-
++kasetloongkim.com++ - Content
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ

เมนูหลัก

» หน้าแรก
» เว็บบอร์ด
» ผู้ดูแล
» ไม้ผล
» พืชสวนครัว
» พืชไร่
» ไม้ดอก-ไม้ประดับ
» นาข้าว
» อินทรีย์ชีวภาพ
» ฮอร์โมน
» จุลินทรีย์
» ปุ๋ยเคมี
» สารสมุนไพร
» ระบบน้ำ
» ภูมิปัญญาพื้นบ้าน
» ไร่กล้อมแกล้ม
» โฆษณา ฟรี !
» โดย KIM ZA GASS
» สมรภูมิเลือด
» ชมรม

ผู้ที่กำลังใช้งานอยู่

ขณะนี้มี 211 บุคคลทั่วไป และ 0 สมาชิกเข้าชม

ท่านยังไม่ได้ลงทะเบียนเป็นสมาชิก หากท่านต้องการ กรุณาสมัครฟรีได้ที่นี่

เข้าระบบ

ชื่อเรียก

รหัสผ่าน

ถ้าท่านยังไม่ได้เป็นสมาชิก? ท่านสามารถ สมัครได้ที่นี่ ในการเป็นสมาชิก ท่านจะได้ประโยชน์จากการตั้งค่าส่วนตัวต่างๆ เช่น ฉากหรือพื้นโปรแกรม ค่าอ่านความคิดเห็น และการแสดงความเห็นด้วยชื่อท่านเอง

สถิติผู้เข้าเว็บ

มีผู้เข้าเยี่ยมชม
PHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG Counter ครั้ง
เริ่มแต่วันที่ 1 มกราคม 2553

product13

product9

product10

product11

product12

ข่าวทั่วไป







สารสกัดโฟเลทจากพืชผัก

เป็นวิตามินอัดเม็ด

ปัจจุบันพบเด็กพิการแต่กำเนิดปากแหว่งเพดานโหว่สูงถึงปีละ 1,500 รายต่อปี ซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงมาก วิธีการแก้ปัญหานี้ช่วยได้ด้วยการเสริมกรดโฟลิกในช่วง 6 สัปดาห์ก่อนการตั้งครรภ์ในปริมาณ 400 ไมโครกรัมต่อวัน ยังสามารถลดโอกาสการเกิดปากแหว่งเพดานโหว่ได้ประมาณ 1 ใน 3 ลดโรคหัวใจพิการแต่กำเนิด ร้อยละ 25-50 ลดความผิดปกติของแขนขา ประมาณร้อยละ 50 และยังลดความพิการของระบบทางเดินปัสสาวะ ภาวะไม่มีรูทวารหนัก รวมทั้งการเสริมวิตามินที่มีกรดโฟลิกสามารถลดความพิการแต่กำเนิดได้ร้อยละ 25-50 ซึ่งการเกิดความพิการแต่กำเนิดของหลอดประสาทจะเกิดขึ้นภายใน 1 เดือนหลังการปฏิสนธิ ช่วงเวลาการเสริมกรดโฟลิกให้ได้ผลต้องให้อย่างน้อย 1 เดือน ก่อนปฏิสนธิจะเป็นช่วงที่ดีที่สุด ไปจนตลอดการตั้งครรภ์
   
จุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รมว.กระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่าปัจจุบันหญิงตั้งครรภ์ในประเทศไทยได้รับสารไอโอดีนไม่เพียงพอ ซึ่งในปี พ.ศ. 2549-2551 พบหญิงตั้งครรภ์มีค่าไอโอดีนในปัสสาวะน้อยกว่า 150 ไมโครกรัมต่อลิตร หญิงตั้งครรภ์ที่ขาดสารไอโอดีนจะทำให้เด็กเป็นโรคเอ๋อ  ปัญญาอ่อน หรือ  ไอคิวน้อยลง 13.5 จุด ซึ่งปกติอยู่ที่ 90 จุด กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมอนามัยได้เปิดโครงการลูกครบ 32 สมองดีภายใน 6 สัปดาห์ จะเข้าไปส่งเสริมความรู้เรื่องการเตรียมความพร้อมก่อนตั้งครรภ์ ด้วยการผลิตวิตามินเสริมธาตุเหล็ก กรดโฟลิก และไอโอดีน เพื่อความสะดวกต่อการบริโภค โดยหญิงตั้งครรภ์สามารถขอรับยาพร้อมคำแนะนำในโรงพยาบาลรัฐทุกระดับทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. เป็นต้นไป
   
