1.
พด.หนุนปลูกข้าวปีละ 2 หน เปิดเผยวิจัย
พบปลูกพืชปุ๋ยสดคั่นช่วงเวลาทำนาส่งผลดินดี |
|
กรมพัฒนาที่ดินยันระบบปลูกข้าวปีละ 2 หน คือทางออกในการบริหารทรัพยากรดินและน้ำอย่างยั่งยืน พร้อมเผยผลวิจัยปลูกพืชปุ๋ยสดคั่นในนาข้าวทำให้ดินดี ลดต้นทุนค่าปุ๋ยเคมีไม่ต่ำกว่า 25% ดันผลผลิตข้าวเพิ่มกว่า 20%
นายฉลอง เทพวิทักษ์กิจ รองอธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์มีนโยบายปรับระบบปลูกข้าวใหม่เป็นปีละ 2 ครั้ง เพื่อแก้ปัญหาเรื่องน้ำและป้องกันปัญหาโรคและแมลงศัตรูพืชระบาดทำลายผลผลิตเสียหาย ที่สำคัญยังช่วยในการฟื้นฟูความอุดมสมบูรณ์ให้กับดินได้เป็นอย่างดี ซึ่งเป็นแนวทางส่งเสริมให้เกิดการปลูกข้าวอย่างยั่งยืน
ทั้งนี้ จากผลการศึกษาวิจัยของกรมพัฒนาที่ดินในเรื่องระบบปลูกข้าวใหม่ ที่มุ่งเน้นให้เกษตรกรปลูกข้าวและให้พักดินโดยการปลูกพืชปุ๋ยสดคั่นนั้น พบว่า การปลูกพืชปุ๋ยสด เช่น ถั่วพุ่ม ถั่วพร้า ปอเทือง โสนอัฟริกันแล้วทำการไถกลบ จะสามารถสร้างปุ๋ยให้กับดินเทียบเท่ากับปุ๋ยยูเรีย 26 กิโลกรัม/ไร่ หรือคิดเป็นเงินไม่ต่ำกว่าไร่ละ 700 บาท และเมื่อเกษตรกรปลูกข้าวในรอบต่อไป นอกจากจะลดต้นทุนค่าปุ๋ยเคมีลงไม่ต่ำกว่า 25% ยังช่วยเพิ่มผลผลิตข้าว โดยข้าวขาวดอกมะลิ 105 เพิ่มจาก 403 เป็น 486 กิโลกรัมต่อไร่ หรือคิดเป็น 20% ส่วนข้าว กข.23 เพิ่มขึ้นจาก 443 เป็น 601 กิโลกรัม/ไร่ หรือคิดเป็น 42% ส่งผลให้เกษตรกรมีรายได้สุทธิจากการปลูกข้าวเพิ่มขึ้นเฉลี่ย 681 บาทต่อไร่
"การปลูกข้าวแล้วคั่นด้วยการปลูกพืชปุ๋ยสด นอกจากเป็นการลดต้นทุนในการใช้ปุ๋ยเคมีให้กับเกษตรกรได้เป็นอย่างดี ที่สำคัญพืชปุ๋ยสดยังช่วยในการเพิ่มอินทรียวัตถุ เพิ่มไนโตรเจนให้แก่ดิน ช่วยในการปรับปรุงโครงสร้างทางกายภาพของดินให้ดีขึ้น เมื่อดินมีความอุดมสมบูรณ์ ผลผลิตข้าวก็จะมากกว่าการปลูกข้าวเพียงอย่างเดียวต่อเนื่องแบบไม่มีการพักดิน" รองอธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน กล่าวย้ำ |
ที่มา : แนวหน้า
2.
นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) เมื่อวันที่ 10 มิ.ย.ที่ผ่านมา ได้มีมติเห็นชอบแผนการจัดระบบการเพาะปลูกข้าวของประเทศไทย ให้เหลือแค่ปีละ 2 ครั้ง คือ นาปี 1 ครั้ง และนาปรัง 1 ครั้ง ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ เนื่องจากเห็นว่าเป็นแผนงานที่เหมาะสม และน่าจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการเพาะปลูกข้าวในประเทศได้ดีมากขึ้น และจะนำข้อเสนอนี้เข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมครม.พิจารณาอย่างเป็นทางการต่อไปด้วย
สำหรับแผนการจัดระบบเพาะปลูกข้าวใหม่ที่เสนอให้พิจารณาครั้งนี้ จะเริ่มต้นใช้อย่างเป็นทางการ ตั้งแต่ช่วงการปลูกข้าว นาปรังปี 54-56 รวม 3 ปี กำหนดพื้นที่เป้าหมาย 22 จังหวัด ในเขตชลประทาน ดำเนินการปีละ 3 ล้านไร่ รวมเป็น 9 ล้านไร่
ทั้งนี้ เกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการฯ ได้รับการสนับสนุนเมล็ดพันธุ์ข้าว เมล็ดพันธุ์พืช การอบรมความรู้ จัดหาตลาดรองรับผลผลิตพืช การผ่อนปรนดอกเบี้ย และเลื่อนกำหนดเวลาชำระหนี้กับธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ซึ่งการดำเนินงานทั้งหมด คาดว่าใช้งบประมาณสนับสนุนทั้งหมด 2,180 ล้านบาท
รูปแบบของระบบการเพาะปลูกข้าว ใหม่นี้ จะนำเรื่องการพักหน้าดิน จากการหยุดทำนาและการปลูกพืชหลังนา เข้ามาร่วมกับการเพาะปลูกข้าวตามระบบปกติ เพื่อช่วยรักษาหน้าดิน และตัดวงจรการแพร่ระบาดของโรคแมลง ที่สร้างความเสียหายให้การปลูกข้าวในช่วงที่ผ่านมาอย่างมาก
สำหรับระบบการเพาะปลูกข้าว ที่กำหนดไว้ในขณะนี้ มี 4 รูปแบบ พิจารณาปรับใช้ตามความเหมาะสมของแต่ละพื้นที่ คือ ปลูกข้าวนาปรัง จากนั้นปลูกข้าวนาปีต่อ หลังจากนั้นปลูกพืชหลังนา ก่อนจะเริ่มปลูกข้าวนาปรังอีกครั้ง.
ที่มา : เดลินิวส์
3.
สงวนลิขสิทธิ์โดย © ++kasetloongkim.com++ All Right Reserved.