-
++kasetloongkim.com++ - Content
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ

เมนูหลัก

» หน้าแรก
» เว็บบอร์ด
» ผู้ดูแล
» ไม้ผล
» พืชสวนครัว
» พืชไร่
» ไม้ดอก-ไม้ประดับ
» นาข้าว
» อินทรีย์ชีวภาพ
» ฮอร์โมน
» จุลินทรีย์
» ปุ๋ยเคมี
» สารสมุนไพร
» ระบบน้ำ
» ภูมิปัญญาพื้นบ้าน
» ไร่กล้อมแกล้ม
» โฆษณา ฟรี !
» โดย KIM ZA GASS
» สมรภูมิเลือด
» ชมรม

ผู้ที่กำลังใช้งานอยู่

ขณะนี้มี 415 บุคคลทั่วไป และ 0 สมาชิกเข้าชม

ท่านยังไม่ได้ลงทะเบียนเป็นสมาชิก หากท่านต้องการ กรุณาสมัครฟรีได้ที่นี่

เข้าระบบ

ชื่อเรียก

รหัสผ่าน

ถ้าท่านยังไม่ได้เป็นสมาชิก? ท่านสามารถ สมัครได้ที่นี่ ในการเป็นสมาชิก ท่านจะได้ประโยชน์จากการตั้งค่าส่วนตัวต่างๆ เช่น ฉากหรือพื้นโปรแกรม ค่าอ่านความคิดเห็น และการแสดงความเห็นด้วยชื่อท่านเอง

สถิติผู้เข้าเว็บ

มีผู้เข้าเยี่ยมชม
PHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG Counter ครั้ง
เริ่มแต่วันที่ 1 มกราคม 2553

product13

product9

product10

product11

product12

อาชีพเสริม





"ชาติชาย รุ่งเจริญ" ขายกล้วยปิ้งสร้างครอบครัว


ในภาวะเศรษฐกิจฝืดเคือง แต่อาหารการกินยังเป็นหนึ่งในปัจจัย 4 ของคนไทย เช่นเดียวกับอาชีพขายกล้วยปิ้งของ "ชาติชาย รุ่งเจริญ" หนุ่มใหญ่ชาวพิจิตร แม้จะเป็นเพียงแค่มีเพิงขาย แต่เพราะมีสูตรเด็ดเป็นต้นทุน ผนวกกับมีความอดทนสูง ก็สามารถรับเงินหลักพันมาจุนเจือครอบครัวได้ทุกวัน



 "ชาติชาย" เล่าถึงการสู้ชีวิตของตนเองว่า ยึดการขายกล้วยปิ้งในเมืองพิจิตรมากว่า 10 ปี ขณะที่ภรรยาก็รับจ้างอยู่ใน รพ.สหเวชพิจิตร ช่วยกันเลี้ยงลูก 2 คน ด้วยคิดว่าลงทุนน้อย วัตถุดิบหาง่าย และไม่ค่อยมีคู่แข่งจึงตัดสินใจยึดอาชีพนี้


โดยที่ชาติชายเลือกทำเลหน้าอู่โกยก ถนนทางไปปั๊ม ปตท.ศรีวนิชย์ ปลูกเป็นเพิงขายกล้วยปิ้ง โดยเจ้าของที่ดินคิดค่าเช่า ค่าน้ำ ค่าไฟ เดือนละ 500 บาท จึงชวนน้องสาวและแม่คือนางสุข แซ่ด่าน วัย 82 ปี ให้มาช่วยกันขายข้าวเหนียวปิ้ง ไส้เผือก ไส้มัน ไส้กล้วยขายคู่กัน


"ทุกวันผมต้องตื่นตี 2 ไปซื้อกล้วยน้ำว้าที่ตลาดสดเทศบาล ในราคา 7 หวี 100 บาท มีขึ้นลงนิดหน่อย แล้วแต่ฤดูกาล โดยจะซื้อวันละ 50 หวี นำมาปิ้งขาย 6-8 ลูก 10 บาท ส่วนการเลือกกล้วยก็จะเลือกที่สุกกำลังดี ลูกใหญ่ เพราะเมื่อปิ้งเสร็จจะนุ่มอร่อย โดยการปิ้งจะใช้ถ่านจากไม้สะเดา กระถิน ไม้ละมุด มะขามเทศ เพราะควันไฟของถ่านจากไม้เหล่านี้จะทำให้กล้วยที่ปิ้งหอม"  


