ภัยแล้งพ่นพิษ ตลาดปุ๋ยเคมีกร่อย
ตลาดปุ๋ยเคมีสุดกร่อย ภัยแล้ง ราคาพืชผลตกต่ำ ไม่จูงใจให้เกษตรกรใช้ปุ๋ย ผู้ค้างัดกลยุทธ์โฆษณาผ่านสื่อทีวีตอกย้ำความทรงจำแบรนด์สินค้าไม่ให้เกษตรกรหันไปใช้แบรนด์อื่น หวังรักษาส่วนแบ่งตลาด "เจียไต๋"ยอมรับเทงบโฆษณาผ่านสื่อทีวีเป็นปีแรก "เทอราโก"ชี้ค้าปุ๋ยปีนี้หนักใจ
นายศุภรัตน์ แต่รุ่งเรือง รองกรรมการผู้จัดการธุรกิจปุ๋ยเคมี บริษัท เจียไต๋ จำกัด ผู้จำหน่ายปุ๋ยตรา "กระต่าย" เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ถึงสถานการณ์การจำหน่ายปุ๋ยเคมีฤดูการผลิต 2553/54 ว่าไม่คึกคักเท่าที่ควร เนื่องจากปีนี้มีปัจจัยลบหลายประการ อาทิ สถานการณ์ภัยแล้ง ราคาพืชผลทางการเกษตรที่ไม่ดีเหมือนกับปีที่ผ่านมา ปัญหาโรคระบาด ทำให้เกษตรกรมีรายได้จากการจำหน่ายพืชผลลดลงไป จึงคาดว่าปริมาณการใช้ปุ๋ยของเกษตรกรปีนี้จะไม่เพิ่มจากปีที่ผ่านมา ซึ่งมียอดการนำเข้าอยู่ที่ประมาณ 3.8 ล้านตัน (ปริมาณการจำหน่ายและการใช้จะใกล้เคียงกับการนำเข้า)
"ปีนี้ภาวะอากาศแล้งยาวนานกว่าทุกปีทำให้ฤดูการเพาะปลูกเลื่อนออกไป จากปกติปลายเดือนเมษายน เป็นช่วงเวลาการจำหน่ายปุ๋ยแล้วและผู้ค้าปุ๋ยจะเริ่มออกโฆษณาประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ แต่ปีนี้เพิ่งจะมาโฆษณากันเดือนพฤษภาคม"
นายศุภรัตน์ กล่าวว่าจากสถานการณ์ภัยแล้ง โรคระบาดและราคาพืชผลไม่ดีเท่ากับปีที่ผ่านมา จนทำให้ผู้ค้ามองว่าปริมาณการใช้ปุ๋ยของเกษตรกรจะลดลง เวลานี้ผู้ค้าแต่ละรายต่างงัดกลยุทธ์เพื่อรักษาส่วนแบ่งตลาดของตนไว้ ในส่วนของบริษัท เจียไต๋ จำกัด ได้ออกโฆษณาชุด "ใช้ปุ๋ยครบสูตร ผลผลิตคุ้มค่า ตรากระต่าย" การออกโฆษณาดังกล่าวเพื่อย้ำให้เกษตรกรที่เป็นลูกค้าของตรากระต่ายอยู่แล้วมีความทรงจำที่ดีต่อปุ๋ยตรากระต่ายมากขึ้น หากไม่มีการโฆษณาเลยลูกค้าอาจลืมเพราะในท้องตลาดมีปุ๋ยจำหน่ายอยู่หลายตราด้วยกัน สำหรับยอดขายปีนี้คาดว่าจะต่ำกว่าปีที่ผ่านมาซึ่งมียอดขาย 1.2 ล้านตัน
"นับเป็นปีแรกของปุ๋ยตรากระต่ายที่มีการโฆษณาผ่านสื่อโทรทัศน์ ที่ผ่านมาจะผ่านสื่อวิทยุเป็นส่วนใหญ่เพราะเข้าถึงกลุ่มเกษตรกรได้อย่างทั่วถึง แต่ปัจจุบันเกษตรกรบริโภคสื่อโทรทัศน์มากขึ้นแล้วจึงใช้หลายสื่อผสมผสานกัน อย่างไรก็ดีการโฆษณาของปุ๋ยตรากระต่ายไม่เกี่ยวกับที่มีปุ๋ยน้องใหม่อย่างปุ๋ยตรา "มงกุฎ"ออกวางตลาด แต่เราต้องการตอกย้ำ แบรนด์ของเราให้กับเกษตรกรมากกว่า"
