'บีเกิ้ล' สุนัขที่เหมาะกับเด็ก
"บีเกิ้ล” เป็นสุนัขที่มีถิ่นกำเนิดในประเทศอังกฤษ คาดว่าสุนัขสายพันธุ์นี้ถือกำเนิดมานานไม่ต่ำกว่า 2,000 ปี และมีชื่อเสียงมากในยุคของพระนางอลิซาเบธ จัดอยู่ในจำพวกกลุ่มสุนัขล่าเนื้อ มีขนสั้นและหูปรก
เป็นสุนัขที่มีประสาทด้านการดมกลิ่นเป็นเลิศ ต่อมาได้มีการ พัฒนาสายพันธุ์เพื่อเป็นผู้ช่วยมนุษย์ในการกีฬาต่าง ๆ โดยเฉพาะการล่ากระต่ายและยังได้รับการฝึกให้เป็นสุนัขตรวจสอบยาเสพติดและวัตถุระเบิด ปัจจุบันบีเกิ้ล ยังได้รับความนิยมนำมาเป็นสัตว์เลี้ยงด้วยขนาด ตัวที่พอเหมาะ, เป็นสุนัขที่มีอารมณ์ดี และสุขภาพแข็งแรงมีความทนทานต่อโรค
ผู้มีประสบการณ์ในการเลี้ยงบีเกิ้ลมานานบอกว่าสุนัขสายพันธุ์นี้เหมาะกับ เด็ก ๆ จึงเป็นสุนัขที่นิยมเลี้ยงกันในครอบครัว โดยมาตรฐานของสายพันธุ์แล้ว จะมีนิสัยใจกล้า จงรักภักดี กระฉับกระเฉง กล้าตัดสินใจ ตื่นตัว ขี้สงสัย สุภาพอ่อนโยน รักความสะอาด เข้ากับผู้อื่นได้ง่าย เมื่อเจริญเติบโตเต็ม ที่จะมีส่วนสูงเฉลี่ย 33-40 เซนติเมตร มีน้ำหนักตัวเฉลี่ยอยู่ที่ 8-14 กิโลกรัม ในการให้อาหารที่ถูกต้อง คือ อายุระหว่าง 2-3 เดือน ควรให้อาหารเม็ดวันละ 4 มื้อ มื้อละ 1 ถ้วย (ให้ทุก ๆ 4-6 ชั่วโมง) โดยใช้ถ้วยกาแฟขนาดเล็กตวงผสมกับอาหารกระป๋อง 1 ช้อนโต๊ะ คลุกเคล้าให้ทั่ว
เมื่อบีเกิ้ลมีอายุระหว่าง 3-4 เดือน ลดเวลาการให้อาหารเหลือวันละ 3 มื้อ มื้อละ 1 ถ้วย ให้ทุก ๆ 6-8 ชั่วโมง และเมื่อมีอายุ 4 เดือน-1 ปี ให้อาหารเม็ดวันละ 2 มื้อ มื้อละ 1 ถ้วย และเมื่อสุนัขมีอายุมากกว่า 1 ปีขึ้นไป สามารถลดการให้อาหารเหลือเพียงวันละ 1 มื้อก็เพียงพอแล้ว อาหารจำพวกนมจะให้ช่วงที่เป็นลูกสุนัขแรกเกิดจนถึง 2 เดือน ที่สำคัญในการเลี้ยงบีเกิ้ลนั้นผู้เลี้ยงไม่ควรให้อาหารสด (อาหารคน) เนื่องจากจะทำให้สุนัขติดใจในรสชาติและจะไม่กินอาหารเม็ดอีกต่อไป มีข้อห้ามในเรื่องของอาหารโดยเฉพาะช็อกโกแลตและหัวหอมห้ามให้อย่างเด็ดขาดเพราะอาจจะทำให้สุนัขได้รับอันตรายถึงตายได้
