หลังคาใบตาล ป้องกันลูกเห็บ
พายุลูกเห็บนั้นเป็นภัยธรรมชาติที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่ออาคารพักอาศัย โดยเฉพาะบริเวณหลังคาที่มักใช้วัสดุมุงหลังคาแผ่นแข็งที่ไม่สามารถต้านทานความเสียหายได้ และเศษวัสดุที่แตกเสียหายอาจทำให้เกิดอันตรายแก่ผู้พักอาศัยในอาคาร
ชวาน พรรณดวงเนตร นิสิตปริญญาโท คณะสถาปัตย กรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ทดลองทำวิจัยนำวัสดุธรรมชาติ “ใบตาล” มาเป็นวัสดุมุงหลังคาป้องกันลูกเห็บ ซึ่งมีข้อดีมีความแข็งแรง มีอายุการใช้งานนานถึง 5 ปี อีกทั้งเป็นวัสดุธรรมชาติที่ปลูกและหาง่ายในประเทศไทย อีกทั้งวิธีการที่ทำที่เรียกว่า “หักคอม้า”สามารถเรียนได้ภายใน 5 นาที เทียบกับการผลิตหลังคาแบบอื่นไม่ว่าจะเป็นตับจาก หรือแฝก เป็นต้น สำหรับวิธีทำนั้น เริ่มจากนำใบตาลสดมาผึ่งไว้ครึ่งวัน ผ่าครึ่งใบตาลตามแนวก้านใบ ควั่นก้านใบบริเวณใกล้กับขั้วใบ และเฉือนก้านใบออกเป็นเส้นโดยไม่ให้ขาดออกจากก้านใบ จากนั้นหักก้านใบแล้วใช้ส่วนที่เฉือนออกมาเย็บกับใบตาล โดยตับใบตาลแบบหักคอม้า เมื่อเสร็จสมบูรณ์แล้ว จะมีความยาวตามแนวก้านใบประมาณ 1.4-1.6 เมตร มีความกว้างตั้งฉากก้านใบประมาณ 0.6 เมตร (ไม่รวมปลายใบ)
สำหรับหลังคาที่มุงด้วยใบตาลนั้นไม่จำเป็นต้องใช้แป สามารถใช้ความแข็งแรงของก้านใบตาลมาเป็นแป ส่วนจันทันทำจากไม้ไผ่เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1 นิ้ว หรือเพื่อยืดอายุการใช้งานอาจใช้ไม้จริงเพราะจันทันไม้ไผ่มีอายุการใช้งานราว 3 ปี ทั้งนี้ระยะห่างของจันทันประมาณ 0.4-0.5 เมตร ระยะซ้อนทับด้านข้างประมาณ 0.2 เมตร โดยหันด้านท้องใบขึ้นด้านใบ ซึ่งภายหลังจากมุงหลังคาใบตาลไปแล้ว 1 ปี อาจทำการ มุงทับเพื่อเพิ่มความแรงขึ้น
ชวาน กล่าวว่า งานวิจัยนี้จึงทำทดสอบวัสดุหลังคาใบตาลแบบหักคอม้า สรุปได้ว่าหลังคาใบตาลแบบหักคอม้าสามารถต้านทานความเสียหายจากลูกเห็บที่มีขนาด 5 เซนติเมตร (ขนาดใหญ่สุดที่เคยพบในประเทศไทย) ได้มากกว่าหลังคาแผ่นแข็งที่มีอยู่ทั่วไปในท้องตลาด
นักวิจัยคนเดิมกล่าวอีกว่า หลังคาใบตาลเป็นภูมิปัญญาชาวบ้านที่ใช้กันมาเนิ่นนานแล้ว ชาวบ้านในจังหวัดเพชรบุรีใช้หลังคาใบตาลมุงโรงเรือนเคี่ยวตาล ซึ่งเขม่าควันไฟที่มาจากเตาเคี่ยวจะช่วยเคลือบผิวใบตาลให้มีความคงทนป้องกันมอดและแมลงได้ และจากคำบอกเล่าของชาวบ้านใบตาลเป็นวัสดุที่มอดไม่กิน สังเกตได้จากการวางทิ้งไว้กลางแจ้ง หรือเมื่อนำมามุงหลังคามอดจะเลือกกินไม้ไผ่มากกว่า อย่างไรก็ตามผลยืนยันทาง วิทยาศาสตร์ด้านใบตาลทนต่อแมลงต้องรอการทดสอบด้านวนศาสตร์อีกที
