-
++kasetloongkim.com++ - Content
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ

เมนูหลัก

» หน้าแรก
» เว็บบอร์ด
» ผู้ดูแล
» ไม้ผล
» พืชสวนครัว
» พืชไร่
» ไม้ดอก-ไม้ประดับ
» นาข้าว
» อินทรีย์ชีวภาพ
» ฮอร์โมน
» จุลินทรีย์
» ปุ๋ยเคมี
» สารสมุนไพร
» ระบบน้ำ
» ภูมิปัญญาพื้นบ้าน
» ไร่กล้อมแกล้ม
» โฆษณา ฟรี !
» โดย KIM ZA GASS
» สมรภูมิเลือด
» ชมรม

ผู้ที่กำลังใช้งานอยู่

ขณะนี้มี 237 บุคคลทั่วไป และ 0 สมาชิกเข้าชม

ท่านยังไม่ได้ลงทะเบียนเป็นสมาชิก หากท่านต้องการ กรุณาสมัครฟรีได้ที่นี่

เข้าระบบ

ชื่อเรียก

รหัสผ่าน

ถ้าท่านยังไม่ได้เป็นสมาชิก? ท่านสามารถ สมัครได้ที่นี่ ในการเป็นสมาชิก ท่านจะได้ประโยชน์จากการตั้งค่าส่วนตัวต่างๆ เช่น ฉากหรือพื้นโปรแกรม ค่าอ่านความคิดเห็น และการแสดงความเห็นด้วยชื่อท่านเอง

สถิติผู้เข้าเว็บ

มีผู้เข้าเยี่ยมชม
PHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG Counter ครั้ง
เริ่มแต่วันที่ 1 มกราคม 2553

product13

product9

product10

product11

product12

สัตว์เลี้ยง





หนุนเลี้ยงไหม 15 รุ่นต่อปี


นายไพโรจน์ ลิ้มจำรูญ อธิบดีกรมหม่อนไหม กล่าวว่า ปัจจุบันนี้เส้นไหมทั้งโลกขาดแคลนอย่างมาก กรมหม่อนไหมจึงได้ปรับนโยบายในเรื่องการปลูกหม่อนและเลี้ยงไหม จากเดิมใน 1 ปี เกษตรกรจะเลี้ยงไหมเมื่อมีเวลาว่าง หลังจากที่ลงพืชผลทางการเกษตรไปแล้ว โดยในปีหนึ่งจะทำ การเลี้ยงประมาณ 7 รุ่น และใน 7 รุ่น จะมีรายได้ประมาณ 10,000-20,000 บาท ซึ่งขณะนี้ได้ปรับในเรื่องการบริหารจัดการใน การปลูกหม่อนและเลี้ยงไหมให้เกษตรกรสามารถเลี้ยงไหมได้ปีละไม่น้อยกว่า 15 รุ่น โดยกรมหม่อนไหม จะเป็นผู้เลี้ยงไหมวัยอ่อน และให้เกษตรกรเลี้ยงไหมวัยแก่ ซึ่งจะเป็นการลดเวลา ลดความเสี่ยงในเรื่องของการเลี้ยงไหมวัยอ่อนแล้วไม่ประสบผลสำเร็จ เพราะต้องดูแลอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ การเลี้ยงไหมวัยแก่จะมีปัญหาน้อยกว่าและสามารถเพิ่มผลผลิตได้มากขึ้น
   
“นอกจากความสำคัญของการบริหารจัดการแล้ว กรมหม่อนไหมยังได้ เน้นในเรื่องของการผลิตเส้นไหมที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐานตรงตามความต้องการของตลาด ซึ่งขณะนี้เส้นไหมมีราคากิโลกรัมละ 1,400-2,000 บาท โดยขึ้นอยู่กับการผลิตและารสาวไหมในแต่ละรุ่น ดังนั้น จึงได้จัดให้มีการอบรมให้ความรู้แก่เกษตรกร ในเรื่องการปลูกหม่อน และการเลี้ยงไหมที่มีคุณภาพ ว่าทำอย่างไรเส้นไหมจึงจะมีความมัน ความเหนียว ความยาว และมีความสวยงาม รวมทั้งการถักทอ การออกแบบลายผ้า ตลอดจนการวิเคราะห์ตลาด        ว่ามีความต้องการอย่างไร ไม่ว่าจะเป็นสี หรือลายดอกแบบใด กรมหม่อนไหม จึงพยายามที่จะเข้าไปถ่ายทอดเทคโนโลยีและองค์ความรู้เหล่านี้ให้เกษตรกรเพื่อผลิตสินค้าให้ตรงกับความต้องการของตลาด” นายไพโรจน์ กล่าว.


ที่มา  :  เดลินิวส์









สงวนลิขสิทธิ์โดย © ++kasetloongkim.com++ All Right Reserved.

ติดประกาศ: 2010-05-05 (1169 ครั้ง)

[ ย้อนกลับ ]
Content ©