ในการดูแลความสะอาดให้กับบีเกิ้ลซึ่งมีขนสั้น เพียงแค่อาบน้ำให้สัปดาห์ละครั้งก็เพียงพอ จากนั้นก็เช็ดหรือเป่าตัวให้แห้งพร้อมกับแปรงขนไปด้วยหรือถ้าไม่สกปรกมากจะใช้เพียงผ้าสะอาดชุบน้ำเช็ดตัว เนื่องจากบีเกิ้ลมีขนสั้นและมีสีเข้ม ควรแปรงขนทุก ๆ 3-4 วัน เพื่อกำจัดเส้นขนที่ตายแล้วออกไป โดยปกติแล้วบีเกิ้ลไม่ค่อยมีกลิ่นสาบและมีการผลัดขนน้อยมาก อีกทั้งไม่มีน้ำลายไหลเยิ้ม อย่าลืมว่าบีเกิ้ลจัดเป็นสุนัขอีกสายพันธุ์หนึ่งที่ชอบการออกกำลังกาย ควรจะพาไปออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 2 ครั้งเช้า-เย็น
ลักษณะโดดเด่นประจำพันธุ์บีเกิ้ลก็คือมีพลังในการเห่าหอนอาจจะทำให้ขโมยแสบแก้วหูได้และยังจัดเป็นสุนัขที่ไม่ค่อยกลัว ตัวประหลาด เช่น ตุ๊กตาหน้าตาแปลก ๆ.
http://www.dailynews.co.th/web/index.cfm?page=content&categoryID=347&contentID=86542
ทะนุพงศ์ กุสุมา ณ อยุธยา ta-nu-pong@hotmail.com
คอกถิ่นไทยบางแก้ว เชิญชวนร่วมกันเลี้ยงและอนุรักษ์
สุนัขสายพันธุ์บางแก้ว
สุนัขประจำชาติไทย
"สุนัขสายพันธุ์บางแก้ว" เป็นสุนัขไทยพันธุ์เดียวในประเทศไทยที่มีขนยาว 2 ชั้น หางเป็นพวง มีขนขาหน้าคล้ายขนขาแข้งสิงห์ แผงรอบคอคล้ายสิงโตมีความเฉลียวฉลาด ไอคิวสูง แหล่งกำเนิดของสุนัขไทยพันธุ์บางแก้วนั้นอยู่ที่ วัดบางแก้ว ตำบลบางแก้ว อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก ซึ่งตั้งอยู่ริมแม่น้ำยม สภาพภูมิประเทศทั่วๆ ไปนั้น ยังคงเป็นป่านานาพรรณ ป่าระกำ ป่าไผ่ และต้นไม้ชนิดต่างๆ ขึ้นอยู่อย่างหนาแน่น เหมาะสำหรับเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าชนิดต่างๆ เช่น ช้างป่า เป็นโขลงๆ หมูป่า ไก่ป่า สุนัขจิ้งจอก และหมาไน ฯลฯ
สันนิษฐานว่า สุนัขไทยพันธุ์บางแก้ว เป็นสุนัขลูกผสมสามสายเลือด พื้นที่ในเขตตำบลบางแก้ว ตำบลชุมแสงสงคราม อำเภอบางระกำ ในอดีตนั้นเป็นป่าที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยสัตว์ป่านานาชนิด รวมทั้งสุนัขจิ้งจอกและหมาไนอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก
เมื่อมีการผสมข้ามพันธุ์กันตามธรรมชาติ หรือเรียกง่ายๆ ว่า ธรรมชาติเป็นผู้ผสม และคัดเลือกพันธุ์ในที่สุดก็ได้สุนัขไทยพันธุ์บางแก้ว ซึ่งมีลักษณะดีเด่นปรากฏโฉมออกมาคือ มีขนยาว ขนมีลักษณะเป็นขนสองชั้น คล้ายอานม้า หางเป็นพวงสวยงาม มีขนแผงคอคล้ายแผงคอสิงโต ดุ เฉลียวฉลาด มีไอคิวสูง ไม่แพ้สุนัขพันธุ์ต่างประเทศ จากนั้นเมื่อมีผู้เข้าไปพบเห็น เกิดการชื่นชอบจึงนำออกมาเลี้ยงกันอย่างแพร่หลายในเมืองพิษณุโลก หรืออาจกล่าวได้ว่าเป็นสุนัขประจำจังหวัด และเรียกสุนัขดังกล่าวว่า "สุนัขบางแก้ว"
