป็นระยะเรื่อยไปตลอดอายุขัย แต่มีปาล์มบางชนิดออกดอกครั้งเดียวเท่านั้น เพราะว่ากว่าจะออกดอกนั้นใช้เวลานานมาก เมื่อออกดอกและให้ผลแล้วต้นก็จะตายไป เนื่องจากใช้อาหารที่สะสมในลำต้นจนหมด ปาล์มที่มีลักษณะเช่นนี้ ได้แก่ สาคู
น้ำมันปาล์ม
ประโยชน์ของปาล์ม
1. อาหาร น้ำมันที่ใช้ประกอบอาหารในปัจจุบันสกัดจากปาล์มน้ำมันเป็นส่วนใหญ่นอกจากนี้คนไทยบริโภคน้ำมันจากมะพร้าวในรูปของกะทิ น้ำตาลจากมะพร้าว ตาล จาก อินทผลัม ต้นสาคู เเละชิด เป็นต้น
2. ที่อยู่อาศัย มนุษย์ได้เริ่มใช้ปาล์มมาทำเป็นที่อยู่อาศัยก่อนไม้ชนิดอื่น ๆ จะเห็นจากการใช้ใบจากมุงหลังคา ต้นหมาก ต้นเหลา ชะโอนทำเสาบ้าน พื้นบ้านและฝาบ้าน หวายใช้ผูกมัดในการก่อสร้าง ทำเครื่องเรือน เฟอร์นิเจอร์ต่าง ๆ
3. เครื่องนุ่งห่ม ปาล์มมีส่วนเกี่ยวข้องกับการย้อมสีเครื่องนุ่งห่ม ผลปาล์มบางชนิดใช้เป็นส่วนผสมในการย้อมสี เช่น หมากสง ปาล์มบางชนิดก็มีเส้นใยมากพอที่จะนำมาทำเครื่องนุ่งห่มได้
4. ยารักษาโรค ปาล์มหลายชนิดสามารถใช้รักษาโรคได้ อาจจะได้ในรูปสกัดออกมาเป็นทิงเจอร์หรือเป็นน้ำมัน ยาไทยโบราณหลายชนิดใช้รากจากปาล์มเป็นส่วนผสมอยู่มาก เช่น รากหมาก รากมะพร้าว รากตาล
5. ปาล์มยังเป็นที่นิยมในการนำมาปลูกเป็นไม้ประดับ เพื่อความสวยงามในการตกแต่งสถานที่ต่าง ๆ มีลักษณะสวยงามตกแต่งกันมากมายนับตั้งแต่ต้นเล็ก ต้นขนาดกลาง ต้นใหญ่ เป็นกอเป็นพุ่ม ต้นโต สูงชะลูด เป็นเถาเลื้อย รูปร่างลักษณะของใบก็มีให้เลือกใช้ได้หลายประการหลายชนิดทั้งขนาดและสีสัน จึงสามารถที่จะเลือกและนำมาตกแต่งสถานที่ทั้งขนาดใหญ่หรือขนาดเล็กใช้ได้อย่างเหมาะสมและสวยงาม
www.การเกษตร.com/tag/ปาล์ม/ -
สงวนลิขสิทธิ์โดย © ++kasetloongkim.com++ All Right Reserved.