-
++kasetloongkim.com++ - Content
หน้าแรก สมัครสมาชิก กระดานข่าว ดาวน์โหลด ติดต่อ

เมนูหลัก

» หน้าแรก
» เว็บบอร์ด
» ผู้ดูแล
» ไม้ผล
» พืชสวนครัว
» พืชไร่
» ไม้ดอก-ไม้ประดับ
» นาข้าว
» อินทรีย์ชีวภาพ
» ฮอร์โมน
» จุลินทรีย์
» ปุ๋ยเคมี
» สารสมุนไพร
» ระบบน้ำ
» ภูมิปัญญาพื้นบ้าน
» ไร่กล้อมแกล้ม
» โฆษณา ฟรี !
» โดย KIM ZA GASS
» สมรภูมิเลือด
» ชมรม

ผู้ที่กำลังใช้งานอยู่

ขณะนี้มี 438 บุคคลทั่วไป และ 0 สมาชิกเข้าชม

ท่านยังไม่ได้ลงทะเบียนเป็นสมาชิก หากท่านต้องการ กรุณาสมัครฟรีได้ที่นี่

เข้าระบบ

ชื่อเรียก

รหัสผ่าน

ถ้าท่านยังไม่ได้เป็นสมาชิก? ท่านสามารถ สมัครได้ที่นี่ ในการเป็นสมาชิก ท่านจะได้ประโยชน์จากการตั้งค่าส่วนตัวต่างๆ เช่น ฉากหรือพื้นโปรแกรม ค่าอ่านความคิดเห็น และการแสดงความเห็นด้วยชื่อท่านเอง

สถิติผู้เข้าเว็บ

มีผู้เข้าเยี่ยมชม
PHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG CounterPHP-Nuke PNG Counter ครั้ง
เริ่มแต่วันที่ 1 มกราคม 2553

product13

product9

product10

product11

product12

เกษตรดีเด่น10





น้ำพริกพันปี...ของดีเมืองชาละวัน


โดย-สิทธิพิจน์ เกบุ้ย


"น้ำพริก" เป็นอาหารคู่ครัวไทยมานาน หลากหลายชนิดตามประเภทของเครื่องปรุง และวัฒนธรรมแต่ละท้องถิ่น การโขลกน้ำพริกยังสะท้อน"เสน่ห์ปลายจวัก" ของ "กุลสตรีไทย" ยุคสมัยก่อน ที่ผูกใจหนุ่มที่กำลังตัดสินใจเลือกแม่ศรีเรือน        

แม้ว่าปัจจุบัน "หญิงยุคใหม่" จะไม่ใส่ใจตำน้ำพริกกินเองแล้ว เครื่องปรุงยังแทบไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามีอะไรบ้าง วันไหนอยากกินน้ำพริกห้างสรรพสินค้าหรือร้านสะดวกซื้อครัวสำเร็จรูปสำหรัยคนยุคสมัยใหม่  เนื่องจากประหยัดเวลา ไม่ต้องเสียเวลาสับโขกเหมื่อยมือ         


ด้วยเหตุนี้ แม่บ้านสายดงยาง ต.ทับคล้อ อ.ทับคล้อ จ.พิจิตร กลัวว่าเสน่ห์ปลายจวักของกุลสตรีจะเลือนหายจากสังคมยุคไซเบอร์ จึงย้อนตำนานเสน่ห์ปลายจวักหญิงไทย โดยรวมกลุ่มผู้สูงอายุ ที่มีฝีมือโขลกน้ำพริกรสชาติอร่อย ตั้งกลุ่มแม่บ้านผลิตน้ำพริกขายในชื่อ "น้ำพริกแกงพันปี" ตามประมาณการอายุรวมของบรรดาไม้ใกล้ฝั่งที่เป็นสมาชิกกลุ่ม มี "คุณยายขันถม กลิ่นเกล้า" เป็นประธานกลุ่ม


"คุณยายขันถม" เล่าถึงที่มาของการรวมกลุ่มกิจกรรมดังกล่าวว่า เนื่องจากในหมู่บ้านมีผู้สูงอายุจำนวนมาก แต่ไม่ใช้เวลาว่างให้เปล่าประโยชน์ เฝ้าบ้าน เลี้ยงลูกเลี้ยงหลาน เก็บกวาดบ้าน ฟังเทศน์ฟังธรรมให้เวลาผ่านไปวันๆ จึงระดมความคิดเห็นผู้สูงอายุซึ่งส่วนใหญ่เห็นตรงกันว่า ควรทำกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อตนเองและชุมชน
จึงรวมตัวกัน 25 คน ลงหุ้นคนละ 100 บาท ตั้งกลุ่มตำน้ำพริกแกงขาย ใช้ชื่อกลุ่มน้ำพริกแกงพันปีบ้านสายดงยาง ได้รับการสนับสนุนจากองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) ทับคล้อ และศูนย์การศึกษานอกโรงเรียน (กศน.) พิจิตร  "ผู้สูงอายุจะนัดกันมาตำน้ำพริก แล้วทุกสัปดาห์จะนำไปขายตามตลาดนัดหรือขายส่งให้รถเร่ขายสินค้าในหมู่บ้าน สร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ


นอกจากนี้ช่วยให้ร่างกายแข็งแรง มีเพื่อนคุย ไม่ต้องจับเจ่าอยู่กับบ้าน ส่วนที่มาของชื่อน้ำพริกแกงพันปีก็มาจากจำนวนอายุของสมาชิกซึ่งรวมกันแล้วเกินหลักพัน ในอนาคตหากมีสมาชิกเพิ่มขึ้นอาจเปลี่ยนชื่อเป็นน้ำพริกหมื่นปี"         