"คอกถิ่นไทยบางแก้ว" เป็นอีกแห่งหนึ่งในหลายแห่งของประเทศไทย ที่เลี้ยงและจำหน่ายสุนัขสายพันธุ์บางแก้ว โดยมี คุณอนุรักษ์ ขันแก้วลดา เป็นเจ้าของและผู้ดูแล
คุณอนุรักษ์ เป็นบุคคลหนึ่งที่คร่ำหวอดอยู่ในวงการปศุสัตว์มานานหลายสิบปี เพราะอดีตมีครอบครัวที่ประกอบอาชีพทำฟาร์มสุกร โค กระบือ รวมทั้งยังแถมมีอาชีพค้าขายอีกด้วย จึงทำให้คุณอนุรักษ์ต้องมีหน้าที่รับผิดชอบการเลี้ยงสัตว์หลายชนิดมาตั้งแต่วัยเยาว์
คุณอนุรักษ์ จบการศึกษาในระดับปริญญาตรี สาขาการจัดการทั่วไป และนิติศาสตรบัณฑิต จากมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ทั้งยังจบในระดับปริญญาโท สาขารัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต จากสถาบันพัฒนบริหารศาสตร์ หรือ นิด้า ปัจจุบัน ทำงานเป็นเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดสกลนคร ในตำแหน่งหัวหน้าส่วนแยกบ้านม่วง
คุณอนุรักษ์ กล่าวถึงมูลเหตุที่ทำให้เขาสนใจเลี้ยงสุนัขบางแก้วเพราะมีความชื่นชอบในเรื่องของอุปนิสัยที่มีความจงรักภักดี มีความซื่อสัตย์ต่อเจ้าของที่เลี้ยง พร้อมทั้งมีรูปร่างลักษณะที่สวยงามอยู่ในตัวเอง และมีส่วนสัดที่ลงตัวไม่แพ้สุนัขพันธุ์ต่างประเทศ ด้วยเหตุผลดังกล่าว จึงเป็นแรงจูงใจอยากเลี้ยงและพัฒนาสายพันธุ์ให้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม เพื่อเป็นการเสริมเอกลักษณ์ให้เกิดความโดดเด่น
บางแก้วที่ดี ต้องมาจากมาตรฐานสายพันธุ์ที่ดี
เจ้าของกิจการบอกว่า การทำธุรกิจฟาร์มสุนัขเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน เป็นการขายสิ่งที่มีชีวิต ขายความน่ารักและความสวยงาม ฉะนั้น การเริ่มต้นทำธุรกิจประเภทนี้จะต้องศึกษาทั้งภาคทฤษฎีและปฏิบัติจากตำรา เอกสาร ทั้งในประเทศและต่างประเทศอย่างละเอียด ทั้งนี้ เพราะตำราแต่ละอย่างมีส่วนดีคนละด้าน
"ตำราของไทยจะศึกษาจากผู้มีประสบการณ์ในการเลี้ยงจริงๆ ก็คือ เจ้าของคอกหรือฟาร์ม เพราะจะได้รู้เทคนิคการเลี้ยงสุนัขไทย ทุกขั้นตอนตั้งแต่การคัดเลือกพ่อ-แม่พันธุ์ การผสมพันธุ์ การตั้งท้อง การเลี้ยงลูกสุนัขในวัยต่างๆ หรือแม้แต่การดูแลแม่พันธุ์หลังคลอด เป็นต้น ส่วนตำราต่างประเทศจะได้ศึกษาเกี่ยวกับเทคนิคการถ่ายทอดกรรมพันธุ์ การถ่ายทอดยีนเด่น-ด้อย การผสมพันธุ์โดยวิธีเหล่าเดียวกัน (Line breed) วิธีการผสมต่างเหล่า (Out breed) หรือแม้แต่วิธีการผสมสายเลือดเดียวกันหรือพ่อ-แม่เดียวกัน (In breed)