เมื่อปิ้งกล้วยสุกได้ที่ ชาติชาย บอกว่า ก็จะนำไปชุบน้ำจิ้ม ที่ประกอบด้วย น้ำตาล เกลือ กะทิ ที่มีรสเค็มเป็นรสนำ และนำไปปิ้งไฟอีกรอบ ซึ่งรอบนี้ให้หยดน้ำจิ้มลงไปในเตาถ่านไฟ เพื่อให้ควันที่พวยพุ่งออกมาเคลือบที่ผิวของกล้วยทำให้เหลืองหอม น่ารับประทานยิ่งขึ้น


"เราจะเริ่มลงมือทำทั้งกล้วยปิ้งและข้าวเหนียวปิ้งตั้งแต่ตี 4 และจะขายหมดทุกวัน ซึ่งจะไม่เกินบ่าย 2 โมงเย็น โดยเฉลี่ยก็จะมีรายได้ 2 คน คนละ 1,000 บาท เมื่อหักแล้วก็จะเหลือกำไรคนละ 200-300 บาท ต่อคน ก็ถือว่าพออยู่ได้ อาศัยความประหยัดมัธยัสถ์ ตามแนวเศรษฐกิจพอเพียง เก็บเล็กผสมน้อยทุกวันนี้สามารถซื้อทาวน์เฮ้าส์ในราคาเกือบล้านบาทให้ลูกและครอบครัวได้อยู่อย่างไม่ลำบาก" ชาติชาย เล่า


ส่วนที่ชาติชายเป็นห่วงก็คือ กลัวจะไม่มีทายาทสืบทอดการทำอาชีพนี้ ซึ่งเป็นภูมิปัญญาดั้งเดิมตั้งแต่ยุคแม่ ดังนั้นจึงฝากถึงผู้ที่สนใจอยากเรียนรู้เขาก็ไม่หวงวิชา และจะถ่ายทอดให้ทุกคน ส่วนลูกๆ ก็จะมาช่วยในช่วงเสาร์-อาทิตย์ แต่พวกเขาจะยึดเป็นอาชีพหรือไม่ก็ต้องแล้วแต่อนาคต


ปัจจุบันร้านกล้วยปิ้งและข้าวเหนียวปิ้งของชาติชายมีลูกค้าประจำตั้งแต่ผู้ว่าราชการจังหวัด ส.ส. ส.จ. ส่วนใครที่ต้องการลิ้มลองถ้ามาจังหวะช่วงพักเที่ยงก็ต้องยืนรอ 10-15 นาที แต่ถ้าป้องกันการผิดหวังให้โทรสั่งจองได้ที่ 08-3163-2370 หากถึงเวลาเลยไป 5-10 นาที ไม่มาเอาก็ถือว่าสละสิทธิ์ ต้องให้คนอื่นที่ยืนรอคิวเอาไปแทน


“ผมอยากจะให้กำลังใจหลายๆ คนที่กำลังตกงาน และกำลังคิดหาอาชีพทำ ขอแนะนำอาชีพขายกล้วยปิ้ง ข้าวเหนียวปิ้ง ที่บางคนมองว่าเป็นอาชีพกระจอก แต่จริงๆ แล้ว รายได้อยู่ได้อย่างสบาย สนใจอยากชิมหรืออยากเรียนรู้ผมไม่หวงวิชา ขอให้แวะมาลองชิมก่อน ส่วนจะตัดสินใจอย่างไรนั้นค่อยว่ากัน แต่ขอบอกกล้วยปิ้ง ข้าวเหนียวปิ้งสูตรโบราณของที่นี่การันตีในความอร่อยครับ" ชาติชาย กล่าวทิ้งท้าย 


ที่มา  :  คม ชัด ลึก









สงวนลิขสิทธิ์โดย © ++kasetloongkim.com++ All Right Reserved.

ติดประกาศ: 2010-05-16 (1386 ครั้ง)

[ ย้อนกลับ ]
Content ©