-
++kasetloongkim.com++ - Content
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ

เมนูหลัก

» หน้าแรก
» เว็บบอร์ด
» ผู้ดูแล
» ไม้ผล
» พืชสวนครัว
» พืชไร่
» ไม้ดอก-ไม้ประดับ
» นาข้าว
» อินทรีย์ชีวภาพ
» ฮอร์โมน
» จุลินทรีย์
» ปุ๋ยเคมี
» สารสมุนไพร
» ระบบน้ำ
» ภูมิปัญญาพื้นบ้าน
» ไร่กล้อมแกล้ม
» โฆษณา ฟรี !
» โดย KIM ZA GASS
» สมรภูมิเลือด
» ชมรม

ผู้ที่กำลังใช้งานอยู่

ขณะนี้มี 190 บุคคลทั่วไป และ 0 สมาชิกเข้าชม

ท่านยังไม่ได้ลงทะเบียนเป็นสมาชิก หากท่านต้องการ กรุณาสมัครฟรีได้ที่นี่

เข้าระบบ

ชื่อเรียก

รหัสผ่าน

ถ้าท่านยังไม่ได้เป็นสมาชิก? ท่านสามารถ สมัครได้ที่นี่ ในการเป็นสมาชิก ท่านจะได้ประโยชน์จากการตั้งค่าส่วนตัวต่างๆ เช่น ฉากหรือพื้นโปรแกรม ค่าอ่านความคิดเห็น และการแสดงความเห็นด้วยชื่อท่านเอง

สถิติผู้เข้าเว็บ

มีผู้เข้าเยี่ยมชม
PHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG Counter ครั้ง
เริ่มแต่วันที่ 1 มกราคม 2553

product13

product9

product10

product11

product12

แฟ้มงานวิจัย





วช. ชู  "กระชายดำ"  ทำยา-อาหารเสริม เอกชนรับต่อยอดสู่อุตสาหกรรม


เภสัชฯ มข. พัฒนาเทคนิคสกัดสารสำคัญในกระชายดำพร้อมศึกษาฤทธิ์ทางยา พบสรรพคุณเพียบ ทั้งฆ่าเชื้อแบคทีเรียในกระเพาะอาหาร ยับยั้งเซลล์มะเร็ง ฤทธิ์ต้านการอักเสบ ลดเครียด บำรุงสมองและความจำ เอกชนขอใช้สิทธิ์ผลิตระดับอุตสาหกรรม ทำยาบำรุงผู้สูงอายุ หวังยกระดับสมุนไพรไทยสู่สากล

       
       รศ.ดร.บังอร ศรีพานิชกุล นักวิจัยจากศูนย์วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์สุขภาพจากสมุนไพร คณะเภสัชศาสตร์
มหาวิทยาลัยขอนแก่น (มข.) เปิดเผยว่า กระชายดำเป็นพืชสมุนไพร ที่มีการปลูกกันมากในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ตามความเชื่อดั้งเดิมของชาวเขาเผ่าม้งถือว่ากระชายดำเป็นสมุนไพรประจำเผ่าที่มีคุณสมบัติเป็นยาอายุวัฒนะ แก้ปวดเมื่อย เหนื่อยหอบ บำรุงหัวใจ บำรุงกำลัง
       
       รวมทั้งกระชายดำยังช่วยเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ ซึ่งเป็นฤทธิ์ของกระชายดำที่ได้รับความสนใจจากประชาชนอย่างมาก ทำให้มีการนิยมบริโภคกระชายดำมากขึ้นโดยนำมาทำเป็นผลิตภัณฑ์หลายรูปแบบ ส่งผลให้กระชายดำมีราคาสูงขึ้นถึงกิโลกรัมละ 800-1,000 บาท เมื่อหลายปีก่อน แต่ปัจจุบันมีราคาเพียงไม่10-30 บาทต่อกิโลกรัม
       
       "เป็นที่ทราบกันดีว่า กระชายดำมีสรรพคุณทางยาหลายอย่าง โดยเฉพาะฤทธิ์ต้านการอักเสบ แต่ยังไม่มีข้อมูลทางวิชาการที่แน่ชัด จึงได้วิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ยาและอาหารเสริมจากสารสกัดกระชายดำ และศึกษาการออกฤทธิ์เพื่อยืนยันสรรพคุณที่มีการอ้างถึง และก็พบว่าให้ผลตรงกันกับที่กล่าวอ้าง" รศ.ดร.บังอร กล่าว
       
       ทั้งนี้ ในการทดลอง นักวิจัยเลือกใช้เหง้ากระชายดำที่ปลูกใน จ.เลย และควบคุมคุณภาพผลิตภัณฑ์โดยวิธีควบคุมปริมาณสารสำคัญที่สกัดได้ คือ สารฟลาโวนอยด์ประเภท เมทอกซีฟลาโวน (methoxyflavones) จำนวน 11 ตัว
       
       จากการศึกษาในแล็บและในสัตว์ทดลอง นักวิจัยพบว่าสารสกัดกระชายดำมีฤทธิ์ต้านการอักเสบโดยยับยั้งเอนไซม์คอกซ์-2 (COX-2) และสามารถลดอาการบวมและอักเสบในหนูทดลองได้เมื่อทำเป็นผลิตภัณฑ์ในรูปแบบเจลทาผิวหนัง ซึ่งให้ผลดีเทียบเท่ายามาตรฐานกลุ่มเอ็นเซดส์ (NSAIDS) และสเตียรอยด์ (Steroid)
       