รวมถึงการเสริมจุดเด่นและแก้ไขจุดด้อยจากทฤษฎีตำรามาสู่ภาคปฏิบัติเพื่อให้สามารถผลิตลูกสุนัขที่ดีมีคุณภาพอย่างเป็นระบบ ไม่ใช่เพียงแต่ว่าแค่หาพ่อ-แม่พันธุ์สวยๆ มาผสมกัน แล้วได้ลูกออกมาเลี้ยงเท่านั้น โดยไม่คำนึงถึงสายเลือดพ่อ-แม่พันธุ์เลย" คุณอนุรักษ์ ให้ข้อมูลเพิ่ม
ตัวอย่างที่ดี มีค่ายิ่งกว่าคำสอน
เป็นที่แน่นอนว่าผู้ประกอบกิจการเลี้ยงสัตว์ ไม่ว่าจะเป็นชนิดใด ประเภทใด ควรจะมีการใฝ่หาความรู้ไม่เพียงแต่ในตำรา เอกสารเท่านั้น ควรมุ่งเน้นที่จะศึกษาจากของจริง เพราะการได้สัมผัสด้วยตนเองจะทำให้ได้รู้ถึงขั้นตอนการปฏิบัติที่ลึกซึ้งและละเอียดถี่ถ้วน การแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้นจากสภาพความเป็นจริงในภาคสนามที่สำคัญเป็นการสะสมประสบการณ์จริงให้แก่ผู้เลี้ยง
"ได้ไปดูกิจการตามคอก-ฟาร์มต่างๆ ในจังหวัดพิษณุโลก จังหวัดอื่นๆ รวมทั้งที่กรุงเทพฯ ด้วย อาทิ ฟาร์มโชคชัย ก็ได้เรียนรู้ระบบการจัดฟาร์มที่ดี การวางแผนแบบแปลนฟาร์ม บริเวณที่เลี้ยง กรงเลี้ยง กรงนอน หรือแม้แต่สนามเพื่อใช้สำหรับออกกำลังกายของสุนัขที่เป็นสนามได้มาตรฐาน
ได้ไปศึกษาดูงานจากฟาร์มต่างประเทศเพื่อนำมาประยุกต์ใช้ให้เหมาะสมกับสภาพภูมิอากาศในประเทศไทย รวมไปถึงความเหมาะสมกับสภาพจำนวนพื้นที่ในการตั้งฟาร์ม" คุณอนุรักษ์ เล่า
เจ้าของคอกยังบอกเพิ่มเติมอีกว่า คอกถิ่นไทยของเขาได้นำการจัดรูปแบบมาจากฟาร์มโชคชัยที่ใช้เลี้ยงสุนัข โดยจัดให้มีกรงสนามเพื่อใช้ออกกำลังกายของสุนัขในช่วงเช้า-เย็น กรงนอนหรือห้องนอนที่มีทั้งพัดลมและเครื่องปรับอากาศ พร้อมทั้งได้ติดมุ้งลวดเพื่อป้องกันยุงและสัตว์อื่นที่อาจเป็นพาหะนำโรคต่างๆ มาสู่สุนัข จึงทำให้สุนัขมีสุขภาพแข็งแรง พร้อมทั้งมีสุขภาพของขนและผิวหนังดี ไม่มีโรค
ราคาสมดุลกับคุณภาพ สร้างรากฐานความซื่อสัตย์
คุณอนุรักษ์ ยังกล่าวอีกว่า การดำรงอยู่ได้ของธุรกิจประเภทนี้ขึ้นอยู่กับระบบการจัดการที่ดี ความละเอียดเอาใจใส่อย่างใกล้ชิด ไม่ควรละเลย ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเล็กหรือใหญ่ เพราะนั่นอาจนำไปสู่ความล้มเหลวในที่สุด
