-
++kasetloongkim.com++ - Content
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ

เมนูหลัก

» หน้าแรก
» เว็บบอร์ด
» ผู้ดูแล
» ไม้ผล
» พืชสวนครัว
» พืชไร่
» ไม้ดอก-ไม้ประดับ
» นาข้าว
» อินทรีย์ชีวภาพ
» ฮอร์โมน
» จุลินทรีย์
» ปุ๋ยเคมี
» สารสมุนไพร
» ระบบน้ำ
» ภูมิปัญญาพื้นบ้าน
» ไร่กล้อมแกล้ม
» โฆษณา ฟรี !
» โดย KIM ZA GASS
» สมรภูมิเลือด
» ชมรม

ผู้ที่กำลังใช้งานอยู่

ขณะนี้มี 313 บุคคลทั่วไป และ 0 สมาชิกเข้าชม

ท่านยังไม่ได้ลงทะเบียนเป็นสมาชิก หากท่านต้องการ กรุณาสมัครฟรีได้ที่นี่

เข้าระบบ

ชื่อเรียก

รหัสผ่าน

ถ้าท่านยังไม่ได้เป็นสมาชิก? ท่านสามารถ สมัครได้ที่นี่ ในการเป็นสมาชิก ท่านจะได้ประโยชน์จากการตั้งค่าส่วนตัวต่างๆ เช่น ฉากหรือพื้นโปรแกรม ค่าอ่านความคิดเห็น และการแสดงความเห็นด้วยชื่อท่านเอง

สถิติผู้เข้าเว็บ

มีผู้เข้าเยี่ยมชม
PHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG Counter ครั้ง
เริ่มแต่วันที่ 1 มกราคม 2553

product13

product9

product10

product11

product12

แฟ้มงานวิจัย





“ไบโอเทคบูม” ช่วยเกษตรกรเพิ่มผลผลิต


เดอะ เจอร์นัล กาเซ็ต – ไบโอเทคหรือเทคโนโลยีชีวภาพมีข้อได้เปรียบทั้งในแง่การบริโภคและความหลากหลายของสายพันธุ์ และเรากำลังเก็บเกี่ยวประโยชน์เหล่านั้นตั้งแต่อาการที่ราคาถูกกว่าและมีคุณภาพดีกว่าไปจนถึงการอนุรักษ์ผืนดินและป่าไม้
       
       ข้อมูลในปี 2004 ชี้ว่าพื้นที่มีการปลูกพืชไบโอเทคทั้งโลกอยู่ที่ประมาณ 200 ล้านเอเคอร์ หรือ 500 ล้านไร่ เพิ่มขึ้นจาก 167 ล้านเอเคอร์หรือ 417.5 ล้านไร่จากปี 2003 ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อถึง 47 เท่านับตั้งแต่ปี 1996
       
       เช่นเดียวกับที่สหรัฐฯ พื้นที่การปลูกพืชไบโอเทคเพิ่มขึ้นทุกปี
ส่วนมากเป็นข้าวโพด เป็นฝ้ายถึงสี่ในห้า และเกือบ 90 เปอร์เซ็นต์ของถั่วเหลืองเป็นพืชดัดแปลงพันธุกรรม (จีเอ็มโอ) นั่นหมายความว่า มีการตัดและต่อยืนของสิ่งมีชีวิตอื่นเข้าไปในพืชเหล่านั้นเพื่อให้เกิดลักษณะใหม่ขึ้น เช่นเดียวกับการปรับปรุงพันธุ์ด้วยวิธีการผสมข้ามเพื่อให้พืชมีลักษณะใหม่ ซึ่งเป็นวิธีที่เราใช้กันมานานมากแล้ว
       

       การปรับปรุงพันธุ์พืชโดยใช้เทคโนโลยีพันธุวิศวกรรมหรือการตัดต่อยืนของพืชประมาณ 30 ชนิดอยู่ในระหว่างการวิจัยและพัฒนาของบริษัทมอนซานโต้ ที่เมืองเซนต์หลุยส์ สหรัฐอเมริกา ซึ่งการปรับปรุงพันธุ์พืชส่วนใหญ่มีแนวคิดพื้นฐานมาจากความต้องการช่วยเหลือเกษตรกร ทำให้ต้นทุนในการเพาะปลูกลดลง ได้ผลผลิตมากขึ้นขณะที่ใช้พื้นที่ปลูกน้อยลง ซึ่งเป็นการอนุรักษ์ธรรมชาติได้อีกทางหนึ่ง
       
       ในจำนวนพืชเหล่านี้ มีข้าวโพด ถั่วเหลือง ฝ้าย และพืชน้ำมันคาโนลา ซึ่งมีคุณสมบัติทนแล้ง มอนซานโต้มีวีดีโอเปรียบเทียบข้าวโพดทนแล้งและข้าวโพดทั่งซึ่งอยู่ในสภาพอากาศร้อนที่อุณหภูมิ 100 องศา ใบของข้าวโพดทั่วไปม้วนเข้า ขณะที่ใบของข้าวโพดทนแล้งยังคงเปิดใบรับแสงทำให้ต้นข้าวโพดยังคงเติบโตได้ต่อไป ซึ่งนักวิจัยได้ตรวจสอบอุณหภูมิที่ใบข้าวโพดแล้วพบว่า อุณหภูมิเย็นกว่า
       
