-
++kasetloongkim.com++ - Content
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ

เมนูหลัก

» หน้าแรก
» เว็บบอร์ด
» ผู้ดูแล
» ไม้ผล
» พืชสวนครัว
» พืชไร่
» ไม้ดอก-ไม้ประดับ
» นาข้าว
» อินทรีย์ชีวภาพ
» ฮอร์โมน
» จุลินทรีย์
» ปุ๋ยเคมี
» สารสมุนไพร
» ระบบน้ำ
» ภูมิปัญญาพื้นบ้าน
» ไร่กล้อมแกล้ม
» โฆษณา ฟรี !
» โดย KIM ZA GASS
» สมรภูมิเลือด
» ชมรม

ผู้ที่กำลังใช้งานอยู่

ขณะนี้มี 231 บุคคลทั่วไป และ 0 สมาชิกเข้าชม

ท่านยังไม่ได้ลงทะเบียนเป็นสมาชิก หากท่านต้องการ กรุณาสมัครฟรีได้ที่นี่

เข้าระบบ

ชื่อเรียก

รหัสผ่าน

ถ้าท่านยังไม่ได้เป็นสมาชิก? ท่านสามารถ สมัครได้ที่นี่ ในการเป็นสมาชิก ท่านจะได้ประโยชน์จากการตั้งค่าส่วนตัวต่างๆ เช่น ฉากหรือพื้นโปรแกรม ค่าอ่านความคิดเห็น และการแสดงความเห็นด้วยชื่อท่านเอง

สถิติผู้เข้าเว็บ

มีผู้เข้าเยี่ยมชม
PHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG Counter ครั้ง
เริ่มแต่วันที่ 1 มกราคม 2553

product13

product9

product10

product11

product12

ประมง





กำลังปรับปรุงครับ


การเพาะเลี้ยงปลาบึก แบบมืออาชีพระดับประเทศ

ปลาบึกถือว่า เป็นปลาที่มีความสำคัญต่อประชาชนอาศัยอยู่ในลุ่มแม่น้ำโขงที่ยาวที่สุดในตะวันออกเฉียงใต้ ตามอนุสัญญาว่าด้วยการอนุรักษ์พันธ์พืชและสัตว์ป่า Conventional On International Trade In Endangered Species (CITES) Of Wild Fauna And Flora กำหนดให้ปลาบึกเป็นปลาที่กำลังสูญพันธุ์ (Endanger Species) ต่อมาคณะเทคโนโลยีการประมงและทรัพยากรทางน้ำ ได้ทำการศึกษาวิจัยด้านองค์ความรู้ต่างๆ เกี่ยวกับปลาบึก จึงทำให้การเพาะเลี้ยงพ่อแม่พันธุ์ปลาบึกจากบ่อดินประสบความสำเร็จในการเพาะผสมเทียมพ่อแม่พันธุ์ รุ่นที่ 1 ในปี 2545 ได้ลูกปลาบึกจำนวนมากพอกับการเลี้ยงและบริโภค ประกอบกับปลาบึกมีคุณค่าทางโภชนาการที่ดีและความอร่อยของปลาบึก จึงสามารถที่จะพัฒนารูปแบบการเพาะเลี้ยงปลาบึกในเชิงพาณิชย์

สำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ได้ให้ทุนสนับสนุนการวิจัยแก่ รองศาสตราจารย์ ดร.เกรียงศักดิ์ เม่งอำพัน คณะเทคโนโลยีการประมงและทรัพยากรทางน้ำ มหาวิทยาลัยแม่โจ้ จัดทำโครงการอบรมการเพาะเลี้ยงปลาบึกแบบมืออาชีพระดับประเทศ ซึ่งเป็นทุนอุดหนุนการทำกิจกรรมส่งเสริมและสนับสนุนการวิจัยประเภทโครงการสร้างความร่วมมือและการถ่ายทอดเทคโนโลยีจากผลงานวิจัยและผลงานประดิษฐ์คิดค้นประจำปี 2552 ทั้งนี้เพื่อเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับปลาบึกให้แก่ผู้เลี้ยงปลาบึก และบุคคลทั่วไปที่สนใจ ให้มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับปลาบึกมากขึ้น และสามารถนำความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้ในการประกอบอาชีพได้ และพัฒนาผลิตภัณฑ์ปลาบึกเพื่อเพิ่มมูลค่า รวมถึงการพัฒนาด้านการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ปลาบึก สามารถลดต้นทุนการผลิต เพิ่มคุณภาพผลการผลิตและแข่งขันได้ ทำให้เกษตรกรมีการเลี้ยงปลาบึกเพิ่มมากขึ้นเพื่อรองรับการบริโภคในประเทศและการส่งออกมากขึ้น