"ที่คอกของเรามีการจัดระบบอย่างดี สะอาด จัดอาหารที่เหมาะสมและมีประโยชน์ต่อสุนัขทุกตัว มีการฉีดยาบำรุงหรือกินยาบำรุงสุขภาพของพ่อ-แม่พันธุ์อย่างสม่ำเสมอ จัดให้มีการคัดเลือกพ่อ-แม่พันธุ์ทุกปี เพื่อให้ได้ลูกสุนัขที่มีคุณภาพดี
ส่วนการกำหนดราคา ควรให้สมดุลกับคุณภาพสุนัข มีความซื่อสัตย์ต่อลูกค้า ไม่ควรเอาเปรียบลูกค้า ควรให้คำแนะนำหลังการขาย บอกจุดเด่น-ด้อย ของลูกสุนัขตัวนั้นๆ ให้ลูกค้าทราบทันทีที่มีการซื้อ-ขาย เพื่อลูกค้าจะได้หาทางปรับพฤติกรรมก่อนที่ลูกสุนัขตัวนั้นจะโตขึ้น" เจ้าของบอก
ปัจจุบัน คอกถิ่นไทยบางแก้ว มีจำนวนสุนัขอยู่ทั้งหมด 24 ตัว ดังนี้ มีพ่อพันธุ์ จำนวน 5 ตัว แม่พันธุ์ จำนวน 19 ตัว
นอกจากนั้น มีครูฝึกพร้อมกับเจ้าหน้าที่ทั้งหมด 4 คน ยกเว้น แฮนด์เลอร์ (Handler) หรือผู้จูงสุนัขประกวด ที่จะต้องจ้างทุกครั้งที่มีงานประกวด โดยสุนัขที่จะเข้าประกวดจะต้องใช้เวลาอยู่กับแฮนด์เลอร์ด้วยกันเป็นเวลาประมาณ 1 เดือน ก่อนการประกวด ทั้งนี้ เพื่อฝึกซ้อมในเรื่องต่างๆ และเป็นการสร้างความคุ้นเคยก่อนการเข้าประกวดทุกครั้ง
คุณภาพของสุนัขที่ผ่านเกณฑ์ ชี้วัดว่า ฟาร์มมีคุณภาพ
คุณอนุรักษ์ ยังให้รายละเอียดต่ออีกว่า การส่งสุนัขไทยพันธุ์บางแก้วเข้าประกวดตามงานต่างๆ ต้องลงทุนสูงกว่าการเลี้ยงหรือการเพาะพันธุ์เสียด้วยซ้ำ เพราะต้องใช้อาหารเกรดพรีเมี่ยม ยาบำรุงขนและผิวหนัง กินนมแทนน้ำ สุนัขต้องเลี้ยงอยู่ในห้องปรับอากาศเท่านั้น
เพราะสุนัขที่เข้าประกวดเป็นการวัดคุณภาพของสุนัขว่าอยู่ในเกณฑ์มาตรฐานท่ามกลางสายตาของกรรมการและคนดูทั้งสนาม หากสามารถผ่านการทดสอบตามเกณฑ์ที่กำหนดก็จะเป็นการยอมรับว่าเป็นสุนัขที่อยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน ทั้งยังเป็นตัวชี้วัดว่าพ่อ-แม่พันธุ์ ของคอกมีคุณภาพ ที่สำคัญเป็นการสร้างความน่าเชื่อถือให้กับลูกค้าโดยตรง
สำหรับการผ่านสนามประกวดคุณภาพของสุนัขที่อยู่ในสังกัดคอกถิ่นไทยเป็นการประลองการทดสอบจิตประสาทถึงความไม่หวาดกลัวขณะอยู่ในฝูงชน หรือแม้แต่การได้ยินเสียงดังๆ แล้วไม่เกิดอาการกลัว และพ่อพันธุ์ในคอกของเราก็ไม่ทำให้ผิดหวังเพราะได้รับรางวัลต่างๆ มากันเพียบ เช่น
พ่อพันธุ์ ออร์แกน
- ได้รางวัล Best In Show (สุนัขบางแก้วยอดเยี่ยม)