       ภัยแล้งมักจะทำลายพืชต่างๆ ในสหรัฐฯ ทำให้เกษตรกรประสบปัญหาอย่างมากและต้องขึ้นราคาผลิตผลเมื่อนำไปจำหน่ายในตลาดแต่ในประเทศที่ยากจนในส่วนอื่นๆ ของโลก ความแห้งแล้งหมายถึงความอดอยากและความตาย ขณะที่ลูกค้าหลักของมอนซานโต้เป็นเกษตรกรในสหรัฐฯ ก็ยังมีตลาดในต่างประเทศ ซึ่งได้มีการพัฒนาพืชอื่นๆ เพื่อเกษตรกรในประเทศกำลังพัฒนา เช่น มันเทศต้านทานโรค
       
       นอกจากนี้ ขณะที่พืชไบโอเทค อย่างฝ้ายช่วยเพิ่มผลผลิตให้เกษตรกรชาวเอเมริกันได้ 10 เปอร์เซ็นต์หรือมากกว่านั้น เกษตรกรชาวแอฟริกันในสหรัฐอเมริกาบอกว่า ฝ้ายไบโอเทคเพิ่มผลผลิตให้ได้ถึง 2 เท่า เพราะเมล็ดพันธุ์ไบโอเทคเป็นข้อได้เปรียบอย่างเดียวที่เขามี เพราะเขาไม่มีรถแทรกเตอร์ ไม่มีสารกำจัดแมลง หรือแม้แต่ระบบที่บอกตำแหน่งได้ว่า เขาควรใช้สารกำจัดแมลงหรือใส่ปุ๋ยตรงไหน
       
       ถ้าจะกล่าวถึงผลิตภัณฑ์อีกอย่างหนึ่งของมอนซานโต้ก็คือ ข้าวโพดที่เพิ่มการใช้ไนโตรเจน พืชส่วนใหญ่รวมทั้งข้าวโพดจะดึงไนโตรเจนจากดินมาใช้ ดังนั้นเกษตรกรต้องใส่ปุ๋ยอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งเป็นค่าใช้จ่าย และถ้าไม่มีการจัดการแปลงที่ดี ก็สามารถเป็นอันตรายต่อสิ่งแวดล้อมได้ เมื่อฝนตกแล้วชะปุ๋ยเหล่านั้นลงน้ำก็จะทำให้พวกเห็ดราเติบโตแย่งอาหารพืชและสัตว์น้ำได้
       
       ในประเทศกำลังพัฒนา การดัดแปลงพันธุกรรมพืชให้สามารถใช้ไนโตรเจนได้อย่างมีประสิทธิภาพสามารถลดปริมาณการใช้ปุ๋ยลง หรือพืชสามารถให้ผลผลิตมากขึ้นขณะที่ใส่ปุ๋ยเท่าเดิม ซึ่งเกษตรกรที่มีรายได้น้อยสามารถหาปุ๋ยได้จากมูลสัตว์หรือทำปุ๋ยใช้เองภายในครัวเรือน
       
       ปัจจุบันนี้ พืชไบโอเทคเกือบทุกชนิดสามารถช่วยลดการใช้ทั้งสารกำจัดวัชพืชหรือสารกำจัดแมลง อย่างไรก็ตามผลิตภัณฑ์ใหม่ของมอนซานโต้ได้รวมคุณสมบัติทั้งสองอย่างไว้ในพืชเดียว กระทรวงเกษตรของสหรัฐฯ เพิ่งอนุมัติข้าวโพดที่สามารถต้านทานได้ทั้งสารกำจัดวัชพืชและป้องกันหนอนเจาะรากข้าวโพด
       
       นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์อื่นที่มุ่งให้ประโยชน์กับผู้บริโภคโดยตรง เช่น ถั่วเหลืองที่ดีต่อสุขภาพ ทั้งที่ใช้ในการผลิตน้ำมันพืชและนำมาประกอบอาหาร ซึ่งได้มีการเพิ่มกรดไขมันโอเมกา-3 ลงไปในถั่วเหลือง ซึ่งช่วยลดอัตราเสี่ยงการเกิดโรคหัวใจ นอกจากนี้ยังเพิ่มคุณค่าโปรตีนในถั่วเหลือง ลดไขมันแปรรูปและไขมันอิ่มตัวซึ่งเป็นสาเหตุของโรคหัวใจ


ที่มา  :  ผู้จัดการ









สงวนลิขสิทธิ์โดย © ++kasetloongkim.com++ All Right Reserved.

ติดประกาศ: 2010-05-10 (715 ครั้ง)

[ ย้อนกลับ ]
Content ©