สำหรับปลาบึกนอกจากเป็นปลาน้ำจืดที่ไม่มีเกล็ดที่ใหญ่ที่สุดในโลกแล้ว ยังเป็นปลาศักดิ์สิทธิ์ จำศีลกินอาหารจำพวกพืชเท่านั้น ผู้ใดได้บริโภคเนื้อปลาบึกจะประสบแต่โชคดีเป็นผู้มีบุญ ประกอบกับเนื้อปลาบึกมีรสชาติดี เนื้อแน่นเป็นแว่น ไข่มีขนาดเท่าเม็ดพริกไทย นิยมนำมาทำส้มไข่ปลา ชาวจีนโบราณเชื่อว่า ใครได้ลิ้มรสปลาบึกแล้วจะมีอายุยืนยาว สติปัญญาเฉียบแหลมประดุจขงเบ้ง จึงให้สมญานามปลาชนิดนี้ว่า "ปลาขงบ้ง" ส่วนการเรียกชื่อ "ปลาบึก" นั้น คนไทยรู้จักชื่อนี้มาเป็นเวลาช้านาน คำว่า "บึก" อันเป็นที่มาของชื่อปลาชนิดนี้เป็นภาษาท้องถิ่น นัยว่าเป็นภาษาโซ่งทางลุ่มน้ำโขงตอนล่าง ซึ่งมีความหมายว่า "ใหญ่" และมีอีกคำหนึ่งในภาษาถิ่นล้านนาและภาษาอีสานที่มีความหมายใกล้เคียงกันคือ "หึก" หมายความว่า "ใหญ่ ทึบ"

การผสมเทียมลูกปลาบึกจากพ่อแม่พันธุ์ จากแม่น้ำโขงเลี้ยงในบ่อดินจนเป็นพ่อแม่พันธุ์ อายุ 16 ปี สามารถประสบผลสำเร็จ ในปี 2544 และ ปี2545 ที่ภาควิชาเทคโนโลยีการประมง คณะผลิตกรรมการเกษตร มหาวิทยาลัยแม่โจ้ ผสมเทียมได้สำเร็จ จนปี 2547 จากพ่อแม่พันธุ์อายุ 10 ปี และ 12 ปี ได้ลูกปลาบึก ขนาด 3-4 นิ้ว เพื่อใช้ทดลองวิจัยเลี้ยงปลาบึกในบ่อดิน จำหน่ายให้เกษตรกรและแจกให้หน่วยงานราชการ ตลอดจนปล่อยสู่แหล่งน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่ทั่วประเทศ รวมทั้งแม่น้ำโขง ปลาบึกเป็นปลาที่เลี้ยงง่ายมีอัตราการเจริญเติบโตดีให้ผลผลิตสูง เมื่อเลี้ยงในบ่อดินที่มีอัตราการปล่อยเหมาะสม หรือแหล่งน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่

ดังนั้นหากสามารถพัฒนาปลาบึกให้เป็นสัตว์น้ำเศรษฐกิจได้ ก็จะเป็นผลดีอย่างยิ่งต่อเศรษฐกิจของประเทศไทย ส่งผลให้ลดการจับปลาจากแม่น้ำโขง ลดการนำเข้าปลาธรรมชาติจากต่างประเทศ ตลอดจนเป็นแหล่งอาหารโปรตีนอย่างดีให้แก่ประชากร อย่างไรก็ตามการส่งเสริมการเลี้ยงปลาบึกยังต้องมีข้อมูลเพิ่มเติมและป้องกันแก้ไขปัญหาอีกหลายประการ เช่นระบบการผลิตและการพัฒนาสายพันธุ์ปลาบึกจากการเลี้ยงที่ดี การรับรองสายพันธุ์หรือการจดทะเบียนฟาร์มปลาบึก ปลาบึกปลอมหรือลูกปลาบึกลูกผสม การขยายตลาดปลาบึกในประเทศให้กว้างขึ้น ปลาบึกจึงเป็นทรัพยากรที่มีความสำคัญต่อประเทศและภูมิภาค อินโดจีน และประเทศไทยเป็นประเทศแรกที่มีองค์ความรู้ มีเทคโนโลยีทุกด้าน และมีโอกาสสูงในการพัฒนาเป็นปลาเศรษฐกิจตัวใหม่



ที่มา  :  แนวหน้า









สงวนลิขสิทธิ์โดย © ++kasetloongkim.com++ All Right Reserved.

ติดประกาศ: 2010-05-05 (1458 ครั้ง)

[ ย้อนกลับ ]
Content ©