- ได้รางวัลชนะเลิศถ้วยรางวัลพระราชทานฯ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
- ได้รับรางวัลอื่นๆ อีกหลายสิบครั้ง แต่ต้องหยุดประกวดก่อน เพราะต้องสร้างสุนัข
บางแก้วรุ่นลูกและหลานออร์แกนขึ้นมาแทนพ่อพันธุ์สายหมอก
- ได้รับรางวัล Best In Show (สุนัขบางแก้วยอดเยี่ยม)
นอกจากนั้น ยังมีพ่อพันธุ์เซ็นทรัล พ่อพันธุ์เสือไทย แม่พันธุ์ออร์ดี แม่พันธุ์โอปอล์ แม่พันธุ์เดือนใหม่ และอีกหลายแม่พันธุ์ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศในการประกวดหลายต่อหลายครั้ง
การแบ่งเกรดลูกสุนัขเพื่อกำหนดราคาจำหน่าย
คอกถิ่นไทยบางแก้ว มีการแบ่งเกรดพ่อ-แม่พันธุ์จากสายพันธุ์ที่มีการยอมรับและได้รับความนิยมในวงการ โดยพิจารณาตามหลักเกณฑ์หลายประการ อาทิ รูปร่าง การทรงตัว มาร์คกิ้งหรือแต้มสีต้องสมดุล หน้าแบ่งปากครอบแก้วได้ตรงตามเอกลักษณ์และมาตรฐานสายพันธุ์ ส่วนมากลูกสุนัขจะแบ่งออกเป็น เกรด A-B ส่วน เกรด C ก็มี แต่จะน้อยมาก เพราะลูกสุนัขครอกหนึ่งเมื่อตกลูกออกมาจะไม่สม่ำเสมอกันทุกตัว และทางคอกก็จะคัดเลือกไว้เพื่อบอกกับลูกค้าใช้เปรียบเทียบราคา สำหรับการแบ่งเกรดเพื่อกำหนดราคาจำหน่ายมีดังนี้
เกรด A ราคาเริ่มตั้งแต่ 8,000-10,000 บาท (หากเกรดพร้อมประกวด ราคา 10,000-15,000 บาท)
เกรด B ราคาเริ่มตั้งแต่ 5,000-7,000 บาท
เกรด C ราคาเริ่มตั้งแต่ 3,000-4,000 บาท
การเพาะเลี้ยงสุนัขพันธุ์บางแก้วมักประสบปัญหาด้านโรคลำไส้อักเสบขณะสุนัขอายุ 1-4 เดือน ในวัยเด็ก หากติดเชื้อแล้วไม่รีบรักษาจะทำให้เสียชีวิตทั้งครอก
ฉะนั้น เมื่อสุนัขมีอายุได้ประมาณ 45-50 วัน จะต้องจัดการฉีดวัคซีนป้องกันลำไส้อักเสบเข็มแรกให้ทันที และเมื่ออายุได้ประมาณ 55-60 วัน ให้ฉีดเป็นเข็มที่สอง จากนั้นจึงจะส่งให้ลูกค้าหรือนำไปขายได้
บางแก้ว...สุนัขพันธุ์ไทยที่คนไทยควรเลี้ยง
เจ้าของคอกถิ่นไทยบางแก้ว บอกว่า สุนัขไทยพันธุ์บางแก้ว เป็นสุนัขประจำชาติไทย เป็นสมบัติของคนไทยทุกคน จึงควรจะร่วมกันพัฒนารักษาไว้ให้คงอยู่คู่กับประเทศไทย เฉกเช่นประเทศอื่นๆ ที่มีสุนัขประจำชาติเช่นกัน
"เป็นสุนัขที่มีอุปนิสัยเชื่อง เฉลียวฉลาด มีความจงรักภักดี มีความซื่อสัตย์ต่อผู้เลี้ยง เลี้ยงง่าย แต่คนไทยโดยทั่วๆ ไปยังไม่นิยมเลี้ยง มีก็เพียงแต่บางกลุ่มเท่านั้น จึงอยากให้คนไทยทุกคนมีความภาคภูมิใจและหันมาเลี้ยงสุนัขพันธุ์บางแก้วกันทุกบ้าน พร้อมทั้งยังอยากให้ช่วยกันเชื้อเชิญชาวต่างประเทศให้มาเลี้ยงสุนัขไทยพันธุ์นี้" คุณอนุรักษ์ บอก