จรัญทิพย์ ฉิมมา สมาชิกสภา อบต.บ้านสายดงยาง หมู่ 6 กล่าวว่า กิจกรรมของกลุ่มนอกจากสร้างรายได้ให้กลุ่มผู้สูงอายุแล้ว ยังสร้างความภาคภูมิใจ เพราะทำให้ทุกคนมองเห็นคุณค่าของผู้สูงอายุ ซึ่งปัจจุบันมีสมาชิกกว่า 40 คน ที่อายุน้อยที่สุด 50 ปี มากที่สุด คือ คุณยายชั้น คงนวล 84 ปี ทุกคนจะมีครกและสากประจำตัว ถึงวันนัดหมายโขลกน้ำพริกอุ้มครกกับสากมาพบกัน  "วัตถุดิบที่ใช้ทั้งตะไคร้ พริก ข่า มะกรูด กระชาย หอม กะปิ น้ำปลา ซื้อจากสมาชิกที่ปลูกไว้หลังบ้านสลับสับเปลี่ยนกันไป โดยจะรับซื้อตะไคร้กิโลกรัมละ 5 บาท ข่า 20 บาท มะกรูด 100 ลูก 5 บาท กระชาย 30 บาท ช่วยสร้างรายได้ทางตรงแก่สมาชิกอีกทาง"         


จรัญทิพย์ เล่าต่อว่า การรวมตัวผลิตน้ำพริกจะทำสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ครั้งละ 20 กิโลกรัม ใช้เวลาโขลกไม่เกิน 2 ชั่วโมง ขายปลีกและส่งราคากิโลกรัมละ 55-60 บาท แต่ละเดือนจะมีรายได้ 3,000-4,000 บาท หากตรงกับช่วงเทศกาลงานบุญต้องเพิ่มกำลังการผลิตขึ้นเป็น 2-3 เท่าตัว ขณะที่ผลตอบแทนจะแบ่งกันหลังโขลกน้ำพริกทุก 5 ครั้ง โดยเฉพาะในปีที่ผ่านมา กลุ่มมีรายได้นับแสนบาท เมื่อแบ่งปันผลกำไรแล้วยังแบ่งส่วนหนึ่ง เพื่อกิจกรรมสาธารณประโยชน์ด้วย       


"การตำน้ำพริกถือเป็นการออกกำลังกาย อีกทั้งขณะตำจะมีกลิ่นสมุนไพรโชยขึ้นมา เมื่อสูดดมเข้าไปจะทำให้มีภูมิต้านทานไข้หวัด ทำให้สมาชิกทุกคนมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง มีสุขภาพใจแจ่มใส ทั้งยังได้พูดคุยปัญหาการเมือง เศรษฐกิจ และครอบครัว และยังมีรายได้เป็นของตนเอง ทำให้ผู้สูงอายุรู้สึกมีคุณค่า


อย่างไรก็ตาม ทางกลุ่มยังขาดการสนับสนุนด้านการตลาดจากภาคราชการ อีกทั้งยังขาดอุปกรณ์ ขนาดครกกับสากยังต้องแบกมาจากบ้าน รวมถึงถ้วย กะละมัง หม้อ เอามาจากบ้านทั้งนั้น ตำเสร็จก็ต้องแบกกลับบ้าน ซึ่งน่าเห็นใจพอสมควรแต่ทุกคนก็ไม่ปริปากบ่น มีแต่ให้กำลังใจกันว่า คือพลังของไม้ใกล้ฝั่ง เพราะแค่อายุสมาชิก 40 คน รวมกันก็ตัวเลขมากกว่าเลข พ.ศ.อีก"  จรัญทิพย์ กล่าว


ยายชั้น เล่าว่า เคล็ดลับน้ำพริกพันปีคือ ไม่ใส่สารกันบูด เพราะเครื่องปรุงทุกอย่างเมื่อล้างน้ำแล้วจะเอามาวางให้สะเด็ดน้ำจนแห้ง จากนั้นชั่ง ตวง วัด ให้ได้ตามสูตร แล้วนำมาผสมคลุกเคล้าก่อนตักแบ่งใส่ครกหินช่วยกันโขลกจนได้ที่ จากนั้นใส่ครกไม้ขนาดใหญ่ตำแล้วปรุงด้วยน้ำปลา เพื่อให้เหนียวหนืด สามารถเก็บได้ 7 วัน


แต่หากเก็บในตู้เย็นอยู่ได้ถึง 3 เดือน รสชาติไม่เปลี่ยน ยังคงความหอมและคุณค่าของอาหารไทย อยากให้ทุกคนมีโอกาสได้ลิ้มรสน้ำพริกแกงเผ็ดและน้ำพริกแกงส้มรสเด็ดของกลุ่มผู้สูงอายุบ้านสายดงยาง เพราะใช้ได้ทั้งปรุงอาหารในครัวเรือน ใช้ในงานบุญ หรือประกอบอาหารจำหน่าย รับรองว่าไม่ผิดหวัง


ที่มา  :  บางกอกโพสต์ 









สงวนลิขสิทธิ์โดย © ++kasetloongkim.com++ All Right Reserved.

ติดประกาศ: 2010-04-23 (1257 ครั้ง)

[ ย้อนกลับ ]
Content ©