       สารสกัดจากกระชายดำยังมีฤทธิ์ช่วยเพิ่มการไหลของเลือดในสมองหนู ช่วยเพิ่มการเรียนรู้และความจำได้ในหนูที่มีภาวะเครียด ป้องกันการตายของเซลล์ประสาทที่ถูกเหนี่ยวนำจากภาวะสมองขาดเลือด และช่วยกระตุ้นพฤติกรรมทางเพศของหนูและการสืบพันธุ์ของสาหร่ายเซลล์เดียวได้เทียบเท่ากับยากระตุ้นสมรรถภาพทางเพศกลุ่มซิลเดนาฟิล (Sildenafil) ซึ่งได้มีการศึกษาทางคลินิกในกลุ่มผู้สูงอายุและอาสาสมัครเพศชายแล้วพบว่าให้ผลสอดคล้องกัน
       
       นอกจากนั้นยังพบว่า กระชายดำมีฤทธิ์ฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ในช่องปากและทางเดินอาหาร ยับยั้งเซลล์มะเร็งลำไส้ใหญ่และมะเร็งตับจากการทดลองในระดับเซลล์ และพบฤทธิ์ช่วยลดน้ำตาลและไขมันในเลือดจนเกือบเท่าปกติเมื่อทดสอบในสัตว์ทดลอง และขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างทดสอบระดับคลินิกในอาสาสมัครที่มีไขมันในเลือดสูง
       
       "การนำพืชสมุนไพรมาพัฒนาเป็นยา ต้องทดสอบความปลอดภัยก่อนเป็นอันดับแรก จากการศึกษาพิษวิทยาโดยให้หนูทดลองกินสารสกัดกระชายดำต่อเนื่องทุกวันเป็นเวลา 6 เดือน ไม่พบว่ามีความผิดปกติใดๆ ต่ออวัยวะสำคัญ และมีความปลอดภัยในระดับที่ยอมรับได้ แต่ถ้าเป็นในคน จะไม่แนะนำให้กินต่อเนื่องกันเป็นเวลานาน และยังต้องศึกษาเพิ่มเติมถึงความปลอดภัยในระยะยาวเกินกว่านั้น" รศ.ดร.บังอร กล่าวต่อทีมข่าววิทยาศาสตร์ ASTVผู้จัดการออนไลน์ และสื่อมวลชน
       
       ทั้งนี้ นักวิจัยได้รับทุนสนับสนุนจาก
สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ในการศึกษาและพัฒนาผลิตภัณฑ์สุขภาพและการทดสอบฤทธิ์ทางคลินิกของสารสกัดกระชายดำมาตั้งแต่ปี 2547 จนถึงปัจจุบัน และล่าสุดได้ถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตผลิตภัณฑ์และกรรมวิธีการผลิตสารสกัดหยาบกระชายดำที่มีปริมาณฟลาโวนอยด์สูงให้แก่บริษัท บางกอกแล็ป แอนด์ คอสเมติค จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยาและเวชสำอาง
       
       นายสุวิทย์ งามภูพันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บางกอกแล็ป แอนด์ คอสเมติค จำกัด เปิดเผยว่า ปกติการนำสมุนไพรมาทำเป็นผลิตภัณฑ์ยา จะมีปัญหาในเรื่องปริมาณสารออกฤทธิ์ไม่คงที่ แต่บางกอกแล็ปเป็นบริษัทแรกๆ ที่สามารถพัฒนายาจากสมุนไพรจนได้รับการยอมรับในระดับสากล และใช้กันอย่างแพร่หลายในโรงพยาบาลทั่วไปคือ เจลพริกลดอาการปวดอักเสบ
       
       "เราสนใจที่จะพัฒนาผลิตภัณฑ์ยาจากกระชายดำมานานแล้ว เมื่อได้รับการถ่ายเทคโนโลยีการสกัดกระชายดำจาก วช. ในครั้งนี้ จึงมองว่าจะพัฒนาเป็นผลิตภัณฑ์ยาสำหรับผู้สูงอายุก่อน เพราะสารสกัดกระชายดำมีฤทธิ์โดดเด่นในด้านการลดปวดอักเสบ ช่วยบำรุงสมอง เพิ่มความจำ และเพิ่มสมรรถภาพทางเพศ โดยหลังจากได้ผลิตภัณฑ์ออกมาแล้วจะทำการทดสอบในระดับคลินิกร่วมกับแพทย์ให้มีข้อมูลทางวิชาการสนับสนุนเพิ่มเติม" นายสุวิทย์ กล่าว
       
       ทั้งนี้ นายสุวิทย์ยังเปิดเผยว่า บริษัทพร้อมนำผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาดทันที่ที่ได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และในอนาคตจะขยายสู่ผลิตภัณฑ์รูปแบบอื่น รวมทั้งต่อยอดสู่การคัดเลือกสายพันธุ์และควบคุมคุณภาพตั้งแต่การเพาะปลูกกระชายดำ.


ที่มา  :  ผู้จัดการ









สงวนลิขสิทธิ์โดย © ++kasetloongkim.com++ All Right Reserved.

ติดประกาศ: 2010-05-10 (654 ครั้ง)

[ ย้อนกลับ ]
Content ©