ย้ำ...ธุรกิจจะอยู่รอด ต้องสร้างคุณภาพและมาตรฐานก่อน
คุณอนุรักษ์ กล่าวว่า การทำธุรกิจประเภทนี้มีความละเอียดอ่อนมาก ผู้ทำควรมีใจรักและศรัทธาที่จะทำจริงๆ มิใช่ว่ามีทุนมากก็จะประสบความสำเร็จได้ ควรเอาใจใส่อย่างใกล้ชิด มีความซื่อสัตย์และจริงใจต่อลูกค้า ส่วนลูกสุนัขก็ต้องหมั่นตรวจสุขภาพอยู่เสมอ สถานที่เลี้ยงต้องสะอาด ปลอดโปร่ง มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก อุปกรณ์ที่ใช้นอกจากต้องสะอาดแล้ว ควรได้มาตรฐานในระดับหนึ่ง
ทางด้านการตลาดก็ควรมีการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ อยู่ตลอดเวลา ควรมีแผนที่เส้นทางเดินทางที่ชัดเจน เพื่อให้ลูกค้าสามารถเดินทางมาสะดวก หากอยู่ห่างไกลจากถนนใหญ่และต้องเดินทางเข้าไปไกล ก็ควรมีป้ายบอกทางระยะถี่ๆ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้ลูกค้า
"ลูกสุนัขที่จำหน่ายต้องมีสุขภาพแข็งแรง พ่อ-แม่พันธุ์รวมถึงลูกสุนัขควรฉีดวัคซีนครบทุกชนิด พร้อมมีใบรับรองการฉีดวัคซีนด้วย มีใบเพ็ดดีกรีหรือใบรับรองพันธุ์ประวัติจากสมาคม หรือชมรมที่ได้มาตรฐานและสามารถเชื่อถือได้ ที่สำคัญคุณภาพของลูกสุนัขกับราคาที่ขายต้องสมดุลกัน
ต้องกล้ารับประกันให้ลูกค้า อย่าโกหก หรือเอาเปรียบต่อลูกค้า เพราะเมื่อสุนัขโตขึ้นแล้วก็จะเป็นหลักฐานในการการันตีความน่าเชื่อถือได้ เพราะทุกวันนี้ลูกค้าจะเลือกฟาร์มหรือคอกที่ได้มาตรฐานและเชื่อถือได้เท่านั้น
ท่านที่มีแผนว่าจะหาซื้อลูกสุนัขไว้เพื่อเฝ้าบ้านและคลายเหงา ขอเชิญชวนกันมาเลี้ยงสุนัขพันธุ์บางแก้ว เพื่อเป็นการอนุรักษ์สุนัขสายพันธุ์นี้ไว้ให้อยู่คู่กับชาติไทยต่อไป" คุณอนุรักษ์ กล่าวทิ้งท้าย
สนใจชมลูกสุนัขพันธุ์บางแก้วสวยๆ ได้ที่ "คอกถิ่นไทยบางแก้ว" ติดต่อ คุณสุมาลี โพธิ์หอม ผู้ดูแลฟาร์ม โทรศัพท์ (086) 201-9717 หรือ คุณอนุรักษ์ ขันแก้วลดา ผู้จัดการ โทรศัพท์ (081) 379-6122 หรือที่ e-
mail: K.anuruk_1@yahoo.co.th/www.Thinthaibangkaew.com.
http://info.matichon.co.th/techno/techno.php?srctag=05088150953&srcday=2010-09-15&search=no
สงวนลิขสิทธิ์โดย © ++kasetloongkim.com++ All Right Reserved.