หลังคาใบตาลแบบหักคอม้ายังมีข้อดีอีกหลายประการคือ น้ำหนักที่เบาจึงช่วยลดภาระให้กับโครงสร้างหลังคา ในกระบวนการผลิตของต้นตาลเป็นการตรึงธาตุคาร์บอนในอากาศ โดยการดึงคาร์บอนไดออกไซด์ มาเป็นส่วนประกอบในการสร้างเป็นใบตาล ซึ่งสวนทางกับกระบวนการผลิตวัสดุอุตสาหกรรมโดยทั่วไป การใช้ใบตาลไม่ต้องทำลายต้นแม่จึงมีผลต่อปัจจัยด้านความยั่งยืนสูง แต่ยังมีสาเหตุที่ทำให้หลังคาใบตาลรวมถึงหลังคาจากวัสดุธรรมชาติชนิดอื่นไม่ได้รับความนิยมโดยทั่วไป ดังนี้วัสดุทางธรรมชาติถูกลดคุณค่าลงด้วยทุนทางสัญลักษณ์ของระบบเศรฐกิจสมัยใหม่ที่เรียกว่า “การครองอำนาจเชิงสัญลักษณ์” (Domination symbolique) ทำให้ทัศนคติของผู้บริโภค มองว่าวัสดุธรรมชาติเป็นเรื่องที่ล้าหลัง ความยากจน ข้อจำกัดในการเข้าถึงวัสดุของผู้ที่อาศัยในเขตเมือง ข้อจำกัดด้านการลามไฟ หรือยังไม่มีมาตรฐานที่ชัดเจนของวัสดุ ขาดข้อมูลที่จะนำไปใช้ในการทำงาน สถาปนิกผู้ออกแบบ ไม่ทราบวิธีการติดตั้ง
สำหรับข้อเสนอแนะ ของการวิจัยหลังคาใบตาลป้องกันลูกเห็บพบว่าใบตาลสามารถป้องกันลูกเห็บได้ แต่ยังขาดการทดลองเรื่องการต้านทานความเร็วลมจากพายุฤดูร้อน ซึ่งอาจทำให้หลังคาเสียหายก่อนที่จะเกิดลูกเห็บจึงเป็นหัวข้อที่อาจนำมาวิจัยเพิ่มเติมเพื่อให้มีข้อมูลอ้างอิงตามหลักวิศวกรรมได้ แต่จากการสังเกตพบว่าการใช้งานหลังคาประเภทนี้เป็นยุ้งฉางเก็บเกลือในนาเกลือ ซึ่งเป็นบริเวณที่มีโอกาสปะทะกับลมแรงได้เนื่องจากเป็นที่โล่ง และอยู่ใกล้ทะล และเมื่อทำการศึกษาเพิ่มเติมทำให้ทราบว่าสามารถใช้ปลายใบตาลในตับใบตาลแบบหักคอม้าร้อยผูกกับก้านใบล่างได้ ทำให้ลดโมเมนต์ที่รอยต่อก้านใบจึงทำให้หลังคาสามารถต้านทานแรงลมได้ดียิ่งขึ้น
ที่ผ่านมาใบตาลเป็นวัสดุพื้นถิ่นทางธรรมชาติที่ถูกมองข้ามไปอย่างน่าเสียดายอย่างน้อยงานวิจัยจะเป็นตัวจุดประกายในภาคการก่อสร้างหันมามองหลังคาที่เป็นมิตรกับธรรมชาติ ใบตาลเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจ.
ที่มา : เดลินิวส์
สงวนลิขสิทธิ์โดย © ++kasetloongkim.com++ All Right Reserved.