ด้านนายวุฒิพงษ์ หวังสันติธรรม กรรมการผู้จัดการบริษัท เทอราโกเฟอร์ติไรเซอร์ จำกัด บริษัทน้องใหม่กลุ่มพรรณธิอร กลุ่มธุรกิจเกษตร เครือทีซีซีกรุ๊ป ของเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี ซึ่งผลิตและจำหน่ายปุ๋ยเคมีปีนี้เป็นปีแรกภายใต้ตรา "มงกุฎ" กล่าวยอมรับว่ามีความหนักใจต่อการทำตลาดปุ๋ยปีนี้ เนื่องจากภัยแล้ง ราคาพืชผลไม่ดี ขณะนี้เดือนพฤษภาคมแล้วแต่ฝนยังตกไม่เต็มที่ แม้จะตกลงมาบ้างแต่เกษตรกรยังไม่สามารถเพาะปลูกได้ ประกอบกับราคาพืชผลไม่ค่อยดี จึงทำให้เกษตรกรซื้อปุ๋ยเท่าที่มีความจำเป็นใช้เท่านั้น ขณะเดียวกันราคาปุ๋ยยูเรียในท้องตลาดปรับลดลง เกษตรกรจึงชะลอซื้อปุ๋ยเพราะต้องการรอดูว่าราคาปุ๋ยเคมีจะลงไปอีกแค่ไหน
นายวุฒิพงษ์ ให้สัมภาษณ์กับ "ฐานเศรษฐกิจ"ก่อนหน้านี้ว่าบริษัท เทอราโก เฟอร์ติไลเซอร์ จำกัด มีเป้าหมายยอดขายปีนี้ประมาณ 300,000 ตัน มูลค่า 3,800 ล้านบาท หรือมีส่วนแบ่งตลาดราว 8-10% เขากล่าวเพิ่มเติมว่าการที่ผู้ค้าหลายๆ บริษัทงัดกลยุทธ์ส่งเสริมการขายรูปแบบต่างๆ ย่อมเป็นผลดีต่อเกษตรกร เพื่อจะได้ใช้ปุ๋ยคุณภาพดีมากขึ้น
แหล่งข่าวในวงการค้าปุ๋ย กล่าวว่าตลาดค้าปุ๋ยปีนี้แม้ผู้ค้าหลายรายจะบอกว่าการแข่งขันไม่รุนแรงเป็นการค้าปกติเหมือนกับทุกปีที่ผ่านมา เพราะแต่ละบริษัทมีลูกค้าประจำของตัวเองที่ยึดมั่นในแบรนด์อยู่แล้ว แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าการที่บริษัท เทอราโก เฟอร์ติไลเซอร์ จำกัด ภายใต้การกุมบังเหียนของเจ้าสัวเจริญ สิริวัฒนภักดี ลงสนามกระทั่งหลายบริษัท โดยเฉพาะผู้ค้าปุ๋ยรายใหญ่งัดกลยุทธ์โฆษณาผ่านสื่อโทรทัศน์ ไม่ว่าจะเป็นบริษัท เจียไต๋ จำกัด บริษัท โรจน์กสิกิจเฟอร์ติไลเซอร์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายปุ๋ยตรา "เรือใบไวกิ้ง"เพื่อตอกย้ำความทรงจำแบรนด์ของตัวเองและรักษาส่วนแบ่งตลาดเรียกได้ว่าเป็นการแข่งขันแล้ว
อนึ่ง ปัจจุบันความต้องการใช้ปุ๋ยของเกษตรกรไทยทั่วประเทศ เฉลี่ยปีละประมาณ 4 ล้านตัน เป็นปุ๋ยเคมีปุ๋ยปั้นเม็ดและปุ๋ยผสม ประมาณ 1.6 ล้านตัน ปุ๋ยยูเรีย 2.4 ล้านตัน ในจำนวนนี้มีผู้ผลิตและผู้จำหน่ายที่ครองส่วนแบ่งตลาดสูงสุดรวมกันสัดส่วนถึง 50% คือราว 2 ล้านตัน ได้แก่บริษัท ไทยเซ็นทรัลเคมี จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายปุ๋ยตรา "หัววัวคันไถ" และบริษัท เจียไต๋ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายปุ๋ยตรา "กระต่าย" ส่วนอีก 2 ล้านตันอยู่ในมือของผู้จำหน่ายรายกลางและรายย่อยกระจายกันไป
จากหนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ
สงวนลิขสิทธิ์โดย © ++kasetloongkim.com++ All Right Reserved.
ครั้ง 
