ปัญหาน้ำมันแพงทำให้กลุ่มแม่บ้านชาวประมง ตำบลรูสะมิแลรวมกลุ่มจับสัตว์น้ำมาแปรรูป
โดย...อับดุลเลาะ เบ็ญญากาจ
วิกฤติเศรษฐกิจน้ำมันแพงทำให้ชาวประมงพื้นบ้านต้องประสบกับปัญหารายได้ลดลงเพราะหมดกับค่าน้ำมันเชื้อเพลังเป็นส่วนใหญ่ ทำให้กลุ่มแม่บ้านชาวประมง ม.1 ต.รูสะมิแล อ.เมือง จ.ปัตตานี จึงได้รวมกลุ่มนำสัตว์น้ำที่จับมาได้ในอ่าวปัตตานีมาแปรรูป โดยเฉพาะปูม้า นำไปต้มแล้วแกะเปลือกออกให้เหลือเพียงเนื้อปูล้วนๆ นำไปจำหน่ายสร้างมูลค่าเพิ่ม จนผลิตไม่พอต่อความต้องการตของตลาด
การรวมกลุ่มแกะเนื้อปูม้าสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับกลุ่มแม่บ้านหลายเท่าตัว เพราะปูม้าในอ่าวปัตตานีเป็นที่นิยมของกลุ่มผู้บริโภค ซึ่งจะซื้อปูเสดๆพื่อนำไปบริโภคในครัวเรือน ของคนในพื้นที่ และยังเป็นที่ต้องการของตลาดในต่างจังหวัดอีกด้วย เพราะเนื้อปูที่นี่ จะมีรสชาติหวานหอม ซึ่งจะแตกต่างกับเนื้อปูในฝั่งอันดามัน
น.ส. รอฮานี ยาแม ประธานกลุ่มแม่บ้านชาวประมงพื้นบ้านต. รูสะมิแล เล่าว่า ในช่วงนี้กลุ่มแม่บ้านสามารถผลิตได้ประมาณ 10-20 ต่อวัน เพราะไม่มีปูที่นำมาต้ม จึงนำไปส่งให้กับลูกค้าในเฉพาะตลาดสดในเขตเทศบาลเมืองปัตตานี เพียงยังเดียว เพราะในช่วงนี้ยังไม่เข้าฤดูของการขับปูม้า ซึ่งจะมีมากในช่วงเดือนพฤษภาคม-สิงหาคม ของทุกปี ซึ่งเราสามารถผลิตได้วันละ 200-300 กิโลกรัมต่อวัน
"การแปรรูปปูม้าของกลุ่มแม่บ้าน ก็เพื่อสามารถที่จะถนอมผลิตผลสัตว์น้ำ และเป็นการประหยัดพื้นที่ และยังสามารถสร้างมูลค่าเพิ่มอีกด้วย เช่น กลุ่มแม่บ้านที่มาแกะเนื้อปูเราจะมีค่าจ้างเป็นน้ำหนักของปุที่ต้มสุก ในราคาจ้างกิโลกรัมละ 30 บาท และสามารถขายเนื้อปูได้ในราคากิโลกรัมละ 250-600 บาท ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับคุณภาพของเนื้อปู มีความสดขนาดไหน ซึ่งถ้าขายปูสดๆในกิโลกรัมละไม่เกิน 180-200 บาทต่อกิโลกรัม"น.ส.รอฮานี เล่าด้วยความภาคภูมิใจ
ไม่เพียงแต่กลุ่มแม่บ้านเหล่านี้จะรวมกลุ่มแกะเนื้อปูม้าสร้างมูลค่าตลาด ส่วนสัตว์น้ำอื่นๆเช่น กุ้งฝอยทางแม่บ้านที่นี่ จะนิยมทำเป็นกะปิ และลูกปลาเล็กๆจะนำไปเลี้ยงเป็ดภายในครัวเรือน ถือว่าเป็นกลุ่มแม่บ้านที่สร้างเศรษฐกิจชุมชนได้อย่างน่าทึ่งโดยไม่จำเป็นต้องคอยพึ่งความช่วยเหลือจากภาครัฐแต่อย่างใด
ที่มา : บางกอกโพสต์