“โฟเลท” เป็นสารอาหารที่มีมากในผักใบเขียว เช่น คะน้า บรอกโคลี ดอกกะหล่ำ ดอกและใบกุยช่าย มะเขือเทศ ผักตระกูลกะหล่ำ แตงกวา หน่อไม้ฝรั่ง ถั่วฝักยาว และผลไม้จำพวกส้ม องุ่นเขียว สตรอเบอรี่ ถั่วเมล็ดแห้งต่าง ๆ ได้แก่ ถั่วลิสง ถั่วแดงหลวง ถั่วเหลือง และตับ แต่โฟเลทจะสูญเสียง่ายเมื่อถูกความร้อนที่ใช้เวลานานในการปรุง รวมทั้งเมื่อกินเข้าสู่ร่างกายแล้วสามารถนำไปใช้ได้เพียงครึ่งหนึ่งเท่านั้น
   
“ไอโอดีน” จัดเป็นสารอาหารประเภทแร่ธาตุมีมากในพืชและสัตว์ทะเล เช่น ปลาทะเลชนิดต่าง ๆ สาหร่ายทะเล เกลือเสริมไอโอดีน น้ำปลาเสริมไอโอดีน
   
ดังนั้นในหญิงวัยเจริญพันธุ์ที่เตรียมพร้อมจะมีลูกจึงจำเป็นจะต้องได้รับวิตามินเสริมโฟเลทและไอโอดีน เพื่อให้มั่นใจได้ว่าจะได้รับปริมาณ   โฟเลทและไอโอดีนที่เพียงพอเพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดความผิดปกติของทารกที่คลอดออกมา โดยในหญิงวัยเจริญพันธุ์ควรได้รับโฟเลท 400 ไมโครกรัมต่อวัน ส่วนไอโอดีนควรได้รับ 150 ไมโครกรัมต่อวัน สำหรับหญิงตั้งครรภ์ควรได้รับโฟเลท 600 ไมโครกรัมต่อวัน และไอโอดีน 250 ไมโครกรัมต่อวัน
   
ดร.นพ.สมยศ ดีรัศมี อธิบดีกรมอนามัย กล่าวเสริมอีกว่า นอกจากตัวยาวิตามินโฟเลทและไอโอดีนแล้ว หญิงวัยเจริญพันธุ์ควรบริโภคอาหารที่อุดมไปด้วยโฟเลท ปัจจุบันกรมอนามัยได้ดำเนินงานร่วมกับคลินิกให้บริการคำปรึกษาวางแผนครอบครัวและรวมถึงการเตรียมพร้อมก่อนการตั้งครรภ์ในสถานบริการสาธารณสุขและโรงพยาบาลในทุกระดับทั่วประเทศ
   
การส่งเสริมให้หญิงวัยเจริญพันธุ์กินโฟเลทและไอโอดีนเป็นการป้องกันปัญหาเด็กพิการแต่กำเนิด ไม่เพียงช่วยลดจำนวนเด็กเอ๋อ ปัญญาอ่อน เด็กปากแหว่งเพดานโหว่ซึ่งเป็นภาระของครอบครัวแล้ว   แต่ยังช่วยลดงบประมาณด้านสุขภาพของประเทศ และส่งผลให้เด็กไทยมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง สมองดีครบทั้ง 32 อีกด้วย.


ที่มา  :  เดลินิวส์









สงวนลิขสิทธิ์โดย © ++kasetloongkim.com++ All Right Reserved.

ติดประกาศ: 2010-05-05 (1220 ครั้ง)

[ ย้อนกลับ ]
Content ©